สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต อดีตรองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) ได้ออกมาเรียกร้องให้ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เร่งปลดล็อกเปิดไฟเขียวให้พรรคการเมืองต่างๆ สามารถเรียกประชุมพรรคและดำเนินกิจกรรมต่างๆ ให้เร็วที่สุด ภายหลังจากสิ้นสุดพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร

โดย ร.ท.หญิง สุณิสา กล่าวว่า คสช. ควรต้องเร่งปลดล็อกพรรคการเมืองให้เร็วที่สุด เพราะไม่เช่นนั้นอาจส่งผลทำให้พรรคการเมืองอาจถูกจับแพ้ฟาวล์ในการเลือกตั้ง เนื่องจากไม่สามารถส่งผู้สมัครลงแข่งขันในการเลือกตั้งจะมีขึ้นตามโรดแมปได้ เพราะอาจดำเนินการไม่ทันตามเวลา 180 วันตามที่กฎหมายกำหนด เช่น การระดมทุน การหาสมาชิกพรรค และจัดตั้งสาขาพรรคให้ครบตามจำนวนที่กำหนด เป็นต้น

“พรรคการเมืองไม่สามารถอ้างเรื่องการติดล็อกทางการเมือง มาเป็นเหตุผลเพื่อขอขยายเวลาออกไปอีกด้วย เพราะ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 ระบุชัดเจน ว่าให้เวลาพรรคการเมืองเก่าดำเนินการต่างๆ ภายใน 180 วันให้เสร็จสิ้น โดยไม่ได้มีข้อยกเว้นเรื่องการติดล็อกทางการเมืองเอาไว้ ดังนั้น พรรคการเมืองเก่ามีสถานะเป็นพรรคการเมืองก่อนที่ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองฉบับนี้มีผลบังคับใช้ โดยเฉพาะพรรคขนาดเล็กและไม่แข็งแรงจะเสียเปรียบพรรคการเมืองขนาดใหญ่ และพรรคการเมืองใหม่ที่กำลังจะยื่นจดทะเบียนจัดตั้งอย่างแน่นอน”

ร.ท.หญิง สุณิสา กล่าวต่อว่า การที่ คสช. ยังไม่ยอมปลดล็อกทางการเมือง ทำให้พรรคไม่สามารถเรียกประชุมสมาชิกพรรคได้ หากพรรคการเมืองทำสิ่งต่างๆ ไม่ทันตามที่กฎหมายกำหนด จะไม่มีสิทธิส่งผู้สมัครลงรับเรื่องตั้งได้ และอาจต้องยุบพรรคหรือตั้งพรรคใหม่ นอกจากนี้จะไม่มีสิทธิได้รับเงินอุดหนุนจากกองทุนพัฒนาพรรคการเมืองภายหลังการเลือกตั้งเสร็จสิ้นอีกด้วย

http://www.naewna.com/politic/299923

หมวดเจี๊ยบ วอนสังคมดูเจตนา  'หญิงหน่อย' หลังทำกิจกรรมแสดงออกถึงความจงรักภักดี แต่กลับถูกมองในลักษณะจับผิดโจมตีกันทางการเมือง อาจทำให้ประชาชนทั่วไป ที่มีเจตนาดีและอยากแสดงความจงรักภักดีต่อสถาบันรู้สึกท้อถอยหรือหมดกำลังใจ

ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต อดีตรองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ทำกิจกรรมปลูกดอกดาวเรืองแทนใจชาวลาดปลาเค้า และมีภาพการขึ้นรถมีเครื่องเสียง ซึ่งพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีมองว่าเป็นเรื่องไม่เหมาะสมโดยจะมีการเข้าไปพูดคุยทำความเข้าใจ ให้ยุติบทบาทและการดำเนินกิจกรรมนั้น ร.ท.หญิง สุณิสา ระบุว่าอยากให้ทุกฝ่ายมองถึงเจตนาที่ดีของ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ว่าท่านก็เป็นหนึ่งในคนไทยที่อยากมีส่วนร่วมในการแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศเป็นครั้งสุดท้าย เหมือนคนไทยคนอื่น ๆ คุณหญิง สุดารัตน์ ก็คงรู้สึกเหมือนคนทั่วๆ ไป ที่พร้อมจะทำอะไรเพื่อพ่อหลวง ร.9 อย่างสุดกำลังความสามารถที่จะกระทำได้ เพราะนี่ก็เป็นโอกาสสุดท้ายแล้ว ที่คนไทยทุกคนจะสามารถทำอะไรเพื่อถวายพระองค์ท่านเป็นครั้งสุดท้าย

ดังนั้น ทุกคนก็ย่อมยินดีที่จะทำงานถวายเจ้านายทุก ๆ พระองค์ ตามกำลังความสามารถที่มีอยู่แล้ว ตนจึงอยากให้ทุกฝ่ายเปิดใจรับฟังเหตุผลของ คุณหญิง สุดารัตน์ ด้วยใจที่เป็นธรรมและปราศจากอคติ ทั้งนี้ สิ่งที่ตนกังวล ก็คือ หากการแสดงออกถึงความจงรักภักดีกลับถูกจ้องมองในลักษณะจับผิดและถูกใช้เป็นประเด็นโจมตีกันทางการเมือง อาจทำให้ประชาชนทั่ว ๆ ไป ที่มีเจตนาดีและอยากแสดงความจงรักภักดีต่อสถาบันรู้สึกท้อถอยหรือหมดกำลังใจก็เป็นได้

https://news.voicetv.co.th/thailand/532279.html


ดิฉันเป็นประชาชนไทย ไม่ปฏิเสธการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญและได้เคยใช้สิทธินั้นมาแล้ว  แต่ก็ไม่เคยคิดว่าต้องเป็นระบอบประชาธิปไตยเท่านั้น ที่จะทำให้ประเทศชาติจึงจะเจริญพัฒนาได้ เพราะเห็นในอดีตที่ผ่านมาตั้งแต่ประวัติศาสตร์ประเทศไทยก็เดินทางมายืนอยู่ที่แผ่นดินนี้อย่างสง่างาม

ดิฉันจึงอยากเรียนให้ทราบด้วยความปรารถนาดีว่า..  เมื่อเวลาครบกำหนดที่มาถึงสุดท้ายของโรดแม็ปแล้ว  ถึงประชาชนจะรักลุงตู่ ชอบการทำงานของรัฐบาลลุงตู่อย่างไร   ต่อให้มีสิบลุงตู่ร้อยพันลุงตู่ก็ต้องปลดล๊อกให้พรรคการเมืองเลือกตั้งอยู่ดี  ไม่ต้องรีบร้อนจนเกินควร เพราะสาบานได้ไหมล่ะว่า พรรคการเมืองก็กำลังทำอะไรอยู่เพื่อเรื่องที่จะหาเสียงเข้ามามีอำนาจในรัฐสภากันบ้างแล้ว ดูสิคะที่ผ่านมามีใครบางคนที่ถูกสังคมติเตียนไปแล้ว  หมาดเจี๊ยบก็ยังแก้ตัวให้ไม่ใช่หรือ....?

เมื่อถึงเวลาใครล็อกอะไรไว้ตรงไหน ประชาชนจะไปปลดล็อกให้เองแหละค่ะ
ดูอย่างพ.ร.บ.สุดซอยสิคะ ประชาชนเขาก็ปลดให้เอง ไม่เชื่อก็จงติดตามดู

เข้าใจนะคะ..