Margaret Thatcher อดีตนายกรัฐมนตรีหญิง (ซึ่งปัจจุบันเสียชีวิตไปแล้ว) กำลังรับประทานอาหารเช้าอยู่ที่บ้านในจัตุรัสเชสเตอร์ กรุงลอนดอน อยู่ๆเธอก็นึกถึง เดนิส สามีผู้ล่วงลับไป แล้ว ทำให้ความทรงจำดีๆ ที่เธอมีต่อสามีพรั่งพรูออกมา เธอใช้ชีวิตราวกับว่าเดนิสมีตัวตนและอยู่เคียงข้างเธอ จริงๆ และเมื่อทีมงานของมาร์กาเร็ตได้เห็นถึงอาการความสับสนระหว่างอดีตและปัจจุบันของเธอ จึงแจ้งให้แครอล แธทเชอร์ ลูกสาวของมาร์กาเร็ตรับรู้ โดยเรื่องราวทั้งหมดของหนังจะเป็นการตีแผ่อดีตของเธอกว่าที่จะก้าวมาเป็น นายกรัฐมนตรี และทำให้เธอนั้นได้รับฉายา The Iron Lady หรือ หญิงเหล็ก นั้นเองครับ
The Iron Lady กำกับการแสดงโดย Phyllida Lloyd ที่เคยกำกับ Mamma Mia! ปี 2008 ทำได้ค่อนข้างสนุก และ การเล่าเรื่อง และ การแสดงของนักแสดง สิ่งที่ดีที่สุดของ The Iron Lady คือด้านการแสดงของ เมอรีล สตรีป ในบทของ หญิงเหล็ก มาร์กาเร็ต แธทเชอร์
ผมว่า เมอรีล สตรีป นั้นสามารถ่ายทอดทั้งสีหน้า ท่าทาง ของหญิงคนนึงที่กำลังตระหนักใจ กลุ้มใจ และ กระวนกระวาย ออกมาได้อย่างน่าเชื่อถือ โดยเฉพาะในฉากแสดงอารมณ์ทั้งหลายที่ดูแล้วนั้น พูดได้เต็มปากเลยว่า เธอเป็นคนที่ แบกความคาดหวังตัวหนังไว้บ่นบ่าไหล่ทั้งเรื่องไว้ได้เลยทีเดียว การแต่งหน้า แต่งตานี้ชั้นเยี่ยมเหมือนมากๆๆๆๆๆ ทำให้ให้ป้า เมอรีล สตรีป แสดงการแสดงที่สุดยอดได้อย่างเต็มที่ และสิ่งที่ชอบในหนังเรื่องนี้อีกคือการที่ผู้กำกับนั้นได้ใส่ประเด็นเรื่องราวของการเสียดสีการเมือง แบบสุดยอดมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
แต่เรื่องการ เสียดสีการเมือง ทั้งหมดนั้นก็ยังไม่สามารถทำให้หนังดูสนุกขึ้นได้ เพราะเอาเข้าจริงๆสิ่งที่ผิดพลาดครั้งใหญ่ของ The Iron Lady เลยคือการที่ผู้กำกับนั้นเลือกที่จะเล่าเรื่องหนังในรูปแบบของการตัดภาพสลับฉากจากอดีต และ ปัจจุบัน อารมณ์ประมาณว่าให้คนดูนั้นรู้สึกเหมือนเข้าไปอยู่ในหัวของ มาร์กาเร็ต แธทเชอร์ และเดินเรื่องตามสิ่งที่เธอคิด เธอเห็น ในช่วงเวลาเหล่านั้น แทนที่ผู้กำกับนั้นจะเลือกที่จะเล่าเรื่องในแบบเส้นตรง ที่สามารถทำให้คนดูเข้าใจง่าย และ อินง่ายกว่าการเล่าเรื่องแบบตัดสลับฉากแบบนี้
อารมณ์ของหนังก็เหมือนกับว่า เอาเหตุการณ์สำคัญๆในช่วงชีวิตของ มาร์กาเร็ต แธทเชอร์ มาแปะๆใส่เป็นหนังเรื่องเดียวกัน แทนที่หนังนั้นจะเลือกเล่าประวัติทั้งชีวิตของเธอแทนจะดีกว่า แต่ยังไงก็ตามถ้าหากใครยังไม่เคยเห็นสิ่งที่เรียกว่า 'การแสดงขั้นเทพ' นั้น ก็สามารถหาดูได้จากการแสดงของ เมอรีล สตรีป ในหนังเรื่องนี้เลยครับ
The Iron Lady ถือว่าเป็นหนังชีวประวัติที่มีดีตรงด้านการแสดงอันสุดยอดของ ป้า เมอรีล สตรีป ที่หนังเปรียบเสมือนให้ป้าแกได้โชว์การแสดงได้เต็มที่ ผสมผสานไปกับประเด็นการเมืองที่โอเค ครับ แล้วทุกท่านละคิดว่าอย่างไรครับ
เมื่อวานช่องMono29เอาหนังเรื่องThe Iron Ladyมาร์กาเร็ต แธตเชอร์...หญิงเหล็กพลิกแผ่นดินต้องการบอกอะไรคนดูหรือเปล่าครับ
The Iron Lady กำกับการแสดงโดย Phyllida Lloyd ที่เคยกำกับ Mamma Mia! ปี 2008 ทำได้ค่อนข้างสนุก และ การเล่าเรื่อง และ การแสดงของนักแสดง สิ่งที่ดีที่สุดของ The Iron Lady คือด้านการแสดงของ เมอรีล สตรีป ในบทของ หญิงเหล็ก มาร์กาเร็ต แธทเชอร์
ผมว่า เมอรีล สตรีป นั้นสามารถ่ายทอดทั้งสีหน้า ท่าทาง ของหญิงคนนึงที่กำลังตระหนักใจ กลุ้มใจ และ กระวนกระวาย ออกมาได้อย่างน่าเชื่อถือ โดยเฉพาะในฉากแสดงอารมณ์ทั้งหลายที่ดูแล้วนั้น พูดได้เต็มปากเลยว่า เธอเป็นคนที่ แบกความคาดหวังตัวหนังไว้บ่นบ่าไหล่ทั้งเรื่องไว้ได้เลยทีเดียว การแต่งหน้า แต่งตานี้ชั้นเยี่ยมเหมือนมากๆๆๆๆๆ ทำให้ให้ป้า เมอรีล สตรีป แสดงการแสดงที่สุดยอดได้อย่างเต็มที่ และสิ่งที่ชอบในหนังเรื่องนี้อีกคือการที่ผู้กำกับนั้นได้ใส่ประเด็นเรื่องราวของการเสียดสีการเมือง แบบสุดยอดมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
แต่เรื่องการ เสียดสีการเมือง ทั้งหมดนั้นก็ยังไม่สามารถทำให้หนังดูสนุกขึ้นได้ เพราะเอาเข้าจริงๆสิ่งที่ผิดพลาดครั้งใหญ่ของ The Iron Lady เลยคือการที่ผู้กำกับนั้นเลือกที่จะเล่าเรื่องหนังในรูปแบบของการตัดภาพสลับฉากจากอดีต และ ปัจจุบัน อารมณ์ประมาณว่าให้คนดูนั้นรู้สึกเหมือนเข้าไปอยู่ในหัวของ มาร์กาเร็ต แธทเชอร์ และเดินเรื่องตามสิ่งที่เธอคิด เธอเห็น ในช่วงเวลาเหล่านั้น แทนที่ผู้กำกับนั้นจะเลือกที่จะเล่าเรื่องในแบบเส้นตรง ที่สามารถทำให้คนดูเข้าใจง่าย และ อินง่ายกว่าการเล่าเรื่องแบบตัดสลับฉากแบบนี้
อารมณ์ของหนังก็เหมือนกับว่า เอาเหตุการณ์สำคัญๆในช่วงชีวิตของ มาร์กาเร็ต แธทเชอร์ มาแปะๆใส่เป็นหนังเรื่องเดียวกัน แทนที่หนังนั้นจะเลือกเล่าประวัติทั้งชีวิตของเธอแทนจะดีกว่า แต่ยังไงก็ตามถ้าหากใครยังไม่เคยเห็นสิ่งที่เรียกว่า 'การแสดงขั้นเทพ' นั้น ก็สามารถหาดูได้จากการแสดงของ เมอรีล สตรีป ในหนังเรื่องนี้เลยครับ
The Iron Lady ถือว่าเป็นหนังชีวประวัติที่มีดีตรงด้านการแสดงอันสุดยอดของ ป้า เมอรีล สตรีป ที่หนังเปรียบเสมือนให้ป้าแกได้โชว์การแสดงได้เต็มที่ ผสมผสานไปกับประเด็นการเมืองที่โอเค ครับ แล้วทุกท่านละคิดว่าอย่างไรครับ