เที่ยวรัสเซีย ด้วยตนเอง ชมใบไม้ร่วง 2017 Part 1

หลังจากที่เคยตั้งกระทู้นี้ไป
https://ppantip.com/topic/32828085
ก็ไม่ได้ตั้งกระทู้เกี่ยวกับรัสเซียอีกเลย

ครั้งนี้จะพาผู้อ่านไปเที่ยวเมืองอื่นๆนอกจากเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กและมอสโคว์บ้าง จะได้มีที่เที่ยวเช็คอินเก๋ๆนอกจากโบส์หัวหอม โบสถ์หยดเลือด พระราชวังฤดูหนาว เที่ยวได้ไม่เกินความสามารถแน่นอนค่ะ

ขอตั้งชื่อว่าเป็นทริปโหดดดดดดด ขนาดแอดมินเพจ เที่ยวรัสเซีย ยังบอกเลยว่าถ้าไม่บ้าทำไม่ได้แน่นอน เห็นแล้วเหนื่อยตั้งแต่เขียนแผนการเดินทางเพราะว่าเที่ยว 5 เมืองในระยะเวลา 8 วัน 7 คืน (ช่วงเวลาเที่ยว 14 – 22 ตุลาคม 2560) เดินทางด้วยสายการบินการ์ตาตั๋วโปรโมชั่นซื้อแบบ Multi-city ถูกมาก(11,xxx บาท/คน) จองเมื่อมกราคม 2560

เน้นกินหรู(บางมื้อ) อยู่สบาย เที่ยวกระจาย กลับมาอดตายที่ไทย แห่ะๆ คิดว่าเที่ยวทั้งทีต้องคุ้มค่า ไม่ได้กระเบียดกระเสียรเลยหมดไปประมาณ 35,000 บาท/คนค่ะ ราคานี้รวมค่าเครื่องบิน ค่าโรงแรม(จองตรงกับโรงแรมและจองผ่านอโกด้า) ค่าอาหาร ค่าโดยสารต่างๆ ไม่รวมแค่ค่าของฝากจ้ะ

ความชอบส่วนตัว
Landmarks โบถส์ สวนสาธารณะ อาหารการกิน

รูปถ่าย บางรูปใส่เครดิต บางรูปไม่ได้ใส่แต่ถ่ายเองทั้งหมด กล้องเล็ก EPL7 + Snapseed

แผนเที่ยว
part 1
Day 1 – Bangkok-Doha-Moscow-St. Pertersburg (หมดไป 1 วันกับการเดินทาง)
Day 2 - St. Pertersburg - Gatchina - St. Pertersburg
Day 3 - St.Pertersburg - Moscow
Day 4 - Moscow

Part 2
Day 5 – Moscow – Vladimir – Suzdal
Day 6 – Suzdal – Vladimir – Moscow
Day 7 – Moscow
Day 8(+1) - Moscow – Doha – Bangkok (หมดไป 1 วันกับการเดินทาง)
---------------------------------------------------------------------------------
Day 1 – Bangkok-Doha-Moscow-St.Pertersburg

เครื่องออกจากกรุงเทพฯตี 2 ถึงโดฮาตี 5 ใช้เวลาบินเกือบ 7 ชั่วโมง รอเปลี่ยนเครื่อง 2 ชั่วโมงแล้วบินต่ออีก 6 ชั่วโมง
ถึงสนามบินดามาเดียดาว่าที่มอสโคว์ประมาณเที่ยง เราก็นั่ง Aeroexpress เพื่อไปรอขึ้น Sapsan ไปเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เราเลือก Sapsan เพราะไม่อยากเสียเวลา

ลากกระเป๋าต๊อกแต๊กข้ามถนนมาที่โรงแรม Allegro hotel Ligovsky prospect อยู่ฝั่งตรงข้ามกับสถานีรถไฟ เป็นโรงแรมที่รู้สึกว่าคุ้มค่า มาเซนต์ทีไรก็พักที่นี่ เพราะห้องกว้างดี ราคาไม่แพงมาก รวมอาหารเช้าแล้วด้วย ลืมถ่ายภาพห้องพักเพราะเหนื่อยมากๆ(ขอยืมจาก Booking.com ค่ะ)

หลังจากเอาของลงก็เริ่มหิว ไปหาอะไรง่ายๆกิน โดยข้ามกลับไปที่ฝั่งสถานีแต่เลี้ยวเข้าห้างแกลรอเลียกัน! ชั้น 4 มีศูนย์อาหารและร้านอาหาร ใครขี้เกียจเดินหาโต๊ะก็เข้าร้านแต่ถ้าประหยัดก็ศูนย์อาหารเลยค่ะ มีอาหารหลากหลายทั้งอาหารรัสเซีย อาหารจีนแบบด่วนๆ เบอร์เกอร์ ความที่หิวมากเลยเข้า TGI Firday ราคาแพงเอาเรื่อง สั่งจานใหญ่ กับเบอร์เกอร์ และโค้ก หมดไป 2000 กว่ารูเบิล รสชาติอาหารเค็มนำ ไม่ปลื้มเท่าไหร่

Day 2 - St. Pertersburg - Gatchina - St. Pertersburg
ตื่นเช้ามากินข้าวที่โรงแรม อาหารเช้ามีขนมปัง แฮม ไส้กรอก คาช่า(ข้าวต้มแบบรัสเซีย เหมือนอาหารเด็ก) พาย น้ำผลไม้ บรรยากาศห้องอาหารตกแต่งใหม่ เราเคยมาตั้งแต่ยังไม่บุวอลเปเปอร์ เป็นเก้าอี้เก่าๆ ตอนนี้สวยงามเชียว น่านั่ง

จากนั้นเราก็นั่งรถไฟใต้ดินไปลงสถานี Moskovskaya สีฟ้า เพื่อจะต่อรถเมล์สาย K-18 หรือ K-18a ไปเมืองกัซชิน่ากัน

ถ้าขึ้นมาเจอจตุรัสรูปปั้นให้เดินไปด้านหลังนะคะ จะมีรถตู้และรถเมล์จอดอยู่ ขึ้นตามสายที่บอก ค่ารถคนละ 88 รูเบิล ใช้เวลาประมาณ 40-60 นาทีขึ้นอยู่กับสภาพการจราจรค่ะ

รถจะไปจอดที่ Gatchina Baltiyskaya ที่เป็นสถานีรถไฟ ตั้งอยู่สุดถนนตรงข้ามกับ Gatchina Palace เลยค่ะ เราสามารถเดินตรงมาจนเข้าพระราชวัง ราคาเข้าชมสำหรับผู้ใหญ่ คนละ 350 รูเบิล ภายในพระราชวังมี 3 ชั้น และมีห้องใต้ดินด้วย พระราชวังแห่งนี้มีของสะสมสวยงามพอสมควร อาจจะไม่ยิ่งใหญ่อลังการเท่าพระราชวังเฮอร์มิเทจแต่ก็สามารถเดินดูได้เรื่อยๆ เพลินๆ มีห้องจำลอง ห้องทรงงาน ห้องบรรทม ห้องเสวยพระกายาหาร และห้องอื่นๆของกษัตริย์ Alexander ที่ 3 (พ่อของซาร์นิโคลัสที่ 2)และพระราชวงศ์

ด้านหลังเป็นสวนส่วนพระองค์ ปัจจุบันก็เป็นสวนสาธารณะ ตอนเราไปถึงใบไม้เปลี่ยนสีทั้งสวน อากาศหนาว อุณหภูมิประมาณ 4-7 องศา สวยงามมากๆ มีคนออกมาให้อาหารเป็ดในสวนด้วย

ใครอยากมาเดินชิลๆ เปลี่ยนบรรยากาศ ในสถานที่ที่ไม่มีทัวร์จีนมาลง ตอนเราไปมีแต่เด็กรัสเซียมาทัศนศึกษาและทัวร์ชาวยุโรป 2-3 กลุ่ม แนะนำที่นี่ค่ะ
ข้อมูลเพิ่มเติม
The palace is open: 10.00 — 18.00 Tuesday-Sunday, on Monday and every first Tuesday of every month the museum is closed;
the ticket office closes at 17.00.
Address: The Priory park, Chkalov-street, Gatchina.
Phone: +7 81371 76 467
Web-site: http://gatchinapalace.ru/en/

เหน็ดเหนื่อยกันไปพอสมควรจากการเดินทางและอากาศหนาว มื้อเย็นเลยขอจัดหนักจัดเต็ม ด้วยเมนูปู Red King Crab (Kamchatka crab or Alaskan King crab)กันสักหน่อย เท่าที่ค้นดูจาก tripadvisor และเพจต่างๆมีหลายร้านในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ราคาจะไม่แพงเท่าที่มอสโคว์ แต่เราเลือกร้านนี้เพราะเน้นกินปู ไม่ได้เน้นอาหารทะเลอย่างอื่น เคยเห็นคนไทยมากินบ้าง
ร้านชื่อ Crab Story ค่ะ
พิกัดร้านนี่อธิบายไม่ถูกจริงๆ เอาเป็นว่าเราแปะรูปไว้หรือว่ามาตาม google maps ก็ได้ค่ะ
สถานีรถไฟใต้ดินที่ใกล้ที่สุดคือสถานี Vladimirskaya เดินต่ออีกสัก 10 นาที

ปูเสิร์ฟพร้อมซอสผงกะหรี่ มายองเนสมะนาว และน้ำมันมะกอก
ราคา (เรทที่แลกไป 1 บาท = 0.57 รูเบิล)
สำหรับ 1 คน (350-400 กรัม) – 1700 รูเบิล
สำหรับ 2 คน (700-800 กรัม) – 3000 รูเบิล
สำหรับแชร์หลายคน (1500 กรัม) – 5000 รูเบิล
รูปข้างล่างขนาดสำหรับ 2 คน ปูตัดขาให้เรียบร้อย เสิร์ฟแบบเย็น เนื้อหวาน สดดี กินเปล่าๆแบบไม่ต้องจิ้มก็อร่อย ขาใหญ่จริงๆ ส่วนน้ำจิ้มที่ให้มาคือดีงามมากๆค่ะ จะงัดน้ำจิ้มซีฟู้ดขึ้นมาแต่คิดว่ากินแบบที่ร้านจะดีกว่า

ตอนแรกคิดว่าน้อย เลยสั่งปลาคอด(ราคา 550 รูเบิล)กับสลัดเนื้อปู(ราคา 540 รูเบิล)มาด้วย สรุปว่าอิ่มมาก กินสองคนแทบไม่หมด

ข้อมูลเพิ่มเติม
เบอร์โทร +7-812-908-02-88
Email: info@crabstory.ru
IG: crabstoryspb
เวลาเปิด-ปิด
อา.-พฤ. 12:00 - 23:00
ศ.-ส. 12:00 - 00:00

Day 3 - St. Pertersburg - Moscow

วันนี้อากาศไม่ค่อยดี เราอยู่เซนต์แค่ 3 วันแต่ฝนตกทุกวัน พอวันกลับไปมอสโคว์ แอบเช็คอากาศ แหม..แดดสดใส มันเป็นเรื่องของดวงด้วยอ่ะเนอะ แห่ะๆ ว่ากันต่อเนื่องจากฝนตกทั้งวันเลยไม่ได้ไปไหนมาก ได้แต่เดินถนนเนียฟสกี้และแวะร้านคาเฟ่หลบฝน กาแฟที่รัสเซียสุดยอดของความไม่อร่อย อย่างร้านดัง Café Singer เราว่าไม่โอเคอย่างแรง ราคาก็แพงอีกตั้งหาก มีดีแค่วิววิหารคาซานฝั่งตรงข้ามอ่ะ

ส่วนมื้อกลางวันแวะร้าน Dve Palochki เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นที่พนักงานต้อนรับสาวสวยคนรัสเซีย ทำเอาหนุ่มที่มาด้วยหัวใจครื้นเครงทีเดียว ช่วงกลางวันเกือบทุกร้านจัด Business lunch ราคาไม่โหด ส่วน portion ก็กระจุ๋มกระจิ๋มอย่างละนิดละหน่อย ทีแรกเราจะไปเข้าร้าน Biblioteka แล้ว(ร้านนั้นมี 3 ชั้น ชั้นล่างขายขนม ชั้น 2 ขายอาหารอิตาเลี่ยน ริซอตโต้อร่อยดี ส่วนชั้น 3 เป็นบาร์) แต่ว่าหนุ่มที่มาด้วยอยากกินอาหารญี่ปุ่น เราก็ไม่อยากขัด เมื่อได้ลองชิมก็ค้นพบความจริงว่าไม่อร่อยเลย พวกเส้นๆกับซุปยังพอทานได้ แต่ซูชิเข้าขั้นหลอน เพราะเป็นซูชิครีมชีส กรี๊ดดดด มันไม่เข้ากันอย่างแรง มีวิญญาณปลาไหลมาบางๆ และอัลมอนด์สไลด์ ใครก็ได้ช่วยจินตนาการความอร่อยให้ทีค่ะ
ของคาวหมดไปยังไม่เข็ด จัดของหวานต่อ เลือกปาท่องโก๋สเปน(ชูโรส) มี dip เป็นคาราเมลและช็อคโกแลต อร่อยดี อร่อยกว่าของคาวเยอะมาก ชิ้นใหญ่ อมน้ำมันนิดหน่อย ส่วนไอศกรีมเป็นชอร์เบทสตอเบอร์รี่ อมเปรี้ยวอมหวาน สรุปว่าของหวานให้ผ่านจ้ะ

จบมื้อกลางวันประมาณเกือบบ่ายสาม เดินเที่ยวต่อ ฝนตกพรำๆตลอด ไปดูโบสถ์หยดเลือด ตรงยอดปิดปรับปรุง ถ่ายรูปออกมาไม่สวย คาดว่าจะอีกนานเลยค่ะ ช่วงนี้ปรับปรุงหลายโบสถ์ทั้งเซนต์และมอสโคว์
ข้างๆมีสวนมิคาอิล เป็นสวนสาธารณะแวะเข้าไปสักหน่อย ใบไม้กำลังเปลี่ยนสีสวยงาม มีคนเอาขาตั้งกล้องมาถ่ายภาพด้วย ตรงที่เป็นทางเดินสามารถถ่ายได้ปกติ แต่ห้ามเข้าไปในสนามหญ้านะคะ มีป้ายสัญลักษณ์บอกอยู่

ขอตัดไปที่รถไฟ Grand Express จากเซนต์สู่มอสโคว์เลยแล้วกัน เราไปขึ้นที่สถานีรถไฟ Moskovsky ใกล้ๆเวลารถไฟออกให้เดินดูชานชาลาให้ดี เพราะขบวนที่เราจะขึ้น เขียนในบอร์ดว่าชานลาชา 4 แต่ประกาศออกไมค์ชานชาลา 5 ซึ่งเราก็รู้ว่าหูตัวเองไม่เพี้ยนเลยเดินออกไป แล้วถามเจ้าหน้าที่รถไฟ สรุปเป็นชานชาลาที่ 5 จริงๆ ขบวนนี้เป็นรถไฟตู้นอน 1 ขบวนมีแค่ 16 ที่นอน 1 ห้องนอนได้ 2 คน ห้องน้ำรวมมี 2 ห้องที่หัวและท้ายขบวน ถ้าอยากได้ประสบการณ์ที่ดีกับรถไฟรัสเซีย มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวก ความปลอดภัยดี เพราะว่าด้านในล็อคอัตโนมัติ ส่วนด้านนอกต้องใช้คีย์การ์ดก็ลองใช้บริการดู ราคาตั๋วรวมอาหารเช้า(แซนวิช ชา/กาแฟ รูปสุดท้าย)แล้วค่อนข้างสูง พอๆกับโรงแรม 3 ดาว ส่วนตัวเราเคยนอนแบบรวมแล้วแต่คราวนี้ของเยอะ กระเป๋าใหญ่เลยจองแบบนี้แทน

** ต่อในคอมเม้นค่ะ **
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่