ก่อนอื่นขอออกตัวก่อนเลยครับว่า เพิ่งเคยซื้อทัวร์แบบนี้ครั้งแรก ตอนติดต่อขอซื้อใหม่ๆ ก็กังวลครับว่าจะถูกหลอก เพราะเห็นว่าเป็นทัวร์ราคาถูก หาข้อมูลในเน็ตก็ไม่เจอคนการันตีว่าจะได้ไปจริงๆ แล้วต้องโอนเงินเพื่อจองตั๋วล่วงหน้าเป็นเดือนๆ เลยครับ
ซึ่งทริปไป
เที่ยวเกาะหลีเป๊ะ 3 วัน 2 คืน ราคา 2990 บาท ยังไม่รวมค่าเครื่องบินนะครับ เลยต้องซื้อตั๋วเครื่องบินไป-กลับเองก่อน เพื่อแจ้งทาง up2utour ว่าเราจะไปวันไหน ยิ่งกังวลเพิ่มขึ้นอีกครับ เกิดอยู่ดีๆ พอถึงวันแล้วโดนเบี้ยวขึ้นมาคงจะหน้าชาแน่ๆ
แต่สุดท้ายกลับได้รับการติดต่อทางไลน์จากเจ้าหน้าที่ดีมากๆ เลยครับ ถึงแม้บางทีจะชอบส่งทัวร์อื่นๆ มาโปรโมทจนที่คุยไว้ก่อนหน้านี้เลื่อนหายไปจนลืม 555+ เอาเป็นว่าเข้าเรื่องการเดินทางเลยละกันครับ
ก่อนอื่นเราต้องเลือกเที่ยวบินช่วงเช้าสุดเลยครับเพราะว่ามันราคาถูกสุดละ ซึ่งต้องไปลงที่หาดใหญ่ก่อน หลังจากนั้นทางทัวร์ก็จะส่งรถตู้มารับเพื่อนั่งไปท่าเรือปากบารา จังหวัดสตูล ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงเศษๆ แล้วแต่ความเร็วของคนขับรถ ซึ่งโดยปกติเขาจะขับกันแบบไม่เร็วมากครับ ค่อนข้างปลอดภัย(พี่รถตู้ขากลับเล่าให้ฟัง) แต่ด้วยวันนั้นเกิดอะไรขึ้นไม่ทราบ พี่รถตู้ขับซิ่งมากเหมือนรีบ
เมื่อมาถึงท่าเรือปากบารา เราจะต้องเข้าไปที่
สำนักงานของมาริณีทราเวลก่อนครับ เพื่อเอาเอกสารมารับเอกสารที่ใช้ในการเดินทางต่อไป แล้วก็
จ่ายค่าเข้าอุทยาน 20 บาท ส่วนกระเป๋าเราสามารถฝากไว้ที่นี่ได้เลย เดี๋ยวจะมีเจ้าหน้าที่ขนไปที่ท่าเรือให้ ส่วนเราจะไปยืนรอที่ท่าเรือเพื่อถ่ายรูป หรือจะไปทำอะไรก็ได้ช่วงนี้ เพราะจะต้องรอรอบเรือสปีดโบ๊ทเพื่อนั่งไปที่เกาะหลีเป๊ะครับ
เมื่อได้เวลาขึ้นเรือก็ใส่เสือชูชีพให้เรียบร้อยช่วงนี้แรกๆ ก็ตื่นตาตื่นใจครับ ออกจะตื่นเต้นเล็กๆ เพราะต้องนั่งเรือออกไปยังทะเลกว้าง ที่มี
ระยะทางถึง 60 กว่ากิโลเมตรเลยทีเดียว นั่งไปหลับไปยาวๆ ครับ ประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง อ่อ แต่ถ้ามาช่วง high season เราอาจจะได้แวะที่เกาะไข่ด้วยนะครับ ไม่แน่ใจว่าจริงรึป่าว แต่นี่คือเรามาแบบประหยัดไงเลยไม่ได้แวะ.... ก่อนที่เราจะขึ้นเกาะหลีเป๊ะ เราก็จะต้องไปขึ้นที่โป๊ะก่อนนะครับ ตรงจุดนี้
มีค่าใช้จ่ายเพิ่มอีก คนละ 50 บาท เพื่อต่อเรือหางยาวเข้าหาด คาดว่าคงเป็นเพราะชายหาดน้ำตื่น แล้วก็จะมีปะการังรอบเกาะด้วยครับ กลัวจะไปทำลายธรรมชาติละมั้ง
เรือหางยาวจะพาเรามาส่งที่หน้าหาดของโรงเรียนครับ ซึ่งสำหรับทัวร์นี้เราก็ได้เลือก
ศลิสารีสอร์ท เป็นที่พักที่อยู่ใกล้กับโรงเรียนพอดี เดินเรียบหาดไปประมาณ 200 เมตร ก็จะถึงที่พักของเรา ซึ่งศลิสารีสอร์ทก็รวมอยู่ในราคา 2990 บาทแล้วครับ มีอาหารด้วย 3 มื้อ ในส่วนของที่พักจะไม่ขอรีวิวมากนะครับ เอาเป็นว่า สมราคา ได้ห้องแอร์ ติดหาด อาหารก็อร่อยใช้ได้ครับ
ซึ่งขอดีของการได้พักที่นี่คือติดหาดนี่แหละครับ เพราะวันแรกเราจะมาไม่ทันกิจกรรมอะไรเลยบวกกลับเดินทางมาเหนื่อยๆ ด้วยครับ พักผ่อนสักเล็กน้อยก็เปลี่ยนชุดเดินลงหน้าหาดเล่นน้ำทะเลกันได้เลย แต่ระวังพวกปะการังกันสักนิดนะครับ มีสัตว์น้ำอาศัยอยู่ พวกปลานีโมหรือปลาการ์ตูนก็สามารถเจอพวกเค้าได้โดยที่ไม่ต้องเสียเงินดำน้ำเลยครับ อ่อ แต่ข้อเสียคือ ใครที่ชอบเล่นคลื่นทะเลคงต้องผิดหวังนะครับ น้ำเงียบสงบ คลื่นเบามากๆ ครับ
คำถามคือ ถ้าเราอยากไปตกหมึก หรือนั่งเรือกินอาหารทะเลตอนกลางคืน ที่นี่จะมีไหม คำตอบคือ ไม่มีนะครับ จะมีก็แต่นั่งเรือไปตกปลาตอนกลางวันครับ ถ้าจะเลือกตกปลาต้องเสียเงินเพิ่ม แต่ก็ต้องอดไปดำน้ำนะครับ ซึ่งราคา 2,990 บาทที่ซื้อมา รวมค่าดำน้ำเรียบร้อยแล้ว ทริปนี้คงต้องยึดดำน้ำเป็นหลักครับ แต่ถ้าใครอยากทำครบๆ คงต้องเลือกทริป 4 วัน 3 คืน เป็นอย่างน้อยครับ
พอตกกลางคืนที่เกาะหลีเป๊ะแห่งนี้ก็ไม่เงียบเหงานะครับ เพราะวันที่ไป เป็นช่วง ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์พอดี (***อ่อ ลืมบอกไป ทัวร์ของ up2utour ราคานี้ ไม่จำกัดวันไปนะครับ เพราะเคยเจอทัวร์ราคาถูกเจ้าอื่น ห้ามไปวันศุกร์-เสาร์ อะไรแบบนี้***) ซึ่งที่นี่
มี walking street ไว้ที่เราชาวท่องเที่ยวได้ออกมาเดินช็อปปิ้งกัน แต่ราคาสินและบริการที่นี้ ก็จะเป็น สองเท่าของบนบกนะครับ แต่จุดประสงค์ที่จขกท.ออกมาเดินก็คือ มาหาของกินครับ ซึ่งแน่นอนก็ต้องกินอาหารทะเลอยู่แล้ว เพราะทีแรกกะจะไปตกหมึก แต่อย่างน้อยที่นี่ก็มี
ร้านบุฟเฟต์อาหารทะเลด้วยครับ กินได้ 1.30 ชั่วโมง ส่วนใหญ่จะเป็นปลาหลากหลายชนิดสดๆ พวกแซลม่อนก็มีนะครับ แต่ต้องตาไวนิดนึง หมดเร็วมากกกกก ถ้าใครไม่คิดมากก็ลองดูนะครับ ของสดโอเคเลย โดยเฉพาะพวกปลา เราก็เลือกๆ ใส่ตะกร้า แล้วเค้าจะไปย่าง ไปทำสุกให้ครับ ระหว่างรอก็ทานของปรุงสุกแล้วตามไลน์อาหารอีกส่วนไปก่อนได้
และก็มาถึง ไฮไลท์หลักที่ต้งใจมาหลีเป๊ะแล้วครับ นั้นก็คือการดำน้ำนั้นเอง ซึ่งพอเริ่มต้นวันที่สองนี้ เราจะต้องเตรียมตัวให้เสร็จก่อน 9 โมงเช้านะครับ ตื่นมาทานมื้อเช้าให้เรียบร้อย นับเป็น 1 มื้อ ที่รวมอยู่ในราคาทัวร์ แล้วเมื่อเราไปดำน้ำจะมีช่วงพักเบรกแวะทานข้าวช่วงมื้อเที่ยงอีก จะนับเป็นมื้อที่ 2 นะครับ แต่จะขอย้อนกลับไปตรงที่เรามาเที่ยวในช่วง low season อีกหน่อยครับ เพราะว่าการดำน้ำในช่วงนี้ เค้าจะเปิดให้ดำน้ำเฉพาะรอบๆ เกาะหลีเป๊ะ ซึ่งจะมีอยู่ 3 จุดด้วยกัน แต่ถ้าเป็นช่วง high season คือ หลังจากวันที่ 15 ตุลาคม เป็นต้นมา เค้าจะเปิดให้ดำน้ำตามเกาะต่างๆ ครับ ลองหาข้อมูลดูนะครับ ซึ่งคาดว่าคงจะสวยกว่าและน่าไปกว่าครับ
แต่ก็ไม่ใช่ว่า เกาะหลีเป๊ะจะไม่น่าดำน้ำนะครับ ก็ถือว่าบรรยากาศดี น้ำใส มีปลาอยู่เหมือนกันครับ แต่ขอแนะนำว่า ถ้าใครว่ายน้ำแข็งแรงแล้วอยากจะเพิ่มความสนุก
ควรเตรียมรองเท้าตีนกบมาด้วยนะครับ เอาไว้ทุ่นแรงในการดำลงไปข้างล่างเพื่อถ่ายภาพเก็บไว้เป็นความทรงจำครับ แต่
ควรระวังปะการังกันด้วยนะครับ เก็บไว้ให้รุ่นลูกรุ่นหลานได้ดูกันบ้าง
ตอนแรกจขกท. ก็รู้สึกว่า อะไรกัน ดำแค่ 3 จุด รอบๆ เกาะ มันจะไปพออะไร อยากดำมากกว่านี้ แต่เอาเข้าจริงๆ ก็เหนื่อยนะครับ คิดว่า 3 จุด แค่นี้ก็เต็มกำลังแล้ว อาจจะเป็นเพราะว่า แต่ละจุดอาจจะไม่ค่อยแตกต่างกันมากด้วยครับ แต่ถ้ามาอีกทีช่วง high season ไปดำตามเกาะอื่นๆ อาจจะรู้สึกดีกว่านี้รึเปล่าอันนี้ต้องถามคนที่เคยไปมาแล้วนะครับ
จบวันที่ 2 ก็เหมือนจบทริปนี้แล้วครับ แต่เราจะมีเวลาช่วงเย็นๆ ถ้าใครไหวลองไปสำรวจรอบๆ เกาะนะครับ จะมีจุดชมวิวอยู่ ซึ่งถ้าคิดว่าเดินไปไม่ไหว บนเกาะเค้ามี taxi นะครับ...เรียกว่า taxi แต่จริงๆ แล้วคือ รถมอเตอร์ไซค์พ่วงครับ ใส่เสื้อเหมือนวินเลยครับ แล้วบังเอิญจขกท. เจอวินที่นิสัยดีครับ แนะนำให้เราไปชมวิวที่ทางฝั่งของ เม้าเทิร์น รีสอร์ท ครับ ค่ารถคิดง่ายๆ คนละ 50 บาท ไปที่ไหนก็ได้ 1 จุด รถ 1 คัน ขึ้นได้ 3 คน... ที่นี่ก็ได้บรรยากาศของทะเลที่สวยมากๆ ครับ ซึ่งวันนั้นลืมเอาโดรนไป เลยไม่ได้เก็บภาพสวยๆ มุมสูงทางหาดนี้มาฝากกัน
สรุปรวมค่าใช้จ่ายคร่าวๆ ที่ต้องจ่ายแน่ๆ กับกิจกรรมที่มีโอกาสได้ทำนะครับ
- ค่าทัวร์ของ up2utour 2,990 บาท รวม ค่ารถตู้รับ-ส่งสนามบิน ค่าเรือสปีดโบ๊ท ค่าที่พัก 3วัน 2คืน อาหาร 3 มื้อ ค่าดำน้ำรอบเกาะ 3 จุด
- ค่าเครื่องบิน ไป-กลับ ประมาณ 2,500 บาท
- ค่าเรือหางยาว ไป-กลับ 100 บาท
- ค่าเข้าอุทยาน คนละ 20 บาท
โดยรวม จขกท. ขอให้คะแนน ที่ 4.5 นะครับ ติดนิดเดียวตรงเรื่องเอกสารการยืนยันว่าได้ไปแน่ๆ ในช่วงที่ติดต่อผ่านไลน์
นอกนั้นดีมากครับ จบทริปแล้วมีโทรมาสอบถามด้วยว่าเรียบร้อยไหม มีปัญหาตรงไหนรึเปล่า ถือว่า ไม่ทิ้งงานครับ
***สุดท้ายถ้าใครอ่านแล้วยังไม่เห็นภาพ ขออนุญาตกดเข้าไปดูบรรยากาศของจริงที่คลิปนี้ครับ***
ค่อนข้างจะยาวแล้วก็ละเอียดไปหน่อย ไม่ถูกใจตรงไหนขออภัยไว้ก่อนเลยนะครับ ขอบคุณที่อ่านจนจบครับ
[CR] รีวิว เที่ยวเกาะหลีเป๊ะ แบบ low season + low cost 3 วัน 2 คืน คนละ 2990.- ทำอะไรได้บ้าง มาดูครับ
ซึ่งทริปไปเที่ยวเกาะหลีเป๊ะ 3 วัน 2 คืน ราคา 2990 บาท ยังไม่รวมค่าเครื่องบินนะครับ เลยต้องซื้อตั๋วเครื่องบินไป-กลับเองก่อน เพื่อแจ้งทาง up2utour ว่าเราจะไปวันไหน ยิ่งกังวลเพิ่มขึ้นอีกครับ เกิดอยู่ดีๆ พอถึงวันแล้วโดนเบี้ยวขึ้นมาคงจะหน้าชาแน่ๆ
แต่สุดท้ายกลับได้รับการติดต่อทางไลน์จากเจ้าหน้าที่ดีมากๆ เลยครับ ถึงแม้บางทีจะชอบส่งทัวร์อื่นๆ มาโปรโมทจนที่คุยไว้ก่อนหน้านี้เลื่อนหายไปจนลืม 555+ เอาเป็นว่าเข้าเรื่องการเดินทางเลยละกันครับ
ก่อนอื่นเราต้องเลือกเที่ยวบินช่วงเช้าสุดเลยครับเพราะว่ามันราคาถูกสุดละ ซึ่งต้องไปลงที่หาดใหญ่ก่อน หลังจากนั้นทางทัวร์ก็จะส่งรถตู้มารับเพื่อนั่งไปท่าเรือปากบารา จังหวัดสตูล ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงเศษๆ แล้วแต่ความเร็วของคนขับรถ ซึ่งโดยปกติเขาจะขับกันแบบไม่เร็วมากครับ ค่อนข้างปลอดภัย(พี่รถตู้ขากลับเล่าให้ฟัง) แต่ด้วยวันนั้นเกิดอะไรขึ้นไม่ทราบ พี่รถตู้ขับซิ่งมากเหมือนรีบ
เมื่อมาถึงท่าเรือปากบารา เราจะต้องเข้าไปที่สำนักงานของมาริณีทราเวลก่อนครับ เพื่อเอาเอกสารมารับเอกสารที่ใช้ในการเดินทางต่อไป แล้วก็จ่ายค่าเข้าอุทยาน 20 บาท ส่วนกระเป๋าเราสามารถฝากไว้ที่นี่ได้เลย เดี๋ยวจะมีเจ้าหน้าที่ขนไปที่ท่าเรือให้ ส่วนเราจะไปยืนรอที่ท่าเรือเพื่อถ่ายรูป หรือจะไปทำอะไรก็ได้ช่วงนี้ เพราะจะต้องรอรอบเรือสปีดโบ๊ทเพื่อนั่งไปที่เกาะหลีเป๊ะครับ
เมื่อได้เวลาขึ้นเรือก็ใส่เสือชูชีพให้เรียบร้อยช่วงนี้แรกๆ ก็ตื่นตาตื่นใจครับ ออกจะตื่นเต้นเล็กๆ เพราะต้องนั่งเรือออกไปยังทะเลกว้าง ที่มีระยะทางถึง 60 กว่ากิโลเมตรเลยทีเดียว นั่งไปหลับไปยาวๆ ครับ ประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง อ่อ แต่ถ้ามาช่วง high season เราอาจจะได้แวะที่เกาะไข่ด้วยนะครับ ไม่แน่ใจว่าจริงรึป่าว แต่นี่คือเรามาแบบประหยัดไงเลยไม่ได้แวะ.... ก่อนที่เราจะขึ้นเกาะหลีเป๊ะ เราก็จะต้องไปขึ้นที่โป๊ะก่อนนะครับ ตรงจุดนี้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มอีก คนละ 50 บาท เพื่อต่อเรือหางยาวเข้าหาด คาดว่าคงเป็นเพราะชายหาดน้ำตื่น แล้วก็จะมีปะการังรอบเกาะด้วยครับ กลัวจะไปทำลายธรรมชาติละมั้ง
เรือหางยาวจะพาเรามาส่งที่หน้าหาดของโรงเรียนครับ ซึ่งสำหรับทัวร์นี้เราก็ได้เลือก ศลิสารีสอร์ท เป็นที่พักที่อยู่ใกล้กับโรงเรียนพอดี เดินเรียบหาดไปประมาณ 200 เมตร ก็จะถึงที่พักของเรา ซึ่งศลิสารีสอร์ทก็รวมอยู่ในราคา 2990 บาทแล้วครับ มีอาหารด้วย 3 มื้อ ในส่วนของที่พักจะไม่ขอรีวิวมากนะครับ เอาเป็นว่า สมราคา ได้ห้องแอร์ ติดหาด อาหารก็อร่อยใช้ได้ครับ
ซึ่งขอดีของการได้พักที่นี่คือติดหาดนี่แหละครับ เพราะวันแรกเราจะมาไม่ทันกิจกรรมอะไรเลยบวกกลับเดินทางมาเหนื่อยๆ ด้วยครับ พักผ่อนสักเล็กน้อยก็เปลี่ยนชุดเดินลงหน้าหาดเล่นน้ำทะเลกันได้เลย แต่ระวังพวกปะการังกันสักนิดนะครับ มีสัตว์น้ำอาศัยอยู่ พวกปลานีโมหรือปลาการ์ตูนก็สามารถเจอพวกเค้าได้โดยที่ไม่ต้องเสียเงินดำน้ำเลยครับ อ่อ แต่ข้อเสียคือ ใครที่ชอบเล่นคลื่นทะเลคงต้องผิดหวังนะครับ น้ำเงียบสงบ คลื่นเบามากๆ ครับ
คำถามคือ ถ้าเราอยากไปตกหมึก หรือนั่งเรือกินอาหารทะเลตอนกลางคืน ที่นี่จะมีไหม คำตอบคือ ไม่มีนะครับ จะมีก็แต่นั่งเรือไปตกปลาตอนกลางวันครับ ถ้าจะเลือกตกปลาต้องเสียเงินเพิ่ม แต่ก็ต้องอดไปดำน้ำนะครับ ซึ่งราคา 2,990 บาทที่ซื้อมา รวมค่าดำน้ำเรียบร้อยแล้ว ทริปนี้คงต้องยึดดำน้ำเป็นหลักครับ แต่ถ้าใครอยากทำครบๆ คงต้องเลือกทริป 4 วัน 3 คืน เป็นอย่างน้อยครับ
พอตกกลางคืนที่เกาะหลีเป๊ะแห่งนี้ก็ไม่เงียบเหงานะครับ เพราะวันที่ไป เป็นช่วง ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์พอดี (***อ่อ ลืมบอกไป ทัวร์ของ up2utour ราคานี้ ไม่จำกัดวันไปนะครับ เพราะเคยเจอทัวร์ราคาถูกเจ้าอื่น ห้ามไปวันศุกร์-เสาร์ อะไรแบบนี้***) ซึ่งที่นี่มี walking street ไว้ที่เราชาวท่องเที่ยวได้ออกมาเดินช็อปปิ้งกัน แต่ราคาสินและบริการที่นี้ ก็จะเป็น สองเท่าของบนบกนะครับ แต่จุดประสงค์ที่จขกท.ออกมาเดินก็คือ มาหาของกินครับ ซึ่งแน่นอนก็ต้องกินอาหารทะเลอยู่แล้ว เพราะทีแรกกะจะไปตกหมึก แต่อย่างน้อยที่นี่ก็มีร้านบุฟเฟต์อาหารทะเลด้วยครับ กินได้ 1.30 ชั่วโมง ส่วนใหญ่จะเป็นปลาหลากหลายชนิดสดๆ พวกแซลม่อนก็มีนะครับ แต่ต้องตาไวนิดนึง หมดเร็วมากกกกก ถ้าใครไม่คิดมากก็ลองดูนะครับ ของสดโอเคเลย โดยเฉพาะพวกปลา เราก็เลือกๆ ใส่ตะกร้า แล้วเค้าจะไปย่าง ไปทำสุกให้ครับ ระหว่างรอก็ทานของปรุงสุกแล้วตามไลน์อาหารอีกส่วนไปก่อนได้
และก็มาถึง ไฮไลท์หลักที่ต้งใจมาหลีเป๊ะแล้วครับ นั้นก็คือการดำน้ำนั้นเอง ซึ่งพอเริ่มต้นวันที่สองนี้ เราจะต้องเตรียมตัวให้เสร็จก่อน 9 โมงเช้านะครับ ตื่นมาทานมื้อเช้าให้เรียบร้อย นับเป็น 1 มื้อ ที่รวมอยู่ในราคาทัวร์ แล้วเมื่อเราไปดำน้ำจะมีช่วงพักเบรกแวะทานข้าวช่วงมื้อเที่ยงอีก จะนับเป็นมื้อที่ 2 นะครับ แต่จะขอย้อนกลับไปตรงที่เรามาเที่ยวในช่วง low season อีกหน่อยครับ เพราะว่าการดำน้ำในช่วงนี้ เค้าจะเปิดให้ดำน้ำเฉพาะรอบๆ เกาะหลีเป๊ะ ซึ่งจะมีอยู่ 3 จุดด้วยกัน แต่ถ้าเป็นช่วง high season คือ หลังจากวันที่ 15 ตุลาคม เป็นต้นมา เค้าจะเปิดให้ดำน้ำตามเกาะต่างๆ ครับ ลองหาข้อมูลดูนะครับ ซึ่งคาดว่าคงจะสวยกว่าและน่าไปกว่าครับ
แต่ก็ไม่ใช่ว่า เกาะหลีเป๊ะจะไม่น่าดำน้ำนะครับ ก็ถือว่าบรรยากาศดี น้ำใส มีปลาอยู่เหมือนกันครับ แต่ขอแนะนำว่า ถ้าใครว่ายน้ำแข็งแรงแล้วอยากจะเพิ่มความสนุก ควรเตรียมรองเท้าตีนกบมาด้วยนะครับ เอาไว้ทุ่นแรงในการดำลงไปข้างล่างเพื่อถ่ายภาพเก็บไว้เป็นความทรงจำครับ แต่ควรระวังปะการังกันด้วยนะครับ เก็บไว้ให้รุ่นลูกรุ่นหลานได้ดูกันบ้าง
ตอนแรกจขกท. ก็รู้สึกว่า อะไรกัน ดำแค่ 3 จุด รอบๆ เกาะ มันจะไปพออะไร อยากดำมากกว่านี้ แต่เอาเข้าจริงๆ ก็เหนื่อยนะครับ คิดว่า 3 จุด แค่นี้ก็เต็มกำลังแล้ว อาจจะเป็นเพราะว่า แต่ละจุดอาจจะไม่ค่อยแตกต่างกันมากด้วยครับ แต่ถ้ามาอีกทีช่วง high season ไปดำตามเกาะอื่นๆ อาจจะรู้สึกดีกว่านี้รึเปล่าอันนี้ต้องถามคนที่เคยไปมาแล้วนะครับ
จบวันที่ 2 ก็เหมือนจบทริปนี้แล้วครับ แต่เราจะมีเวลาช่วงเย็นๆ ถ้าใครไหวลองไปสำรวจรอบๆ เกาะนะครับ จะมีจุดชมวิวอยู่ ซึ่งถ้าคิดว่าเดินไปไม่ไหว บนเกาะเค้ามี taxi นะครับ...เรียกว่า taxi แต่จริงๆ แล้วคือ รถมอเตอร์ไซค์พ่วงครับ ใส่เสื้อเหมือนวินเลยครับ แล้วบังเอิญจขกท. เจอวินที่นิสัยดีครับ แนะนำให้เราไปชมวิวที่ทางฝั่งของ เม้าเทิร์น รีสอร์ท ครับ ค่ารถคิดง่ายๆ คนละ 50 บาท ไปที่ไหนก็ได้ 1 จุด รถ 1 คัน ขึ้นได้ 3 คน... ที่นี่ก็ได้บรรยากาศของทะเลที่สวยมากๆ ครับ ซึ่งวันนั้นลืมเอาโดรนไป เลยไม่ได้เก็บภาพสวยๆ มุมสูงทางหาดนี้มาฝากกัน
สรุปรวมค่าใช้จ่ายคร่าวๆ ที่ต้องจ่ายแน่ๆ กับกิจกรรมที่มีโอกาสได้ทำนะครับ
- ค่าทัวร์ของ up2utour 2,990 บาท รวม ค่ารถตู้รับ-ส่งสนามบิน ค่าเรือสปีดโบ๊ท ค่าที่พัก 3วัน 2คืน อาหาร 3 มื้อ ค่าดำน้ำรอบเกาะ 3 จุด
- ค่าเครื่องบิน ไป-กลับ ประมาณ 2,500 บาท
- ค่าเรือหางยาว ไป-กลับ 100 บาท
- ค่าเข้าอุทยาน คนละ 20 บาท
โดยรวม จขกท. ขอให้คะแนน ที่ 4.5 นะครับ ติดนิดเดียวตรงเรื่องเอกสารการยืนยันว่าได้ไปแน่ๆ ในช่วงที่ติดต่อผ่านไลน์
นอกนั้นดีมากครับ จบทริปแล้วมีโทรมาสอบถามด้วยว่าเรียบร้อยไหม มีปัญหาตรงไหนรึเปล่า ถือว่า ไม่ทิ้งงานครับ
***สุดท้ายถ้าใครอ่านแล้วยังไม่เห็นภาพ ขออนุญาตกดเข้าไปดูบรรยากาศของจริงที่คลิปนี้ครับ***
ค่อนข้างจะยาวแล้วก็ละเอียดไปหน่อย ไม่ถูกใจตรงไหนขออภัยไว้ก่อนเลยนะครับ ขอบคุณที่อ่านจนจบครับ