สวัสดีครับเพื่อนๆชาวพันทิปทุกๆท่าน กลับมาเจอกันอีกครั้งกับรีวิวสมาร์ทโฟนในแบบฉบับการใช้งานจริง
หลังจากทาง vivo ได้วางจำหน่าย vivo V7+ ไปได้ซักระยะแล้ว น่าจะมีสมาชิกหลายๆท่านใช้งานกันอยู่ บางคนที่เลือกซื้ออาจจะเป็นเพราะต้องการกล้องหน้ามาถ่ายเซลฟี่สวยๆ หรือต้องการใช้งานหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นในขนาดตัวเครื่องที่เล็กลงเน้นพกง่าย
จุดเด่นสำหรับ vivo V7+ จะเน้นกล้องหน้าที่มาพร้อมกับความละเอียด 24 ล้านพิกเซล และหน้าจอแบบ FullView Display ขนาด 5.99 นิ้ว อัตราส่วน 18:9 และยังคงความเป็น vivo ไว้เช่นเดิมนั้นคือ มาพร้อมกับชิปเสียงที่ดีเพื่อใช้งานในกลุ่มมัลติมีเดีย ดูหนัง ฟังเพลง ช่วยเพิ่มอรรรถที่ดี นี่คือจุดเด่นของ V7+ ครับ และยังมีจุดเด่นในส่วนอื่นๆที่หลายๆคนยังไม่ทราบ เดี๋ยวเราไปดูพร้อมๆกันเลย
มาดูสเปคของเครื่องกันก่อน
หน้าจอ FullView Display IPS 5.99 นิ้ว ความละเอียด HD+ (1440x720 พิกเซล) อัตราส่วน 18:9
Android 7.1.2 Nougat ครอบทับด้วย Funtouch OS 3.2
รองรับ 4G LTE รองรับ Fullnet Com 3.0
VoLTE
หน่วยประมวลผล Snapdragon 450 Octa-core / Adreno 506 GPU
RAM 4GB
ROM 64GB รองรับ Micro-SD สูงสุด 256 GB รองรับ OTG
กล้องหน้า ความละเอียด 24 ล้านพิกเซล f/2.0
กล้องหลัง ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล f/2.0
เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือ
รองรับการปลดล็อคด้วยการสแกนใบหน้า
ระบบเสียง Hi-Fi มาพร้อมชิปเสียง AK4376A
ขนาดตัวเครื่อง 155.87 x 75.74 x 7.7 มม. น้ำหนัก 160 กรัม
ราคา 11,990 บาท
แกะกล่องเช็คของ
อุปกรณ์ภายในกล่องก็มีมาให้ครบ จ่ายเงินครั้งเดียวก็พร้อมใช้งานได้ทันที มีทั้งเคสทั้งฟิมล์หน้าจอที่ติดมาให้เรียบร้อย และที่สำคัญ ของแถมค่ายนี้เขาจัดให้เยอะมาก (สอบถามของแถมได้หน้าร้านเลยครับ)อุปกรณ์ภายในกล่องจะมีดังนี้
ตัวเครื่อง Vivo V7+
เคสซิลิโคนใส (ฟิมล์หน้าจอติดมาให้แล้ว)
หัวชาร์จ USB
สาย USB
หูฟัง
เข็มจิ้มถาดซิม
คู่มือการใช้งาน
วัสดุและการออกแบบดีไซน์
vivo V7+ มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 5.99 นิ้ว ในอัตราส่วน 18:9 หรือทาง Vivo เรียกว่า FullView Display ความละเอียด HD+ บริเวณด้านข้างขอบเจอเหลือพื้นที่น้อยทั้งสี่ด้าน ทำให้ตัวเครื่องมีขนาดพอๆกับกลุ่ม 5.5 นิ้วทั่วไป ตัวเครื่องจะดูยาวๆหน่อยตามอัตราส่วนหน้าจอ ช่วยให้หยิบถือง่ายแม้คนมือเล็ก
วัสดุตัวเครื่องเป็น โพลิเมอร์ คือ พลาสติกผสมอานุภาคโลหะ ทำให้การสัมผัสจะลื่นๆมือนิดหน่อยครับสีตัวเครื่องจะด้านๆนิดหน่อย
ตำแหน่งของระบบสแกนนิ้ว fingerprint จะอยู่ด้านหลัง
ถาดซิมสามารถใช้งานสองซิมพร้อมกัน และยังเพิ่มหน่วยความจำแบบ microSD CARD ได้
และข้อดีอีกอย่างสำหรับการรองรับสองซิม นั้นคือ vivo V7+ สามารถสแตนบาย 4G LTE + 3G GSM พร้อมกันได้ครับ หรือหลายๆคนเรียกว่า Fullnet com3.0 นั้นหล่ะ และยังมีระบบ VoLTE
ระบบปฎิบัติการ
Vivo V7+ มาพร้อมกับ Android 7.1.2 Nougat ครอบทับด้วย Funtouch OS 3.2 มีธีมมาให้เลือกปรับใช้งานสำหรับคนชอบตกแต่งหน้าจอ และการแจ้งเตือนที่มีตัวเลขกำกับบนไอคอนช่วยให้ไม่พลาดการติดต่อ บางคนซีเรียสมากเลยในการแจ้งเตือน โดยเฉพาะกลุ่มแม่ค้า ถ้าเลือกซื้อ V7+ ปัญหาการแจ้งเตือนจะหมดไปครับ ค้าขาย ตอบกลับได้ทันเวลา
และการแค๊ปหน้าจอแบบยาว/แค๊ปหน้าจอโหมดวีดีโอ ก็ยังมีมาพร้อมสำหรับ Vivo V7+
ประสิทธิภาพการทำงาน
Vivo V7+ มาพร้อมกับหน่วยประมวลผล Snapdragon 450 Octa-core / Adreno 506 การใช้งานต่างๆ ทั้งโซลเชียลและการเล่นเกมส์ ถือว่าทำผลงานได้ดีเลยครับ ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นเพราะความละเอียดหน้าจอที่ไม่สูงมากนักเลยทำให้การ์ดแสดงผลหน้าจอ Adreno 506 ขับได้สบายๆ
RAM 4 GB เปิดใช้งานจะเหลือพื้นที่ราวๆ 2.1GB
ROM 64 GB รองรับ Micro-SD สูงสุด 256 GB รองรับ OTG เซนเซอร์ต่างที่จำเป็นมีมาให้ครบ
ดูหนัง-ฟังเพลง
FullView Display หน้าจอขนาด 5.99 นิ้ว ความละเอียด HD+ 1440x720 พิกเซล อัตราส่วน 18:9 การแสดงผลหน้าจอถือว่าสวยงามในระดับหนึ่งแต่คงไม่กริ๊บเท่ากลุ่ม FHD+ การเกลี่ยสี ความสว่างหน้าจอผมว่าทำออกมาได้ดีเกินคาดเลยนะ แต่จะรู้สึกว่าจอหยาบหน่อยเวลาอ่านตัวหนังสือ
เมื่อดูหนังหรือยูทูป การแจ้งเตือนของโซเชียลจะมีแจ้งเตือนให้ทราบ (Message screen splitting)
Smart Split แบ่งหน้าจอทำงานพร้อมกันสองแอ๊พ จะรองรับแค่บางแอ๊พนะครับ เช่นเล่นเฟส+ดุยูทูป หรือ ตอบ Facebook และ LINE พร้อมกัน
Vivo V7+ มาพร้อมกับระบบเสียง Hi-Fi พร้อมชิปเสียง AK4376A คุณภาพเสียงถือว่าดีมากๆ
ผมถือว่าเป็นจุดเด่น จุดขายของค่ายนี้เลยครับ สำหรับเรื่องการฟังเพลง ใครชอบฟังเพลง จัดไปไม่ผิดหวังแน่นอน วิทยุ FM ยังมีมาให้ใช้งานปกติ
(มาถึงเกมส์การชิงของรางวัลกันหล่ะ #นางเอกมิวสิคชื่ออะไรในตัวละคร คำตอบคือ แสงจันทร์)
มีระบบสแกนนิ้ว รองรับการจดจำ 5 ลายนิ้วมือ แค่นั้นยังไม่พอ vivo V7+ ยังมาพร้อมกับระบบปลดล็อคด้วยใบหน้า เมื่อเข้าไปตั้งค่า เข้าโหมดล็อคหน้าจอก็จะเจอรูปใบหน้าตามรูป แค่ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆก็สามารถสั่งปลดล็อคตัวเครื่องได้ เพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานยิ่งขึ้น
กล้องถ่ายภาพ
กล้องหน้า มาพร้อมกับความละเอียด 24 ล้านพิกเซล รูรับแสง f2.0 Selfie Softlight โหมดหน้าสวย Face Beauty 7.0 เพิ่มความสวยงามและช่วยถ่ายภาพในที่แสงน้อยให้ดียิ่งขึ้น
กล้องหลัง ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f2.0 จุดขายของกล้องค่าย vivo คงเป็นโหมด Professional เลือกปรับแต่งได้ตามใจชอบ เหมาะสำหรับมืออาชีพหรือคนที่กำลังหัดถ่ายภาพครับ
ภาพถ่ายจากกล้องหลัง vivo V7+
แบตเตอรี่
แบตเตอรี่ 3,225 mAh ถ้าย้อนกลับไปดูสเปคที่ให้มา จอ 5.99 ความละเอียด HD+ / ชิปประมวลผลตัวใหม่ที่เน้นความประหยัดพลังงาน รวมไปถึงโหมดการจัดการพลังงานของ Vivo เอง ผมใช้เช้าถึงเย็น เล่นโซลเชียลหนักๆ สลับเกมส์บ้างนิดหน่อยในแต่ละวัน แบตอยู่ครบวันครับ ถือว่าอึดมากๆถ้าเทียบกับสมาร์ทโฟนหน้าจอพอๆกัน แต่แอบเสียดายตัวเครื่องไม่รองรับ Fast Charging
จุดเด่นสำหรับ vivo V7+
- จอ FullView Display 5.99 นิ้ว ที่มีขนาดตัวเครื่องพอๆกับพวกจอ 5.5 นิ้ว
- ความสว่างของหน้าจอ การเกลี่ยสี มิติของการแสดงผล ถือว่าทำออกมาได้ดี แม้จะมากับจอความละเอียดเพียงแค่ HD+
- รองรับ Fullnet Com 3.0 พร้อม VoLTE
- RAM 4GB / ROM 64GB
- การแจ้งเตือนต่างๆ ทำได้ดี หมดห่วงเรื่องการขาดการติดต่อ
- ระบบเสียง Hi-Fi มาพร้อมชิปเสียง AK4376A ที่ให้คุณภาพเสียงที่ดี
- ระบบสแกนนิ้วและปลดล้อคด้วยใบหน้า สแกนได้รวดเร็วและแม่นยำ
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน
ข้อพิจารณา
- ไม่มี Fast Charging
vivo V7+ ถ้าดูจากตัวเลขสเปคที่ให้มาก็ถือว่าไม่ได้หวือหวาอะไรมากนักถึงขั้นต้องว๊าว แต่บนพื้นฐานการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นความแรงของตัวเครื่อง หน่วยความจำที่ให้มาผมถือว่าเหมาะสมแล้วหล่ะ และความละเอียดหน้าจอที่มาแค่ HD+ แต่การแสดงผลก็ไม่ได้แย่จนเกินไปถือว่ารับได้ครับ แต่ที่ผมประทับใจคือ รอมหรือระบบปฎิบัติการ เท่าที่ใช้งานมาแทบไม่เจอปัญหาใดๆ การแจ้งเตือนต่างๆทำออกมาได้ดีมาก และเรื่องระบบเสียงผ่านหูฟัง ฟังเพลงเพราะมากๆตามสไตล์ของ vivo
เป็นยังไงกันบ้างครับสำหรับจุดเด่นต่างๆ สามารถตอบโจทน์เราได้ไหม รูปแบบการใช้งานของแต่ละคนอาจแตกต่างกันออกไป ศึกษาดูจุดเด่นถ้าตรงตามที่เรากำลังสนใจจัดไปครับ ผมแค่มาแนะนำในส่วนของความน่าสนใจ ส่วนการตัดสินใจต่างๆอยุ่ที่เราแล้วหล่ะ
ขอขอบคุณทุกๆท่านที่ติดตามครับ ไว้โอกาสหน้าเจอกันใหม่ ไปแล้ว ....
[SR] รีวิว vivo V7+
หลังจากทาง vivo ได้วางจำหน่าย vivo V7+ ไปได้ซักระยะแล้ว น่าจะมีสมาชิกหลายๆท่านใช้งานกันอยู่ บางคนที่เลือกซื้ออาจจะเป็นเพราะต้องการกล้องหน้ามาถ่ายเซลฟี่สวยๆ หรือต้องการใช้งานหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นในขนาดตัวเครื่องที่เล็กลงเน้นพกง่าย
จุดเด่นสำหรับ vivo V7+ จะเน้นกล้องหน้าที่มาพร้อมกับความละเอียด 24 ล้านพิกเซล และหน้าจอแบบ FullView Display ขนาด 5.99 นิ้ว อัตราส่วน 18:9 และยังคงความเป็น vivo ไว้เช่นเดิมนั้นคือ มาพร้อมกับชิปเสียงที่ดีเพื่อใช้งานในกลุ่มมัลติมีเดีย ดูหนัง ฟังเพลง ช่วยเพิ่มอรรรถที่ดี นี่คือจุดเด่นของ V7+ ครับ และยังมีจุดเด่นในส่วนอื่นๆที่หลายๆคนยังไม่ทราบ เดี๋ยวเราไปดูพร้อมๆกันเลย
มาดูสเปคของเครื่องกันก่อน
หน้าจอ FullView Display IPS 5.99 นิ้ว ความละเอียด HD+ (1440x720 พิกเซล) อัตราส่วน 18:9
Android 7.1.2 Nougat ครอบทับด้วย Funtouch OS 3.2
รองรับ 4G LTE รองรับ Fullnet Com 3.0
VoLTE
หน่วยประมวลผล Snapdragon 450 Octa-core / Adreno 506 GPU
RAM 4GB
ROM 64GB รองรับ Micro-SD สูงสุด 256 GB รองรับ OTG
กล้องหน้า ความละเอียด 24 ล้านพิกเซล f/2.0
กล้องหลัง ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล f/2.0
เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือ
รองรับการปลดล็อคด้วยการสแกนใบหน้า
ระบบเสียง Hi-Fi มาพร้อมชิปเสียง AK4376A
ขนาดตัวเครื่อง 155.87 x 75.74 x 7.7 มม. น้ำหนัก 160 กรัม
ราคา 11,990 บาท
แกะกล่องเช็คของ
อุปกรณ์ภายในกล่องก็มีมาให้ครบ จ่ายเงินครั้งเดียวก็พร้อมใช้งานได้ทันที มีทั้งเคสทั้งฟิมล์หน้าจอที่ติดมาให้เรียบร้อย และที่สำคัญ ของแถมค่ายนี้เขาจัดให้เยอะมาก (สอบถามของแถมได้หน้าร้านเลยครับ)อุปกรณ์ภายในกล่องจะมีดังนี้
ตัวเครื่อง Vivo V7+
เคสซิลิโคนใส (ฟิมล์หน้าจอติดมาให้แล้ว)
หัวชาร์จ USB
สาย USB
หูฟัง
เข็มจิ้มถาดซิม
คู่มือการใช้งาน
วัสดุและการออกแบบดีไซน์
vivo V7+ มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 5.99 นิ้ว ในอัตราส่วน 18:9 หรือทาง Vivo เรียกว่า FullView Display ความละเอียด HD+ บริเวณด้านข้างขอบเจอเหลือพื้นที่น้อยทั้งสี่ด้าน ทำให้ตัวเครื่องมีขนาดพอๆกับกลุ่ม 5.5 นิ้วทั่วไป ตัวเครื่องจะดูยาวๆหน่อยตามอัตราส่วนหน้าจอ ช่วยให้หยิบถือง่ายแม้คนมือเล็ก
วัสดุตัวเครื่องเป็น โพลิเมอร์ คือ พลาสติกผสมอานุภาคโลหะ ทำให้การสัมผัสจะลื่นๆมือนิดหน่อยครับสีตัวเครื่องจะด้านๆนิดหน่อย
ตำแหน่งของระบบสแกนนิ้ว fingerprint จะอยู่ด้านหลัง
ถาดซิมสามารถใช้งานสองซิมพร้อมกัน และยังเพิ่มหน่วยความจำแบบ microSD CARD ได้
และข้อดีอีกอย่างสำหรับการรองรับสองซิม นั้นคือ vivo V7+ สามารถสแตนบาย 4G LTE + 3G GSM พร้อมกันได้ครับ หรือหลายๆคนเรียกว่า Fullnet com3.0 นั้นหล่ะ และยังมีระบบ VoLTE
ระบบปฎิบัติการ
Vivo V7+ มาพร้อมกับ Android 7.1.2 Nougat ครอบทับด้วย Funtouch OS 3.2 มีธีมมาให้เลือกปรับใช้งานสำหรับคนชอบตกแต่งหน้าจอ และการแจ้งเตือนที่มีตัวเลขกำกับบนไอคอนช่วยให้ไม่พลาดการติดต่อ บางคนซีเรียสมากเลยในการแจ้งเตือน โดยเฉพาะกลุ่มแม่ค้า ถ้าเลือกซื้อ V7+ ปัญหาการแจ้งเตือนจะหมดไปครับ ค้าขาย ตอบกลับได้ทันเวลา
และการแค๊ปหน้าจอแบบยาว/แค๊ปหน้าจอโหมดวีดีโอ ก็ยังมีมาพร้อมสำหรับ Vivo V7+
ประสิทธิภาพการทำงาน
Vivo V7+ มาพร้อมกับหน่วยประมวลผล Snapdragon 450 Octa-core / Adreno 506 การใช้งานต่างๆ ทั้งโซลเชียลและการเล่นเกมส์ ถือว่าทำผลงานได้ดีเลยครับ ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นเพราะความละเอียดหน้าจอที่ไม่สูงมากนักเลยทำให้การ์ดแสดงผลหน้าจอ Adreno 506 ขับได้สบายๆ
RAM 4 GB เปิดใช้งานจะเหลือพื้นที่ราวๆ 2.1GB
ROM 64 GB รองรับ Micro-SD สูงสุด 256 GB รองรับ OTG เซนเซอร์ต่างที่จำเป็นมีมาให้ครบ
ดูหนัง-ฟังเพลง
FullView Display หน้าจอขนาด 5.99 นิ้ว ความละเอียด HD+ 1440x720 พิกเซล อัตราส่วน 18:9 การแสดงผลหน้าจอถือว่าสวยงามในระดับหนึ่งแต่คงไม่กริ๊บเท่ากลุ่ม FHD+ การเกลี่ยสี ความสว่างหน้าจอผมว่าทำออกมาได้ดีเกินคาดเลยนะ แต่จะรู้สึกว่าจอหยาบหน่อยเวลาอ่านตัวหนังสือ
เมื่อดูหนังหรือยูทูป การแจ้งเตือนของโซเชียลจะมีแจ้งเตือนให้ทราบ (Message screen splitting)
Smart Split แบ่งหน้าจอทำงานพร้อมกันสองแอ๊พ จะรองรับแค่บางแอ๊พนะครับ เช่นเล่นเฟส+ดุยูทูป หรือ ตอบ Facebook และ LINE พร้อมกัน
Vivo V7+ มาพร้อมกับระบบเสียง Hi-Fi พร้อมชิปเสียง AK4376A คุณภาพเสียงถือว่าดีมากๆ
ผมถือว่าเป็นจุดเด่น จุดขายของค่ายนี้เลยครับ สำหรับเรื่องการฟังเพลง ใครชอบฟังเพลง จัดไปไม่ผิดหวังแน่นอน วิทยุ FM ยังมีมาให้ใช้งานปกติ
(มาถึงเกมส์การชิงของรางวัลกันหล่ะ #นางเอกมิวสิคชื่ออะไรในตัวละคร คำตอบคือ แสงจันทร์)
มีระบบสแกนนิ้ว รองรับการจดจำ 5 ลายนิ้วมือ แค่นั้นยังไม่พอ vivo V7+ ยังมาพร้อมกับระบบปลดล็อคด้วยใบหน้า เมื่อเข้าไปตั้งค่า เข้าโหมดล็อคหน้าจอก็จะเจอรูปใบหน้าตามรูป แค่ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆก็สามารถสั่งปลดล็อคตัวเครื่องได้ เพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานยิ่งขึ้น
กล้องถ่ายภาพ
กล้องหน้า มาพร้อมกับความละเอียด 24 ล้านพิกเซล รูรับแสง f2.0 Selfie Softlight โหมดหน้าสวย Face Beauty 7.0 เพิ่มความสวยงามและช่วยถ่ายภาพในที่แสงน้อยให้ดียิ่งขึ้น
กล้องหลัง ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f2.0 จุดขายของกล้องค่าย vivo คงเป็นโหมด Professional เลือกปรับแต่งได้ตามใจชอบ เหมาะสำหรับมืออาชีพหรือคนที่กำลังหัดถ่ายภาพครับ
ภาพถ่ายจากกล้องหลัง vivo V7+
แบตเตอรี่
แบตเตอรี่ 3,225 mAh ถ้าย้อนกลับไปดูสเปคที่ให้มา จอ 5.99 ความละเอียด HD+ / ชิปประมวลผลตัวใหม่ที่เน้นความประหยัดพลังงาน รวมไปถึงโหมดการจัดการพลังงานของ Vivo เอง ผมใช้เช้าถึงเย็น เล่นโซลเชียลหนักๆ สลับเกมส์บ้างนิดหน่อยในแต่ละวัน แบตอยู่ครบวันครับ ถือว่าอึดมากๆถ้าเทียบกับสมาร์ทโฟนหน้าจอพอๆกัน แต่แอบเสียดายตัวเครื่องไม่รองรับ Fast Charging
จุดเด่นสำหรับ vivo V7+
- จอ FullView Display 5.99 นิ้ว ที่มีขนาดตัวเครื่องพอๆกับพวกจอ 5.5 นิ้ว
- ความสว่างของหน้าจอ การเกลี่ยสี มิติของการแสดงผล ถือว่าทำออกมาได้ดี แม้จะมากับจอความละเอียดเพียงแค่ HD+
- รองรับ Fullnet Com 3.0 พร้อม VoLTE
- RAM 4GB / ROM 64GB
- การแจ้งเตือนต่างๆ ทำได้ดี หมดห่วงเรื่องการขาดการติดต่อ
- ระบบเสียง Hi-Fi มาพร้อมชิปเสียง AK4376A ที่ให้คุณภาพเสียงที่ดี
- ระบบสแกนนิ้วและปลดล้อคด้วยใบหน้า สแกนได้รวดเร็วและแม่นยำ
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน
ข้อพิจารณา
- ไม่มี Fast Charging
vivo V7+ ถ้าดูจากตัวเลขสเปคที่ให้มาก็ถือว่าไม่ได้หวือหวาอะไรมากนักถึงขั้นต้องว๊าว แต่บนพื้นฐานการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นความแรงของตัวเครื่อง หน่วยความจำที่ให้มาผมถือว่าเหมาะสมแล้วหล่ะ และความละเอียดหน้าจอที่มาแค่ HD+ แต่การแสดงผลก็ไม่ได้แย่จนเกินไปถือว่ารับได้ครับ แต่ที่ผมประทับใจคือ รอมหรือระบบปฎิบัติการ เท่าที่ใช้งานมาแทบไม่เจอปัญหาใดๆ การแจ้งเตือนต่างๆทำออกมาได้ดีมาก และเรื่องระบบเสียงผ่านหูฟัง ฟังเพลงเพราะมากๆตามสไตล์ของ vivo
เป็นยังไงกันบ้างครับสำหรับจุดเด่นต่างๆ สามารถตอบโจทน์เราได้ไหม รูปแบบการใช้งานของแต่ละคนอาจแตกต่างกันออกไป ศึกษาดูจุดเด่นถ้าตรงตามที่เรากำลังสนใจจัดไปครับ ผมแค่มาแนะนำในส่วนของความน่าสนใจ ส่วนการตัดสินใจต่างๆอยุ่ที่เราแล้วหล่ะ
ขอขอบคุณทุกๆท่านที่ติดตามครับ ไว้โอกาสหน้าเจอกันใหม่ ไปแล้ว ....