ฮัลลโหล๊ววว ทู๊กกคนนนน เรามีไรจะเล่าให้ฟังแหละ เราไปเที่ยวมา ด้วยความที่แบบอ่านรีวิวคนอื่นมาเยอะ ได้ฟังคนอื่นเล่ามาก็เยอะ
อืมๆๆ มันก็จะอิจฉาาาอยู่หน่อยๆ ชวนใครก็ไม่มีใครไปกะเลาาเลยย ฮืออ ไปเองก้ได้งั้นนแถมเป็นทริปที่ No plan No idea และ No สติ
บางคนอาจจะงงแบบ อิบ้า 4000 จิงหรอ ตลกล่ะ!! คือไม่กินข้าวหรือนอนตามข้างทางหรอ 55555 โอเคคือว่า 4100 บาทที่เราใช้
ในทริปนี้ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบินเด้อ เนื่องจากว่ามันเป็นงบประมาณที่ไม่สามารถควบคุมและก็คงได้ราคาเดียวกันไม่น่าจะได้
ขึ้นอยู่กับว่าแต่ละคนจะสะดวกที่เท่าไรอะไรอย่างงี้เนอะ ส่วนตัวเราอ้ะเปนมนุษย์ประเภทกินง่ายอยู่ง่าย สายยชิลอะไรทำนองนั้น
ที่พักเราก็นอนตามโฮสเทล ซึ่งมันถูกอยู่แล้ว เรื่องกินเราก็กินไม่เยอะ ข้างทงข้างทางได้หมด
เอ้าามาา เข้าเรื่องเถอะ 5555 เรื่องมันยาววจริงๆละทีนี้
############### Day1 ###############
เราบินด้วยไฟล์ทใครๆก้บินได้ everyone can fly จากกรุงเทพสู่หลวงพระบาง ออกจากกรุงเทพ 14:30 ซึ่งนี่ก็ไปถึงสนามบินตั้งแต่เที่ยงครึ่ง Check in เดินผ่านตม. ชิลล์ๆ แต่ลืมกดเงินค่ะ 555 เด๋อตั้งแต่วันแรก ซึ่งเราไม่รู้ว่าถ้าผ่านตม. เข้าไปแล้ว โนเอทีเอมใดๆ!
กรี้ดดดดด จะเอาบัตรเครดิตไปแลกเป็นเงินสดก็ไม่มีของธนาคารนั้นอีก รู้สึกมันจะมีธนาคารกสิกรและไทยพาณิชย์นะ
แต่อิชั้นมีแต่บัตรกรุงเทพและกรุงศรี WTF! เอาวะ ไปกดเอาที่ลาวก็ได้ เสียค่าธรรมเนียมกด 100 นึงง เห้อมมม นังเด๋อ 2017
16:00 Landing at Luang Prabang International Airport เย่ ถึงล่ะ OMG คือบ้านเมืองเค้ามีแต่ภูเขาเต็มไปหมด เดินออกมาจาก ตม.
ก็จะเจอ Taxi Service แล้วก็ Exchange Money แต่!! เราแลกเงินยังไม่ได้ค่ะ 5555 เพราะไม่มีเงินน เดินออกมาจากประตูสนามบิน
นิดหน่อยก็จะเจอตู้เอทีเอ็มสามสี่ตู้เลย รอดตายละโว้ยย เรากดเงินมาประมาณ 1,035,000 kip คิดเป็นเงินไทยประมาณ 4000 มั้ง
เพราะเรามีตังแค่นี้ 55555 ทีนี้ก็ไปซื้อตั๋วรถเข้าเมืองตรง Taxi Service นั่นแหละ 50,000 kip จ้าา เป็นรถ minivan
ซึ่งบอกชื่อที่พักเราไปแค่นั้น เค้าก็จะไปส่งถึงที่เลย ดีงามมมมม
ปล. รูปนี้ไม่ได้ถ่ายเองนะ เอามาจาก facebook hostel ให้ดูว่าหน้าตาเป็นแบบไหนเฉยๆจ้า
จากสนามบินไปถึงที่พักประมาณ 30 นาทีเอง พี่คนขับรถก็ถามว่าทำไมมาคนเดียวล่ะ ทำไมไม่เอาแฟนมาด้วย เอ่ออออคือพี่คะ...
ตอบไม่ถูกเลยโว้ยย ได้แต่หัวเราะแห้งๆ 5555 และเราก็มาถึงที่พักโดยสวัสดิภาพในเวลา 17:00 Check in เข้าที่พัก จ่ายงงจ่ายเงินไปจ้า
อีก 85,000 kip คิดเป็นเงินไทยตกคืนละ 165 บาท ถูกแมะ?? เป็นโฮสเทล mixed dormitory 12 bed ห้องใหญ่มากกกก
แต่ทำเลของที่นี่จะห่างจากจุดศูนย์กลางของหลวงพระบางนิดหน่อยย ชื่อว่า Sabai Sabai Hostel Backpacker ซึ่งเราจะอยู่ที่นี่ 2 คืน
เก็บของนู่นนี่นั่นเสร็จละ ก็ออกมาเช่าจักรยานเอาไว้ปั่นไปในเมืองสักหน่อย เห็นเค้าบอกว่าปั่นจักรยานเที่ยวในหลวงพระบางได้ |
ค่าเช่าจักรยาน 30,000 kip เป็นจักรยานของโฮสเทล ฮืออ แอบแพงง่ะ ราวๆ 120 บาท ระยะเวลาในการเช่า 24 hr.
สักประมาณหกโมงเย็น เราก็ปั่นออกมาในเมือง กะว่าจะมาเดิน night market ก่อนออกมาน้อง staff ที่โฮสเทลรีบบอก
ระวังจักรยานหายเด้อค่ะ ขโมยเยอะ ให้ฝากหรือผูกไว้กับอะไรก็ได้
จ่ะ นี่ก็ปั่นออกมาเรื่อยๆ โทสัพนี่เราไม่ได้ซื้อซิมไรเลยนะ โหลดแต่ map offline มา ปรากฎว่าปั่นผิดเลนมั่ง ย้อนศรมั่ง 55555
ที่นี่เค้าขับกันเลนขวาจ้า เด๋อซ้ำไปอี้กกก โอ้ยยย สรุปว่าปั่นไปถึง night market นะ แต่หาที่จอดจักรยานดีดีปลอดภัยไม่เจออ
ก็เลยปั่นมั่วไปเรื่อย ทะลุซอยนู่นนี่ หลงก็ปั่นไปเป็นเส้นทางสี่เหลี่ยม เพราะคิดว่าเดี๋ยวมันก็วนไปเจอจุดเดิมเอง ทฤษฎีบ้าบอไรวะเนี้ยย
เออแต่ใช้ได้จริงนะ 555555
จะบอกว่าที่นี่ตอนกลางคืนค่อนข้างเงียบนะ nightlife ก็จะมีความเฉื่อยๆๆ เอื่อยๆๆ ไม่ได้แบบครึกครื้นเหมือนข้าวสารบ้านเรา
สุดท้ายยเราก็ไปจบที่ bar&restaurant แถวๆ night market อ่ะแหละจอดจักรยานไว้หน้าร้านแล้วก็นั่งกินเบียร์อยู่โต้ะหน้าร้านเลย
เฝ้าจักรยาน!! เอาสิ นั่งเฝ้าเลยย ไม่มีทางหายแน่ สั่งเบียร์ลาวมาขวดนึง 18,000 kip พนักงานทำหน้างงใส่ ถามว่าคนเดียวหรอ
เอ้อออ คนเดียวสิยะ งงอัลไล ??
นั่งจิบเบียไป ดูผู้คนไป อืมมมม มันก็ดีนะ เพลินดี นั่งอยู่ได้สักพัก มีหมาตัวนึงเดินมาทัก แล้วมันก็เมินเราไปหาโต้ะข้างๆ เพราะเค้ามีของกินเต็มโต้ะไง จ่ะ นังหมาทัวดีย์ ปรากฎว่าสักพักเจ้าของร้านถือไม้เดินมาเอามาขู่ให้ออกไป ยังไม่ทันได้ตีเล้ยย นังหมาทัวดีย์ก็ขู่จ้าา แฮร่ๆใส่ทันที
อินี่ไง เห้อมม สงสารร เลยเรียกให้มานั่งด้วยกัน แล้วบอกเจ้าของไปว่า Heyyy let him sit here , I'm okay พร้อมหันไปเรียกนุ้งหมา
heyyy baby come on ! u can stay with me .
เชื่อป้ะ มันเดินมานั่งอยู่กะเราเฉยย นั่งคุยกันหงุงหงิง โอ้ยยพีคในพีคคค 5555 คุยกันจนเบื่อ นางก็หมอบอยู่ข้างๆเรา เอ้ออ เอากะนางสิ
พอเราลุกจะกลับ เราก็บอกนางว่าจะกลับละนะ ดูแลตัวเองด้วยย เราเดินออกมา นางก็ลุกออกมาพร้อมเราเลยย โอ้ยยยยย ยอมมใจ
สามทุ่มเรากลับมานอน เพราะอยากตื่นเช้าไปตักบาตรที่ชาวหลวงพระบางและนักท่องเที่ยวนิยมทำกันในทุกเช้า ปรากฎว่าตื่นสายจ้า
โอ้ยยยยย อดไปเลย เอาไงดีล่ะทีนี้ มาแบบโนแพลนอะไรในหัวเลย ไปไหนดีวันนี้ ลุกขึ้นล้างหน้าแปรงฟันก่อนละกัน เดินออกมารับบรรยากาศยามเช้า อื้มมม ก็ไม่เลวว ยืนแปรงฟันไปท่ามกลางวิววแบบนี้
############### Day2 ###############
ที่โฮสเทลจะมีอาหารเช้าแบบง่ายๆไว้ให้ ขนมปังปิ้ง ปาท่องโก๋ กาแฟ รอดไปอีก 1 มื้อและเรา อิอิ
พอดี๊เหลือบไปเห็นว่ามีรถไปน้ำตกตาดกวางสี เห้ยยยย วันนี้เรามีที่ไปแล้วว ค่ารถไปกลับ 60,000 kip เป็นแบบ join group
ไม่รวมค่าเข้าและอาหารไรทั้งสิ้น ไปสิคะ รถมารับตอน 11:00 ซึ่งเรามีเวลาเหลือๆอีกสาม ชม. ก็เลยจองทริปไว้
แล้วออกไปปั่นจักรยานรอบเมืองหลวงพระบางสักหน่อย ขอชั้นดูวิถีชีวิตคนที่นี่หน่อยน้าา
เออนี่ก็ปั่นไปเรื่อยๆ ตาม map บ้าง ตามเซ้นตัวเองบ้าง อยากแวะตรงไหนก็แวะ จะบอกว่าผู้คนที่ดีใจดีมาก ขับรถกันน่ารัก
ให้ทางเราตลอด ไม่มีเร่งรีบ โนปาดหน้า โนปาดซ้ายปาดขวา โนเบิ้ลรถใส่ เหยยย ดีงามม
เราขี่จักรยานเลาะไปตามแม่น้ำคาน วนไปแม่น้ำโขง แว้บไปวัดเชียงทอง
กลับมาเตรียมตัวไปน้ำตกตาดกวางสี 11:00 รถตู้คันน้อยๆก็มารับตรงเวลา มีเพื่อนจากไอร์แลนด์กับฝรั่งเศสไปด้วยกันกับเรา ทุกคนมาจาก
ไทยแลนทั้งนั้น นั่งรถต่อเรือกันมาน่าเอ็นดู วันนั้นเราก็เลยได้เพื่อนเที่ยวน้ำตก ไม่ต้องเล่นน้ำคนเดียว 555555
นั่งรถประมาณ 1 ชม. ก็ถึงละจ้า จ่ายค่าเข้าน้ำตกอีกคนละ 20,000 kip เดินเข้าไปเรื่อยๆ จะเจอน้องหมี ดูท่านอนเถอะ น่าตีตูดจิงๆ
เดินเข้าไปอีกแปปก็จะเจอน้ำตกชั้นแรก ระหว่างทางหนุ่มสาวชาวไอร์แลนก็ชวนเราคุยนุ่นนี่นั่น บลาๆๆ เดินไปเรื่อยๆ อากาศเย็นๆ
แล้วผีเสื้อคือเยอะมาก บ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์สุดๆ แปปนึงก็ถึงล่ะ จุด unseen วันนี้ โอ้ววโหวววว คือบับบบ สวยมากก
ยังกับในเทพนิยายสมัยเด็กที่เคยดู คือเรายืนดูอยู่อย่างนั้นนานมาก เราชอบที่น้ำตกมันสาดกระเซ็น โคตรเย็นชื่นใจอ้ะ โอ้ยยฟินนโว้ยยย
หลังจากใช้เวลาอยู่ที่น้ำตกสักสองสามชม. ก็ได้เวลากลับ ขากลับนี่เราหลับเป็นตาย สงสัยเล่นน้ำเหนื่อยไปหน่อยย แถมน้ำก็เย็นสึดๆ บรึ๋ยยย พูดแล้วขนลุก ระหว่างทางค่ะ อยู่ๆรถก็เบรกหัวทิ่มมม ! Whatt?? ได้ยินเสียงคนขับตะโกนบอกแบบเสียงตื่นเต้นมาก
Snake Snake !! ฝรั่งทั้งคันนี่ตื่นตระหนก ชะโงกหน้าไปดูกันใหญ่ รวมถึงเราด้วย พอเห็นเท่านั่นแหละโอ้ยยยยย แกรรรร๊
ปลาไหลบ้านชั้นยังตัวใหญ่กว่าอี้กกก 5555 แต่ก็นับถือใจพี่คนขับรถเค้าเด้อ เห็นคุณค่าของทุกชีวิต มงลงเว่ออ /ปรบมือค่ะปรบมือออ
17:00 รถก็กลับมาส่งแถว night market เพื่อนชาวไอร์แลนด์บอกจะไปเดินเที่ยวสักหน่อย แต่เราขอบายจ้าา
ขอให้พี่คนขับไปส่งที่โฮสเทล ก็ชั้นเหนื่ยย ชั้นอยากพัก ปล่อยชั้นไปเถ้อะ 5555 กลับมาถึงโฮสเทลก็พักหายใจแปป
แล้วก็นั่งทำใจว่าพรุ่งนี้จะไปไหนดี อยู่หลวงพระบางต่อหรือไปวังเวียงดี อยู่ต่อก็ต้อง extend เห้อมมม อยู่ต่อแล้วจะไปไหน ทำอะไร
สุดท้ายก็ตัดสินใจไปต่อวังเวียงดีกว่า เดินไปจองตั๋วรถไปวังเวียงที่ reception เลยจ้าา คิดไวทำไวไปอี้กก
โดนค่ารถไป 120,000 kip เป็นรถตู้ join group และรถมารับ 6:00 โมงเช้าาาา ! คืนนี้ก็รีบนอนดีกว่าเนอะ
ปล.มีต่อเด้อ .. ต้องไปต่อในความเห็นต่อไปแทน เขียนต่ออันนี้ไม่ได้แล้ว พื้นที่เต็มจ้า 55555
[CR] ลุยเดี่ยว 6 วัน 5 คืน กับเงิน 4,000 บาท จาก หลวงพระบาง สู่ วังเวียง และ เวียงจันทน์
อืมๆๆ มันก็จะอิจฉาาาอยู่หน่อยๆ ชวนใครก็ไม่มีใครไปกะเลาาเลยย ฮืออ ไปเองก้ได้งั้นนแถมเป็นทริปที่ No plan No idea และ No สติ
บางคนอาจจะงงแบบ อิบ้า 4000 จิงหรอ ตลกล่ะ!! คือไม่กินข้าวหรือนอนตามข้างทางหรอ 55555 โอเคคือว่า 4100 บาทที่เราใช้
ในทริปนี้ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบินเด้อ เนื่องจากว่ามันเป็นงบประมาณที่ไม่สามารถควบคุมและก็คงได้ราคาเดียวกันไม่น่าจะได้
ขึ้นอยู่กับว่าแต่ละคนจะสะดวกที่เท่าไรอะไรอย่างงี้เนอะ ส่วนตัวเราอ้ะเปนมนุษย์ประเภทกินง่ายอยู่ง่าย สายยชิลอะไรทำนองนั้น
ที่พักเราก็นอนตามโฮสเทล ซึ่งมันถูกอยู่แล้ว เรื่องกินเราก็กินไม่เยอะ ข้างทงข้างทางได้หมด
เอ้าามาา เข้าเรื่องเถอะ 5555 เรื่องมันยาววจริงๆละทีนี้
############### Day1 ###############
เราบินด้วยไฟล์ทใครๆก้บินได้ everyone can fly จากกรุงเทพสู่หลวงพระบาง ออกจากกรุงเทพ 14:30 ซึ่งนี่ก็ไปถึงสนามบินตั้งแต่เที่ยงครึ่ง Check in เดินผ่านตม. ชิลล์ๆ แต่ลืมกดเงินค่ะ 555 เด๋อตั้งแต่วันแรก ซึ่งเราไม่รู้ว่าถ้าผ่านตม. เข้าไปแล้ว โนเอทีเอมใดๆ!
กรี้ดดดดด จะเอาบัตรเครดิตไปแลกเป็นเงินสดก็ไม่มีของธนาคารนั้นอีก รู้สึกมันจะมีธนาคารกสิกรและไทยพาณิชย์นะ
แต่อิชั้นมีแต่บัตรกรุงเทพและกรุงศรี WTF! เอาวะ ไปกดเอาที่ลาวก็ได้ เสียค่าธรรมเนียมกด 100 นึงง เห้อมมม นังเด๋อ 2017
16:00 Landing at Luang Prabang International Airport เย่ ถึงล่ะ OMG คือบ้านเมืองเค้ามีแต่ภูเขาเต็มไปหมด เดินออกมาจาก ตม.
ก็จะเจอ Taxi Service แล้วก็ Exchange Money แต่!! เราแลกเงินยังไม่ได้ค่ะ 5555 เพราะไม่มีเงินน เดินออกมาจากประตูสนามบิน
นิดหน่อยก็จะเจอตู้เอทีเอ็มสามสี่ตู้เลย รอดตายละโว้ยย เรากดเงินมาประมาณ 1,035,000 kip คิดเป็นเงินไทยประมาณ 4000 มั้ง
เพราะเรามีตังแค่นี้ 55555 ทีนี้ก็ไปซื้อตั๋วรถเข้าเมืองตรง Taxi Service นั่นแหละ 50,000 kip จ้าา เป็นรถ minivan
ซึ่งบอกชื่อที่พักเราไปแค่นั้น เค้าก็จะไปส่งถึงที่เลย ดีงามมมมม
ปล. รูปนี้ไม่ได้ถ่ายเองนะ เอามาจาก facebook hostel ให้ดูว่าหน้าตาเป็นแบบไหนเฉยๆจ้า
จากสนามบินไปถึงที่พักประมาณ 30 นาทีเอง พี่คนขับรถก็ถามว่าทำไมมาคนเดียวล่ะ ทำไมไม่เอาแฟนมาด้วย เอ่ออออคือพี่คะ...
ตอบไม่ถูกเลยโว้ยย ได้แต่หัวเราะแห้งๆ 5555 และเราก็มาถึงที่พักโดยสวัสดิภาพในเวลา 17:00 Check in เข้าที่พัก จ่ายงงจ่ายเงินไปจ้า
อีก 85,000 kip คิดเป็นเงินไทยตกคืนละ 165 บาท ถูกแมะ?? เป็นโฮสเทล mixed dormitory 12 bed ห้องใหญ่มากกกก
แต่ทำเลของที่นี่จะห่างจากจุดศูนย์กลางของหลวงพระบางนิดหน่อยย ชื่อว่า Sabai Sabai Hostel Backpacker ซึ่งเราจะอยู่ที่นี่ 2 คืน
เก็บของนู่นนี่นั่นเสร็จละ ก็ออกมาเช่าจักรยานเอาไว้ปั่นไปในเมืองสักหน่อย เห็นเค้าบอกว่าปั่นจักรยานเที่ยวในหลวงพระบางได้ |
ค่าเช่าจักรยาน 30,000 kip เป็นจักรยานของโฮสเทล ฮืออ แอบแพงง่ะ ราวๆ 120 บาท ระยะเวลาในการเช่า 24 hr.
สักประมาณหกโมงเย็น เราก็ปั่นออกมาในเมือง กะว่าจะมาเดิน night market ก่อนออกมาน้อง staff ที่โฮสเทลรีบบอก
ระวังจักรยานหายเด้อค่ะ ขโมยเยอะ ให้ฝากหรือผูกไว้กับอะไรก็ได้
จ่ะ นี่ก็ปั่นออกมาเรื่อยๆ โทสัพนี่เราไม่ได้ซื้อซิมไรเลยนะ โหลดแต่ map offline มา ปรากฎว่าปั่นผิดเลนมั่ง ย้อนศรมั่ง 55555
ที่นี่เค้าขับกันเลนขวาจ้า เด๋อซ้ำไปอี้กกก โอ้ยยย สรุปว่าปั่นไปถึง night market นะ แต่หาที่จอดจักรยานดีดีปลอดภัยไม่เจออ
ก็เลยปั่นมั่วไปเรื่อย ทะลุซอยนู่นนี่ หลงก็ปั่นไปเป็นเส้นทางสี่เหลี่ยม เพราะคิดว่าเดี๋ยวมันก็วนไปเจอจุดเดิมเอง ทฤษฎีบ้าบอไรวะเนี้ยย
เออแต่ใช้ได้จริงนะ 555555
จะบอกว่าที่นี่ตอนกลางคืนค่อนข้างเงียบนะ nightlife ก็จะมีความเฉื่อยๆๆ เอื่อยๆๆ ไม่ได้แบบครึกครื้นเหมือนข้าวสารบ้านเรา
สุดท้ายยเราก็ไปจบที่ bar&restaurant แถวๆ night market อ่ะแหละจอดจักรยานไว้หน้าร้านแล้วก็นั่งกินเบียร์อยู่โต้ะหน้าร้านเลย
เฝ้าจักรยาน!! เอาสิ นั่งเฝ้าเลยย ไม่มีทางหายแน่ สั่งเบียร์ลาวมาขวดนึง 18,000 kip พนักงานทำหน้างงใส่ ถามว่าคนเดียวหรอ
เอ้อออ คนเดียวสิยะ งงอัลไล ??
นั่งจิบเบียไป ดูผู้คนไป อืมมมม มันก็ดีนะ เพลินดี นั่งอยู่ได้สักพัก มีหมาตัวนึงเดินมาทัก แล้วมันก็เมินเราไปหาโต้ะข้างๆ เพราะเค้ามีของกินเต็มโต้ะไง จ่ะ นังหมาทัวดีย์ ปรากฎว่าสักพักเจ้าของร้านถือไม้เดินมาเอามาขู่ให้ออกไป ยังไม่ทันได้ตีเล้ยย นังหมาทัวดีย์ก็ขู่จ้าา แฮร่ๆใส่ทันที
อินี่ไง เห้อมม สงสารร เลยเรียกให้มานั่งด้วยกัน แล้วบอกเจ้าของไปว่า Heyyy let him sit here , I'm okay พร้อมหันไปเรียกนุ้งหมา
heyyy baby come on ! u can stay with me .
เชื่อป้ะ มันเดินมานั่งอยู่กะเราเฉยย นั่งคุยกันหงุงหงิง โอ้ยยพีคในพีคคค 5555 คุยกันจนเบื่อ นางก็หมอบอยู่ข้างๆเรา เอ้ออ เอากะนางสิ
พอเราลุกจะกลับ เราก็บอกนางว่าจะกลับละนะ ดูแลตัวเองด้วยย เราเดินออกมา นางก็ลุกออกมาพร้อมเราเลยย โอ้ยยยยย ยอมมใจ
สามทุ่มเรากลับมานอน เพราะอยากตื่นเช้าไปตักบาตรที่ชาวหลวงพระบางและนักท่องเที่ยวนิยมทำกันในทุกเช้า ปรากฎว่าตื่นสายจ้า
โอ้ยยยยย อดไปเลย เอาไงดีล่ะทีนี้ มาแบบโนแพลนอะไรในหัวเลย ไปไหนดีวันนี้ ลุกขึ้นล้างหน้าแปรงฟันก่อนละกัน เดินออกมารับบรรยากาศยามเช้า อื้มมม ก็ไม่เลวว ยืนแปรงฟันไปท่ามกลางวิววแบบนี้
############### Day2 ###############
ที่โฮสเทลจะมีอาหารเช้าแบบง่ายๆไว้ให้ ขนมปังปิ้ง ปาท่องโก๋ กาแฟ รอดไปอีก 1 มื้อและเรา อิอิ
พอดี๊เหลือบไปเห็นว่ามีรถไปน้ำตกตาดกวางสี เห้ยยยย วันนี้เรามีที่ไปแล้วว ค่ารถไปกลับ 60,000 kip เป็นแบบ join group
ไม่รวมค่าเข้าและอาหารไรทั้งสิ้น ไปสิคะ รถมารับตอน 11:00 ซึ่งเรามีเวลาเหลือๆอีกสาม ชม. ก็เลยจองทริปไว้
แล้วออกไปปั่นจักรยานรอบเมืองหลวงพระบางสักหน่อย ขอชั้นดูวิถีชีวิตคนที่นี่หน่อยน้าา
เออนี่ก็ปั่นไปเรื่อยๆ ตาม map บ้าง ตามเซ้นตัวเองบ้าง อยากแวะตรงไหนก็แวะ จะบอกว่าผู้คนที่ดีใจดีมาก ขับรถกันน่ารัก
ให้ทางเราตลอด ไม่มีเร่งรีบ โนปาดหน้า โนปาดซ้ายปาดขวา โนเบิ้ลรถใส่ เหยยย ดีงามม
เราขี่จักรยานเลาะไปตามแม่น้ำคาน วนไปแม่น้ำโขง แว้บไปวัดเชียงทอง
กลับมาเตรียมตัวไปน้ำตกตาดกวางสี 11:00 รถตู้คันน้อยๆก็มารับตรงเวลา มีเพื่อนจากไอร์แลนด์กับฝรั่งเศสไปด้วยกันกับเรา ทุกคนมาจาก
ไทยแลนทั้งนั้น นั่งรถต่อเรือกันมาน่าเอ็นดู วันนั้นเราก็เลยได้เพื่อนเที่ยวน้ำตก ไม่ต้องเล่นน้ำคนเดียว 555555
นั่งรถประมาณ 1 ชม. ก็ถึงละจ้า จ่ายค่าเข้าน้ำตกอีกคนละ 20,000 kip เดินเข้าไปเรื่อยๆ จะเจอน้องหมี ดูท่านอนเถอะ น่าตีตูดจิงๆ
เดินเข้าไปอีกแปปก็จะเจอน้ำตกชั้นแรก ระหว่างทางหนุ่มสาวชาวไอร์แลนก็ชวนเราคุยนุ่นนี่นั่น บลาๆๆ เดินไปเรื่อยๆ อากาศเย็นๆ
แล้วผีเสื้อคือเยอะมาก บ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์สุดๆ แปปนึงก็ถึงล่ะ จุด unseen วันนี้ โอ้ววโหวววว คือบับบบ สวยมากก
ยังกับในเทพนิยายสมัยเด็กที่เคยดู คือเรายืนดูอยู่อย่างนั้นนานมาก เราชอบที่น้ำตกมันสาดกระเซ็น โคตรเย็นชื่นใจอ้ะ โอ้ยยฟินนโว้ยยย
หลังจากใช้เวลาอยู่ที่น้ำตกสักสองสามชม. ก็ได้เวลากลับ ขากลับนี่เราหลับเป็นตาย สงสัยเล่นน้ำเหนื่อยไปหน่อยย แถมน้ำก็เย็นสึดๆ บรึ๋ยยย พูดแล้วขนลุก ระหว่างทางค่ะ อยู่ๆรถก็เบรกหัวทิ่มมม ! Whatt?? ได้ยินเสียงคนขับตะโกนบอกแบบเสียงตื่นเต้นมาก
Snake Snake !! ฝรั่งทั้งคันนี่ตื่นตระหนก ชะโงกหน้าไปดูกันใหญ่ รวมถึงเราด้วย พอเห็นเท่านั่นแหละโอ้ยยยยย แกรรรร๊
ปลาไหลบ้านชั้นยังตัวใหญ่กว่าอี้กกก 5555 แต่ก็นับถือใจพี่คนขับรถเค้าเด้อ เห็นคุณค่าของทุกชีวิต มงลงเว่ออ /ปรบมือค่ะปรบมือออ
17:00 รถก็กลับมาส่งแถว night market เพื่อนชาวไอร์แลนด์บอกจะไปเดินเที่ยวสักหน่อย แต่เราขอบายจ้าา
ขอให้พี่คนขับไปส่งที่โฮสเทล ก็ชั้นเหนื่ยย ชั้นอยากพัก ปล่อยชั้นไปเถ้อะ 5555 กลับมาถึงโฮสเทลก็พักหายใจแปป
แล้วก็นั่งทำใจว่าพรุ่งนี้จะไปไหนดี อยู่หลวงพระบางต่อหรือไปวังเวียงดี อยู่ต่อก็ต้อง extend เห้อมมม อยู่ต่อแล้วจะไปไหน ทำอะไร
สุดท้ายก็ตัดสินใจไปต่อวังเวียงดีกว่า เดินไปจองตั๋วรถไปวังเวียงที่ reception เลยจ้าา คิดไวทำไวไปอี้กก
โดนค่ารถไป 120,000 kip เป็นรถตู้ join group และรถมารับ 6:00 โมงเช้าาาา ! คืนนี้ก็รีบนอนดีกว่าเนอะ