ก่อนอื่นต้องขอแนะนำตัวก่อนนะครับ ผมชื่อ Steve Jamp เป็นคนที่ชื่นชอบในเทคโนโลยี และวันนี้มีโอกาสได้ลองเล่นมือถือไร้ปุ่ม หรือมือถือที่แสดงผลแบบเต็มหน้าจอ (Full View Display) อย่าง Vivo V7+ เลยอยากจะมาขอรีวิวให้เพื่อนๆ ได้อ่านกัน โดย Vivo V7+ จะมีอะไรที่น่าสนใจบ้างนั้น มาอ่านกันได้เลยครับ

มาเริ่มแกะกล่อง Vivo V7+ กันเลยดีกว่าครับ เปิดออกมาแล้วจะพบกับอุปกรณ์ภายในกล่อง ที่ให้มาครบพร้อมใช้งานไม่ว่าจะเป็น ตัวเครื่อง ViVO V7+ (ติดฟิล์มหน้าจอมาให้เรียบร้อยแล้ว), เคสซิลิโคนใส, คู่มือการใช้งาน, เข็มจิ้มถาดซิม, อแดปเตอร์ชาร์จไฟ, สาย Micro-USB และ หูฟัง



มาดูกันต่อที่ตัวเครื่อง Vivo V7+ เมื่อลองสัมผัสตัวเครื่องครั้งแรกพบว่าตัวเครื่องออกแบบมาได้สวยดี วัสดุเป็นโลหะ Unibody หน้าจอได้รับการติดฟิล์มกันรอยมาจากโรงงานพร้อมใช้ได้ทันที ตัวหน้าจอเป็นแบบ IPS ขนาด 5.99 นิ้ว แสดงผลที่ความละเอียด HD+ 1440 x 720 พิกเซล ซึ่งนับว่าแสดงสีสันได้คมชัดสวยงามในระดับหนึ่ง ข้างบนหน้าจอมีไฟ LED แจ้งเตือน, ลำโพงสนทนา, เซนเซอร์วัดแสง, กล้องหน้าความละเอียด 24 ล้านพิกเซล และไฟแฟลช Soft Light



ข้างล่างหน้าจอนั้นไม่มีอะไรเลยเพราะเป็นหน้าจอแบบเต็มพื้นที่นั่นเอง ตัวกระจกหน้าจอเป็นแบบ 2.5D มีความโค้งนิดๆ สวยงาม



ด้านหลังตัวเครื่องมีเสาอากาศเป็นเส้นบางๆ สีเงินตัดกับสีดำของตัวเครื่อง ผิวสัมผัสด้านหลังจะออกด้านๆ ไม่ลื่นมือ แต่แนะนำว่าควรใส่เคสที่แถมมาเพราะว่า ตัวเลนส์กล้องด้านหลังวมีความนูนออกมาจากตัวเครื่องนิดหน่อย ซึ่งพอใส่เคสลงไปก็จะพอดี ข้างกล้องมีไฟแฟลช LED 1 ดวง แถมเกือบกลางเครื่องก็มีที่สแกนนิ้วมาให้ด้วย ซึ่งต้องบอกเลยว่าใช้งานได้รวดเร็วมาก แตะปุ๊บปลดล็อกทันทีถือว่ารวดเร็วมาก



มาดูที่ด้านข้างของตัวเครื่องกันบ้าง เริ่มจากฝั่งขวามีปุ่มเพิ่มลดเสียง กับปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง



ด้านซ้ายมีที่ใส่ซิมโดยสามารถใส่ซิมได้ 2 ซิม + microSD การ์ด ไม่เหมือนรุ่นก่อนที่ต้องเลือก 2 ซิม หรือ 1 ซิม + microSD การ์ด เท่านั้น



ด้านบนตัวเครื่องมีไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน ส่วนด้านล่างมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 ไมโครโฟน, ช่อง USB และลำโพงหลัก



ดูที่ภายนอกครบแล้วก็มาดูที่ภายในกันบ้างโดย Vivo V7+ มาพร้อมกับ CPU Snapdragon 450 Octa-core / GPU Adreno 506 / Ram 4GB / Rom 64GB เท่าที่ลองใช้งานนับว่าลื่นไหลมากเล่นเกม ROV ไม่มีการกระตุกเลย นับว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับคอเกมที่งบปานกลางเลยทีเดียว ด้าน OS นั้น Vivo V7+ มาพร้อมกับ Android 7.1.2 ที่ครอบทับด้วย Funtouch OS 3.2 ของ Vivo เอง มีความลื่น และลูกเล่นให้ใช้งานค่อนข้างเยอะ หน้า UI ก็ยังไม่แตกต่างไปจากรุ่นก่อนมากนัก ทั้งไอคอน Widget ต่างๆ นอกจากหน้าจอที่ยาวกว่าเดิมทำให้แสดงผลได้มากกว่าเดิม

ตัวปุ่ม On Screen บนหน้าจอนั้น สามารถปรับรูปแบบให้เป็นทรงปกติ สี่เหลี่ยม , วงกลม และสามเหลี่ยมได้แบบ Pure Android ด้วย ซึ่งการปรับตั้งค่าเราสามารถเข้าไปดูได้ที่ Settings > Navigation Keys แต่ถ้าใครอยากได้หน้าจอเต็มๆ แบบไม่มีปุ่มต่างๆ ขึ้นมากวนใจก็กดซ่อนได้แล้วใช้การสั่งการผ่าน Gesture ในการสั่งงานแทน เช่นการสไลด์นิ้วจากล่างหน้าจอตรงกลางขึ้นเป็นการเข้าสู่หน้าหลัก (แทนปุ่มโฮม) , สไลด์ขึ้นจากมุมขวาล่างเป็นการย้อนกลับ (แทนปุ่ม Back) และสไลด์ขึ้นจากมุมซ้ายล่างเป็นการเรียกหน้า Toogle Switch ที่มีตัว Recent App อยู่ด้วย (แทนปุ่ม Recent App)

จุดเด่นอีกอย่างของ Vivo V7+ นั่นก็คือการ Clone App ทำให้สามารถเล่น Line ได้ 2 Account พร้อมกันไปเลย แต่ฟังก์ชั่นนี้รองรับบาง App เท่านั้น

มาถึงจุดเด่นที่สุดของ Vivo V7+ อย่างกล้องหน้าที่ให้ความละเอียดมากถึง 24 ล้านพิกเซล เรียกได้ว่าใครอยากได้มือถือเซลฟี่สวยๆ ต้องรุ่นนี้เลย เพราะโหมดต่างๆ ที่มีในเครื่องเรียกได้ว่าครบเครื่องและพร้อมใช้งานได้ทันที ลองไปชมรูปกันครับ



ส่วนกล้องหลังมาพร้อมความละเอียดน้อยกว่ากล้องหน้าแต่ยังให้มาที่ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล มีโหมดความสามารถมากมายมาให้ไม่ว่าจะเป็น ถ่ายกลางคืน, ULTRA HD ที่ให้ความละเอียดสูงถึง 52 ล้านพิกเซล, PPT, ภาพถ่ายมืออาชีพ, ภาพเคลื่อนไหว, ภาพต่อเนื่อง,พาโนรามา และแน่นอนว่าต้องมีโหมดหน้าสวย มาให้ด้วย ส่วนวีดีโอนั้นสามารถอัดได้ที่ความละเอียด 720P ไปจนถึง 1080P เลยทีเดียว



แน่นอนว่าสำหรับโทรศัพท์ของ Vivo แทบทุกรุ่นนั้นขึ้นชื่อเรื่องชิปเสียง และ Vivo V7+ ก็มาพร้อมกับ กับชิปเสียง HI-FI Chipset AK4376 ที่ช่วยขับพลังเสียงได้อย่างดีมีมิติเรียกได้ว่าสมกับสโลแกนของ Vivo Camera & Music นั่นเอง

มาถึงเรื่องสำคัญอย่างแบตเตอรี่ Vivo V7+ ให้แบตเตอรี่มาที่ความจุ 3225 mAh ใช้งานเต็มวันเหลือๆ เลยก็ว่าได้ อาจจะเพราะหน้าจอที่เป็น HD ทำให้ไม่กินแบตเท่าไรด้วย เรียกได้ว่าใช้ Vivo V7+ ลืมเรื่องการพก Powerbank ไปได้เลย

ทิ้งท้ายด้วยการสรุปสเปคของ Vivo V7+

ระบบปฏิบัติการ : Android 7.1.2 ครอบทับด้วย Funtouch OS 3.2
หน้าจอ : LCD 5.99 นิ้ว HD+ 1440 x 720 พิกเซล
ใช้งานได้ : 2 นาโนซิม + 1 microSD การ์ด
CPU : Snapdragon 450 แบบ Octa-Core
GPU : GPU Adreno 506
Ram : 4GB
Rom : 64GB
หน่วยความจำภายนอก : รองรับ microSD สูงสุด 256 GB
กล้องหน้า : ความละเอียด 24 ล้านพิกเซล, รูรับแสง f/2.0
กล้องหลัง : ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล, รูรับแสง f/2.0
ชิปเสียง : Hi-Fi AK4376
แบตเตอรี่ความจุ 3225 mAh  
ตัวเครื่อง มีความบาง 7.7 มิลลิเมตร น้ำหนัก 160 กรัม
ราคา 11,990 บาท

บทสรุป สำหรับผม Vivo V7+ เป็นมือถือยุคใหม่ที่ให้มาครบแทบทุกฟังก์ชั่นไม่ว่าจะเป็น การแสดงเต็มหน้าจอ, กล้องหน้า 24 ล้านพิกเซล, การเล่นเกมที่ลื่นไหล เรียกได้ว่าในราคาไม่แพงนัก ใครที่ชอบเล่นเกม และถ่ายเซลฟี่สวยๆ ผมบอกได้ 3 คำสำหรับ Vivo V7+ ว่า "เวรี่ กู้ด"

ติดตามผมได้ผ่านช่องทาง FB Fanpage ที่ https://www.facebook.com/SteveJamp26 นะครับ