การไปพุทธคาครั้งนี้ เป็นการเดินทางต่างประเทศครั้งแรกในชีวิตของเจ้าของกระทู้ ไปเพื่อปฎิบัติธรรม ตามรอยบาทพระศาสดา และเติมพลัง
อีกอย่างที่สำคัญ คือ ไปเพื่อทดลองดูว่ามีขั้นตอนอย่างไร แต่ละสถานที่เป็นยังไง การเดินทาง ที่พัก อาหารการกิน ตลอดจนสิ่งแวดล้อม
เพราะในปีหน้าจะพา พระในบ้าน ก็คือ พ่อและแม่ไปให้ได้สักครั้งในชีวิต แต่ไปไม่ครบ 4 สังเวชนียสถาน เพราะยึดสุขภาพพ่อแม่เป็นสำคัญ
ขอขอบคุณญาติธรรมทุกท่านที่ให้การช่วยเหลือในทุกสิ่งไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยนะครับผม
(ค่าใช้จ่ายทั้งหมด ประมาณ 10,000 บาท 4 วัน 3 คืน)
1. การจองตั๋วเครื่องบิน ผมบิน 2 ต่อ จากกรุงเทพ-โกลกาตา และโกลกาตา-คยา สายการบินที่ใช้ คือ SpriceJet+Air India
จากการดูราคาตั๋วเครื่องบินทั้งปีนี้ ของ SpriceJet ไม่ได้แตกต่างกันมาก แค่หลักร้อย แม้จะใกล้วันเดินทางราคาก็ยังไม่ขึ้นมาก แถมลดด้วย
Air India บินในประเทศ ไฟท์ไปคยา มีแค่ 2 วัน คือ วันศุกร์ กับ วันจันทร์ (เป็นสิ่งบังคับทริปที่ไป เพราะผมเลือกไม่นั่งรถไปคยา)
(ถ้าเลือกจาก เวลาในการบินดีที่สุดคือ SpriceJet+Air India (ขาไป) Air India+Indigo (ขากลับ) การจองแยกราคาก็ขึ้นมาหลักพัน)
2. การขอ e-VISA อินเดีย ของ่ายมากๆครับ แต่ต้องใส่ข้อมูลทุกช่องที่กำหนดด้วยนะครับ อนุมัติวีซ่าไม่ถึง 24 ชั่วโมง (เร็วมากๆ)
เมื่อได้เมลตอบกับ ก็เอาเลขที่ Application ID ไปกรอกในเวปที่เมนู visa status เพื่อ
โหลดฟอร์มวีซ่าเต็มรูปแบบมาเก็บไว้เลยนะครับ
ผ่าน ตม.อินเดีย เขียนใบเข้าประเทศอินเดีย กรอกง่ายๆ ประมาณ 8 ช่อง นามสกุล-ชื่อ วันเกิด เลขพาสปอร์ต ไฟล์บิน วันที่มาถึง ที่อยู่ในอินเดีย
เบอร์โทร (ที่อยู่ของโรงแรม เบอร์โทรโรงแรม หรือ ที่อยู่วัดและเบอร์โทรวัด) แล้วก็เซนต์ชื่อ
จากนั้น ก็เข้าแถวเพื่อตรวจเอกสารของ ตม.
ช่องบริการ ตม.ที่โกลกาตา มีป้ายบอกชัดเจนมาก ว่า e-VISA (ช่องที่ 20-30) อยู่ทางขวามือสุดของ ตม. ถ้าคนเยอะจะช้า เพราะจะต้อง
ถ่ายรูป สแกนนิ้วมือ มีคำถามบ้างนิดหน่อย มาจากที่ไหน จะไปที่ไหน มาทำอะไร ชื่ออะไร มีที่พักแถวไหน (ใช้เวลาคนละประมาณ 7-10 นาที)
3.
แนะนำให้ปริ้นตั๋วเครื่องบิน ไปด้วยในทุกไฟท์ ที่แสดงชื่อตัวเรา และไฟท์บิน (เจ้าหน้าที่จะขอตรวจทุกครั้งก่อนเข้าไปในบริการภายในที่กำหนด)
สนามบินโกลกาตา หาของกินไม่ได้เลย
ถ้าไม่ได้เชคอินไปข้างในเกท ไม่มีบริการรับฝากกระเป๋าด้วย กรณีจะเข้าเมืองเพื่อเที่ยวฆ่าเวลา
wifi ที่สนามบินใช้ฟรีสำหรับคนที่มีเบอร์โทรศัพท์ของอินเดีย 30 นาที หรือ 1 ชั่วโมงนิล่ะ ผมลองไปซื้อ package wifi ที่สนามบิน ไม่โอเคครับ
เวลารอต่อเครื่องนานมากๆ มีร้านกาแฟ ขนมปัง แซนวิช แต่ถ้าจะให้แนะนำ
ผมแนะนำให้เอามาม่าคัพติดไปด้วย ไปซื้อน้ำร้อนจากร้านกาแฟเอา
น่าจะอิ่มท้องมากกว่า สำหรับคนที่ชอบกินข้าว
4.
สนามบินคยาไม่มีแทกซี่ประจำ แนะนำให้ติดต่อโรงแรมหรือวัด ให้เขาจัดคนมารับ (อันนี้ชัวร์สุด) ถ้าหาเองราคาอาจจะสูง หรือจะขอติดรถคนอื่น
ไปที่คยาก็ได้ครับ (รถที่มารับผู้แสวงบุญ) อันนี้ผมโชคดีมากครับ
ที่เจอเจ้าของทัวร์ใจดีให้ติดรถไปด้วย แถมให้ไปเที่ยวราชคฤห์ด้วยอีก 1 วัน
เขาสงสารเห็นมาคนเดียว คุยกันตั้งแต่ลงเครื่องที่โกลกาตาล่ะครับ แม่เขาชวนให้ผมไปทุกที่ที่ไปเลย 5555 เงินก็ไม่เอา ผมก็เกรงใจมากๆด้วย
5. การแลกเงินรูปี ไปคนเดียวก็
แนะนำให้แลกที่ไทยไปเลย แต่อย่าแลกไปเยอะนะครับ เอาแค่พอใช้เท่านั้น ผมแลกไป 2,000 บาทไทย ก็ยังเหลือ
ซื้อของในสถานที่คนไทยไป ใช้เงินไทยก็ได้รับ บางร้านก็อาจจะไม่รับนะครับ (แบงค์ย่อย 10 รูปี ไปแลกที่ สนามบิน โรงแรม หรือทางเข้าพุทธคยา
ก็มีให้แลกครับ ส่วนต่างก็ไม่มากอะไร เอาไว้ใช้ทำบุญเวลาเข้าห้องน้ำที่วัดไทย ทำทานคนยากจน ซื้อของฝากเล็กๆน้อยๆ ซื้อของกิน)
6. การซื้อของที่อินเดียอะไรก็ตาม ที่เขาเสนอมาให้ขอลด 50% ไปเลย แล้ว
ต้องต่อเป็นสกุลเงินรูปีเท่านั้น ถึงจะได้ราคาที่ดีที่สุด
7.
พุทธคยาไม่ให้เอาโทรศัพท์เข้าไปข้างในนะครับ แต่มีจุดรับฝากทั้งกระเป๋า และโทรศัพท์ แต่คุณอาจจะเสียค่าปริป (10 รูปี ประมาณ 5 บาทไทย)
ผมฝากไอโฟนอ่าครับ กล้องถ่ายรูปเอาเข้าไปได้ปกติ ประตูทางเข้าพุทธคยามีระบบสแกนครับ !! และต้องถอดรองเท้าก่อนเข้าเจดีย์ด้วย (ระวังหาย)
8. เรื่องที่พัก ผมไปพักโรงแรมใกล้ๆพุทธคยา ที่มี wifi เอาไว้ติดต่อที่บ้าน เพราะไม่ไดซื้อซิมที่อินเดียครับผม และสามารถเดินไปได้ ประมาณ 500 ม.
พักห้องพัดลม มีห้องน้ำในตัว (ช่วงที่ไปอากาศไม่ร้อนแล้ว) ราคาคืนละ 370 บาท มีร้านอาหารไทยตรงข้ามโรงแรม คนพม่าเป็นคนทำอาหาร
แต่ที่
แนะนำให้ไปพักที่วัดไทยเลยนะครับ ติดต่อล่วงหน้าเลย พักห้องแอร์ มี wifi และมีอาหารให้กินทั้ง 3 มื้อเลย ประมาณ 500 บาท/คน/วัน
(ก่อนไปไม่ได้ติดต่อวัดไทยเลย เพราะเกรงใจว่าไปคนเดียว กลัวนอนกั๊กห้องคนอื่น ห้องหนึ่งนอนได้ 3-4 คน ไม่รู้ว่าที่วัดมี wifi ด้วย 555)
9. แนะนำให้ไปช่วง
ตุลาคม เพราะอากาศยังไม่หนาวมาก ตื่นตักบาตร แล้วเดินไปทำวัตรตอนเช้าที่พุทธคยา ช่วงนี้คนยังน้อยอยู่ ไม่วุ่นวายมาก
แต่ถ้าเป็น กลางพฤศจิกาเป็นต้นไป คนจะไปกันเยอะมาก ทัวร์ไทยไปกันเยอะช่วงนี้ หรือจะไปช่วง
มีนาคม คนก็จะน้อยลง เพราะจะเข้าหน้าร้อน
เดือนตุลาคม ค่าตั๋วเครื่องบินของ Air India บินในประเทศยังไม่แพง ประมาณ 2,500 ไปกลับ ถ้าหน้าหนาวจะขึ้นมาเป็น 3,500 บาท (ประหยัดอีก)
10. การไปไหนก็ตามเวลานั่งรถตุ๊กตุ๊ก
ให้ต่อรองราคากันดีดีก่อนขึ้นนะครับ อันนี้โดนมากับตัว 555 ขากลับจากคยาไปสนามบิน ใช้แทกซี่โรงแรม
11. ไฟท์บินตรงก็มีนะครับ ของไทยสมายล์ หรือ ภูฏานแอร์ไลน์ แต่จะมีบินแค่บางช่วงเดือน และบางวันเท่านั้น ราคาก็แอบแพงนิดหนึ่งครับผม
อยากได้ข้อมูลเพิ่มเติม ถามได้เลยนะครับผม...
เพิ่มเติม โปรแกรมคร่าวๆที่ไปมานะครับ
1. วันแรกออกจากไทย ตีห้า ต่อเครื่องที่ โกลกาตาอีก ถึง คยา(ห้องพัก) ประมาณ บ่ายสองโมง อาบน้ำพักผ่อน (ทำวัตรเย็นที่พุทธคยา)
2. วันที่สองเดินทางไปราชคฤห์ตอน เจ็ดโมง ไปเขาคิชกูฏ วัดเวฬุวัน หลวงพ่อดำ นาลันทา ถึงคยาก็มืดแล้ว (ทำวัตรเย็นที่ห้อง)
3. วันที่สาม ตื่นตักบาตร ไปทำวัตรเช้าที่เจดีย์พุทคยา นั่งสมาธิ เดินจงกลม เที่ยงๆออกมากินข้าว ตอนบ่ายๆกลับไปทำวัตรเย็น นั่งสมาธิ
4. วันที่สี่ ตื่นไปทำวัตรเช้าที่เจดีย์พุทคยา นั่งสมาธิ เดินจงกลม กราบลาพระพุทธเมตตา ต้องขึ้นเครื่องตอน 11:25 น. ต่อเครื่องอีกที
...
[CR] ไปพุทธคยาคนเดียว สบายมากๆครับไม่ยากอย่างที่คิดเอาไว้ !!
อีกอย่างที่สำคัญ คือ ไปเพื่อทดลองดูว่ามีขั้นตอนอย่างไร แต่ละสถานที่เป็นยังไง การเดินทาง ที่พัก อาหารการกิน ตลอดจนสิ่งแวดล้อม
เพราะในปีหน้าจะพา พระในบ้าน ก็คือ พ่อและแม่ไปให้ได้สักครั้งในชีวิต แต่ไปไม่ครบ 4 สังเวชนียสถาน เพราะยึดสุขภาพพ่อแม่เป็นสำคัญ
ขอขอบคุณญาติธรรมทุกท่านที่ให้การช่วยเหลือในทุกสิ่งไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยนะครับผม (ค่าใช้จ่ายทั้งหมด ประมาณ 10,000 บาท 4 วัน 3 คืน)
1. การจองตั๋วเครื่องบิน ผมบิน 2 ต่อ จากกรุงเทพ-โกลกาตา และโกลกาตา-คยา สายการบินที่ใช้ คือ SpriceJet+Air India
จากการดูราคาตั๋วเครื่องบินทั้งปีนี้ ของ SpriceJet ไม่ได้แตกต่างกันมาก แค่หลักร้อย แม้จะใกล้วันเดินทางราคาก็ยังไม่ขึ้นมาก แถมลดด้วย
Air India บินในประเทศ ไฟท์ไปคยา มีแค่ 2 วัน คือ วันศุกร์ กับ วันจันทร์ (เป็นสิ่งบังคับทริปที่ไป เพราะผมเลือกไม่นั่งรถไปคยา)
(ถ้าเลือกจาก เวลาในการบินดีที่สุดคือ SpriceJet+Air India (ขาไป) Air India+Indigo (ขากลับ) การจองแยกราคาก็ขึ้นมาหลักพัน)
2. การขอ e-VISA อินเดีย ของ่ายมากๆครับ แต่ต้องใส่ข้อมูลทุกช่องที่กำหนดด้วยนะครับ อนุมัติวีซ่าไม่ถึง 24 ชั่วโมง (เร็วมากๆ)
เมื่อได้เมลตอบกับ ก็เอาเลขที่ Application ID ไปกรอกในเวปที่เมนู visa status เพื่อโหลดฟอร์มวีซ่าเต็มรูปแบบมาเก็บไว้เลยนะครับ
ผ่าน ตม.อินเดีย เขียนใบเข้าประเทศอินเดีย กรอกง่ายๆ ประมาณ 8 ช่อง นามสกุล-ชื่อ วันเกิด เลขพาสปอร์ต ไฟล์บิน วันที่มาถึง ที่อยู่ในอินเดีย
เบอร์โทร (ที่อยู่ของโรงแรม เบอร์โทรโรงแรม หรือ ที่อยู่วัดและเบอร์โทรวัด) แล้วก็เซนต์ชื่อ จากนั้น ก็เข้าแถวเพื่อตรวจเอกสารของ ตม.
ช่องบริการ ตม.ที่โกลกาตา มีป้ายบอกชัดเจนมาก ว่า e-VISA (ช่องที่ 20-30) อยู่ทางขวามือสุดของ ตม. ถ้าคนเยอะจะช้า เพราะจะต้อง
ถ่ายรูป สแกนนิ้วมือ มีคำถามบ้างนิดหน่อย มาจากที่ไหน จะไปที่ไหน มาทำอะไร ชื่ออะไร มีที่พักแถวไหน (ใช้เวลาคนละประมาณ 7-10 นาที)
3. แนะนำให้ปริ้นตั๋วเครื่องบิน ไปด้วยในทุกไฟท์ ที่แสดงชื่อตัวเรา และไฟท์บิน (เจ้าหน้าที่จะขอตรวจทุกครั้งก่อนเข้าไปในบริการภายในที่กำหนด)
สนามบินโกลกาตา หาของกินไม่ได้เลย ถ้าไม่ได้เชคอินไปข้างในเกท ไม่มีบริการรับฝากกระเป๋าด้วย กรณีจะเข้าเมืองเพื่อเที่ยวฆ่าเวลา
wifi ที่สนามบินใช้ฟรีสำหรับคนที่มีเบอร์โทรศัพท์ของอินเดีย 30 นาที หรือ 1 ชั่วโมงนิล่ะ ผมลองไปซื้อ package wifi ที่สนามบิน ไม่โอเคครับ
เวลารอต่อเครื่องนานมากๆ มีร้านกาแฟ ขนมปัง แซนวิช แต่ถ้าจะให้แนะนำ ผมแนะนำให้เอามาม่าคัพติดไปด้วย ไปซื้อน้ำร้อนจากร้านกาแฟเอา
น่าจะอิ่มท้องมากกว่า สำหรับคนที่ชอบกินข้าว
4. สนามบินคยาไม่มีแทกซี่ประจำ แนะนำให้ติดต่อโรงแรมหรือวัด ให้เขาจัดคนมารับ (อันนี้ชัวร์สุด) ถ้าหาเองราคาอาจจะสูง หรือจะขอติดรถคนอื่น
ไปที่คยาก็ได้ครับ (รถที่มารับผู้แสวงบุญ) อันนี้ผมโชคดีมากครับ ที่เจอเจ้าของทัวร์ใจดีให้ติดรถไปด้วย แถมให้ไปเที่ยวราชคฤห์ด้วยอีก 1 วัน
เขาสงสารเห็นมาคนเดียว คุยกันตั้งแต่ลงเครื่องที่โกลกาตาล่ะครับ แม่เขาชวนให้ผมไปทุกที่ที่ไปเลย 5555 เงินก็ไม่เอา ผมก็เกรงใจมากๆด้วย
5. การแลกเงินรูปี ไปคนเดียวก็แนะนำให้แลกที่ไทยไปเลย แต่อย่าแลกไปเยอะนะครับ เอาแค่พอใช้เท่านั้น ผมแลกไป 2,000 บาทไทย ก็ยังเหลือ
ซื้อของในสถานที่คนไทยไป ใช้เงินไทยก็ได้รับ บางร้านก็อาจจะไม่รับนะครับ (แบงค์ย่อย 10 รูปี ไปแลกที่ สนามบิน โรงแรม หรือทางเข้าพุทธคยา
ก็มีให้แลกครับ ส่วนต่างก็ไม่มากอะไร เอาไว้ใช้ทำบุญเวลาเข้าห้องน้ำที่วัดไทย ทำทานคนยากจน ซื้อของฝากเล็กๆน้อยๆ ซื้อของกิน)
6. การซื้อของที่อินเดียอะไรก็ตาม ที่เขาเสนอมาให้ขอลด 50% ไปเลย แล้วต้องต่อเป็นสกุลเงินรูปีเท่านั้น ถึงจะได้ราคาที่ดีที่สุด
7. พุทธคยาไม่ให้เอาโทรศัพท์เข้าไปข้างในนะครับ แต่มีจุดรับฝากทั้งกระเป๋า และโทรศัพท์ แต่คุณอาจจะเสียค่าปริป (10 รูปี ประมาณ 5 บาทไทย)
ผมฝากไอโฟนอ่าครับ กล้องถ่ายรูปเอาเข้าไปได้ปกติ ประตูทางเข้าพุทธคยามีระบบสแกนครับ !! และต้องถอดรองเท้าก่อนเข้าเจดีย์ด้วย (ระวังหาย)
8. เรื่องที่พัก ผมไปพักโรงแรมใกล้ๆพุทธคยา ที่มี wifi เอาไว้ติดต่อที่บ้าน เพราะไม่ไดซื้อซิมที่อินเดียครับผม และสามารถเดินไปได้ ประมาณ 500 ม.
พักห้องพัดลม มีห้องน้ำในตัว (ช่วงที่ไปอากาศไม่ร้อนแล้ว) ราคาคืนละ 370 บาท มีร้านอาหารไทยตรงข้ามโรงแรม คนพม่าเป็นคนทำอาหาร
แต่ที่แนะนำให้ไปพักที่วัดไทยเลยนะครับ ติดต่อล่วงหน้าเลย พักห้องแอร์ มี wifi และมีอาหารให้กินทั้ง 3 มื้อเลย ประมาณ 500 บาท/คน/วัน
(ก่อนไปไม่ได้ติดต่อวัดไทยเลย เพราะเกรงใจว่าไปคนเดียว กลัวนอนกั๊กห้องคนอื่น ห้องหนึ่งนอนได้ 3-4 คน ไม่รู้ว่าที่วัดมี wifi ด้วย 555)
9. แนะนำให้ไปช่วงตุลาคม เพราะอากาศยังไม่หนาวมาก ตื่นตักบาตร แล้วเดินไปทำวัตรตอนเช้าที่พุทธคยา ช่วงนี้คนยังน้อยอยู่ ไม่วุ่นวายมาก
แต่ถ้าเป็น กลางพฤศจิกาเป็นต้นไป คนจะไปกันเยอะมาก ทัวร์ไทยไปกันเยอะช่วงนี้ หรือจะไปช่วงมีนาคม คนก็จะน้อยลง เพราะจะเข้าหน้าร้อน
เดือนตุลาคม ค่าตั๋วเครื่องบินของ Air India บินในประเทศยังไม่แพง ประมาณ 2,500 ไปกลับ ถ้าหน้าหนาวจะขึ้นมาเป็น 3,500 บาท (ประหยัดอีก)
10. การไปไหนก็ตามเวลานั่งรถตุ๊กตุ๊ก ให้ต่อรองราคากันดีดีก่อนขึ้นนะครับ อันนี้โดนมากับตัว 555 ขากลับจากคยาไปสนามบิน ใช้แทกซี่โรงแรม
11. ไฟท์บินตรงก็มีนะครับ ของไทยสมายล์ หรือ ภูฏานแอร์ไลน์ แต่จะมีบินแค่บางช่วงเดือน และบางวันเท่านั้น ราคาก็แอบแพงนิดหนึ่งครับผม
อยากได้ข้อมูลเพิ่มเติม ถามได้เลยนะครับผม...
เพิ่มเติม โปรแกรมคร่าวๆที่ไปมานะครับ
1. วันแรกออกจากไทย ตีห้า ต่อเครื่องที่ โกลกาตาอีก ถึง คยา(ห้องพัก) ประมาณ บ่ายสองโมง อาบน้ำพักผ่อน (ทำวัตรเย็นที่พุทธคยา)
2. วันที่สองเดินทางไปราชคฤห์ตอน เจ็ดโมง ไปเขาคิชกูฏ วัดเวฬุวัน หลวงพ่อดำ นาลันทา ถึงคยาก็มืดแล้ว (ทำวัตรเย็นที่ห้อง)
3. วันที่สาม ตื่นตักบาตร ไปทำวัตรเช้าที่เจดีย์พุทคยา นั่งสมาธิ เดินจงกลม เที่ยงๆออกมากินข้าว ตอนบ่ายๆกลับไปทำวัตรเย็น นั่งสมาธิ
4. วันที่สี่ ตื่นไปทำวัตรเช้าที่เจดีย์พุทคยา นั่งสมาธิ เดินจงกลม กราบลาพระพุทธเมตตา ต้องขึ้นเครื่องตอน 11:25 น. ต่อเครื่องอีกที
...
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น