งานหนังสือที่ผ่านมาปฏิเสธไม่ได้ว่าในวันแรกๆนั้นสำนักพิมพ์นกย่างเป็นสำนักพิมพ์ที่มีคนต่อคิวยาวที่สุดในงานหนังสือ
ในช่วงเวลาปกตินอกจากแถวจะยาวประมาณ 500 เมตรได้แล้ว ยังมีแกนวอร์ปตัดหางแถวไปรออยู่นอก Hall ด้วยส่วนหนึ่ง
ผมไม่รู้หรอกนะว่าคนอื่นเขาต่อคิวซื้อเรื่องอะไรกัน...แต่ผมมาด้วยจุดประสงค์หนึ่งเดียว
Classroom of the Elite
หรือชื่อไทยก็คือ " ขอต้อนรับสู่ห้องเรียนนิยม(เฉพาะ)ยอดคน "
แน่นอนว่าผมไม่ค่อยชอบชื่อภาษาไทยเท่าไหร่...เพราะแปลมาตรงจนรู้สึกไม่ค่อยมีศิลปะในการรังสรรดัดแปลง
( และต่อให้คิดชื่ออื่นมาได้กิ๋บเก๋ ก็จะโดนบางคนบ่นว่าทำไมไม่แปลตรงๆอยู่ดี นานาจิตตัง )
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ฉบับ Anime เรื่องนี้ยอดขายไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ( 2000 แผ่นได้มั้ง )
เรื่องยอดขาย Anime ไม่ดีส่วนตัวมองว่า ไม่ใช่ว่าเรื่องนี้มีคนที่ชอบหรือดูน้อย
แต่คิดว่า Anime ทำได้น่าสนใจพอตัว ... นิยาย Original น่าจะสนุกกว่า
ผลลัพธ์คือประสบความสำเร็จในด้านการโปรโมตนิยายอย่างสูง
ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเกือบๆแตะ 900k เล่มได้
หลายๆคนบอกว่าแฟนๆนิยายส่วนมากไม่พอใจเพราะ Anime ดัดแปลงและบิดเบือนเนื้อหาหลายจุดรวมถึงลักษณะบางประการ
ผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่รู้จักเรื่องนี้จากฉบับ Anime ก่อนที่จะได้มีโอกาสอ่านนิยายต้นฉบับ
ที่เห็นชัดที่สุดเลยก็คือ " การแสดงออกและวางตัว " ของพระเอก
ในนิยายนำเสนอได้ "เยอะและขี้บ่น" กว่ามากๆ ...
จนภาพลักษณ์ห่างไกลคำว่า Cool หรือ Emotionless ฉบับ Anime ไปพอตัว
ยอมรับเลยว่าทำเอา "อคติ" กับความขัดแย้งที่แตกต่างจากที่เคยรับรู้ไปพักใหญ่ ( ประมาณ 1/3 ของเล่ม )
แต่พอเข้าสู่ช่วงใช้ไหวพริบในการแก้ปัญหา..."อคติ" ข้างต้นไม่ได้ลดทอนความสนุกของเรื่องเลย
รายละเอียดหลายจุดที่ลงลึกกว่าในการ์ตูน...ตัวละครอีกหลายตัวที่ไม่มีบท...สำหรับคนที่ชอบเรื่องนี้ผมว่าคุ้มที่จะซื้อฉบับนิยายมาอ่าน
แม้ราคาจะแรงไปหน่อย แต่รูปเล่มก็ถือว่างานประณีตและสำนวนการแปลก็จัดได้ว่าไม่ขี้เหร่...
( แต่ผมไม่ชอบการใช้คำว่า "หรือ" ของประโยคคำถามที่ตัดพ้อในบทแรกนะ)
ส่วนตัวไม่ได้อยู่ในกลุ่มคนที่อ่านนิยายมาก่อนแล้วค่อยมาดู Anime
แต่ผมว่าผู้กำกับทั้งสองท่าน (ผู้กำกับร่วม ) เขาประยุกต์ดัดแปลงจากฉบับ LN ได้ดีพอตัวนะ
จังหวะจะโคนในการนำเสนอรวมถึงที่ดัดแปลงลักษณะภายนอกพระเอกให้ Emotionless โดยสิ้นเชิงแบบนี้
มันทำให้น่าค้นหา น่าติดตามกว่าจริงๆนั่นแหละ...พูดให้ถูกคือ 1st Impression ของเรื่องนี้มันโดนใจผม
ราคาหน้าปก 285 บาท ( Anime ทำถึงนิยายเล่ม 3 )
ถ้าฉบับ Light Novel จัดว่าเป็นเหล้าเพียว
ฉบับ Anime ก็แค่ใส่โซดาเข้าไป...
ส่วนตัวแล้ว...คุ้มค่าที่จะซื้ออุดหนุนเป็นเจ้าของครับ
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
นอกเรื่อง... Anime เรื่อง Kujira no Kora wa Sajou ni Utau ของ SS นี้
น่าติดตามไม่แพ้ Kekkai Sensen กับ March Come in Like Lion
[LN] Classroom of the Elite ( สำนักพิมพ์นกย่าง )
ในช่วงเวลาปกตินอกจากแถวจะยาวประมาณ 500 เมตรได้แล้ว ยังมีแกนวอร์ปตัดหางแถวไปรออยู่นอก Hall ด้วยส่วนหนึ่ง
ผมไม่รู้หรอกนะว่าคนอื่นเขาต่อคิวซื้อเรื่องอะไรกัน...แต่ผมมาด้วยจุดประสงค์หนึ่งเดียว
Classroom of the Elite
หรือชื่อไทยก็คือ " ขอต้อนรับสู่ห้องเรียนนิยม(เฉพาะ)ยอดคน "
แน่นอนว่าผมไม่ค่อยชอบชื่อภาษาไทยเท่าไหร่...เพราะแปลมาตรงจนรู้สึกไม่ค่อยมีศิลปะในการรังสรรดัดแปลง
( และต่อให้คิดชื่ออื่นมาได้กิ๋บเก๋ ก็จะโดนบางคนบ่นว่าทำไมไม่แปลตรงๆอยู่ดี นานาจิตตัง )
ฉบับ Anime เรื่องนี้ยอดขายไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ( 2000 แผ่นได้มั้ง )
เรื่องยอดขาย Anime ไม่ดีส่วนตัวมองว่า ไม่ใช่ว่าเรื่องนี้มีคนที่ชอบหรือดูน้อย
แต่คิดว่า Anime ทำได้น่าสนใจพอตัว ... นิยาย Original น่าจะสนุกกว่า
ผลลัพธ์คือประสบความสำเร็จในด้านการโปรโมตนิยายอย่างสูง
ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเกือบๆแตะ 900k เล่มได้
หลายๆคนบอกว่าแฟนๆนิยายส่วนมากไม่พอใจเพราะ Anime ดัดแปลงและบิดเบือนเนื้อหาหลายจุดรวมถึงลักษณะบางประการ
ผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่รู้จักเรื่องนี้จากฉบับ Anime ก่อนที่จะได้มีโอกาสอ่านนิยายต้นฉบับ
ที่เห็นชัดที่สุดเลยก็คือ " การแสดงออกและวางตัว " ของพระเอก
ในนิยายนำเสนอได้ "เยอะและขี้บ่น" กว่ามากๆ ...
จนภาพลักษณ์ห่างไกลคำว่า Cool หรือ Emotionless ฉบับ Anime ไปพอตัว
ยอมรับเลยว่าทำเอา "อคติ" กับความขัดแย้งที่แตกต่างจากที่เคยรับรู้ไปพักใหญ่ ( ประมาณ 1/3 ของเล่ม )
แต่พอเข้าสู่ช่วงใช้ไหวพริบในการแก้ปัญหา..."อคติ" ข้างต้นไม่ได้ลดทอนความสนุกของเรื่องเลย
รายละเอียดหลายจุดที่ลงลึกกว่าในการ์ตูน...ตัวละครอีกหลายตัวที่ไม่มีบท...สำหรับคนที่ชอบเรื่องนี้ผมว่าคุ้มที่จะซื้อฉบับนิยายมาอ่าน
แม้ราคาจะแรงไปหน่อย แต่รูปเล่มก็ถือว่างานประณีตและสำนวนการแปลก็จัดได้ว่าไม่ขี้เหร่...
( แต่ผมไม่ชอบการใช้คำว่า "หรือ" ของประโยคคำถามที่ตัดพ้อในบทแรกนะ)
ส่วนตัวไม่ได้อยู่ในกลุ่มคนที่อ่านนิยายมาก่อนแล้วค่อยมาดู Anime
แต่ผมว่าผู้กำกับทั้งสองท่าน (ผู้กำกับร่วม ) เขาประยุกต์ดัดแปลงจากฉบับ LN ได้ดีพอตัวนะ
จังหวะจะโคนในการนำเสนอรวมถึงที่ดัดแปลงลักษณะภายนอกพระเอกให้ Emotionless โดยสิ้นเชิงแบบนี้
มันทำให้น่าค้นหา น่าติดตามกว่าจริงๆนั่นแหละ...พูดให้ถูกคือ 1st Impression ของเรื่องนี้มันโดนใจผม
ฉบับ Anime ก็แค่ใส่โซดาเข้าไป...
ส่วนตัวแล้ว...คุ้มค่าที่จะซื้ออุดหนุนเป็นเจ้าของครับ
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
นอกเรื่อง... Anime เรื่อง Kujira no Kora wa Sajou ni Utau ของ SS นี้
น่าติดตามไม่แพ้ Kekkai Sensen กับ March Come in Like Lion