เท่าที่เห็นนะครับบางคู่ เมื่อก่อนกัดกันตลอด แกล้งกัน ว่ากัน ไม่ชอบหน้ากัน อีกฝ่ายทำอะไรก็ดูไม่ดีสักอย่าง
เขม่นกันเหมือนโกรธแค้นกันมาแต่ชาติปางไหน แต่สุดท้ายคบกันจนได้ กลายเป็นว่าพฤติกรรมทุกอย่างกลับตาลปัตร
หวานชื่น ตัวติดกัน อีกฝ่ายจะพูด จะเดิน เหิร นั่ง นอน ทุกอย่างดูดีไปหมด ตั้งแต่คบกันเป็นแฟน ต่างจากเมื่อก่อนโคตรๆ
เมื่อก่อนทั้งเขม่น จิกกัด แข่งกันตลอด เดี๋ยวนี้จูงมือเดินกันไม่ห่าง กอด หอมแก้ม หวานมาก น่ารักมากครับ
แปลกดีนะครับ จนผมลองนึกย้อนกลับไปตอนที่ศึกษาเรื่องทฤษฏี Gain-Loss (ทฤษฎีทางด้านนิเทศศาสตร์)
ตามหลักการของคนที่ทำไม่ดีกันมาตั้งแต่แรก แต่พออีกฝ่ายทำดีด้วยเพียงครั้งเดียว มีโอกาสที่จะก่อให้เกิดผลลัพท์
สลับขั้ว คล้ายกับการดีดโยโย่ทางความรู้สึก ส่วนในทางกลับกันคนที่ทำดีด้วยกันมาตั้งแต่ต้น นานวันเข้า ยิ่งน่าเบื่อ
กลายเป็นเรื่องธรรมดา หรือ เป็นสิ่งที่ต้องพบเจอ,ได้รับ เป็นเรื่องปกติ
น่าสนใจนะครับเรื่องนี้ น่ารักดีครับ
คู่กัด ศัตรู ไม่ชอบกัน แต่พอเป็นแฟนกันปุ๊บ หวานหยดย้อย...มีทฤษฏีไหนอธิบายได้บ้างครับ?
เขม่นกันเหมือนโกรธแค้นกันมาแต่ชาติปางไหน แต่สุดท้ายคบกันจนได้ กลายเป็นว่าพฤติกรรมทุกอย่างกลับตาลปัตร
หวานชื่น ตัวติดกัน อีกฝ่ายจะพูด จะเดิน เหิร นั่ง นอน ทุกอย่างดูดีไปหมด ตั้งแต่คบกันเป็นแฟน ต่างจากเมื่อก่อนโคตรๆ
เมื่อก่อนทั้งเขม่น จิกกัด แข่งกันตลอด เดี๋ยวนี้จูงมือเดินกันไม่ห่าง กอด หอมแก้ม หวานมาก น่ารักมากครับ
แปลกดีนะครับ จนผมลองนึกย้อนกลับไปตอนที่ศึกษาเรื่องทฤษฏี Gain-Loss (ทฤษฎีทางด้านนิเทศศาสตร์)
ตามหลักการของคนที่ทำไม่ดีกันมาตั้งแต่แรก แต่พออีกฝ่ายทำดีด้วยเพียงครั้งเดียว มีโอกาสที่จะก่อให้เกิดผลลัพท์
สลับขั้ว คล้ายกับการดีดโยโย่ทางความรู้สึก ส่วนในทางกลับกันคนที่ทำดีด้วยกันมาตั้งแต่ต้น นานวันเข้า ยิ่งน่าเบื่อ
กลายเป็นเรื่องธรรมดา หรือ เป็นสิ่งที่ต้องพบเจอ,ได้รับ เป็นเรื่องปกติ
น่าสนใจนะครับเรื่องนี้ น่ารักดีครับ