นี่เป็นกระทู้แรกนะครับที่เขียน Review ภาพยนตร์และซีรี่
เกริ่นก่อนเลยว่าผมเป็นติ่ง Super Heroes ของค่าย Marvels อยู่ระดับหนึ่งเลย
ซึ่งผมจะชอบเสพย์หนังและเกมของ Marvels มากๆ
วันนี้เลยอยากที่จะมาวิจารณ์หนังเรื่องนี้หน่อย
บอกก่อนว่าเนื้อหาการวิจารณ์อาจมี SPOIL เนื้อเรื่องครับ
Marvels Inhumans ฉายครั้งแรกวันที่ 1 กันยายน โดยฉาย Ep 1 + 2 ในโรงภาพยนตร์ IMAX
ปัจจุบันได้ฉายต่อทางช่อง ABC มีทั้งหมด8ตอน
(ตอนนี้ฉายมาถึงตอนที่ 6 แล้ว)
ผมขอเริ่มด้วยข้อดีของซีรี่นี้ก่อนละกัน เพราะจุดประสงค์ในการตั้งกระทู้นี้
ผมอยากระบายข้อเสียของซีรี่ซึ่งมีเยอะมากกกกกกกกก
มาเริ่มกันครับ
ข้อดีของซีรี่
1. ได้นักแสดงที่น่าสนใจมาร่วมแสดงหลายคน บ่องตงเลยครับว่าส่วนหนึ่งที่ผมสนใจซีรี่เรื่องนี้ เพราะผมเป็นติ่ง Game of Thrones [GOT] ด้วย และมีดาราจาก GOT มาแสดงบทหลักเป็น Maximus น้องชายจอมทรยศของ Blackbolt [แสดงโดย Iwan Rheon ผู้รับบทเป็นแรมป์ซี่ ตัวร้ายสุดซาดิสใน GOT]
หรือนักแสดงคนอื่นๆ เช่น Anson Mount , Isabelle Cornish ซึ่งเป็นนักแสดงที่ค่อนข้างมีเสน่ห์
2.เป็นซีรี่บนโทรทัศน์ที่มีโอกาสได้นำมาลงฉายบนจอภาพยนตร์ ซึ่งถ้าทำผลงานออกมาดี โอกาสที่เรทติ้งจะพุ่งสูงขึ้น ทำได้ไม่ยากเลย [ซึ่งสุดท้ายไม่รู้ว่าเป็นข้อดีรึเปล่า?]
3. ประเด็นความขัดแย้ง ที่หนังพยายามเอามาสื่อ เช่น ความขัดแย้งจากวรรณะ ความขัดแย้งจากความแปลกแยก-คนที่มีพลัง/คนที่ไม่มีพลัง ความกลัวสิ่งแปลกใหม่ของมนุษย์ บลาๆ ซึ่งมีความน่าสนใจมาก ถ้าสามารถขยี้ได้ถึง
แต่จากข้อดีข้างต้นนั้น กลายมาเป็นข้อเสียมากๆ
1. "Writing" หรือ บทภาพยนตร์ ความไม่โปรของผู้เขียนบทภาพยนตร์ [Scott Buck] จากที่ผมดูมาถึง Ep6 รู้สึกว่าความไม่สมเหตุสมผล มีเยอะจนเกินไป จนทำให้แทนที่จะดูแล้วอินตาม กลับทำให้รู้สึกว่าบางฉากมันตลก บางฉากจะจริงจัง จะเศร้า ก็รู้สึกกลายเป็นตัวละครดูเล่นใหญ่ไปเลย เพราะบทละครห่วยมาก ยกตัวอย่างเช่น
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้- ความตื้นของมิติตัวละคร : ยกตัวอย่างกรณี Maximus ไม่มีพลังอะไรเลย แต่ทำไมลูกน้องที่มีพลังเก่งๆทั้งหลายถึงยอมเชื่อฟังแล้วยอมมาร่วมทรยศกษัตริย์ Balckbolt หนังพยายามปูทางมาว่า ระบบกษัตริย์เดิมมีปัญหานู่นนี่ แต่ไม่ยอมเสียเวลาปูพื้นเพของตัวละครฝั่งตัวร้าย ว่าทำไมถึงต้องทำแบบนี้ เช่น หัวหน้าตัวร้าย Auran ทำไมถึงต้องเชื่อฟังขนาดนั้น หนังไม่มีการปูปมหรือพื้นเพของตัวละคร ซึ่งดูยังไงก็ไม่อิน เหมือนกำลังดูเพาเวอร์เรนเจอร์ ตัวร้ายยังไงก็ต้องเป็นตัวร้ายต้องเชื่อฟังหัวหน้าตัวร้ายนะ ตัวละครขาดมิติมากๆ เสียดายฝีมือนักแสดงมากๆ
- ตรรกะย้อนแยง : Medusa ถูกส่งลงมาบนโลกมนุษย์ โดยตอนอยู่บนดวงจันทร์ Inhuman พยายามปกปิดตัวตนของตัวเอง แต่พอต้องลงมาบนโลกเจือกเดินไปที่ตู้ ATM แล้วบอกตู้ ATM ว่า "ข้าคือราชินีแห่ง Attilan ข้าต้องการเงิน" <<< เหมือนคนเขียนบทพยายามใส่มุกเข้ามา แต่ตรรกะย้อนแยงมาก ทำไมราชินี Inhumans ถึงคิดว่าตู้ Atm จะรู้จักตัวเอง?
https://www.facebook.com/Inhumans/videos/959504067521818/
- การฆ่าตัวละครสำคัญทิ้งแบบไม่สมเหตุสมผล : Gorgon กระทืบพื้นแล้วบ้านถล่มตายเอง คือเขียนบทโง่มาก เหมือนเอาตัวละครหลักมาตายเพื่อจะให้ซึ้ง แต่เหตุผลในการตายไม่สมเหตุสมผลอย่างแรง เพราะตัวร้ายก็เหมือนจะเก่ง แต่บทดูมักง่าย เหมือนอยากรีบๆจบเลยเสียสละตัวหลักให้ตายแบบง่ายๆ
หรือตอนเริ่มมา เขียนบทให้มนุษย์เงือก Tritan โดนไล่ยิงตายเลยตั้งแต่เริ่ม ทั้งๆที่ใน Comic ตัวนี้มีบทบาทสำคัญมากๆ
- การศึกษาตัวละครไม่ดี : Medusa ตามหลักแล้วเก่งกว่านี้มาก แต่ในหนังดูห่วยแตกมาก เหมือนคนใส่วิกเฉยๆ ผู้กำกับเหมือนไม่ได้ศึกษาความเข้าใจกับฮีโร่ Inhumans เท่าที่ควร
- การจบฉากที่ไม่เนียน : ฉากที่ตัวละครบางตัวจะตายก็ตายก็ตายง่ายๆแบบตลก เช่น Locus [ผู้หญิงInhumanฝ่าย Auran ที่ใช้คลื่นเสียงตรวจจับคน] ท้ายซีซั่นนึง อยู่ดีๆจะตายก็ล้มลงไปเลยเพราะโดนยิงมาสักพัก [แต่ไม่มีใครรู้ว่านางโดนยิง] แล้วก็กล่าวประโยคเท่ๆก่อนตาย ซึ่งดูแล้วแบบ WTF.. ซึ่งไม่มีการให้เวลาคนดูผูกพันกับตัวละครใดๆทั้งสิ้น เหมือนเอามาตายเล่น เพื่อทิ้งประโยคเท่ๆ หรือตอนตายควรจะจัดฉากให้เนียนกว่านี้หน่อย เหมือนต้องรอมาตายต่อหน้าทุกคน [บทดูพยายามเกินไป]
https://www.facebook.com/Inhumans/videos/965020183636873/
2. "CG" ขึ้นชื่อว่าหนัง Inhumans คนดูคงคาดหวังว่าจะได้เห็นพลังเหนือมนุษย์ แต่บอกเลย คุณผิดหวังแน่นอน เพราะงบ CG อันต่ำต้อยนั้น ตัวละครตัวนึงนี่ได้โชว์พลังแค่คนละครั้งก็คงเหนื่อยคนทำ CG แล้ว แต่ที่แย่กว่านั้นคือ หนังพยายามตัดบทที่ต้องใช้ CG ออกโดยการ เช่น
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้- บทบังคับให้โกนหัวเมดูซ่าทิ้ง [ไม่มีผมจะได้ใช้พลังไม่ได้] ตอนมีผมก็ดูเหมือนสวมวิกนางเงือกน้อย เส้นผมดูไม่มีชีวิตอะไรทั้งนั้น
- Karnak หัวโขกหิน [สู้โดยใช้พลังไม่ได้ เน้นเตะต่อยธรรมดาเหมือนละครเตะต่อยกลางป่าของช่อง 7]
หรืออย่าง Blackbolt ที่ตามจริงควรจะพลังเว่อวังอลังการ ก็ได้ปล่อยพลังใส่รถยนตร์ 1ตอน ทั้งๆที่ในเรื่องมีหลายฉากที่ควรจะได้ใช้พลังแต่ไม่ใช้
จะโทษว่าเพราะงบน้อยอย่างเดียวก็ไม่ได้ เพราะอย่างเรื่อง Agents of shield ฉากที่ตัวละครใช้พลังพิเศษที่ต้องพึ่งพา CG เยอะๆ ผู้กำกับก็พยายามเขียนบทให้เน้นสู้ในแบบอื่น หรือใช้เทคนิคในการถ่ายทอดว่าใช้พลังแบบอ้อมๆแบบไม่ต้องเปลือง CG แต่ยังออกมาดูเนียนและสมเหตุสมผลกว่า พอมีฉากที่ต้องโชว์ CG จริงๆก็ทำออกมาดูว๊าวกว่ามาก จะสื่อว่าผู้กำกับฉลาดในการกำหนดสตอรี่บอร์ดแต่ละซีนกว่ามาก
3. "IMAX" ความน่าเสียดายในการใช้กล้อง IMAX ถ่าย แต่ไม่ได้ใช้ประโยชน์จากข้อดีของการใช้กล้องเลย Teaser ทำออกมาได้ Look Cheap มาก อาจจะด้วยทุนที่มีน้อย IMAX จะเน้นภาพที่กว้างและ Detail ภาพ แต่ภาพที่ออกมาเหมือนผู้คุมไม่ละเอียดเลย โทนสีฉากป่าดูแปร๊ดมาก เทียบกับหนังเรื่องอื่น ฉากที่ควรจะเน้นความอลังผ่าน IMAX ก็ไม่มี [ถ้ามีฉากแพลนเมือง Attilan จะคุ้ม IMAX มาก แต่ไปหนักฝ่ายทำ CG] ที่มีให้เห็นภาพกว้างๆก็มีแค่ฉากมุมสูงจากโดรนที่ถ่ายเกาะ Oahu
4. "Location" เหมือนงบต่ำมาก ทั้งภาควิ่งๆอยู่แต่ในป่าเดิมๆ กะเมืองนิดนึง โลเคชั่นจริงๆไม่ได้แย่นะ แต่การเลือกมุมหรือซีนรู้สึกมันสามารถเลือกซีนที่ดูแล้วเท่ได้มากกว่านี้ เช่น หน้าผา ทุ่งหญ้า ส่วนฉาก Attilan ฟีลลิ่งยังทำได้ไม่เหมือนเมืองของพวก Inhuman สักเท่าไหร่ การใช้ Lighting ไม่ได้สื่อไปในทางที่แสดงให้เห็นว่า Inhumans มีอารยธรรมเก่าแก่และไฮเทคเลย ไม่ดูขลัง การจัดฉากและไฟดูเหมือนอยู่ในร้านเกมไฮเทคมากกว่า [ไปดู Blade Runner 2049 แล้วรู้สึกฐานทัพตัวร้ายในเรื่องยังดูเป็น Attilan มากกว่า] บางฉากคนจัด Location ควรมีความละเอียดในการมองภาพรวม การจัด lighting ให้หนังมันดูขรึมกว่านี้หน่อย
ฉากในเรื่อง Blade Runner 2049
ฉากภายในปราสาทใน Attilan
5. "Things" ฉาก Indoor บางฉากก็เลือกเฟอร์นิเจอร์มาไม่เข้ากับสถานที่ เช่น ห้องนอนของ Crystal ที่อยู่บนดาวอังคาร แต่เก้าอี้ก็ดูเป็นเฟอร์นิเจอร์โรงแรมทั่วไป ไม่มีความ Epic พอ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้หรือฉากที่ Maximusจะตัดผม Medusa ดันใช้แบตตาเลี่ยนไถเฉยเลย [บนAttilan เค้าใช้ แบตตาเลี่ยนกันด้วยเหรอ]
6. "Transition"การตัดฉากไปมา คนตัดต่อหนังยังตัดได้ไม่ดี บางฉากมีความรีบเร่งมาก จากสถานการณ์นึง เพิ่งจบไปไม่ถึงสามวิ โผล่มาอีกสถานการณ์ใหม่แบบเหมือนเหตุการณ์ตะกี้มีความต่อเนื่องกัน ทั้งๆที่มันควรจะมีการทิ้ง Space ให้หนังบ้าง [ถ่ายฉาก ถ่ายบรรยากาศของสถานการณ์ใหม่เพื่อปูอารมณ์ให้คนดูก่อน]
7. "Theme" หลังจากดูมาหกตอน รู้สึกหงุดหงิดกับความไม่สมเหตุสมผลต่างๆนานา แต่พยายามคิดว่าคงทำมาให้กลุ่มคนดูอายุน้อยดูด้วยได้ เลยทำเนื้อเรื่องง่ายๆใสๆ มีกราฟฟิกการ์ตูนเป็นอินโทรก่อนเข้าเรื่อง เลยสรุปตีมไปว่า เป็นตีมที่เน้นเด็กเป็นหลัก แต่พอมา Ep6 มีฉากกรีดคอตัวละคร แบบตั้งใจให้โหด เลยสงสัยว่าสรุปจะให้ซีรี่นี้เน้นเด็กหรือผู้ใหญ่กันแน่
วิจารณ์มาซะเละขนาดนี้แล้ว แต่ก็ยังตั้งใจจะดูจนจบซีซั่นแหละ และคาดหวังว่ามันจะดีขึ้นด้วย [ขัดจั๊ย]
[CR] Review Series "Marvel Inhumans"
เกริ่นก่อนเลยว่าผมเป็นติ่ง Super Heroes ของค่าย Marvels อยู่ระดับหนึ่งเลย
ซึ่งผมจะชอบเสพย์หนังและเกมของ Marvels มากๆ
วันนี้เลยอยากที่จะมาวิจารณ์หนังเรื่องนี้หน่อย
บอกก่อนว่าเนื้อหาการวิจารณ์อาจมี SPOIL เนื้อเรื่องครับ
Marvels Inhumans ฉายครั้งแรกวันที่ 1 กันยายน โดยฉาย Ep 1 + 2 ในโรงภาพยนตร์ IMAX
ปัจจุบันได้ฉายต่อทางช่อง ABC มีทั้งหมด8ตอน
(ตอนนี้ฉายมาถึงตอนที่ 6 แล้ว)
ผมขอเริ่มด้วยข้อดีของซีรี่นี้ก่อนละกัน เพราะจุดประสงค์ในการตั้งกระทู้นี้
ผมอยากระบายข้อเสียของซีรี่ซึ่งมีเยอะมากกกกกกกกก
มาเริ่มกันครับ
ข้อดีของซีรี่
1. ได้นักแสดงที่น่าสนใจมาร่วมแสดงหลายคน บ่องตงเลยครับว่าส่วนหนึ่งที่ผมสนใจซีรี่เรื่องนี้ เพราะผมเป็นติ่ง Game of Thrones [GOT] ด้วย และมีดาราจาก GOT มาแสดงบทหลักเป็น Maximus น้องชายจอมทรยศของ Blackbolt [แสดงโดย Iwan Rheon ผู้รับบทเป็นแรมป์ซี่ ตัวร้ายสุดซาดิสใน GOT]
หรือนักแสดงคนอื่นๆ เช่น Anson Mount , Isabelle Cornish ซึ่งเป็นนักแสดงที่ค่อนข้างมีเสน่ห์
2.เป็นซีรี่บนโทรทัศน์ที่มีโอกาสได้นำมาลงฉายบนจอภาพยนตร์ ซึ่งถ้าทำผลงานออกมาดี โอกาสที่เรทติ้งจะพุ่งสูงขึ้น ทำได้ไม่ยากเลย [ซึ่งสุดท้ายไม่รู้ว่าเป็นข้อดีรึเปล่า?]
3. ประเด็นความขัดแย้ง ที่หนังพยายามเอามาสื่อ เช่น ความขัดแย้งจากวรรณะ ความขัดแย้งจากความแปลกแยก-คนที่มีพลัง/คนที่ไม่มีพลัง ความกลัวสิ่งแปลกใหม่ของมนุษย์ บลาๆ ซึ่งมีความน่าสนใจมาก ถ้าสามารถขยี้ได้ถึง
แต่จากข้อดีข้างต้นนั้น กลายมาเป็นข้อเสียมากๆ
1. "Writing" หรือ บทภาพยนตร์ ความไม่โปรของผู้เขียนบทภาพยนตร์ [Scott Buck] จากที่ผมดูมาถึง Ep6 รู้สึกว่าความไม่สมเหตุสมผล มีเยอะจนเกินไป จนทำให้แทนที่จะดูแล้วอินตาม กลับทำให้รู้สึกว่าบางฉากมันตลก บางฉากจะจริงจัง จะเศร้า ก็รู้สึกกลายเป็นตัวละครดูเล่นใหญ่ไปเลย เพราะบทละครห่วยมาก ยกตัวอย่างเช่น
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
2. "CG" ขึ้นชื่อว่าหนัง Inhumans คนดูคงคาดหวังว่าจะได้เห็นพลังเหนือมนุษย์ แต่บอกเลย คุณผิดหวังแน่นอน เพราะงบ CG อันต่ำต้อยนั้น ตัวละครตัวนึงนี่ได้โชว์พลังแค่คนละครั้งก็คงเหนื่อยคนทำ CG แล้ว แต่ที่แย่กว่านั้นคือ หนังพยายามตัดบทที่ต้องใช้ CG ออกโดยการ เช่น
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
3. "IMAX" ความน่าเสียดายในการใช้กล้อง IMAX ถ่าย แต่ไม่ได้ใช้ประโยชน์จากข้อดีของการใช้กล้องเลย Teaser ทำออกมาได้ Look Cheap มาก อาจจะด้วยทุนที่มีน้อย IMAX จะเน้นภาพที่กว้างและ Detail ภาพ แต่ภาพที่ออกมาเหมือนผู้คุมไม่ละเอียดเลย โทนสีฉากป่าดูแปร๊ดมาก เทียบกับหนังเรื่องอื่น ฉากที่ควรจะเน้นความอลังผ่าน IMAX ก็ไม่มี [ถ้ามีฉากแพลนเมือง Attilan จะคุ้ม IMAX มาก แต่ไปหนักฝ่ายทำ CG] ที่มีให้เห็นภาพกว้างๆก็มีแค่ฉากมุมสูงจากโดรนที่ถ่ายเกาะ Oahu
4. "Location" เหมือนงบต่ำมาก ทั้งภาควิ่งๆอยู่แต่ในป่าเดิมๆ กะเมืองนิดนึง โลเคชั่นจริงๆไม่ได้แย่นะ แต่การเลือกมุมหรือซีนรู้สึกมันสามารถเลือกซีนที่ดูแล้วเท่ได้มากกว่านี้ เช่น หน้าผา ทุ่งหญ้า ส่วนฉาก Attilan ฟีลลิ่งยังทำได้ไม่เหมือนเมืองของพวก Inhuman สักเท่าไหร่ การใช้ Lighting ไม่ได้สื่อไปในทางที่แสดงให้เห็นว่า Inhumans มีอารยธรรมเก่าแก่และไฮเทคเลย ไม่ดูขลัง การจัดฉากและไฟดูเหมือนอยู่ในร้านเกมไฮเทคมากกว่า [ไปดู Blade Runner 2049 แล้วรู้สึกฐานทัพตัวร้ายในเรื่องยังดูเป็น Attilan มากกว่า] บางฉากคนจัด Location ควรมีความละเอียดในการมองภาพรวม การจัด lighting ให้หนังมันดูขรึมกว่านี้หน่อย
ฉากในเรื่อง Blade Runner 2049
ฉากภายในปราสาทใน Attilan
5. "Things" ฉาก Indoor บางฉากก็เลือกเฟอร์นิเจอร์มาไม่เข้ากับสถานที่ เช่น ห้องนอนของ Crystal ที่อยู่บนดาวอังคาร แต่เก้าอี้ก็ดูเป็นเฟอร์นิเจอร์โรงแรมทั่วไป ไม่มีความ Epic พอ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
6. "Transition"การตัดฉากไปมา คนตัดต่อหนังยังตัดได้ไม่ดี บางฉากมีความรีบเร่งมาก จากสถานการณ์นึง เพิ่งจบไปไม่ถึงสามวิ โผล่มาอีกสถานการณ์ใหม่แบบเหมือนเหตุการณ์ตะกี้มีความต่อเนื่องกัน ทั้งๆที่มันควรจะมีการทิ้ง Space ให้หนังบ้าง [ถ่ายฉาก ถ่ายบรรยากาศของสถานการณ์ใหม่เพื่อปูอารมณ์ให้คนดูก่อน]
7. "Theme" หลังจากดูมาหกตอน รู้สึกหงุดหงิดกับความไม่สมเหตุสมผลต่างๆนานา แต่พยายามคิดว่าคงทำมาให้กลุ่มคนดูอายุน้อยดูด้วยได้ เลยทำเนื้อเรื่องง่ายๆใสๆ มีกราฟฟิกการ์ตูนเป็นอินโทรก่อนเข้าเรื่อง เลยสรุปตีมไปว่า เป็นตีมที่เน้นเด็กเป็นหลัก แต่พอมา Ep6 มีฉากกรีดคอตัวละคร แบบตั้งใจให้โหด เลยสงสัยว่าสรุปจะให้ซีรี่นี้เน้นเด็กหรือผู้ใหญ่กันแน่
วิจารณ์มาซะเละขนาดนี้แล้ว แต่ก็ยังตั้งใจจะดูจนจบซีซั่นแหละ และคาดหวังว่ามันจะดีขึ้นด้วย [ขัดจั๊ย]