คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
คุณภาพใกล้เคียงกัน แรงดันที่ได้ก็พอเพียงใช้งานทั้งคู่
ทีนี้ก็ต้องดูการรับประกันและบริการหลังการขาย ดูว่ายี่ห้อไหนบริการหลังการขายดีกว่ากัน ยี่ห้อแรกบอกรับประกัน๕ปี ดูดีกว่า
ลองถามร้านค้าดูว่าตอนเครื่องเสียต้องทำอย่างไร มีการบริการถึงที่หรือไม่ เครื่องเสียต้องรอสั่งอะไหล่จากนอกหรือเปล่า
ทีนี้ก็ต้องดูการรับประกันและบริการหลังการขาย ดูว่ายี่ห้อไหนบริการหลังการขายดีกว่ากัน ยี่ห้อแรกบอกรับประกัน๕ปี ดูดีกว่า
ลองถามร้านค้าดูว่าตอนเครื่องเสียต้องทำอย่างไร มีการบริการถึงที่หรือไม่ เครื่องเสียต้องรอสั่งอะไหล่จากนอกหรือเปล่า
▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
ช่วยเลือกปั้มน้ำหน่อยครับ ระหว่าง DAB และ Grundfos
ตอนนี้เบื่อของญี่ปุ่นครับ เลยอยากลองของยุโรปบ้างหาข้อมูลไปมาก็ได้เจอกับ
1. Grundfos SCALA2 คุณสมบัติเด่นๆคือ
- Perfect water pressure : ตัวควบคุมปั๊มน้ำอัจฉริยะช่วยปรับแรงดันอัตโนมัติ
- ทำงานเงียบไร้เสียงรบกวน เงียบพอๆกับเครื่องล้างจานเทคโนโลยีใหม่ (47 dB(A) สำหรับการใช้งานปกติ)
- เลือกการใช้งานง่าย : เพียงเครื่องเดียวตอบสนองทุกความต้องการติดตั้งง่าย กะทัดรัด สมบูรณ์แบบในเครื่องเดียว แค่เสียบปลั๊กก็ทำงานได้ทันที
- ง่ายต่อการใช้งาน : แผงควบคุมใช้งานง่าย
- ไว้วางใจได้ : มีระบบตัดการทำงานกรณีน้ำแห้งหรือน้ำขาด (Dry-running protection) และกรณีท่อรั่ว ปิดวาล์วน้ำไม่สนิทเพื่อป้องกันการเสียหายจากตัวปั๊ม (anti-cycling)
- ทนทาน อายุการใช้งานยาวนาน : ผ่านการทดสอบเรื่องคุณภาพที่ยอดเยี่ยม ไม่ต้องบำรุงรักษา
- ได้รับฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5
- รับประกัน 5 ปี
จุดเด่นอีกอย่างของ SCALA2 คือมีเซ็นเซอร์ในตัวที่ทำรักษาแรงดันด้านจ่ายน้ำได้คงที่ตลอดเวลา SCALA2 มีอุปกรณ์ปรับการทำงานช่วยเพิ่มแรงดันน้ำได้ทันที เมื่อน้ำไม่แรงตามที่ตั้งค่าไว้ นั่นคือตัวควบคุมปั๊มน้ำอัจฉริยะ และผลลัพธ์ที่ได้ คือ น้ำแรงสม่ำเสมอตามที่ต้องการ (Perfect water pressure)
2. DAP E.SYBOX MINI คุณสมบัติเด่นๆคือ
- ช่วยให้น้ำในบ้านไหลแรงเท่ากันทุกจุด ไม่มีแผ่วแม้ใช้งานพร้อมกันหลายจุด
- มีมอเตอร์ระบายความร้อนด้วยน้ำ และขาป้องกันแรงสั่น ทำให้เสียงเบาเพียง 47 dB
- ตัวปั๊มมีระบบอินเวอร์เตอร์ในตัว ช่วยประหยัดพลังงานกว่าปั๊มทั่วไป
- ติดตั้งง่ายทั้งแนวตั้ง แนวนอน และแขวนบนฝาผนัง
- ใช้งานง่าย ปรับแรงดันด้วยหน้าจอ LCD
- มีระบบเตือนหากมีน้ำรั่ว และมีระบบ Run-dry protection ตัดการทำงานอัตโนมัติหากน้ำไม่ไหล
คุณสมบัติสองเครื่องนี้ใกล้เคียงกันมากแต่ E.SYBOX MINI จะมีอัตราส่งน้ำสูงสุด 7.5 บาร์ แต่ SCALA2 มีแค่ 5.5 บาร์ ราคาต่างกัน 500฿ ส่วนที่เหลือก็ต่างกันนิดหน่อย ตอนนี้อยากจะให้เพื่อนๆช่วยเลือก ช่วยตัดสินหน่อยครับว่าจะเลือกตัวไหนดี ทั้งเรื่องของคุณภาพ ความคงทน อะไหล่ และศูนย์บริการ
ขอขอบคุณทุกความเห็นครับ