Thor: Ragnarok
ไม่มี Spoil
ความรู้สึกล้วนๆคือ หนังภาคนี้โทนหนังมันต่างจากเดิมไปเยอะมาก กลายเป็นตลกสามช่าไปเลย แต่ถามว่าฮาขี้แตกแค่ไหน ก็ไม่ได้ตลกตกเก้าอี้มากนัก บางมุกก็ปัญญาอ่อนก็มี มีทุกเลเวล แต่อย่างน้อยคือรสชาติของหนังแตกต่างจากสองภาคแรกจริงๆ
พล็อตเรื่อง โอ้โห้จริงๆถ้าให้อธิบายสั้นๆนะ หนังภาคนี้ไม่มีอะไรเลยนอกจากเอาเหตุการณ์มาต่อเหตุการณ์ เป็นแค่ "ห้วงเดียว" ของจักรวาลมาร์เวลก็ได้ เพราะสถานการณ์หลักๆ มีแค่ ธอร์หลุดไปอยู่ดาวกองขยะได้เจอกับฮัลค์ กับ การกู้แอสการ์ดที่เฮล่ายึดครอง อันนี้คือเส้นเรื่องหลักของหนังภาคนี้ ซึ่งแบ่งสรรปันส่วนแล้ว 2 ชั่วโมง 10 นาทีก็ถือว่าแอบยาว แต่เหมือนเราดู "จักรวาลมาร์เวล" เป็น "ซีรีส์" กันไปแล้ว ดังนั้นเหมือนดูรายละเอียดปลีกย่อย ความสัมพันธ์ตัวละครอะไรกันแบบนั้นซะมากกว่า
ความ "สะดิ้ง" ของหนังภาคนี้ คือตัวละครแต่ละตัวจะมีซีนประเภท "วิคตอเรีย ซีเครท" กันทุกคน ไม่เว้นกระทั่ง ธอร์ที่จะมีซีนแบบขายของ ขายคาแรกเตอร์ให้คนดู อู้ว อ้า กันไปตามเรื่องตามราว (ลองไปดูเองแล้วกัน) แต่เหมือนผู้กำกับจะบรีฟให้บรรดาสาวๆในเรื่อง (กระทั่งตัวประกอบ) เล่นเป็นนางแบบรันเวย์กันอยู่ตลอดเวลา ดูท่าเดินของเฮล่า โดยคุณแม่ เคต บลันเชตต์ และวัลคีรี่ (เทสซ่า ทอมป์สัน) โดยเฉพาะซีนบนสะพานที่เชื่อมกับประตูมิตินี่แบบว่า ดนตรีประกอบฉากตอนนั้น ใช่เลย
ถามว่าภาพรวมหนังก็เป็นมาร์เวลที่ดูสนุกนั่นแหละ เพียงแค่เราอาจจะไม่ได้ว้าวกับพล็อตเรื่องนัก ดูสนุกเป็นช่วงๆ แต่ข้อดีมากๆของหนังภาคนี้อย่างที่บอกไปคือบรรดาตัวละครแต่ละตัวมีซีนเป็นของตัวเอง
อ่อแล้วที่ชอบมากๆอย่างหนึ่งก็คือหนังมีประเด็นที่ว่า "ความรุ่งเรืองของทุกอาณาจักรนั้น ไม่ได้เริ่มต้นด้วยความงดงามแบบจิตรกรรมฝาผนัง" หรอก ถึงจะเป็นโมเมนต์เล็กๆ แต่เราว่ามันอธิบายโลกของแอสการ์ดได้น่าสนใจมากทีเดียว
ตามไปอ่านรีวิวเรื่องอื่นๆได้ที่ :
https://www.facebook.com/PrettyPlaSalid/
ขอบคุณครับ
[SR] [ดูหนังกับพริตตี้ปลาสลิด] THOR : RAGNAROK เมื่อมาร์เวลใส่ความ "สะดิ้ง" ลงไปในตัวละคร ผลลัพธ์ก็จะเป็นแบบนี้
Thor: Ragnarok
ไม่มี Spoil
ความรู้สึกล้วนๆคือ หนังภาคนี้โทนหนังมันต่างจากเดิมไปเยอะมาก กลายเป็นตลกสามช่าไปเลย แต่ถามว่าฮาขี้แตกแค่ไหน ก็ไม่ได้ตลกตกเก้าอี้มากนัก บางมุกก็ปัญญาอ่อนก็มี มีทุกเลเวล แต่อย่างน้อยคือรสชาติของหนังแตกต่างจากสองภาคแรกจริงๆ
พล็อตเรื่อง โอ้โห้จริงๆถ้าให้อธิบายสั้นๆนะ หนังภาคนี้ไม่มีอะไรเลยนอกจากเอาเหตุการณ์มาต่อเหตุการณ์ เป็นแค่ "ห้วงเดียว" ของจักรวาลมาร์เวลก็ได้ เพราะสถานการณ์หลักๆ มีแค่ ธอร์หลุดไปอยู่ดาวกองขยะได้เจอกับฮัลค์ กับ การกู้แอสการ์ดที่เฮล่ายึดครอง อันนี้คือเส้นเรื่องหลักของหนังภาคนี้ ซึ่งแบ่งสรรปันส่วนแล้ว 2 ชั่วโมง 10 นาทีก็ถือว่าแอบยาว แต่เหมือนเราดู "จักรวาลมาร์เวล" เป็น "ซีรีส์" กันไปแล้ว ดังนั้นเหมือนดูรายละเอียดปลีกย่อย ความสัมพันธ์ตัวละครอะไรกันแบบนั้นซะมากกว่า
ความ "สะดิ้ง" ของหนังภาคนี้ คือตัวละครแต่ละตัวจะมีซีนประเภท "วิคตอเรีย ซีเครท" กันทุกคน ไม่เว้นกระทั่ง ธอร์ที่จะมีซีนแบบขายของ ขายคาแรกเตอร์ให้คนดู อู้ว อ้า กันไปตามเรื่องตามราว (ลองไปดูเองแล้วกัน) แต่เหมือนผู้กำกับจะบรีฟให้บรรดาสาวๆในเรื่อง (กระทั่งตัวประกอบ) เล่นเป็นนางแบบรันเวย์กันอยู่ตลอดเวลา ดูท่าเดินของเฮล่า โดยคุณแม่ เคต บลันเชตต์ และวัลคีรี่ (เทสซ่า ทอมป์สัน) โดยเฉพาะซีนบนสะพานที่เชื่อมกับประตูมิตินี่แบบว่า ดนตรีประกอบฉากตอนนั้น ใช่เลย
ถามว่าภาพรวมหนังก็เป็นมาร์เวลที่ดูสนุกนั่นแหละ เพียงแค่เราอาจจะไม่ได้ว้าวกับพล็อตเรื่องนัก ดูสนุกเป็นช่วงๆ แต่ข้อดีมากๆของหนังภาคนี้อย่างที่บอกไปคือบรรดาตัวละครแต่ละตัวมีซีนเป็นของตัวเอง
อ่อแล้วที่ชอบมากๆอย่างหนึ่งก็คือหนังมีประเด็นที่ว่า "ความรุ่งเรืองของทุกอาณาจักรนั้น ไม่ได้เริ่มต้นด้วยความงดงามแบบจิตรกรรมฝาผนัง" หรอก ถึงจะเป็นโมเมนต์เล็กๆ แต่เราว่ามันอธิบายโลกของแอสการ์ดได้น่าสนใจมากทีเดียว
ตามไปอ่านรีวิวเรื่องอื่นๆได้ที่ : https://www.facebook.com/PrettyPlaSalid/
ขอบคุณครับ