[CR] สวัสดี สังขละ

@สังขละบุรี

สวัสดีพี่น้องชาว Pantip ทุกท่าน

นี่เป็นครั้งแรกของ จขกท. ที่มักจะพึ่งพา Pantip ในการศึกษาข้อมูลการเดินทาง ที่ท่องเที่ยว ที่กิน ซึ่งได้ประโยชน์สูงมาก และในครั้งนี้ จขกท. ได้มีโอกาสไปสังขละบุรี ในช่วงวันศุกร์-อาทิตย์ จึงขอแชร์ประสบการณ์และการเดินทาง เพื่อต่อไปจะได้เป็นประโยชน์แก่ผู้ที่สนใจต่อไป

+_+_+_+_+_+_+_+_+_+_+_+_+_+_+_+

ออกตัวก่อนว่า ไปครั้งนี้ใช้รถสาธารณะในการเดินทางทั้งสิ้น จึงต้องเผื่อเวลาในการเดินทางนิดหน่อย
เช้าวันที่ 1

ออกจากบ้าน 06:00 ถึงสายใต้ 06:30
ขึ้นรถตู้ สายใต้ – ขนส่งกาญจนบุรี 07:00 ราคา 100 บาท ถึงขนส่งกาญจนบุรี 09:10
จองตั๋วกาญจนบุรี – ด่านเจย์ดีสามองค์ ราคา 175 บาท 09:40 (จองตั๋วพร้อมเลือกเลขที่นั่งได้ครับ ไม่พอใจก็เลือกเที่ยวถัดไปได้)
จัดมื้อเช้ารองท้องก่อนเดินทางกันก่อน ร้านขายข้าวอยู่ข้างๆ ป้าใจดีมาก อาหารก็อร่อยใช้ได้เลย

ว่าแล้วก็ขึ้นรถกันต่อ เส้นทางจากขนส่งกาญจนบุรี – ด่านเจย์ดีสามองค์ แต่เราต้องบอกคนขับว่าลงที่สังขละน่ะ
ถึงสังขละบุรี 13:20 ใช้บริการพี่วินเข้าที่พัก คนละ20 บาท พร้อมขอเบอร์ไว้เผื่อใช้บริการตอนขากลับ เข้าที่พัก 13:30
ที่พักมีหลายราคา และวิววให้เลือกหลายแบบ ส่วนตัวขอวิววแบบนี้ละกัน เสียค่าวิวไป 950 บาท/คืนคับ

ส่วนที่พักมีบริการเช่ารถมอไซต์ 24 ชม.คิด 200 บาท เช่ารถน้ำมันเต็มถังคืนเต็มถังคับ
จากนั้นก็ถึงเวลาแห่งความสงบ ตามที่ใครๆก็บอกว่าที่นี่ slow life มากๆ เมื่อมาเจอด้วยตัวเองเลยเข้าใจ ด้วยความเป็นชุมชนยังสูงมาก และวิถีชุมชนยังค่อนข้างจะคงเดิม เริ่มสิครับจะรอไรรรรรร

เริ่มทริปแรกของเรา จับมอไซต์ได้เราก็แว้นไปยังจุดชมวิว ที่ใครๆก็บอกว่าสามารถมองเห็นวิวของสะพานมอญได้ดีที่สุด ก็จะได้วิวประมาณนี้คับ

ทริปต่อไปของเราคือ นั่งเรือชมวัดจมน้ำ และเนื่องจากมาช่วงน้ำเยอะ จึงมีวัดที่จมน้ำจริงๆ เราจึงนั่งเรือชมได้แค่สองวัด คือวัดวังก์วิเวการามเดิม และวัดสมเด็จเดิม ระหว่างทางก็จะเห็นชีวิตแบบปกติของคนท้องถิ่น และเจย์ดีพุทธคยาอยู่ไกลๆ

และนี่คือความสวยงามเมื่อได้ดูใกล้ๆ แนะนำให้มาดูด้วยตนเองครับ น้องเค้าแนะนำช่วงน้ำแห้งที่สามารถเดินลงไปที่วัดได้ คือช่วง มีนา – เมษา ครับ

ส่วนวัดสมเด็จเดิมต้องเดินขึ้นไป และอยู่สูงกว่าระดับน้ำ สามารถชมได้ตลอดคับ

เราจะขึ้นไปทางด้านหลังโบสถ์คับ จะมีน้องๆที่เป็นไกท์คอยแนะนำวิธีการสักการะที่ถูกต้องอยู่ (แล้วแต่น้ำใจจะให้น้องๆคับ) โดยหลักๆแล้วคือ
*ให้เดินไปเข้าทางด้านหน้าโบสถ์
*ก่อนเข้าให้เอามือแตะที่ขอบประตูและขอพรสามข้อ
*ข้อแรกระบุให้ขออนุญาตเข้าโบสถ์
*ข้อสองข้อสามตามความประสงค์
*เดินข้ามธรณีประตูและห้ามเหยียบ
*และเราจะเดินออกประตูทางด้านหลังโบสถ์โดยที่ไม่ผ่านด้านหน้าอีกเปรียบเหมือนชีวิตเราต้องเดินหน้าต่อไป ถ้าจะถ่ายรูปก็ให้ถ่ายไว้เลยจร้า
ส่วนเรื่องการเรียงหินไม่มีในขั้นตอนการสักการะ ไม่มีในความเชื่อ แล้วแต่ความคิดของแต่ละคนคับ

ตอนเราลงเรือลงจากฝั่งไทย ส่วนตอนขึ้นให้น้องอ๊อด(คนขับเรือและไกท์)ไปส่งเราที่ฝั่งมอญ เรือน้องเขาลงฟรีครับ แต่ตอนขึ้นต้องจ่ายตัง เนื่องจากไปได้แค่สองวัดค่าเรือเราจึงตกลงกันที่ 400 บาท

เราก็เดินข้ามสะพานจากฝั่งมอญกลับมา

กลับมาถึงฝั่งไทยก็เริ่มพลบค่ำ ถึงเวลาหาของกระแทกปาก และจุดมุ่งหมายต่อไปก็คือ ตลาดหน้าอำเภอ โดยปกติจะมีถนนคนเดิน แต่เค้าจะยกเลิกช่วงหน้าฝน จะมีก็แค่ตลาดเล็กๆ ที่ให้นักท่องเที่ยวได้เดินสำรวจกัน รวบรวมทั้งร้านคาว หวาน ขนม ของฝาก และที่เป็นไฮไลท์ก็คือ “หมูจุ่ม ไม้ละ 1 บาท” สมราคาจริงๆ อันจิ๋วเดียว ปาไป 50 ไม้ ไม่กระเทือนสัตย์สี่กระเพาะอย่างเราเลย เลยต้องมีอะไรติดไม้ติดมือกลับไปกินที่ห้องสิค๊าป

จบวันที่หนึ่ง พักผ่อนร่างกายด้วยความเพลีย คงแปลกที่นอนตอนสองทุ่ม แต่สำหรับสังขละ คงปกติ ฝันดีคับ(เด๋วมาต่อน่ะ)
ชื่อสินค้า:   @สังขละบุรี
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่