ไปเล่นกับน้องกวางที่เมืองนารา

เราเห็นน้องกวางน้อยอยู่ไกลๆ และนั่นมันคือสัญญาณว่าเราได้มาถึง Nara Park แล้ว เรารีบวิ่งกระโดดไปข้างหน้าอย่างตื่นเต้น แต่จริงๆแล้วความรู้สึกเราเหมือนกำลังลอยมาซะมากกว่า~~ เราค่อนข้างติดนิสัยแบบเด็กๆคือชอบกระโดดโลดเต้นอยู่ไม่เป็นสุข หรือถ้ามีความสุขมากๆเราสามารถเต้นรำคนเดียวได้เลยนะ 5555 ＼(^o^)／(o^^o)♪ แต่จะเป็นเฉพาะกับคนที่สนิทมากๆเท่านั้นนะคะ ถ้าคนที่ไม่รู้จักเราใครเห็นก็จะบอกว่าเราเรียบร้อยมากกกกก คงเป็นเพราะหน้าตาที่แลดูเรียบร้อยซึ่งมันทรยศนิสัยมากๆเลย (เหลือกตา) 🙄











กลุ่มน้องกวางส่วนนึงกำลังทะยอยเดินมาหาเรา พวกมันกำลังเดินเข้ามาขออาหารด้วยดวงตาที่เปี่ยมไปด้วยความหวัง คุณแฟนเลยไปซื้อของกินมาให้มัน ป้อนมันอย่างละมุนละไม โอ๊ะโอ~! (ˊo̶̶̷ᴗo̶̶̷`) ขอ save รูปที่เราเห็นตอนนี้ไว้ในความทรงจำก่อนนะคะ ภาพคุณแฟนที่กำลังป้อนอาหารน้องกวาง มันอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก อ๋อยยยยย~~! เรารู้สึกว่าเราได้ตกหลุมรักหนุ่มญี่ปุ่นคนนี้อีกรอบแล้วล่ะค่ะ ( ´͈ ॢꇴ `͈ॢ)･*♡ ว้ายยย~! เขิลลล~~♡ 5555






บรรยากาศรอบๆตอนนี้มีนักท่องเที่ยวเยอะมากค่ะ ดูแล้วน่าจะเป็นชาวจีนซะส่วนใหญ่ ครึกครื้นไปด้วยผู้คนที่เดินผ่านไปมา พวกเราเดินกันไปเรื่อยๆและมองไปรอบๆ ตอนนี้ท้องฟ้าโปร่งสดใส อากาศก็กำลังร้อนได้ที่เลยทีเดียวค่ะ เราเดินไปอีกฝั่งของสวน จุดนี้จะมีน้องกวางเยอะมาก และกำลังทยอยเดินมาหาผู้คน เรารีบหยิบขนมให้ แต่อยู่ๆก็พากันเดินมาเพิ่มมาจากไหนก็ไม่รู้เยอะแยะไปหมด เราหันไปอีกทาง แล้วก็รู้สึกเจ็บแปล๊บตรงช่วงท้อง (O_O!)

N : "โอ๊ย!" ∑(ﾟДﾟ)! เราร้องออกมา แต่พอก้มดูคือ โดนน้องกวางงับพุงค่ะ งับจริงๆ งับแรงและเจ็บมากด้วย! ตอนนี้เราถูกรุมล้อมไปด้วยน้องกวางประมาณ 4-5 ตัวได้ พวกมันค่อยๆเดินย่องเข้ามาใกล้ๆเรา แล้วอยู่ดีๆเราก็รู้สึกกลัวพวกมันขึ้นมา เลยรีบเดินหนี อย่ามากัดพุงชั้นอีกรอบนะ มันเจ็บนะเห้ยยย!!!
ส่วนคุณแฟนก็ยืนขำค่ะ ไม่ได้ช่วยอะไรน้องเลย (T^T) ฮึ่ยยย~! ไอ้คุณแฟนบ้านี่! อยากจะขว้างขนมน้องกวางใส่แฟน 5555




ตอนนี้เราไม่กล้าเข้าใกล้น้องกวางมากเท่าไหร่แล้ว จึงเดินถ่ายรูปตามทางไปเรื่อยๆ แล้วก็ได้ยินเสียงน้องกวางร้อง เรากับแฟนมองหน้ากันแบบ ห๊ะ!? แล้วก็หันไปดูน้องกวางใหม่ เป็นครั้งแรกของพวกเราเลยที่ได้ยินเสียงน้องกวาง คุณแฟนก็บอกครั้งแรกของเค้าเหมือนกัน แต่เสียงมันน่ารักดีนะคะ ไม่ได้ดังอะไรมาก เหมือนร้องอยู่ในลำคอ น้องกวางบางตัวก็ดูน่ารัก บางตัวก็ดูน่ากลัว บางตัวก็แก่มากไม่ค่อยจะเดินไปไหน กวางที่นี่ส่วนใหญ่จะขออาหารกับนักท่องเที่ยวเป็นเรื่องปกติ บางตัวก็อาจจะโจมตีบ้างเล็กน้อยเหมือนที่เราโดน แต่บางตัวก็ตะกละถึงขั้นกินทุกอย่างที่ขวางหน้าเลยค่ะ (-__-?) เราเห็นนักท่องเที่ยวถือแผนที่เล็กๆอยู่ น้องกวางก็มางับแย่งไปเลยซะงั้น โอ้วววว แม่จ้าววว~~ ( ´▽｀) ส่วนใครที่จะมาเที่ยวที่นี่ก็ต้องระมัดระวังกันด้วยนะคะ มันไม่ได้อันตรายอะไรมาก แต่อาจจะเป็นเงินที่ถืออยู่หรือเอกสารสำคัญอย่างอื่นก็ได้ ฮาาา

ตลอดเวลาที่พวกเราเดินเที่ยวกัน เรามองแฟนเราตลอดเลยค่ะ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม มันเหมือนมีมนต์สะกดอะไรสักอย่างดึงดูดสายตาเราตลอด (อย่าพึ่งอ้วกกันนะคะเพื่อนๆ 555 อยากเล่าถึงความรู้สึกในตอนนั้นค่ะ ^^) คือแบบเอาจริงๆเดินผ่านคนหล่อๆก็เยอะ แต่เราก็มองแบบผ่านๆ ต่างกันกับเวลาที่มองแฟนเลย คือเรามองพี่เค้าด้วยความรัก มองทุกกริยาการกระทำ การเดินของพี่เค้า การป้อนขนมให้น้องกวาง เราก็แอบถ่ายรูปเค้าไปเรื่อยๆ เรารู้สึกชอบทุกอย่างที่เป็นเค้ามากๆเลยค่ะ ถ้าพูดให้เห็นภาพคือเหมือนมีหัวใจลอยอยู่บนหัวของเราตลอดเวลาเลยค่ะ นี่เราเป็นอะไรไปนะ? 5555 (//∇//)



















พวกเราอยู่ที่เมืองนารากันจนถึงบ่าย 2 แล้วก็กลับโอซากะ กว่าจะถึงก็เกือบจะเย็นแล้วค่ะ วันนี้เราก็รู้สึกเพลียหน่อยๆ เพราะเมื่อคืนรู้สึกเหมือนนอนไม่พอ พี่เค้าขับรถมาจนถึงบ้านเค้าแล้วก็ลากเราให้เข้าไปในบ้าน ส่วนน้องสาวเค้าออกไปข้างนอกยังไม่กลับค่ะ พี่เค้าเลยพาเราไปนั่งที่ห้องนั่งเล่นชั้นล่าง แล้วเค้าก็เดินไปเอาขนมในห้องครัวมาให้เรา นั่งดูทีวีกันไปกินขนมกันไป แล้วสักพักเค้าก็มาหนุนตักเรานอนค่ะ เราก็ลูบผมเค้าเล่น พี่เค้านี่ดูๆแล้วเวลามาออดอ้อนนี่เหมือนเด็กน้อยมากๆเลยนะ

มองเวลาดูอีกทีก็เกือบทุ่มนึงแล้ว พี่เค้าเลยเดินไปที่ครัวทำข้าวเย็นให้เรากิน บอกตามตรงว่าเราเกรงใจเค้ามากๆเลยค่ะ ถึงเราจะอาสาช่วยเค้าขนาดไหน เค้าก็ไม่ยอมให้เราทำอะไรเลย ให้นั่งรอกินอย่างเดียว ง่อยจะแดร๊กแล้วนะคะแฟนข๋าาาาา~~ (￣▽￣) พอกินเสร็จสักพักพวกเราก็นั่งคุยกัน คือตอนนี้เรายังไม่ได้บุ๊คโรงแรมไว้ค่ะ อยากหาโรงแรมถูกๆใกล้ๆบ้านเค้า พี่เค้าก็บอกโรงแรมแถวนี้ไม่ถูกหรอกนะ (บ้านเค้าอยู่ใกล้ๆ Umeda ค่ะ) พี่เค้าบอกว่าวันนี้สงสัยน้องสาวเค้าจะไม่กลับบ้าน อาจจะไปค้างบ้านพ่อแม่ หรือบ้านเพื่อน หรือบ้านแฟน เค้าเลยขอให้เราค้างที่บ้านเค้าค่ะ เราก็ลังเลเพราะไม่อยากรบกวน แต่เค้าก็บอกมันดึกแล้วหาโรงแรมยาก ให้เราค้างเถอะ เราก็เลยตอบตกลงไป

พวกเรายกกระเป๋าขึ้นไปบนชั้น 2 ที่เป็นห้องนอน 2 ห้อง และห้องเก็บของอีก 1 ห้อง เราแอบเห็นว่าห้องเก็บของมันกว้างดี เราเลยขอเค้านอนที่ห้องนี้ค่ะ ยื้อกันอยู่นานสรุปคือเราชนะ เพราะห้องนี้มันไม่ได้แย่เลยนะ แค่เอาไว้เก็บเสื้อผ้า เก็บที่นอน แถมมีแอร์อีก ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว เราเลยจะลงไปอาบน้ำ

K : "ไปอาบน้ำด้วยกันได้มั้ยครับ?" (• •) พี่เค้าถามขึ้นด้วยสีหน้าที่มีความหวัง
N : ".........." เรายืนนิ่งสักพัก คิดอะไรหลายๆอย่าง อายน่ะ อายอยู่แล้ว แต่เห็นสีหน้าของพี่เค้าก็ใจอ่อน ไหนๆก็มาแล้ว แถมที่นี่ญี่ปุ่นไม่ใช่ที่ไทย เราเลยลดทิฐิลง และยิ้มพยักหน้าตอบรับเค้า ( ^ω^ )

พวกเราเดินมาที่ห้องน้ำ เราเลยขอให้เค้าปิดไฟในห้องน้ำ แต่เปิดไฟข้างนอกแทน แต่จริงๆแล้วยังไงมันก็สว่างอยู่ดี เห็นประมาณ 60% ได้ TT' พี่เค้ากำลังผสมน้ำอุ่นในอ่างอาบน้ำ (บ้านคนญี่ปุ่นส่วนใหญ่มีอ่างอาบน้ำค่ะ เอาไว้แช่ในฤดูหนาว) พออุ่นได้ที่แล้วก็ลงไปแช่น้ำในอ่าง ส่วนเรายังคงยืนเอามือปิดบนปิดล่างไว้อยู่ (-///-) เป็นผู้หญิงนี่มันลำบากจริงๆ ต้องมาปิดของสำคัญไว้ทั้ง 2 อย่างพร้อมกัน โอดโอยมากค่ะ (T///T) ส่วนหนุ่มญี่ปุ่นไม่ต้องพูดถึง แก้ผ้าโฉ่งฉ่างตั้งแต่เดินเข้าห้องน้ำละ พี่เค้ากำลังแช่น้ำแล้วหันมามองเรา อารมณ์ประมาณว่าเมื่อไหร่จะลงมาแช่ด้วยกันซะที? แต่เราก็ยังยืนนิ่งอยู่ที่เดิม ก่อนที่พี่เค้าจะเอื้อมมือมาดึงแขนเราให้ลงไปอาบด้วย (≧∀≦)!
ละ...ลองดูสักตั้งก็ได้ฟะ~! (๑•́ω•̀๑) ใจกล้าหน้าด้านเข้าไว้ เราได้แต่ปลอบตัวเอง ก่อนที่จะก้าวเข้าไปในอ่างด้วยความเหนียมอาย (〃ω〃)

ไว้มาตามต่อตอนหน้านะคะ ^^

อ่านตอนย้อนหลังได้ที่ https://ppantip.com/topic/36979764
อ่านตอนถัดไปได้ที่ https://ppantip.com/topic/37119297

ฝากเพจของพวกเราด้วยนะคะ https://web.facebook.com/nekocouplestory/