หลีเป๊ะสวรรค์ของคนรักทะเล

พักร้อนครั้งนี้ร่างกายต้องการทะเล แสงแดด ชายหาดเงียบสงบ  คิด คิด คิด ...... ว่าจะไปเที่ยวไหนดี เลื่อนเฟสบุคไป มา ก็เห็นรีวิวหลีเป๊ะ คือมันสวยมาก น้ำทะเลใสโคตรๆๆ แต่ประเด็นคือเดินทางหลายต่อมากกว่าจะถึงเกาะ เราก็ดันนึกถึงวลีที่ว่าอะไรที่ได้มายาก ช่างมีค่ายิ่งนักwink(จริงป่ะวะ) งั้นเกาะนี้มันก็ต้องสวย อลัง แน่นอน ทริปนี้เราอยากไปพักร่างกายนานหน่อย เลยจัดทริปหลีเป๊ะ 8 วัน 7 คืน เหมือนดูว่านานแต่พออยู่บนเกาะ เวลามันผ่านไปเร็วมาก

การเดินทางอันยาวไกล
          เราออกจากบ้านตั้งแต่ตี 4 เพื่อไปสนามบินดอนเมือง เราบินกับแอร์เอเชีย ดอนเมือง - หาดใหญ่ เที่ยว 06.40 น. ถึงหาดใหญ่ 08.20 น. (เราเลือกรอบเช้าเพราะอยากนั่งเรือเฟอร์รี่ แต่ก็ยังมีเรือสปีดโบ้ทอีกหลายรอบถ้าใครอยากไว้เกาะไข่กับเกาะตะรุเตา)
          ส่วนตั๋วรถตู้และเรือเฟอร์รี่ได้จองกับ easylipe ไว้แล้ว พอถึงสนามบินหาดใหญ่ก็โทรหาพี่คนขับรถเพื่อที่เค้าจะบอกจุดนัดพบ เราจองรถตู้รอบ 08.30 น. ถึงท่าเรือปากบารา 10.45 น. และเรือเฟอร์รี่รอบ 11.45 น. ถึงหลีเป๊ะ 14.40 น. พอถึงท่าเรือต้องไปแลกตั๋วกับที่บริษัท หลังจากนั้นก็ไปตุนเสบียงที่ 7-11 เพราะของบนเกาะราคาจะสูงกว่า ก่อนที่เราจะเดินไปถึงจุดขึ้นเรือต้องจ่ายคนละ 20 บาท (เราจำไม่ได้ว่าค่าบำรุงหรืออะไร)

ปล. รถตู้สามารถเลือกแบบ Vip 9 ที่นั่ง(300฿) หรือแบบ 11 ที่นั่ง (250฿)

       เรือเฟอร์รี่ที่เราจะเดินทางไปหลีเป๊ะ แอร์เย็นฉ่ำ นั่งสบาย ไม่ต้องโต้คลื่นสนราคาที่ 500 ฿ ต่อเที่ยว

        ใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมงก็มาถึงหลีเป๊ะแต่ด้วยเป็นเรือใหญ่ทำให้เข้าไปถึงฝั่งไม่ได้ เพราะใต้น้ำมีปะการังเยอะ เราจะต้องต่อเรือหางยาวเพื่อเข้าฝั่งด้วยราคา 50 ฿ต่อคน

         หลังจากเดินทางมาเป็น 10 ชั่วโมง เราก็มาถึงเกาะหลีเป๊ะ น้ำใสมาก และแดดก็ร้อนมากเช่นกัน เรือหางยาวจะมาจอดหน้าหาดพัทยา หาดนี้ผู้คนพลุกพล่าน มีทั้งรีสอร์ทและบาร์ตลอดแนว
      
         เราจองที่พักทั้ง 7 คืนที่ วาปีรีสอร์ท (wapi resort) อยู่หาดซันไรซ์ พอถึงเกาะเดินเข้ามาทาง walking street ประมาณ 200 เมตร จะมีร้านทัวร์อยู่ซ้ายมือ เมื่อแจ้งว่าพักที่วาปี เค้าจะไปส่งเราถึงที่พักฟรี  รีสอร์ทนี้เงียบ แบบส่วนตัวสุดๆ มีอาหารเช้าตัวเลือกไม่เยอะ แต่รสชาติโอเคเลย มีจักรยาน อุปกรณ์ดำน้ำให้ใช้ได้ฟรี  ส่วนคายัคเช่าที่ชั่วโมงละ 100 ฿ ห้องพักสะอาดและกว้างขวาง เดินไปชายหาดไม่ไกล ที่นี่มีขวดน้ำให้ใช้ ซึ่งเราสามารถเอาไปเติมน้ำที่ reception ได้ตลอดเวลา ฟรีอีกด้วย
         ด้านหน้ารีสอร์ทจะมีเรือหางยาวจอดไม่เยอะ ทำให้ชมวิวทะเลได้สวย จุใจ ทางรีสอร์ทมีเก้าอีชายหาดให้นั่งได้ฟรี
หรือจะนอนเปลชิวๆก็ได้
         มองด้านซ้ายจะเห็นเกาะกละ ด้านขวาคือเกาะอุเสน สามารถเช่าคายัค พายไปดำน้ำได้ มีปลาหลากหลายชนิด ทั้งใหญ่และเล็ก
         อยากจะบอกว่าหน้ารีสอร์ทสามารถดำน้ำดูปลา และเดินเยื้องไปทางซ้ายหน่อย จะมีปลาการ์ตูนเยอะมาก หรือรอตอนเย็นน้ำลด สามารถเดินดูปลาการ์ตูนได้เลย
                                         ตอนเย็นเราสามารถไปหาอาหารทานได้ที่  walking street จะเป็นถนนยาวๆมีร้านอาหารมากมายให้เลือก ถ้าเมื่อยก็มีร้านนวดให้บริการ
                                         อาหารทะเล กุ้ง หอย ปู ปลา สดๆ ตัวใหญ่มาก ราคาก็ตามขนาด
                                          เราไปเดินแถวหาดพัทยาตอนกลางคืน มีการโชว์ควงไฟด้วย แต่อาจมีเฉพาะวันเสาร์ อาทิตย์
                        วันนี้เราออกไปดำน้ำโปรแกรม B ราคา 650 ฿ มีอาหารกลางวัน 1 มื้อ น้ำเปล่าและผลไม้ แต่เนื่องด้วยเมื่อคืนฝนตกหนัก ทำให้น้ำไม่ค่อยใสแต่ก็พอเห็นปลา และ ปะการัง ตามโปรแกรมเราจะไป เกาะหินงาม เกาะหินซ้อน เกาะผึ้ง แวะกินข้าวที่เกาะลิง (ควรระวังลิงน้อยเพราะจะมาแย่งข้าวกิน) และจบด้วยที่ร่องน้ำจาบัง
                                        แถวร่องน้ำจาบังจะมีปะการัง 7 สีและปลาเยอะมาก แต่เสียดายน้ำขุ่นเลยอดเห็นปะการัง


                         วันนี้แดดดี เราเลยได้ฤกษ์ไปดูพระอาทิตย์ตกที่หาดประมง หาดนี้เหมือนมีรีสอร์ทอยู่ที่เดียวทำให้คนไม่เยอะ
                         วิวใต้ร่มไม้ที่เกาะกละ อยากจะนั่งอยู่จุดนั้นนานๆ เพราะเงียบ สงบ สวย สีฟ้าครามของน้ำทะเล


                          **ภาพที่เราถ่ายมาอาจไม่ได้สวยเหมือนในสถานที่จริง แต่เราการันตีว่าเกาะหลีเป๊ะสวยมากและเหมาะแก่การพักผ่อนของทั้งครอบครัว คู่รัก หรือคนโสด สำหรับคนที่ไปดำน้ำอยากให้ระวังเรื่องปะการังและสัตว์ทะเล ห้ามจับ ห้ามเหยียบ เพราะเป็นการทำลายทำธรรมชาติ ที่สำคัญช่วยกันรักษาความสะอาด อย่าทิ้งขยะลงทะเลหรือบนชายหาด
                         **ถ้าใครอยากเห็นแพลงก์ตอนเรืองแสง ต้องออกไปเดินตามชายหาดตอนกลางคืน เวลาคลื่นกระทบฝั่งจะเห็นเป็นจุดฟ้าๆ
อาจจะมีไม่เยอะมาก แต่ก็เป็นอะไรที่น่าตื่นเต้น เพราะเราไม่เคยเห็นมาก่อน และเราก็ไม่สามารถเก็บภาพเจ้าแพลงก์ตอนมาได้เพราะมันเล็กและมีไม่มาก หรือเรียกว่าความสามารถไม่ถึงนั่นเอง
             การเดินทางกลับ
   เอาตั๋วที่ทางบริษัทให้ไว้ตั้งแต่ขามายื่นที่ท่าเรือ และจ่ายคนละ 50 บาทสำหรับค่าเรือหางยาวที่จะพาเราไปขึ้นเรือเฟอร์รี่ (ไปถึงท่าเรือก่อนเรือออกซัก 30 นาทีนะคะ)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่