สวัสดีค่ะ
.
เมื่อก่อนเรารีวิวแต่ญี่ปุ่นเสียเป็นส่วนใหญ่ วันนี้ขอข้ามฟากไปทางฝั่งยุโรปบ้าง
.
ปีนี้จับพลัดจับผลู ได้ไปโรมาเนียค่ะ และชอบมาก
.
เราใช้เวลา รวมวันเดินทาง เป็น 9 วันค่ะ มีเวลาในโรมาเนีย7 วันเต็ม
.
ข้อควรรู้คร่าวๆ เกี่ยวกับโรมาเนียคือ
1. เป็นประเทศในยุโรปตะวันออกที่เพิ่งจะหลุดจากระบบคอมมิวนิสต์ได้ไม่นาน ทำให้บรรยากาศยังไม่พัฒนาเหมือนประเทศอื่นๆในยุโรปนัก มักโดนชาติยุโรปด้วยกันเองดูถูกว่าเป็นประเทศของยิปซี หัวขโมย แต่ที่จริงแล้ว ชาวยิปซี ไม่ใช่ชนพื้นเมืองของโรมาเนียแต่ดั้งเดิมนะคะ คนโรมาเนียเองจะเป็นฝรั่งผิวขาว ตาลึกๆหน่อย จมูกโด่งๆ
2. ประวัติศาสตร์สัมพันธ์กับฮังการีอย่างใกล้ชิด แต่ปัจจุบันไม่ถูกกันซะละ
3. เมื่อก่อนไม่มีกษัตริย์ของตัวเอง พอรวมชาติได้ก็ร่อนจดหมายไปขอราชวงศ์ต่างๆในยุโรปให้ช่วยส่งใครมาเป็นกษัตริย์ให้หน่อย เลยได้กษัตริย์โรมาเนียที่เป็นชาวเยอรมันมาค่ะ ปราสาทแรกที่สร้างก็คือปราสาทเปเลช วึ่งมีอิทธิพลของศิลปะเยอรมันอยู่อย่างเต็มเปี่ยม ปัจจุบันกษัตริย์ (แต่ในนาม) คือรุ่นที่สามเท่านั้นเอง ยังถือว่าใหม่มาก
4. ค่าครองชีพพอๆกับไทย
5. การเดินทางโดยขนส่งสาธารณะไม่สะดวกนัก ถ้าจะมาเที่ยวแนะนำให้ขับรถเอง หรือจ้างคนขับรถค่ะ
6. สถานฑูตโรมาเนียในไทยปิดไปแล้ว ตอนนี้ที่ใกล้ที่สุดคือ Hanoi และ Kuala Lampur ก็ต้องเดินทางไปทำที่นู่น
7. อีก option คือ ใช้วีซ่าเชงเก้นเข้าโรมาเนียได้ค่ะ (แม้จะยังไม่เคยเข้ากลุ่มเชงเก้นมาก่อน ก็ใช้ได้) แต่ต้องเป็นแบบ multi นะ ดังนั้น แนะนำมาก สำหรับคนที่มีวีซ่าเชงเก้นหรือจะเดินทางในกลุ่มประเทศเหล่านี้อยู่แล้ว สามารถเพิ่มโรมาเนียมาเป็น ทริปแถมได้ทั้งก่อนและหลังเข้าเชงเก้น ส่วนตัวเราเอง ไปโรมาเนียรอบนี้จากเมืองไทย ไป-กลับจากไทยเป็นทริปแยกมาเลย ก่อนจะใช้วีซ่าเชงเก้นฝรั่งเศสเข้าเชงเก้นในภายหลัง ก็สามารถทำได้ค่ะ
แลกเงินจากสนามบินให้แค่พอใช้นิดหน่อยในวันแรก ที่เหลือไปแลกในเมืองค่ะ rate ดีกว่ากันมากๆ เราแลกจากในสนามบิน ยูโรละ 5.12 Lei ในเมือง 5.52 Lei แน่ะ เสียดายตังค์ฺมาก
8. อย่านั่ง taxi เพราะเคี่ยวมาก ยิ่งกว่า taxi สนามบินบ้านเรา อันนี้ขอติดดาว เพราะเราได้รับการย้ำนักย้ำหนาจากคนท้องที่มาค่ะ
9.น้ำก๊อกกินได้ แต่น้ำแร่อร่อยกว่า และไม่แพง แนะนำยี่ห้อ Borsec, Aqua Carpathians (AC)
=====
วันที่ 1
=====
เดินทางถึงสนามบินแล้ว ไปรับกระเป๋า มีอยู่แค่ 3 belt terminal เล็กมากจริงๆ กระทัดรัดสะดวกดี
ออกจากทางออกจะมีร้านขายดอกไม้ ติดกันมีร้านขายของจิปาถะ สามารถซื้อ SIM card ได้ตรงนั้นเลยค่ะ ราคา 5-6 ยูโร ใช้ได้ 35 GB และโทรอีกมหาศาล (ซึ่งไม่ได้ใช้เลย) คุณป้าคนขายใจดีน่ารัก เขาจะจัดการเซ็ตเครื่องให้เลยค่ะ
.
หลังจากนั้นเดินไปตรวจส่วน Rental car company ที่อยู่ใน terminal เดียวกันนี่แหละ ไปติดต่อเรื่องรถเช่า ของเราเช่ากับบริษัท Alamo ค่ะ ซึ่งเขาจะใช้ counter ของ Enterprise เราเลยงงหน่อย เดินไปเดินมา หากว่าจะเจอว่า อ้อ ใช้ชื่อนี้หรอกเรอะ 55 ติดต่อเรือ่งเอกสารเรียบร้อยแล้วเขาก็จะให้เรานั่งรถตู้ไปตรงลานจอดของรถเช่า แล้วไปรับรถที่นั่นค่ะ เราจอง Opel Astra station wagon or similar มา มาถึงจริงๆได้ยี่ห้อ Dacia ค่ะ Station wagon เหมือนกัน
.
รถส่วนใหญ่ในโรมาเนีย เป็นเกียร์ธรรมดา ดังนั้นตอนเช่า ถ้าไม่ถนัด ต้องระบุไปเลยว่าเอาเกียร์ automatic และอย่าลืม เพิ่ม air conditioner ด้วย จะได้ขับรถไปอย่างสบายจิต
.
นอกจากนี้ แม้จะเป็นเกียร์ auto แต่ดันไม่มี parking gear ซะงั้น เวลาจอดก็ต้องให้อยู่ใน N และดึงเบรคมือเอา แถมรถที่เราเช่ามา ยี่ห้อ Dacia (เป็นยี่ห้อ local ของที่นี่) เวลาเปลี่ยนเกียร์ทีนี่ ยังกะรถเกียร์ธรรมดา ไม่สมูทเลย มารู้ในภายหลังว่าปกติยี่ห้อนี้ก็ผลิตแต่เกียร์ manual หละ นี่มัน manual ในคราบ automatic สินะ หึ หึ ตอนขึ้นสะพานแล้วเข้าเกียร์ D พอปล่อยเบรคยังไหลอี๊ก! นี่มันรถ manual ใช่มั้ย นี่แกหลอกชั้นใช่ม้ายยยยย
.
ว่าแล้วเราก็ขนของขึ้นรถ แล้วออกเดินทางไปที่พักกันค่ะ อยู่ห่างจากสนามบินประมาณ 20 นาที ชื่อ Belli Siciliani
.
แผนที่ทำไว้ก่อนเดินทางสำหรับวันนี้คือ มีแค่เข้าที่พักแล้วหาอะไรกิน เท่านี้จริงๆค่ะ 555
.
ที่พักของเราเป็นแบบ B&B เขาเป็นร้านอาหารซิซิเลี่ยน แล้วก็เปิดห้องสองห้องส่วนที่ติดกับลานของร้านให้เช่า ที่จอดรถก็คือ จอดตรงริมถนนนั่นแหละค่ะ ตอนเรามาถึง มีคนนั่งกินอยู่นิดหน่อย ห้องยังไม่พร้อม เขาให้นั่งรอก่อน เราก็เลยนิ่งไปสั่งอาหารมากินไปด้วย เพราะหิวจัดทั้งเราและเพื่อน เจ้าของร้านก็เอากาแฟมาเสิร์ฟเป็น welcome drink ฟรีอีก เริ่ดมาก อาหารโคตรอร่อย ชอบมาก
ห้องพักเหมือนอยู่บ้านเพื่อน ไม่ได้มีอะไรแฟนซี แต่ด้วยราคาที่ถูก เฉลี่ยแค่คนละ 750 บาทต่อคืน ถือว่าคุ้มมาก เรากินอาหารกันเสร็จแล้วก็เข้าห้องพัก แต่แบบ .. ฟ้ายังสว่างอยู่เลย ก็เลยออกไปเดินเล่นกัน
ทำเลที่นี่ไกลจาก Old town ศูนย์กลางเมืองพอสมควร ต้องเดินประมาณ 20 นาที ถนนที่เดินก็มีบ้านร้าง
เต็มไปหมด ก็ค่อนข้างน่ากลัวเหมือนกันนะ แต่ก็รอดปลอดภัยดี ขอบคุณคุณพระคุณเจ้า
เราเดินไปย่าน University Square ดูตึกใหญ่ สวยๆรอบๆ แต่พบว่ามีพ่น Graffiti อยู่เต็ม น่าเสียดาย
หลังจากนั้นก็เดินเลาะถนนไปเรื่อยๆจนเข้าย่าน Old town ซึ่งเป็นย่านที่คึกคักด้วยร้านอาหารมากมาย ตึกสไตล์เก่าสวยงาม และแถบนี้มีโบสถ์สามแห่งที่น่าสนใจซึ่งเราก็ไปแวะมาครบ
.
Stavropoleos Monastery เป็นโบสถ์เก่าแก่ที่สร้างตั้งแต่ปี 1724 พังไปหลายรอบก็สร้างใหม่ ตัวโบสถ์เก่าแก่ เล็ก และมืด เข้าไปนี่โคตรได้บรรยากาศแบบ Orthodox เลย
รูปด้านหน้าลืมถ่ายมา เอามาจาก Wikipedia ละกันนะคะ
.
ด้านในจะเล็กๆและมืดค่ะ
ที่นั่งสำหรับผู้เข้ามาสักการะ (ของคริสต์เข้าใช้คำนี้รึเปล่านะ? นี่ก็ไม่ถนัด) จะแคบๆมืดๆค่ะ
อาคารเล็กนิดเดียว ข้างๆเป็นลานกลางแจ้ง มีระบียงรอบ สวยงามมาก รู้สึกเหมือนเดินอยู่ในอาณาจักรโบราณยังไงไม่รู้ บรรยากาศมันขลังดี
ถือเป็นการเริ่มต้นทำความรู้จักกับคริสต์แบบ Greek Orthodox ที่ดีมากเลย
ออกจากที่นี่ เราเดินมั่วๆไปเรื่อยๆ ก็ไปเจอ St Demetrius Church ซึ่งเป็นโบสถ์แบบสมัยใหม่หน่อย เราเข้าไปเขากำลังมีพิธีกรรมกันอยู่พอดี เลยไม่ได้ก้าวต่อ เพราะดูขรึมขลังมาก ก็ยืนดูเงียบๆแป๊บนึง ไม่กล้าถ่ายรูป
หลังจากนั้นเดินต่อไปอีกหน่อยก็จะเจอ Biserica Sfântul Anton อยู่ในสวนเล็กๆ กลางย่าน old town เลย ตัวอาคารภายนอกเป็นอิฐก่อ สวยงาม เสียดายที่พอเราย่างเท้าเข้าไปถึงอาคาร ก็ได้เวลาปิดพอดี #เฮือก (นี่ก็ไม่ได้ถ่ายรูปมาอีก ขออภัย)
.
แถบติดถนนใหญ่จะมีร้าน dm ที่ละม้าย tesco lotus express บ้านเรา แวะซื้อของกินของใช้กันได้ ส่วนที่อยู่ไม่ติดถนนใหญ่จึงจะเป็นร้านอาหารทั้งกลางวันและร้านกลางคืนทั้งหลาย มีให้เลือกเต็มที่มาก ถ้าเรายังไม่ได้กินมื้อเย็นกันมา ก็คงมากินแถวนี้นั่นแหละ
เดินจนเมื่อยพอใจแล้วเรา ก็กลับไปนอนพักผ่อน
[CR] เที่ยวยุโรปด้วยงบ สามหมื่นนิดๆ (รวมตั๋วเครื่องบิน!): โรมาเนีย ประเทศถูกมองข้าม
.
เมื่อก่อนเรารีวิวแต่ญี่ปุ่นเสียเป็นส่วนใหญ่ วันนี้ขอข้ามฟากไปทางฝั่งยุโรปบ้าง
.
ปีนี้จับพลัดจับผลู ได้ไปโรมาเนียค่ะ และชอบมาก
.
เราใช้เวลา รวมวันเดินทาง เป็น 9 วันค่ะ มีเวลาในโรมาเนีย7 วันเต็ม
.
ข้อควรรู้คร่าวๆ เกี่ยวกับโรมาเนียคือ
2. ประวัติศาสตร์สัมพันธ์กับฮังการีอย่างใกล้ชิด แต่ปัจจุบันไม่ถูกกันซะละ
3. เมื่อก่อนไม่มีกษัตริย์ของตัวเอง พอรวมชาติได้ก็ร่อนจดหมายไปขอราชวงศ์ต่างๆในยุโรปให้ช่วยส่งใครมาเป็นกษัตริย์ให้หน่อย เลยได้กษัตริย์โรมาเนียที่เป็นชาวเยอรมันมาค่ะ ปราสาทแรกที่สร้างก็คือปราสาทเปเลช วึ่งมีอิทธิพลของศิลปะเยอรมันอยู่อย่างเต็มเปี่ยม ปัจจุบันกษัตริย์ (แต่ในนาม) คือรุ่นที่สามเท่านั้นเอง ยังถือว่าใหม่มาก
4. ค่าครองชีพพอๆกับไทย
5. การเดินทางโดยขนส่งสาธารณะไม่สะดวกนัก ถ้าจะมาเที่ยวแนะนำให้ขับรถเอง หรือจ้างคนขับรถค่ะ
6. สถานฑูตโรมาเนียในไทยปิดไปแล้ว ตอนนี้ที่ใกล้ที่สุดคือ Hanoi และ Kuala Lampur ก็ต้องเดินทางไปทำที่นู่น
7. อีก option คือ ใช้วีซ่าเชงเก้นเข้าโรมาเนียได้ค่ะ (แม้จะยังไม่เคยเข้ากลุ่มเชงเก้นมาก่อน ก็ใช้ได้) แต่ต้องเป็นแบบ multi นะ ดังนั้น แนะนำมาก สำหรับคนที่มีวีซ่าเชงเก้นหรือจะเดินทางในกลุ่มประเทศเหล่านี้อยู่แล้ว สามารถเพิ่มโรมาเนียมาเป็น ทริปแถมได้ทั้งก่อนและหลังเข้าเชงเก้น ส่วนตัวเราเอง ไปโรมาเนียรอบนี้จากเมืองไทย ไป-กลับจากไทยเป็นทริปแยกมาเลย ก่อนจะใช้วีซ่าเชงเก้นฝรั่งเศสเข้าเชงเก้นในภายหลัง ก็สามารถทำได้ค่ะ
แลกเงินจากสนามบินให้แค่พอใช้นิดหน่อยในวันแรก ที่เหลือไปแลกในเมืองค่ะ rate ดีกว่ากันมากๆ เราแลกจากในสนามบิน ยูโรละ 5.12 Lei ในเมือง 5.52 Lei แน่ะ เสียดายตังค์ฺมาก
8. อย่านั่ง taxi เพราะเคี่ยวมาก ยิ่งกว่า taxi สนามบินบ้านเรา อันนี้ขอติดดาว เพราะเราได้รับการย้ำนักย้ำหนาจากคนท้องที่มาค่ะ
9.น้ำก๊อกกินได้ แต่น้ำแร่อร่อยกว่า และไม่แพง แนะนำยี่ห้อ Borsec, Aqua Carpathians (AC)
=====
วันที่ 1
=====
เดินทางถึงสนามบินแล้ว ไปรับกระเป๋า มีอยู่แค่ 3 belt terminal เล็กมากจริงๆ กระทัดรัดสะดวกดี
ออกจากทางออกจะมีร้านขายดอกไม้ ติดกันมีร้านขายของจิปาถะ สามารถซื้อ SIM card ได้ตรงนั้นเลยค่ะ ราคา 5-6 ยูโร ใช้ได้ 35 GB และโทรอีกมหาศาล (ซึ่งไม่ได้ใช้เลย) คุณป้าคนขายใจดีน่ารัก เขาจะจัดการเซ็ตเครื่องให้เลยค่ะ
.
หลังจากนั้นเดินไปตรวจส่วน Rental car company ที่อยู่ใน terminal เดียวกันนี่แหละ ไปติดต่อเรื่องรถเช่า ของเราเช่ากับบริษัท Alamo ค่ะ ซึ่งเขาจะใช้ counter ของ Enterprise เราเลยงงหน่อย เดินไปเดินมา หากว่าจะเจอว่า อ้อ ใช้ชื่อนี้หรอกเรอะ 55 ติดต่อเรือ่งเอกสารเรียบร้อยแล้วเขาก็จะให้เรานั่งรถตู้ไปตรงลานจอดของรถเช่า แล้วไปรับรถที่นั่นค่ะ เราจอง Opel Astra station wagon or similar มา มาถึงจริงๆได้ยี่ห้อ Dacia ค่ะ Station wagon เหมือนกัน
.
รถส่วนใหญ่ในโรมาเนีย เป็นเกียร์ธรรมดา ดังนั้นตอนเช่า ถ้าไม่ถนัด ต้องระบุไปเลยว่าเอาเกียร์ automatic และอย่าลืม เพิ่ม air conditioner ด้วย จะได้ขับรถไปอย่างสบายจิต
.
นอกจากนี้ แม้จะเป็นเกียร์ auto แต่ดันไม่มี parking gear ซะงั้น เวลาจอดก็ต้องให้อยู่ใน N และดึงเบรคมือเอา แถมรถที่เราเช่ามา ยี่ห้อ Dacia (เป็นยี่ห้อ local ของที่นี่) เวลาเปลี่ยนเกียร์ทีนี่ ยังกะรถเกียร์ธรรมดา ไม่สมูทเลย มารู้ในภายหลังว่าปกติยี่ห้อนี้ก็ผลิตแต่เกียร์ manual หละ นี่มัน manual ในคราบ automatic สินะ หึ หึ ตอนขึ้นสะพานแล้วเข้าเกียร์ D พอปล่อยเบรคยังไหลอี๊ก! นี่มันรถ manual ใช่มั้ย นี่แกหลอกชั้นใช่ม้ายยยยย
.
ว่าแล้วเราก็ขนของขึ้นรถ แล้วออกเดินทางไปที่พักกันค่ะ อยู่ห่างจากสนามบินประมาณ 20 นาที ชื่อ Belli Siciliani
.
แผนที่ทำไว้ก่อนเดินทางสำหรับวันนี้คือ มีแค่เข้าที่พักแล้วหาอะไรกิน เท่านี้จริงๆค่ะ 555
.
ที่พักของเราเป็นแบบ B&B เขาเป็นร้านอาหารซิซิเลี่ยน แล้วก็เปิดห้องสองห้องส่วนที่ติดกับลานของร้านให้เช่า ที่จอดรถก็คือ จอดตรงริมถนนนั่นแหละค่ะ ตอนเรามาถึง มีคนนั่งกินอยู่นิดหน่อย ห้องยังไม่พร้อม เขาให้นั่งรอก่อน เราก็เลยนิ่งไปสั่งอาหารมากินไปด้วย เพราะหิวจัดทั้งเราและเพื่อน เจ้าของร้านก็เอากาแฟมาเสิร์ฟเป็น welcome drink ฟรีอีก เริ่ดมาก อาหารโคตรอร่อย ชอบมาก
ห้องพักเหมือนอยู่บ้านเพื่อน ไม่ได้มีอะไรแฟนซี แต่ด้วยราคาที่ถูก เฉลี่ยแค่คนละ 750 บาทต่อคืน ถือว่าคุ้มมาก เรากินอาหารกันเสร็จแล้วก็เข้าห้องพัก แต่แบบ .. ฟ้ายังสว่างอยู่เลย ก็เลยออกไปเดินเล่นกัน
ทำเลที่นี่ไกลจาก Old town ศูนย์กลางเมืองพอสมควร ต้องเดินประมาณ 20 นาที ถนนที่เดินก็มีบ้านร้าง
เต็มไปหมด ก็ค่อนข้างน่ากลัวเหมือนกันนะ แต่ก็รอดปลอดภัยดี ขอบคุณคุณพระคุณเจ้า
เราเดินไปย่าน University Square ดูตึกใหญ่ สวยๆรอบๆ แต่พบว่ามีพ่น Graffiti อยู่เต็ม น่าเสียดาย
หลังจากนั้นก็เดินเลาะถนนไปเรื่อยๆจนเข้าย่าน Old town ซึ่งเป็นย่านที่คึกคักด้วยร้านอาหารมากมาย ตึกสไตล์เก่าสวยงาม และแถบนี้มีโบสถ์สามแห่งที่น่าสนใจซึ่งเราก็ไปแวะมาครบ
.
Stavropoleos Monastery เป็นโบสถ์เก่าแก่ที่สร้างตั้งแต่ปี 1724 พังไปหลายรอบก็สร้างใหม่ ตัวโบสถ์เก่าแก่ เล็ก และมืด เข้าไปนี่โคตรได้บรรยากาศแบบ Orthodox เลย
รูปด้านหน้าลืมถ่ายมา เอามาจาก Wikipedia ละกันนะคะ
.
ด้านในจะเล็กๆและมืดค่ะ
ที่นั่งสำหรับผู้เข้ามาสักการะ (ของคริสต์เข้าใช้คำนี้รึเปล่านะ? นี่ก็ไม่ถนัด) จะแคบๆมืดๆค่ะ
อาคารเล็กนิดเดียว ข้างๆเป็นลานกลางแจ้ง มีระบียงรอบ สวยงามมาก รู้สึกเหมือนเดินอยู่ในอาณาจักรโบราณยังไงไม่รู้ บรรยากาศมันขลังดี
ถือเป็นการเริ่มต้นทำความรู้จักกับคริสต์แบบ Greek Orthodox ที่ดีมากเลย
ออกจากที่นี่ เราเดินมั่วๆไปเรื่อยๆ ก็ไปเจอ St Demetrius Church ซึ่งเป็นโบสถ์แบบสมัยใหม่หน่อย เราเข้าไปเขากำลังมีพิธีกรรมกันอยู่พอดี เลยไม่ได้ก้าวต่อ เพราะดูขรึมขลังมาก ก็ยืนดูเงียบๆแป๊บนึง ไม่กล้าถ่ายรูป
หลังจากนั้นเดินต่อไปอีกหน่อยก็จะเจอ Biserica Sfântul Anton อยู่ในสวนเล็กๆ กลางย่าน old town เลย ตัวอาคารภายนอกเป็นอิฐก่อ สวยงาม เสียดายที่พอเราย่างเท้าเข้าไปถึงอาคาร ก็ได้เวลาปิดพอดี #เฮือก (นี่ก็ไม่ได้ถ่ายรูปมาอีก ขออภัย)
.
แถบติดถนนใหญ่จะมีร้าน dm ที่ละม้าย tesco lotus express บ้านเรา แวะซื้อของกินของใช้กันได้ ส่วนที่อยู่ไม่ติดถนนใหญ่จึงจะเป็นร้านอาหารทั้งกลางวันและร้านกลางคืนทั้งหลาย มีให้เลือกเต็มที่มาก ถ้าเรายังไม่ได้กินมื้อเย็นกันมา ก็คงมากินแถวนี้นั่นแหละ
เดินจนเมื่อยพอใจแล้วเรา ก็กลับไปนอนพักผ่อน