เมื่อผมพลาดโอกาสดีๆ ที่มีเพียงครั้งเดียวในชีวิตไป

กระทู้สนทนา
เป็นความทรงจำเมื่อครั้งยังศึกษาอยู่ในสถาบันแห่งหนึ่ง ปีนั้นทางสถาบันได้จัดนิทรรศการแสดงความก้าวหน้าทางด้านวิศวกรรม และที่สำคัญในครั้งนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะเสด็จมาทอดพระเนตรในงานนิทรรศการครั้งนี้ด้วย  พระองค์ทรงสนพระราชหฤทัยในงานด้านวิศวกรรมมาก เสด็จทอดพระเนตรซักถามในจุดที่สนพระราชหฤทัยเป็นเวลานานๆ พระองค์ท่านเสด็จมาถึงสถาบันประมาณ 16.00 น. ทรงทอดพระเนตรจะถึง 22.00 น.

ในครั้งนั้นนักศึกษามีการตั้งซุ้มซึ่งแบ่งพื้นที่เป็นล๊อคๆ เพื่อแสดงผลงานด้านวิศวกรรม ผมและพวกเพื่อนๆ ก็อยู่ประจำซุ้มของตน แต่ว่าอยู่กันหลายคนค่อนข้างอึดอัด ผมมองเห็นซุ้มฝั่งตรงข้ามเยื้องไปอีก 3 ล๊อคว่างไม่มีนักศึกษาประจำซุ้ม ผมเลยหลบไปยืนที่ซุ้มนั้น ซุ้มนี้เป็นซุ้มโลหะวิทยาซึ่งไม่น่าสนใจไม่มีเครื่องจักรอะไรแสดงเป็นชิ้นเป็นอันมีเพียงแค่รูปถ่ายโลหะวิทยาที่แสดงให้เห็นถึงเม็ดเกรนโลหะชนิดต่างๆ และมีกล้องจุลทรรศน์วางไว้โชว์ไว้เพื่อให้ผู้ชมงานลองส่องดู  

ในช่วงเวลานั้นทราบว่าพระองค์ท่านเสด็จมาที่งานแล้วแต่ไม่รู้ว่าทรงทอดพระเนตรอยู่ซุ้มไหน เมื่อผมย้ายไปยืนซุ้มว่างอยู่แค่ชั่วแวบเดียว พระองค์ท่านก็เสด็จมาในซอยนี้ ซุ้มในซอยนี้มี 6 ล๊อคซ้ายขวา ผมอยู่ล๊อคสุดท้าย มีการส่งสัญญาณว่าพระองค์ท่านเสด็จมาแล้ว จากนั้นก็เข้าประจำที่ ผมยืนประจำอยู่หน้าซุ้ม ช่วงเวลานั้นเร็วมาก  พระองค์ท่านเสด็จพระดำเนินผ่านล๊อคเหล่านั้นมาหยุดหน้าซุ้มที่ผมยืนอยู่หน้าซุ้มผม ณ จุดนี้พระองค์ท่านจะต้องเลี้ยวขวาเพื่อออกไปสู่พื้นที่อื่น แต่พระองค์ท่านทรงหยุด แล้วหันมาทางซ้ายหันเข้าหาซุ้มที่ผมยืนอยู่  ทรงทอดพระเนตรมาที่กระผม เหมือนจะดูว่าผมจะพูดอะไรหมั๊ย  ผมได้ประสบกับสายพระเนตรของพระองค์ท่านแล้วผมตะลึงขาดสติไปชั่วขณะ คิดว่าเราจะพูดยังไงดี

เข้าใจเลยตอนนี้ว่าทำไมนายพลบางท่านที่ต้องรายงานต่อหน้าพระพักตร์พระองค์ท่านถึงได้ลืมชื่อตัวเอง  ในครั้งนี้พระองค์ท่านก็คงจะเขาใจความรู้สึกผม พระองค์ท่านเห็นผมนิ่งไปชั่วขณะ พระองค์ท่านก็ทรงหันหลังกลับเพื่อเสด็จพระดำเนินออกไปเพื่อทอดพระเนตรพื้นที่อื่นต่อ จนกระทั่งพระองค์ท่านหันหลังให้แล้วถึงได้สติคิดว่า โธ่...ทำไมเราถึงไม่กราบพระองค์ท่าน คิดได้ก็สายเสียแล้ว เป็นครั้งเดียวในชีวิตที่ได้ยืนต่อหน้าพระพักตร์ของพระองค์ท่านห่างกันเพียงแค่ระยะคุยกัน จะกล่าวรายงานผลงานอะไรก็ได้ หรือจะกล่าวทรงพระเจริญก็ได้ หรือจะก้มลงกราบท่านก็ได้ แต่ก็ไม่ได้ทำ...มัวตะลึงทำอะไรไม่ถูก

ต่อมาเมื่อจบการศึกษามีโอกาสได้รับพระราชทานปริญญาบัตรจากพระหัตถ์พระองค์ท่านแต่ครั้งนั้นสายตาก็มองได้แค่มองใบปริญญาบัตร
ถึงแม้ครั้งนั้นจะพลาดโอกาสได้แสดงความเคารพพระองค์ท่านไป แต่ภาพนั้นและอารมณ์นั้นก็จำติดตา ช่วงนี้ได้สวดมนต์ นั่งสมาธิ อุทิศส่วนกุศลถวายพระองค์ท่าน ตอนอุทิศกุศลก็นึกถึงพระพักตร์ของพระองค์ท่านที่ได้เห็นในครั้งนั้นซึ่งเป็นภาพที่แจ่มชัดอยู่ในจิตมาก
ช่วงนี้เมื่อได้สวดมนต์หรือนั่งสมาธิภาวนาก็อุทิศบุญถวายพระองค์ท่านถึงแม้บุญจะน้อยนิดดั่งเม็ดทรายก็ตาม
หลังจากครั้งนั้นที่ได้เห็นพระองค์ท่าน ผมก็ได้ฝันถึงพระองค์ท่านบ่อยๆ โดนตำหนิก็มี ให้กำลังใจก็มี พาเข้าไปเที่ยวในวังก็มี นับว่าเป็นเรื่องที่แปลก ถึงตอนนี้พระองค์ท่านไม่อยู่แล้วแต่ในใจผมก็รู้สึกว่าพระองค์ท่านยังคงแผ่พระบารมีปกป้องคุ้มครองพวกเราประชาชนของพระองค์ท่านตลอดไป
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่