ขอลำดับเหตุการณ์ดังนี้
1. ข้างห้องเพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ใหม่เมื่อกลางเดือนก่อน วันแรกที่มาก็ขนคนแปลกหน้าเข้ามาเสียงดังตั้งแต่เช้าจนดึก จากนั้นมีพฤติกรรมไม่นอนตอนกลางคืนและเปิดเพลงเสียงดัง ห้องนี้มีคนอยู่ทั้งหมด 4 คน เป็นผัวเมียหนุ่มสาวเหมือนสก๊อย 2 คู่ (ทั้งที่จริงตามกฏคอนโดอนุญาตให้พักได้แค่ห้องละ 2 คน) ครั้งแรกเรียกรปภ.เคาะเตือน เสียงเงียบลงไป 1-2 วัน แล้วกลับมาดังใหม่
2. เรียกรปภ. เคาะเตือนอีกครั้ง คราวนี้ไม่ยอมเปิดประตู รปภ. ทำอะไรไม่ได้ แต่มากระซิบว่า ครั้งก่อนที่เปิดเข้าไป พบหลักฐานว่าคนกลุ่มนี้เสพยา รปภ. กลัวมีเรื่องจึงไม่กล้าทำอะไร และไม่มีการสื่อสารกับนิติคอนโด
3. จขกท. ไปแจ้งเรื่องกับนิติให้ตรวจสอบ นิติรับปากดิบดีว่านี่เป็นเรื่องผิดกฏหมาย ยังไงก็ต้องแจ้งถึงตำรวจ จขกท. กลัวเป็นเรื่องใหญ่และตัวเองจะพลอยได้รับอันตราย จึงเตือนให้นิติตรวจสอบกับรปภ. คนต้นเรื่องก่อน รวมถึงตรวจสอบว่ากลุ่มคนข้างห้องนี้เป็นเจ้าของห้องตัวจริงหรือแค่ผู้เช่า หากเป็นผู้เช่า และมีนัดเสพยาจริง จึงค่อยแจ้งเจ้าของห้องให้หาวิธีดำเนินการอย่างละมุนละม่อมที่สุด เพื่อความปลอดภัยของทุกฝ่าย ปฏิกิริยาของนิติคือรับปากในลักษณะตัดบทว่าจะดำเนินเรื่องด้วยวิธีของตัวเอง
4. สามวันต่อมา จขกท. ถามความคืบหน้าจากนิติ ปรากฏว่านิติยังไม่ลงมือทำอะไรเลย จขกท. จึงคาดคั้นจนนิติเริ่มขยับและได้ทราบว่าคนกลุ่มนี้มาเช่าอยู่ใหม่ ในชั้นต้นนิติแจ้งจขกท. ว่าได้โทรไปบอกเจ้าของห้องตัวจริงให้เตือนผู้เช่าเรื่องเสียงดัง ปรากฏว่าผู้เช่าลงมาเอาเรื่องถึงนิติ (นิติเป็นคนยืนยันเองว่าคนกลุ่มนี้มีลักษณะน่ากลัว และมีท่าทีไม่ยอม แต่ยังดีที่ไม่ได้บอกเลขห้องไป)
5. ในระหว่างสามวันถัดจากนั้น ข้างห้องยอมเบาเครื่องเสียงลง แต่ยังคงมีพฤติกรรมเหมือนเดิมคือไม่นอนตอนกลางคืน พูดคุย เปิดประตูและเลื่อนข้าวของเสียงดัง ในที่สุดจขกท. จึงลงไปถามความคืบหน้านิติอีกครั้ง ปรากฏว่านิติยังคงไม่ได้ตรวจสอบกับรปภ. คนต้นเรื่อง จขกท. คิดว่านิติไม่เชื่อเรื่องทั้งหมด จึงขอให้ไปตามรปภ. มาพูดคุยต่อหน้าเดี๋ยวนั้น รปภ. ยืนยันตรงกัน (จขกท. อัดคลิปเสียงและวิดีโอเป็นหลักฐานทุกครั้งที่พูดคุย) ในที่สุดนิติบอกว่า ครั้งก่อนที่โทรไปรายงานเจ้าของห้องตัวจริงนั้น ไม่ได้บอกแค่ว่า ผู้เช่าเสียงดัง แต่อ้างเรื่องเสพยาด้วย (ทั้งที่ตอนนั้นยังไม่มีการตรวจสอบกับรปภ.) เจ้าของห้องจึงโทรไปเอาเรื่องกับผู้เช่า เป็นสาเหตุให้ผู้เช่าโกรธและมาเอาเรื่องว่าใครเป็นคนแจ้ง ขอทั้งหมายเลขห้องที่แจ้งและรปภ.คนที่แจ้งเรื่องเสพยา พร้อมปฏิเสธว่าไม่ได้เสพยา (แต่ยอมรับว่าพาเพื่อนจำนวนมากมาที่ห้องจริง)
6. นิติบอกว่าไม่สามารถทำอะไรได้เพราะไม่มีหลักฐาน และอ้างว่าตอนนี้ติดตั้งกล่องแดง (ตำรวจ) แล้ว ซึ่งส่วนตัว จขกท. ไม่รู้สึกว่าเกิดประโยชน์อย่างใด
ขออนุญาตถามว่า เคสนี้จะทำอย่างไรได้บ้าง เพราะจขกท. รู้สึกถึงความไม่ปลอดภัย และข้างห้องยังมีเสียงรบกวนทุกคืน กรณีที่ไม่มีหลักฐานแบบนี้ (ซึ่งคงไม่สามารถหาได้) จะสามารถใช้พยานบุคคลคือรปภ. ที่พบเหตุแทนได้หรือไม่ และควรดำเนินเรื่องอย่างไร เพราะคงไม่สามารถหวังพึ่งนิติได้แล้ว
ข้างห้องพาคนขึ้นมาเสพยา แจ้งนิติคอนโดแล้วไม่ขยับ ควรทำยังไงดี
1. ข้างห้องเพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ใหม่เมื่อกลางเดือนก่อน วันแรกที่มาก็ขนคนแปลกหน้าเข้ามาเสียงดังตั้งแต่เช้าจนดึก จากนั้นมีพฤติกรรมไม่นอนตอนกลางคืนและเปิดเพลงเสียงดัง ห้องนี้มีคนอยู่ทั้งหมด 4 คน เป็นผัวเมียหนุ่มสาวเหมือนสก๊อย 2 คู่ (ทั้งที่จริงตามกฏคอนโดอนุญาตให้พักได้แค่ห้องละ 2 คน) ครั้งแรกเรียกรปภ.เคาะเตือน เสียงเงียบลงไป 1-2 วัน แล้วกลับมาดังใหม่
2. เรียกรปภ. เคาะเตือนอีกครั้ง คราวนี้ไม่ยอมเปิดประตู รปภ. ทำอะไรไม่ได้ แต่มากระซิบว่า ครั้งก่อนที่เปิดเข้าไป พบหลักฐานว่าคนกลุ่มนี้เสพยา รปภ. กลัวมีเรื่องจึงไม่กล้าทำอะไร และไม่มีการสื่อสารกับนิติคอนโด
3. จขกท. ไปแจ้งเรื่องกับนิติให้ตรวจสอบ นิติรับปากดิบดีว่านี่เป็นเรื่องผิดกฏหมาย ยังไงก็ต้องแจ้งถึงตำรวจ จขกท. กลัวเป็นเรื่องใหญ่และตัวเองจะพลอยได้รับอันตราย จึงเตือนให้นิติตรวจสอบกับรปภ. คนต้นเรื่องก่อน รวมถึงตรวจสอบว่ากลุ่มคนข้างห้องนี้เป็นเจ้าของห้องตัวจริงหรือแค่ผู้เช่า หากเป็นผู้เช่า และมีนัดเสพยาจริง จึงค่อยแจ้งเจ้าของห้องให้หาวิธีดำเนินการอย่างละมุนละม่อมที่สุด เพื่อความปลอดภัยของทุกฝ่าย ปฏิกิริยาของนิติคือรับปากในลักษณะตัดบทว่าจะดำเนินเรื่องด้วยวิธีของตัวเอง
4. สามวันต่อมา จขกท. ถามความคืบหน้าจากนิติ ปรากฏว่านิติยังไม่ลงมือทำอะไรเลย จขกท. จึงคาดคั้นจนนิติเริ่มขยับและได้ทราบว่าคนกลุ่มนี้มาเช่าอยู่ใหม่ ในชั้นต้นนิติแจ้งจขกท. ว่าได้โทรไปบอกเจ้าของห้องตัวจริงให้เตือนผู้เช่าเรื่องเสียงดัง ปรากฏว่าผู้เช่าลงมาเอาเรื่องถึงนิติ (นิติเป็นคนยืนยันเองว่าคนกลุ่มนี้มีลักษณะน่ากลัว และมีท่าทีไม่ยอม แต่ยังดีที่ไม่ได้บอกเลขห้องไป)
5. ในระหว่างสามวันถัดจากนั้น ข้างห้องยอมเบาเครื่องเสียงลง แต่ยังคงมีพฤติกรรมเหมือนเดิมคือไม่นอนตอนกลางคืน พูดคุย เปิดประตูและเลื่อนข้าวของเสียงดัง ในที่สุดจขกท. จึงลงไปถามความคืบหน้านิติอีกครั้ง ปรากฏว่านิติยังคงไม่ได้ตรวจสอบกับรปภ. คนต้นเรื่อง จขกท. คิดว่านิติไม่เชื่อเรื่องทั้งหมด จึงขอให้ไปตามรปภ. มาพูดคุยต่อหน้าเดี๋ยวนั้น รปภ. ยืนยันตรงกัน (จขกท. อัดคลิปเสียงและวิดีโอเป็นหลักฐานทุกครั้งที่พูดคุย) ในที่สุดนิติบอกว่า ครั้งก่อนที่โทรไปรายงานเจ้าของห้องตัวจริงนั้น ไม่ได้บอกแค่ว่า ผู้เช่าเสียงดัง แต่อ้างเรื่องเสพยาด้วย (ทั้งที่ตอนนั้นยังไม่มีการตรวจสอบกับรปภ.) เจ้าของห้องจึงโทรไปเอาเรื่องกับผู้เช่า เป็นสาเหตุให้ผู้เช่าโกรธและมาเอาเรื่องว่าใครเป็นคนแจ้ง ขอทั้งหมายเลขห้องที่แจ้งและรปภ.คนที่แจ้งเรื่องเสพยา พร้อมปฏิเสธว่าไม่ได้เสพยา (แต่ยอมรับว่าพาเพื่อนจำนวนมากมาที่ห้องจริง)
6. นิติบอกว่าไม่สามารถทำอะไรได้เพราะไม่มีหลักฐาน และอ้างว่าตอนนี้ติดตั้งกล่องแดง (ตำรวจ) แล้ว ซึ่งส่วนตัว จขกท. ไม่รู้สึกว่าเกิดประโยชน์อย่างใด
ขออนุญาตถามว่า เคสนี้จะทำอย่างไรได้บ้าง เพราะจขกท. รู้สึกถึงความไม่ปลอดภัย และข้างห้องยังมีเสียงรบกวนทุกคืน กรณีที่ไม่มีหลักฐานแบบนี้ (ซึ่งคงไม่สามารถหาได้) จะสามารถใช้พยานบุคคลคือรปภ. ที่พบเหตุแทนได้หรือไม่ และควรดำเนินเรื่องอย่างไร เพราะคงไม่สามารถหวังพึ่งนิติได้แล้ว