ซิงเกิ้ลมัม


คนโสดขี้เหงา


ครอบครัวอบอุ่น


อ้วนจอมเขมือบ




ก็ไม่รู้ว่าจะมีคนที่ไม่รู้แบบผมหรือเปล่า แต่เพิ่งรู้จริงๆครับ เพราะปกติ ก็ผ่านแล้วเข้าไปไหว้พระที่วัดถ้ำเขาย้อยเป็นประจำ แต่ไม่เคย ขึ้นบันไดข้างเขาเลยซักครั้งเดียว เลยพลาดอะไรดีๆไปโดยไม่รู้มาก่อน......... พอดีพาครอบครัวไปเที่ยวแก่งกะจานมา ขากลับก็หาที่เที่ยวมาตลอดทาง พอดี 1 ในสมาชิกที่ไปด้วย อยากไหว้พระก่อนกลับ ก็เลยแวะวัดถ้ำเขาย้อยกัน หลังจากให้อาหารลิงก็เข้าในตัวถ้ำที่อยู่ด้านหน้า ที่มีพระนอน ที่เห็นเป็นประจำแหละครับ ก็คุ้นตาเพราะแวะมาไหว้กันบ่อยๆ เสร็จก็กำลังจะกลับกันเพราะเวลาขณะนั้นก็ บ่ายสี่โมงครึ่ง เกือบๆ ห้าโมงเย็นแล้ว ถอยรถขับกลับกันออกมา แต่ยังไม่ทันพ้น ตัวเขาเลย มีคนบอกว่า เรายังไม่ได้ขึ้นเขากันเลย เสียดาย........... ฮ่าๆๆๆ ไอ้ผมมันคนทำอะไร ต้องให้สำเร็จซะด้วย เลี้ยวรถกลับเดี๋ยวนั้นเลย บอกเย็นก็ช่างมันล่ะ ไป ลุยกันเลย........ ก็นะ ก็แต่งชุดลุยป่ามาแล้วนี่นา จะเก้อได้ไง ฮ่าๆๆๆ แต่นั่นคือความคิดที่ผิดของผม เพราะพลาดอย่างแรง หารู้ไม่ว่า นอกจากจะเป็นทางขึ้นเขาแล้ว ข้างบนยังมี ถ้ำ ย่อยๆ อีก 4 ถ้ำ ซึ่ง ถ้ำที่มีคนนิยม ขึ้นเขาลูกนี้ เพื่อไปกราบพระในถ้ำ นั้นมี 2 ถ้ำที่ทำทางขึ้น ไว้แบบเดินไม่ลำบาก(แต่ต้องแข็งแรงนะ ฮ่าๆๆๆๆ) ว่าแล้วก็ขึ้นกันเลย ไม่ต้องพูดกันมาก จอดรถทันทีที่หน้าบันไดนั่นแหละ นั่นแหละครับที่บอกว่าพลาด เพราะ ผมไม่ได้หยิบไฟฉายที่ติดรถไว้เสมอ ไปด้วย เพราะความไม่รู้นี่เอง ฮ่าๆๆ

บันไดทางขึ้นเขา อยู่ด้านข้าง ตัวถ้ำด้านหน้า สังเภตง่ายๆ จะอยู่ติดห้องน้ำครับ






โชคดี ได้ พี่คนนี้ เป็นคนพานำเที่ยว แกบอกว่าเป็นห่วง เพราะใกล้เย็น ในถ้ำจะมืดมาก



ปากทางเข้าถ้ำสวรรค์ ชัน และข้างในมืดมาก ได้บรรยากาศแบบถ้ำโดยสมบูรณ์แบบครับ






นี่คือแหล่งแสง แหล่งเดียวที่จะได้จากภายในถ้ำ คือช่องโหว่ของเพดานถ้ำ ที่ให้แสงแดดสาดส่องเข้ามาในถ้ำได้เป็นบางส่วน......... แต่เวลาที่ คณะผมเข้าไปคือ ใกล้ ห้าโมงเย็นแล้ว ซึ่ง แสงจากช่องนี้ เหลือน้อยเต็มที ข้างในจึงมืดมากกกกก จน ไม่ต้องห่วงเรื่องคุณภาพภาพที่จะได้เลยครับ


ความเชื่อที่คนเอาหินมากองกันเพื่อขอพร จากสิ่งศักดิ์สิทธิ์






บนผนังเพดานถ้ำด้านบน มีฝูงค้างคาวเกาะอยู่จำนวนมาก เพิ่ม อรรถรสให้รู้สึกอยู่ร่วมกับธรรมชาติดีพิลึกครับ น่าเสียดายที่กล้องวีดีโอผมจับภาพได้แบบ เบลอมาก เพราะในถ้ำค่อนข้างมืดจริงๆ แสงที่เห็นก็คือแสงไฟฉาย ของคนนำทางส่องให้ดู ฝูงค้างคาวกลุ่มนี้


องค์พระพุทธรูปต่างๆที่ อยู่ในถ้ำในมุมมืด ที่มีแสงกระทบจากด้านข้างเท่านั้น บรรยากาศวังเวงจริงๆ แหะๆๆๆ




หินรูปหัวพญานาค ที่มีคนนิยมมากราบบูชาขอพรกัน










กลับขึ้นจากถ้ำแรกล่ะครับ ยังมีอีกถ้ำที่ เดินเท้าแบบธรรมดาได้อีก


ทางเดินต่อไปถ้ำที่ 2 ต่อไป ซึ่ง คนนำเที่ยว บอกว่าเขาลูกนี้ มีทั้งหมด 4 ถ้ำ เป็นถ้ำที่เดินได้ด้วยเท้าเปล่า แบบนี้ 2 ถ้ำ และ ุถ้ำทีต้องปีนเขาขึ้นไปอีก 2 ถ้ำครับ เราคงไม่ได้ปีนกันแน่ เพราะ แต่ละคน หมดแรงแล้ว ฮ่าๆๆๆ ลูกชายผม เข่าอ่อนตั้งแต่ขึ้นมาถึงข้างบนนี้แล้ว หมดแรงข้าวผัดกระเพรา ครับ ฮ่าๆๆๆ






ปากทางเข้า ถ้ำ พระศรีอารย์








ในถ้ำพระศรีอารย์ ยังมี ช่องลงลึกลงไปอีก เพื่อไปยัง หินคนบาป




นี่คือหินคนบาป ที่ผู้นำเที่ยวเล่าให้ฟังว่า ถ้าคนบาปมายืนใต้หินนี้ หินจะตกลงมาทับ ผมไม่กล้าเข้าไปยืนเลย เพราะกลัวว่า เดี๋ยว คนต่อไปจะไม่มีหินก้อนนี้ไว้พิสูจน์ความบาปครับ แหะะๆๆๆ ก็นะ ไม่แน่ใจตัวเองเท่าไหร่ว่า ถ้าเอาบุญ กับบาป มาชั่ง อะไรจะมากกว่ากัน เลยขอตัวดีกว่าครับ ฮ่าๆๆๆ


ปล.ภาพทั้งหมด เป็นภาพที่แค็ปจากไฟล์วีดีโอที่ตัดต่อเรียบร้อยแล้ว บางส่วน ก็เลยมีตัวหนังสือ ที่ผมทำไว้บรรยายในภาพ ลืมเอาออกครับ แหะะๆๆ ส่วนที่มืดๆ มัวๆ ก็เพราะภายในถ้ำมืดจริงๆครับ ต้องอาศัยไฟจาก แสงของโทรศัพท์เพื่อส่องดูทางกัน ถ่ายติดบ้าง มัวบาง กล้องออโต้โฟกัส มันปรับไม่ทัน บางทีก็มัวดื้อ ถ้ารู้ล่วงหน้าว่าจะเข้าถ้ำ คงหยิบไฟฉายในรถติดมือไปด้วย เสียดายจริงๆ ฮ่าๆๆ