เราเป็นครูผู้ช่วย ประจำอยู่ที่โรงเรียนประจำอำเภอแห่งหนึ่ง ที่ไม่ถึงกับเจริญมาก ที่เด็กลาออกปีละ 10-15 คน ( ครูที่ฝ่ายเขาบอกมา ไม่รู้ว่าจริงป่าว แต่ก็เอาเถอะ ข้ามเรื่องนี้ไป) สังคมครูในโรงเรียนนี้ไม่รู้ว่าเป็นน้อยกว่าครูในโรงเรียนอื่นหรือมากกว่า แต่ก้าวแรกที่เดินเข้ามาในโรงเรียน เรารู้อยู่แล้วว่ายังๆ ก็ต้องถูกจับตามอง พฤติกรรม การสอนทุกอย่าง. เราทำใจมาแล้วครึ่งหนึ่ง
ต้องบอกก่อนว่าเรามาบรรจุพร้อมน้องๆอีก 2 คน ซึ่งแน่นอนว่าเรา 3 คนนั้น.เกรงจนบอกไม่ถูกเวลาแนะนำตัว หรือต้องไปพบเจอครูและนักเรียนใหม่ๆ ตอนแรกก็ต้อนรับอย่างดี วันแรกที่เจอผอ. แกบอกว่า โรงเรียนนี้ มีครูทะเลาะกันเยอะมาก แต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว ทุกคนรักกัน เราจบสายวิทย์มา แต่นอนว่า ก็ต้องอยู่หมวดวิทยาศาสตร์ วันแรกของการเข้าห้องหมวด ห้องเงียบกริบ มีแต่นักศึกษาฝึกสอน แล้วครูคนอื่นละ...???? หายไปไหนน (คิดในใจน่าจะไปสอนกัน) สักพัก ครูผู้ชายเดินเข้ามา ถามเราว่า ครูใหม่ใช่ไหม... ดีเลยตอนนี้ห้องวิทย์ครูเขาแยกเป็นสองกลุ่ม ให้น้องเลือกเองนะว่าจะอยู่กลุ่มไหน เอาสไตล์ที่น้องชอบ เรานี่อึ้ง มันขนาดนี้เลยเหรอ พออยู่ไปสักพัก ความมืดเหมือนค่อยๆคืบคลานเข้ามา ทุกวันเราจะโดนติจาก รอง ผอ. ครูท่านอื่นๆตลอด เช่น ไม่ต้องแต่งหน้ามาสอนก็ได้มั้ง ทำไมใส่เสื้อสีชมพูมา สีนี้เขาเอาใส่ไปเที่ยวทะเลมากกว่า (ครูคนอื่นก็ใส่ป่ะ) ทำไมใส่รองเท้าส้นสูง (ไม่ถึง 10 ซม. นะคะ ย้ำไม่ถึง 10 ซม. และด้วยความที่เราสูงไม่ถึง 155 มันก็ต้องใส่เพื่อให้มีบุคลิคที่ดีขึ้นใช่มั้ยค่ะ) ดูรองผอ. ยังไม่ใส่มาเลย นี่ก็ทำใจ
เช้าวันรุ่งขึ้นของการเข้าประชุม รร. ผอ บอกให้เรากับน้องๆ ไปแนะนำตัวหน้าที่ประชุม พอเราแนะนำตัวเสร็จครบทุกคน รองผอ. ผู้หญิงคนหนึ่งก็พูดว่า “คราวหน้าถ้าแนะนำตัวหน้าเสาธง ไม่ต้องบอกระดับการศึกษาถึง ปริญาโทก็ได้นะ น้องๆคนอื่นเขาก็ป. ตรีกันหมด (ยอมรับว่าหน้าชา ไม่คิดว่าเขาจะพูดแบบนี้ เพราะปกติเราเรียนถึงระดับชั้นไหนก็แนะนำตัวไปตามนั้น ผอ. ก็ไม่ได้ว่าอะไร) ผ่านมาซักพัก เรื่องเครื่องแต่งกาย เราก็ปรับปรุง ไม่ใส่รองเท้ามีส้น ใส่เสื้อโทน ดำ เทา ขาว สีโทนเข้มๆ ก็ยังไม่วานโดนเรื่องอื่นอีก รู้สึกท้อใจมาก ขับรถกลับบ้านร้องไห้ปาดน้ำตาทุกวัน
ยังไม่หมด ในรร.ของเรา แต่ละหน่วยงานจะมีรองผอ.ประจำการอยู่แต่ละฝ่าย ฝ่ายบุคคล ฝ่ายบริหาร ฝ่ายการเงิน ฝ่ายวิชาการ ฝ่ายกิจการนักเรียน ด้วยความที่มีครูใหม่ 3 คนต้องไปทำหน้าที่ที่มีคนขาด ซึ่ง ผอ. บอกว่า ตอนนี้มีคนขาดฝ่าย วิชาการ การเงิน กิจการนักเรียน ท่านผอ. ประชุมร่วมกับ รองผอ ฝ่ายต่างๆ ได้ข้อสรุปว่า
คน 1 ได้การเงิน และกิจกรรม2b
คน 2 ได้แนะแนว กับบุคคล
เรา คนที่ 3 ได้ วิชาการ
แต่ก็เกิดการปรับเปลี่ยน รองผอ คนหนึ่งบอกว่า รองอีกคน (คนที่ติเราเรื่องการแนะนำตัว)ไม่ยอม เขาคิดว่าน้อง คนทีา 1 ทำการเงินไม่ได้ เพราะมันเยอะมาก รายละเอียดมากไป ให้คนที่ 1 ทำกิจกรรมอย่างเดียวพอ แล้วให้มาเป็นหัวหน้าควมกิจกรรม ความซวยจึงตกมาที่เรา ตอนนี้ได้รับหน้าที่ใหม่
คนที่ 1 2 b
คนที่ 2 วิชาการ บุคคล
เรา คนที่ 3 ได้ การเงิน แผนและงบประมาณ วิจัย ประเมิณคุณภาพ และ รร. สุจริต
รองคนที่ติเรา ก็เข้ามาพูดกับเราว่า ทำๆไปเถอะ การเงิจมันไม่ยากหรอก เด๋วก็เป็นเอง หึหึ..!!
เหตุการณ์นี้ก็ทำใจค่ะ และคิดแค่ว่าจะทไให้ได้ และต้องทำได้ดี ให้เข้ารู้ว่าเรามีความสามารถ แต่ก็ท้อ อาจจะต้องพยายามปรับตัวอีกมาก แต่ก็จะทำให้ดีที่สุด นักเรียนคือสิ่งสำคัญที่สุดของเรา อยากมาเป็นครูเพราะอยากสร้างคน แต่บางครั้งเจอสังคม เพื่อนร่วมงานที่อยู่ตรงหน้า มันก็ทำให้จิตใจมันห่อ
วลงไปบ้าง ..... กระทุ้นี่ไม่ได้มีอะไรมาก แค่เหนื่อย อยากระบาย เฉยๆ ค่ะ
เป็นครู ที่ท้อใจกับในสังคมความเป็นอยู่ของครูมากๆ
ต้องบอกก่อนว่าเรามาบรรจุพร้อมน้องๆอีก 2 คน ซึ่งแน่นอนว่าเรา 3 คนนั้น.เกรงจนบอกไม่ถูกเวลาแนะนำตัว หรือต้องไปพบเจอครูและนักเรียนใหม่ๆ ตอนแรกก็ต้อนรับอย่างดี วันแรกที่เจอผอ. แกบอกว่า โรงเรียนนี้ มีครูทะเลาะกันเยอะมาก แต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว ทุกคนรักกัน เราจบสายวิทย์มา แต่นอนว่า ก็ต้องอยู่หมวดวิทยาศาสตร์ วันแรกของการเข้าห้องหมวด ห้องเงียบกริบ มีแต่นักศึกษาฝึกสอน แล้วครูคนอื่นละ...???? หายไปไหนน (คิดในใจน่าจะไปสอนกัน) สักพัก ครูผู้ชายเดินเข้ามา ถามเราว่า ครูใหม่ใช่ไหม... ดีเลยตอนนี้ห้องวิทย์ครูเขาแยกเป็นสองกลุ่ม ให้น้องเลือกเองนะว่าจะอยู่กลุ่มไหน เอาสไตล์ที่น้องชอบ เรานี่อึ้ง มันขนาดนี้เลยเหรอ พออยู่ไปสักพัก ความมืดเหมือนค่อยๆคืบคลานเข้ามา ทุกวันเราจะโดนติจาก รอง ผอ. ครูท่านอื่นๆตลอด เช่น ไม่ต้องแต่งหน้ามาสอนก็ได้มั้ง ทำไมใส่เสื้อสีชมพูมา สีนี้เขาเอาใส่ไปเที่ยวทะเลมากกว่า (ครูคนอื่นก็ใส่ป่ะ) ทำไมใส่รองเท้าส้นสูง (ไม่ถึง 10 ซม. นะคะ ย้ำไม่ถึง 10 ซม. และด้วยความที่เราสูงไม่ถึง 155 มันก็ต้องใส่เพื่อให้มีบุคลิคที่ดีขึ้นใช่มั้ยค่ะ) ดูรองผอ. ยังไม่ใส่มาเลย นี่ก็ทำใจ
เช้าวันรุ่งขึ้นของการเข้าประชุม รร. ผอ บอกให้เรากับน้องๆ ไปแนะนำตัวหน้าที่ประชุม พอเราแนะนำตัวเสร็จครบทุกคน รองผอ. ผู้หญิงคนหนึ่งก็พูดว่า “คราวหน้าถ้าแนะนำตัวหน้าเสาธง ไม่ต้องบอกระดับการศึกษาถึง ปริญาโทก็ได้นะ น้องๆคนอื่นเขาก็ป. ตรีกันหมด (ยอมรับว่าหน้าชา ไม่คิดว่าเขาจะพูดแบบนี้ เพราะปกติเราเรียนถึงระดับชั้นไหนก็แนะนำตัวไปตามนั้น ผอ. ก็ไม่ได้ว่าอะไร) ผ่านมาซักพัก เรื่องเครื่องแต่งกาย เราก็ปรับปรุง ไม่ใส่รองเท้ามีส้น ใส่เสื้อโทน ดำ เทา ขาว สีโทนเข้มๆ ก็ยังไม่วานโดนเรื่องอื่นอีก รู้สึกท้อใจมาก ขับรถกลับบ้านร้องไห้ปาดน้ำตาทุกวัน
ยังไม่หมด ในรร.ของเรา แต่ละหน่วยงานจะมีรองผอ.ประจำการอยู่แต่ละฝ่าย ฝ่ายบุคคล ฝ่ายบริหาร ฝ่ายการเงิน ฝ่ายวิชาการ ฝ่ายกิจการนักเรียน ด้วยความที่มีครูใหม่ 3 คนต้องไปทำหน้าที่ที่มีคนขาด ซึ่ง ผอ. บอกว่า ตอนนี้มีคนขาดฝ่าย วิชาการ การเงิน กิจการนักเรียน ท่านผอ. ประชุมร่วมกับ รองผอ ฝ่ายต่างๆ ได้ข้อสรุปว่า
คน 1 ได้การเงิน และกิจกรรม2b
คน 2 ได้แนะแนว กับบุคคล
เรา คนที่ 3 ได้ วิชาการ
แต่ก็เกิดการปรับเปลี่ยน รองผอ คนหนึ่งบอกว่า รองอีกคน (คนที่ติเราเรื่องการแนะนำตัว)ไม่ยอม เขาคิดว่าน้อง คนทีา 1 ทำการเงินไม่ได้ เพราะมันเยอะมาก รายละเอียดมากไป ให้คนที่ 1 ทำกิจกรรมอย่างเดียวพอ แล้วให้มาเป็นหัวหน้าควมกิจกรรม ความซวยจึงตกมาที่เรา ตอนนี้ได้รับหน้าที่ใหม่
คนที่ 1 2 b
คนที่ 2 วิชาการ บุคคล
เรา คนที่ 3 ได้ การเงิน แผนและงบประมาณ วิจัย ประเมิณคุณภาพ และ รร. สุจริต
รองคนที่ติเรา ก็เข้ามาพูดกับเราว่า ทำๆไปเถอะ การเงิจมันไม่ยากหรอก เด๋วก็เป็นเอง หึหึ..!!
เหตุการณ์นี้ก็ทำใจค่ะ และคิดแค่ว่าจะทไให้ได้ และต้องทำได้ดี ให้เข้ารู้ว่าเรามีความสามารถ แต่ก็ท้อ อาจจะต้องพยายามปรับตัวอีกมาก แต่ก็จะทำให้ดีที่สุด นักเรียนคือสิ่งสำคัญที่สุดของเรา อยากมาเป็นครูเพราะอยากสร้างคน แต่บางครั้งเจอสังคม เพื่อนร่วมงานที่อยู่ตรงหน้า มันก็ทำให้จิตใจมันห่อ วลงไปบ้าง ..... กระทุ้นี่ไม่ได้มีอะไรมาก แค่เหนื่อย อยากระบาย เฉยๆ ค่ะ