เชื่อว่าหลายๆคนต้องเคยมีประสบการณ์ คัดจมูก หายใจไม่สะดวกกันมาบ้าง โดยเฉพาะคนที่มีโรคภูมิแพ้ ซึ่งผมเป็นคนนึงที่มีปัญหากับอาการคัดจมูกนี้มาตั้งแต่เด็ก แล้วไอ้อาการคัดจมูก หายใจไม่ออกนี้มันจะยิ่งแย่ขึ้นเมื่อมาเป็นเวลาที่เราหลับไปแล้ว ผมเคยอาการหนักถึงขั้นจมูกตัน 2 ข้าง จนต้องตื่นมานอนหายใจทางปาก บางทีเผลอหลับกลายเป็นคออักเสบ ไข้ขึ้นกันไปอีก (และแน่นอนว่าเราก็จะได้เป็นหมีแพนด้าไปด้วย ใครเป็นภูมิแพ้น่าจะเข้าใจนะครับ 55) ปกติวิธีที่ผมใช้ก็คือ ใช้น้ำเกลือล้างจมูกและผมจะกินยาแก้แพ้ก่อนนอน ในวันที่รู้สึกว่าเริ่มมีอาการ แต่ก็นั่นแหละครับบางคืนก็เอาไม่อยู่ มีอาการกลางดึกอยู่ดี จนกระทั่งเมื่อไม่กี่ปีมานี้ ผมได้ค้นพบนวัตกรรมใหม่โดยบังเอิญ!! (คือจริงๆมันมีอยู่แล้วอะนะ แต่ผมพึ่งจะรู้ว่ามันมี 55) นั่นก็คือ….. ยาพ่นจมูกนั่นเอง ตอนแรกผมก็กลัวที่จะใช้ แต่หลังจากศึกษาดูแล้วพบว่า ยาประเภทนี้หากเราใช้ได้อย่างถูกวิธีก็จะช่วยให้ชีวิตเราดีขึ้นมาก ยาพ่นจมูก ที่ผมรู้คือจะมี 2 ประเภท
1.มีสารสเตียรอยด์
2.ไม่มีสารสเตียรอยด์
ประเภทแรกที่มีสเตียรอยด์ ขอผ่านนะครับ เพราะผมยังไม่กล้าใช้ แต่ที่ผมจะมารีวิววันนี้คือ ประเภทที่สองที่ไม่มีสารสเตียรอยด์ เอาล่ะ มาเริ่มกันเลย..
รีวิวนี้ ใช้เวลาในการเก็บข้อมูลนานมากเนื่องจากตอนแรกไม่ได้ตั้งใจจะรีวิวอะไร แต่มีเหตุบังเอิญให้ได้ใช้ครบ 3 ยี่ห้อพอดีเลยอยากจะมาเล่าให้คนที่มีอาการเดียวกันได้รับฟังครับ โดยยี่ห้อที่ผมใช้ จะมี 3 ยี่ห้อ ซึ่งทั้ง 3 ยี่ห้อนี้รู้จักมาจากการคนรอบข้างบอกต่อ และ ได้จากการหาซื้อตามร้านยาชื่อดัง
ได้แก่ 1.Nasol Nebuliser 2. Otrivin 3. Illiadin
มาเริ่มกันที่ตัว Nasol กันเลยดีกว่า
ผมรู้จักยาพ่นจมูกเป็นครั้งแรกก็เพราะ Nasol เลย เพราะมีรุ่นน้องแนะนำมา ปกติที่เคยใช้จะเป็นหัวบีบแต่รอบนี้ผมบังเอิญเจอแบบหัวกดมาเลยขอมาลองซะหน่อย
อันนี้ผมได้มาราคา 99 บาท ขนาด 20 ml ลักษณะตัวขวดก็จะมี2ส่วนคือ ส่วนตัวขวดที่บรรจุยากับส่วนที่เป็นหัวกดไว้เสียบเข้ารูจมูก ส่วนวิธีใช้ก็ง่ายๆครับ ยัดมันเข้าไปในรูจมูก แต่เป็นด้านหัวแหลมนะ หลังจากนั้นก็ใช้มือบีบ ตัวยาที่เป็นน้ำก็จะเข้าไปในจมูกคุณเป็นที่เรียบร้อย อาการก่อนทดลองผมหายใจไม่ออก2ข้างเลย และมีน้ำมูกด้วย งั้นก็จัดไป 2ข้าง อ้อ! ก่อนฉีดอย่าลืมเคลียร์รูจมูก สั่งน้ำมูกออกมาก่อนนะครับ เอาล่ะ หลังจากฉีด ได้ประมาณ 3 นาที รู้สึกได้เลยว่าจมูกค่อยโล่งๆขึ้น จนสุดท้ายโล่งซะยิ่งกว่าตอนไม่มีอาการซะอีก หลังจากนั้นก็หลับยาวถึงเช้า ระหว่างนอนไม่มีอาการคัดจมูกมากวนใจ
มาดูคะแนนกันดีกว่า
ความโล่งจมูก : 10/10 โล่งกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว แถมรู้สึกน้ำมูกหายไปด้วย
หาซื้อง่าย : 7.5/10 มีขายที่ร้านยานอกห้างทั่วไปแต่พวก Boots Watsons ไม่มีขาย ส่วนแบบหัวกดไม่รู้ว่าพึ่งออกรึปล่าว เพราะนอกจากร้านที่ผมบังเอิญไปเจอแล้ว ร้านอื่นๆที่ไปถามก็ไม่มีขายเลย
สรุป Nasol ประทับใจในความโล่งจมูกมากๆ โล่งเหมือนไม่มีอะไรมาขวางกั้นระหว่างปอดเรากับอากาศได้เลย แถมรู้สึกว่าน้ำมูกลดลงด้วย แต่ผมขอติเรื่องสถานที่ขายเพราะแบบหัวกดยังหาซื้อได้ยาก และก็อยากให้หาซื้อง่ายเหมือนอีก 2 ยี่ห้อ
มาต่อกันที่ Otrivin
เป็นยี่ห้อที่ 2 ที่ผมได้ลองใช้ เพราะไปเที่ยวต่างจังหวัดแล้วดันเป็นหวัดขึ้นมา ปรากฏว่าไป Watson เพื่อจะไปหาซื้อ Nasol ปรากฏว่าไม่มีขาย!! เภสัชเลยแนะนำยี่ห้อนี้มาให้แทน ก็ถือเป็นโอกาสอันดีที่ได้ลองของใหม่ๆ
ลักษณะกล่องและขวดของ Otrivin มีความโมเดิร์น ใน 3 ตัวนี้ผมชอบความสวยงามของ Otrivin มากสุด ผมได้มาในราคา 135 บาท ขนาด 10 mL
วิธีการใช้งานเป็นแบบหัวกดเหมือนกัน รอบนี้ที่ทดลองอาการคัดจมูก 1 ข้างหายใจไม่ออก ส่วนอีกข้างหายใจได้ ประมาณ 70% และมีน้ำมูกนิดหน่อย ไม่ต้องรอให้เสียเวลาเคลียร์จมูกโดยการสั่งน้ำมูกออก แล้วเอาที่พ่นใส่เข้าในจมูกแล้ว บีบ เลย! หลังจากผ่านประมาณ 10 นาที ยาก็เริ่มออกฤทธิ์ แต่กว่าจะรู้สึกโล่งจมูกก็ปาไป 20 นาที รวมถึงไม่ได้รู้สึกว่ามีน้ำมูกลดลงมากพอ
มาดูคะแนนกันดีกว่า
ความโล่งจมูก : 7/10 -ขอหักคะแนนตรงที่รู้สึกว่าออกฤทธิ์ช้าครับ 20 นาทีถึงจะรู้สึกโล่งจริงๆ
หาซื้อง่าย : 9/10 หาซื้อได้ง่าย มีแทบจะทุกร้าน
สรุปตัว Otrivin แอบไม่ประทับใจที่สุด เพราะราคาแรงสุดแต่ดันออกฤทธิ์ช้าเมื่อเทียบกับอีก 2 ยี่ห้อ
มาถึงตัวสุดท้ายซักที
ผมได้ทดลองใช้ illiadin ครั้งแรก เพราะจะเข้าโรงหนังแล้วหายใจติดขัดทั้ง 2 ข้าง จะกินยาแก้แพ้ก็กลัวจะหลับในโรง เลยถือโอกาสลองยี่ห้อใหม่ไปในตัวเลย
ลักษณะตัวกล่องและโปรดักดูสวยงามดี ลักษณะเป็นหัวกดเหมือนกับอีก 2 ยี่ห้อ ตัวนี้ผมได้มาในราคา 114 บาท 10 mL อาการขณะทดลองใช้มีจมูกทั้ง 2 ข้างหายใจติดขัด มีน้ำมูก เอาล่ะ เคลียร์จมูกพร้อมแล้ว เริ่มฉีดได้! หลังจากผ่านประมาณ 10 นาที ยาก็เริ่มออกฤทธิ์ ประมาณ15 นาทีก็รู้สึกโล่งจมูก แต่ขอติตรงรู้สึกว่าน้ำมูกไม่ค่อยลดลงเท่าไหร่
ถึงเวลาให้คะแนน
ความโล่งจมูก : 8.5/10 โอเคเลย จมูกโล่งหายใจได้ปกติดี ขอติตรงเรื่องลดน้ำมูกถ้าดีกว่านี้ก็จะแจ่มไปเลย
หาซื้อง่าย : 9/10 มีความดีงาม หาซื้อได้ง่ายมาก
สรุป illiadin สำหรับผมถือว่าโอเคเลย ติดเรื่องลดน้ำมูกอย่างเดียวแต่ถ้าคุณแค่มีอาการคัดจมูกแบบไม่มีน้ำมูกก็น่าจะช่วยให้ชีวิตได้ดีขึ้นเลยครับ
สุดท้าย จากตั้งใจลองใช้และเปรียบเทียบทั้ง 3 ยี่ห้อ
ส่วนตัวที่ผมประทับใจที่สุดคงจะไม่พ้น nasol อย่างแรกเลย รู้สึกได้ว่ามันโล่งจมูกมากกว่าอีก 2 ยี่ห้อ(ใครคัดจมูกอยากให้ลอง เพราะมันโล่งมากจริงๆ) ใช้ก่อนนอนนี่นอนหลับสบายมากๆ อย่างที่สองคือ นอกจากคุณภาพดีแล้วราคายังถูกที่สุดอีกด้วย แต่!! ข้อเสียที่ผมว่าควรจะปรับปรุงโดยด่วนคือ หาซื้อได้ยากกว่า illiadin และ otrivin ยิ่งแบบหัวกดนี่ผมเคยเจอแค่ที่ร้าน p&f ร้านเดียวเลย ซึ่งบางครั้งผมอยู่สถานการณ์ที่สะดวกซื้อในห้างมากกว่า ก็จะกลายเป็นหาซื้อ nasol ไม่ได้เลย
** ข้อควรระวัง คือ ยาประเภทนี้ ไม่ควรใช้ติดต่อกันเกิน 3-5 วัน ปกติผมจะใช้แค่เฉพาะเวลาฉุกเฉินที่ต้องการ บรรเทาอาการลงเท่านั้น
จบรีวิวแบบมั่วๆ ของผมเองแล้วครับ หวังว่าคงจะมีประโยชน์ให้กับคนที่ต้องทรมานกับอาการคัดจมูก โดยเฉพาะคนที่เป็นภูมิแพ้น่าจะเข้าใจปัญหาที่เราต้องเจอกันเป็นอย่างดีแน่ๆ ยาประเภทนี้มีไว้เพื่อบรรเทาอาการ เพราะฉะนั้นอย่าลืมออกกำลังกายรักษาสุขภาพกันนะครับ
[CR] รีวิว ยาพ่นจมูก ใครเป็นภูมิแพ้ คัดจมูก เข้ามาครับ!
1.มีสารสเตียรอยด์
2.ไม่มีสารสเตียรอยด์
ประเภทแรกที่มีสเตียรอยด์ ขอผ่านนะครับ เพราะผมยังไม่กล้าใช้ แต่ที่ผมจะมารีวิววันนี้คือ ประเภทที่สองที่ไม่มีสารสเตียรอยด์ เอาล่ะ มาเริ่มกันเลย..
รีวิวนี้ ใช้เวลาในการเก็บข้อมูลนานมากเนื่องจากตอนแรกไม่ได้ตั้งใจจะรีวิวอะไร แต่มีเหตุบังเอิญให้ได้ใช้ครบ 3 ยี่ห้อพอดีเลยอยากจะมาเล่าให้คนที่มีอาการเดียวกันได้รับฟังครับ โดยยี่ห้อที่ผมใช้ จะมี 3 ยี่ห้อ ซึ่งทั้ง 3 ยี่ห้อนี้รู้จักมาจากการคนรอบข้างบอกต่อ และ ได้จากการหาซื้อตามร้านยาชื่อดัง
ได้แก่ 1.Nasol Nebuliser 2. Otrivin 3. Illiadin
มาเริ่มกันที่ตัว Nasol กันเลยดีกว่า
ผมรู้จักยาพ่นจมูกเป็นครั้งแรกก็เพราะ Nasol เลย เพราะมีรุ่นน้องแนะนำมา ปกติที่เคยใช้จะเป็นหัวบีบแต่รอบนี้ผมบังเอิญเจอแบบหัวกดมาเลยขอมาลองซะหน่อย
อันนี้ผมได้มาราคา 99 บาท ขนาด 20 ml ลักษณะตัวขวดก็จะมี2ส่วนคือ ส่วนตัวขวดที่บรรจุยากับส่วนที่เป็นหัวกดไว้เสียบเข้ารูจมูก ส่วนวิธีใช้ก็ง่ายๆครับ ยัดมันเข้าไปในรูจมูก แต่เป็นด้านหัวแหลมนะ หลังจากนั้นก็ใช้มือบีบ ตัวยาที่เป็นน้ำก็จะเข้าไปในจมูกคุณเป็นที่เรียบร้อย อาการก่อนทดลองผมหายใจไม่ออก2ข้างเลย และมีน้ำมูกด้วย งั้นก็จัดไป 2ข้าง อ้อ! ก่อนฉีดอย่าลืมเคลียร์รูจมูก สั่งน้ำมูกออกมาก่อนนะครับ เอาล่ะ หลังจากฉีด ได้ประมาณ 3 นาที รู้สึกได้เลยว่าจมูกค่อยโล่งๆขึ้น จนสุดท้ายโล่งซะยิ่งกว่าตอนไม่มีอาการซะอีก หลังจากนั้นก็หลับยาวถึงเช้า ระหว่างนอนไม่มีอาการคัดจมูกมากวนใจ
มาดูคะแนนกันดีกว่า
ความโล่งจมูก : 10/10 โล่งกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว แถมรู้สึกน้ำมูกหายไปด้วย
หาซื้อง่าย : 7.5/10 มีขายที่ร้านยานอกห้างทั่วไปแต่พวก Boots Watsons ไม่มีขาย ส่วนแบบหัวกดไม่รู้ว่าพึ่งออกรึปล่าว เพราะนอกจากร้านที่ผมบังเอิญไปเจอแล้ว ร้านอื่นๆที่ไปถามก็ไม่มีขายเลย
สรุป Nasol ประทับใจในความโล่งจมูกมากๆ โล่งเหมือนไม่มีอะไรมาขวางกั้นระหว่างปอดเรากับอากาศได้เลย แถมรู้สึกว่าน้ำมูกลดลงด้วย แต่ผมขอติเรื่องสถานที่ขายเพราะแบบหัวกดยังหาซื้อได้ยาก และก็อยากให้หาซื้อง่ายเหมือนอีก 2 ยี่ห้อ
มาต่อกันที่ Otrivin
เป็นยี่ห้อที่ 2 ที่ผมได้ลองใช้ เพราะไปเที่ยวต่างจังหวัดแล้วดันเป็นหวัดขึ้นมา ปรากฏว่าไป Watson เพื่อจะไปหาซื้อ Nasol ปรากฏว่าไม่มีขาย!! เภสัชเลยแนะนำยี่ห้อนี้มาให้แทน ก็ถือเป็นโอกาสอันดีที่ได้ลองของใหม่ๆ
ลักษณะกล่องและขวดของ Otrivin มีความโมเดิร์น ใน 3 ตัวนี้ผมชอบความสวยงามของ Otrivin มากสุด ผมได้มาในราคา 135 บาท ขนาด 10 mL
วิธีการใช้งานเป็นแบบหัวกดเหมือนกัน รอบนี้ที่ทดลองอาการคัดจมูก 1 ข้างหายใจไม่ออก ส่วนอีกข้างหายใจได้ ประมาณ 70% และมีน้ำมูกนิดหน่อย ไม่ต้องรอให้เสียเวลาเคลียร์จมูกโดยการสั่งน้ำมูกออก แล้วเอาที่พ่นใส่เข้าในจมูกแล้ว บีบ เลย! หลังจากผ่านประมาณ 10 นาที ยาก็เริ่มออกฤทธิ์ แต่กว่าจะรู้สึกโล่งจมูกก็ปาไป 20 นาที รวมถึงไม่ได้รู้สึกว่ามีน้ำมูกลดลงมากพอ
มาดูคะแนนกันดีกว่า
ความโล่งจมูก : 7/10 -ขอหักคะแนนตรงที่รู้สึกว่าออกฤทธิ์ช้าครับ 20 นาทีถึงจะรู้สึกโล่งจริงๆ
หาซื้อง่าย : 9/10 หาซื้อได้ง่าย มีแทบจะทุกร้าน
สรุปตัว Otrivin แอบไม่ประทับใจที่สุด เพราะราคาแรงสุดแต่ดันออกฤทธิ์ช้าเมื่อเทียบกับอีก 2 ยี่ห้อ
มาถึงตัวสุดท้ายซักที
ผมได้ทดลองใช้ illiadin ครั้งแรก เพราะจะเข้าโรงหนังแล้วหายใจติดขัดทั้ง 2 ข้าง จะกินยาแก้แพ้ก็กลัวจะหลับในโรง เลยถือโอกาสลองยี่ห้อใหม่ไปในตัวเลย
ลักษณะตัวกล่องและโปรดักดูสวยงามดี ลักษณะเป็นหัวกดเหมือนกับอีก 2 ยี่ห้อ ตัวนี้ผมได้มาในราคา 114 บาท 10 mL อาการขณะทดลองใช้มีจมูกทั้ง 2 ข้างหายใจติดขัด มีน้ำมูก เอาล่ะ เคลียร์จมูกพร้อมแล้ว เริ่มฉีดได้! หลังจากผ่านประมาณ 10 นาที ยาก็เริ่มออกฤทธิ์ ประมาณ15 นาทีก็รู้สึกโล่งจมูก แต่ขอติตรงรู้สึกว่าน้ำมูกไม่ค่อยลดลงเท่าไหร่
ถึงเวลาให้คะแนน
ความโล่งจมูก : 8.5/10 โอเคเลย จมูกโล่งหายใจได้ปกติดี ขอติตรงเรื่องลดน้ำมูกถ้าดีกว่านี้ก็จะแจ่มไปเลย
หาซื้อง่าย : 9/10 มีความดีงาม หาซื้อได้ง่ายมาก
สรุป illiadin สำหรับผมถือว่าโอเคเลย ติดเรื่องลดน้ำมูกอย่างเดียวแต่ถ้าคุณแค่มีอาการคัดจมูกแบบไม่มีน้ำมูกก็น่าจะช่วยให้ชีวิตได้ดีขึ้นเลยครับ
สุดท้าย จากตั้งใจลองใช้และเปรียบเทียบทั้ง 3 ยี่ห้อ
ส่วนตัวที่ผมประทับใจที่สุดคงจะไม่พ้น nasol อย่างแรกเลย รู้สึกได้ว่ามันโล่งจมูกมากกว่าอีก 2 ยี่ห้อ(ใครคัดจมูกอยากให้ลอง เพราะมันโล่งมากจริงๆ) ใช้ก่อนนอนนี่นอนหลับสบายมากๆ อย่างที่สองคือ นอกจากคุณภาพดีแล้วราคายังถูกที่สุดอีกด้วย แต่!! ข้อเสียที่ผมว่าควรจะปรับปรุงโดยด่วนคือ หาซื้อได้ยากกว่า illiadin และ otrivin ยิ่งแบบหัวกดนี่ผมเคยเจอแค่ที่ร้าน p&f ร้านเดียวเลย ซึ่งบางครั้งผมอยู่สถานการณ์ที่สะดวกซื้อในห้างมากกว่า ก็จะกลายเป็นหาซื้อ nasol ไม่ได้เลย
** ข้อควรระวัง คือ ยาประเภทนี้ ไม่ควรใช้ติดต่อกันเกิน 3-5 วัน ปกติผมจะใช้แค่เฉพาะเวลาฉุกเฉินที่ต้องการ บรรเทาอาการลงเท่านั้น
จบรีวิวแบบมั่วๆ ของผมเองแล้วครับ หวังว่าคงจะมีประโยชน์ให้กับคนที่ต้องทรมานกับอาการคัดจมูก โดยเฉพาะคนที่เป็นภูมิแพ้น่าจะเข้าใจปัญหาที่เราต้องเจอกันเป็นอย่างดีแน่ๆ ยาประเภทนี้มีไว้เพื่อบรรเทาอาการ เพราะฉะนั้นอย่าลืมออกกำลังกายรักษาสุขภาพกันนะครับ