[CR] ทริป 2 วัน 1 คืน Hi Scene Resort สวนผึ้ง

ทริปนี้ตั้งใจที่จะพาแฟนไปฉลองครบรอบ 1 ปี ที่คบกันมา ในตอนแรกตั้งใจจะไปที่อีสาน โดยเลือกจะไปเส้นทางทำบุญ นครพนม-สกลนคร-อุดรธานี ต่อด้วยไปประเทศลาว แต่ด้วยมวลน้ำที่มาแบบไม่ทันตั้งตัว ทำให้ถนนหลายเส้นขาด และน้ำท่วมค่อนข้างหนัก เราเลยเปลี่ยนแผน ว่าจะไปเหนือ แต่ก็ต้องได้รับข่าวมรสุมและน้ำท่วมอีกเช่นกัน ตัดสินใจจะลงใต้ ก็ตามด้วยข่าวมรสุมพัดผ่านทางใต้

              สุดท้ายจึงตัดสินใจที่จะเลือกที่พักใกล้กรุงเทพ การเดินทางไม่เกิน 2 ชั่วโมง เพื่อความปลอดภัยของเราทั้ง 2 คน ที่ผ่านมาเพิ่งจะไปทะเลกันไม่นาน จึงตัดสินใจไปที่สวนผึ้ง ในช่วงปลายฝนต้นหนาว จะได้สัมผัสอากาศเย็นสบาย ท่ามกลางภูเขา สำหรับการเลือกที่พัก มีความตั้งใจอยากได้ที่พักบ้านเป็นหลัง มีอ่างอาบน้ำ และมีดาดฟ้าด้านบน สำหรับชมดาวตอนกลางคืน หลังจากคัดเลือกอยู่นาน เราก็ทำการตัดสินใจจองที่พักที่ Hi Scene Resort ด้วยที่พักแห่งนี้เปิดให้เช็คอินได้ในเวลา บ่าย 2 โมง เราจึงเลือกที่จะไปเที่ยวที่ฟาร์มแกะกันก่อน และเพื่อความเป็นสิริมงคล ในทุกทริปของการเดินทาง เราจะเริ่มด้วยการทำบุญ ถวายสังฆทาน กันก่อนเสมอ โดยไม่เจาะจงเลือกวัดไหนเป็นพิเศษ แต่จะเลือกวัดที่ใกล้เคียงในเส้นทางที่เราขับรถผ่านตามความรู้สึก หลังจากขับรถหลงทางบ้าง เลี้ยวผิดแยกบ้าง ในที่สุดชะตาก็นำพาเรามาที่วัดรางบัวแห่งนี้ สามารอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ลิ้งค์ข้างล่างนะครับ

http://jaaechoun.blogspot.com/2017/10/blog-post_9.html
           
              หลังจากทำบุญเป็นที่เรียบร้อย เราก็มุ่งหน้าไปที่ฟาร์มแกะ Scenary Vintage Farm  วันนี้อากาศเหมือนจะไม่ค่อยเป็นใจในช่วงแรก แดดออกแรง แต่สายฝนกลับโปรยปรายเป็นระยะ ที่ลานจอดรถ ปริมาณรถเบาบาง สามารถเลือกจอดได้อย่างสบาย ร้านค้าของที่ระลึกในบริเวณด้านหน้า หลายร้านปิดตัวลง เหลือเพียงร้านเดียว

              ที่นี่ต้องซื้อบัตรผ่านเข้าประตู โดยมีเป็น Combo Set ให้เลือก 4 แบบ โดยเราเลือกเป็นแบบ Set C เพราะมีความสนใจที่จะดูการแสดงของแกะกับน้องหมา พร้อมได้ให้หญ้า นมและแครอทกับแกะและม้าแคระ ซึ่งพนักงานก็ได้ให้บัตรส่วนลดซื้อไอติมนมแกะภายในฟาร์มมาให้ได้ลิ้มรสชาติกันในราคาพิเศษกันอีกด้วย สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ลิ้งค์ข้างล่างนะครับ

http://jaaechoun.blogspot.com/2017/10/scenary-farm.html

             เที่ยวชมฟาร์มแกะ ดูโชว์ ถ่ายรูปวินเทจเสร็จก็เป็นเวลาเกือบบ่ายสามโมง ร้านอาหารที่มีการกล่าวถึงเป็นจำนวนมาก ว่าถ้ามาที่สวนผึ้งต้องอย่าลืมแวะมาทานที่นี่ "ครัวม่อนไข่" เป็นร้านอาหารที่บรรยากาศอาจจะไม่สวยงาม แต่หลายคนกล่าวถึงว่ารสชาติอาหารอร่อย ในราคาที่ไม่แพงมาก เราจึงตัดสินใจที่จะไปทานอาหารกันก่อนเข้าที่พักที่ีนี่กัน สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ลิ้งค์ข้างล่างนะครับ

http://jaaechoun.blogspot.com/2017/10/blog-post_22.html

              หลังจากทานอาหารเสร็จและได้แวะทำบุญกันที่วัดช่องลม 2 เนื่องจากเห็นองค์เจ้าแม่กวนอิม และองค์พระพิฆเนศ ขนาดใหญ่ที่ริมข้างทาง ทำให้เกิดศรัทธาแวะเข้าไปสักการะ ขอพรก่อนที่จะเข้าไปที่พัก เราก็มาถึงที่พักกันในเวลาเกือบจะบ่าย 5 โมงเย็น












              หลังจากทำการติดต่อกับทางเจ้าหน้าที่ แจ้งชื่อที่ทำการจอง และชำระเงินส่วนที่เหลือ ทางที่พักจะให้เราทำการมัดจำค่ากุญแจห้องในราคา 500 บาท จากนั้นจะมีน้องพนักงานขับรถกอลฟ์นำทางเราไปยังที่บ้านพัก โดยบ้านพักที่นี่จะทำการวางตำแหน่งให้เหลื่อมกันตามแนวความสูง เพื่อที่จะสามารถชมทิวทัศน์ทางด้านหน้าได้ทุกหลัง เมื่อสอบถามถึงอาหารเช้า ซึ่งตอนแรกในเว็บจะแจ้งว่า มีนำมาเสริฟ์ที่บ้านทุกหลัง ซึ่งเราสามารถเลือกทานที่ด้านบนของที่พักได้ แต่ทางน้องพนักงานแจ้งว่า เนื่องจากมีแขกมาพักเต็มทุกหลัง ทำให้อาหารเช้าเป็นแบบบุฟเฟ่ต์ และจะให้บริการที่บริเวณห้องอาหาร ในเวลา 07.00-10.00 น.

               วันนี้เราจองบ้านพัก มาร์ซี่ โดยทางเจ้าหน้าที่แจ้งตั้งแต่ตอนจองว่า สามารถนำรถจอดที่บริเวณหน้าบ้านพักได้ แต่เนื่องจากที่จอดรถของบ้านพักของเรา มีบ้านพักหลังถัดไปข้างๆ นำรถมาจอดไว้ก่อนแล้ว ทำให้เราต้องนำรถมาจอดที่ด้านหลังที่พักแทน ซึ่งจะเป็นเหตุของปัญหาในช่วงเย็นที่จะกล่าวอีกทีนะครับ










              หลังจากสำรวจบ้านพักข้างนอกแล้ว ต่อไปเราก็จะทำการเข้าไปดูภายในบ้านพัก ซึ่งที่นี่ใช้เป็นกุญแจหลักเพียงดอกเดียวในการเปิดเข้าไปในบ้านพัก ไม่ต้องใช้คีย์การ์ดในการเสียบใช้ไฟ สามารถเปิดปิดไฟ ภายในบ้านพักอย่างอิสระ ที่นี่มีปลั๊กไฟให้บริการประมาณ 4 รู ซึ่งน่าจะพอเพียงสำหรับแขกผู้มาพัก 2 ท่าน

             เมื่อก้าวขาเข้ามาในบ้านพัก สิ่งแรกที่เราจะทำเป็นนิสัยก็คือ ทดลองล็อคประตูห้อง และสำรวจความปลอดภัยของประตู แล้วก็ต้องพบว่า โซ่ที่ใช้ล็อคภายในบ้านพัก ไม่สามารถคล้องได้ จึงหยิบโทรศัพท์ภายในขึ้นมา ว่าจะโทรไปสอบถามทางล็อบบี้ แล้วก็ต้องพบว่า โทรศัพท์ใช้การไม่ได้ ทั้งๆที่มีการเสียบสายโทรศัพท์ไว้เรียบร้อย ทำให้ต้องใช้มือถือโทรไปแจ้งกับทางที่พัก ได้ความว่า สายโทรศัพท์มีปัญหาทั้งรีสอร์ต สำหรับประตู จะรีบส่งน้องพนักงานมาตรวจสอบให้ เวลาผ่านไปประมาณเกือบ 10 นาที น้องพนักงานก็เข้ามาแจ้งว่าล็อคได้ปกติ แต่หมายถึงการล็อคด้วยลูกบิด

           ทางเราจึงแจ้งว่า โซ่ที่ใช้ล็อคมีปัญหา มันไม่สามารถล็อคคล้องถึง ทางพนักงานแจ้งว่า ไม่ทราบว่าเกิดจากปัญหาอะไร แต่ไม่ต้องใช้หรอก ทางเราก็ถึงกับนิ่งไปหลายวินาที เพราะรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัย หมายความว่า ด้านนอกใช้แค่กุญแจธรรมดา ก็สามารถไขเข้ามาภายในบ้านพักได้เลย น้องพนักงานแจ้งว่าที่นี่ปลอดภัยมาก มีกล้องวงจรปิดภายในรีสอร์ต เราถามถึงจุดที่วางกล้อง คือมีการวางกล้องไว้ที่ประตูด้านหลังที่ใช้เปิดนี่หรือเปล่า คำตอบคือไม่มี และยังยืนยันว่า ที่นี่มีการรักษาความปลอดภัยดี คนภายนอกที่ไม่ได้พักที่นี่ ไม่สามารถเข้ามาได้ มีพนักงานเฝ้าประตูใหญ่ทางเข้าตลอดเวลา
และบ้านพักที่นี่เต็มแล้ว ไม่สามารถเปลี่ยนบ้านพักหลังอื่นได้ ก็คือต้องทำใจพักที่นี่ และหวังเอาเองว่า จะไม่เกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น




         เมื่อจบปัญหาเรื่องการล็อคประตู เราก็เริ่มทำการสำรวจภายในห้องพักกันครับ ภายในห้องพักจะมีบริการทีวี LCD พร้อมเครื่องเล่น DVD และกล่องสัญญานทีวี มีผ้าม่าน 2 ชั้น มีโซฟานั่งเล่นด้านข้างพร้อมหมอนจำนวนมาก การตกแต่งภายในดูสวย สบายตา เตียงนอนปูผ้าสีขาวสะอาด วางผ้าเช็ดตัวพร้อมผ้าเช็ดผมไว้บนเตียง เครื่องปรับอากาศทำงานปกติ มีบริการไดร์เป่าผม ตู้เย็น พร้อมน้ำดื่ม 2 ขวด และมีกาแฟ โอวัลติน วางบริการพร้อมกาต้มน้ำร้อน ที่นี่อาจจะไม่มีสายดิน เพราะไปสัมผัสเลื่อนมุมองศาทีวีแล้วโดนไฟดูด






          จากนั้นเราก็เข้าไปดูในส่วนของห้องน้ำ อ่างอาบน้ำ สิ่งสำคัญอีกอย่างที่ทำให้เราเลือกเข้าพักบริการที่นี่ แล้วก็ต้องตกตะลึง กับภายในห้องน้ำ ก่อนเปิดไฟในห้องน้ำ ทุกอย่างก็ดูดี เหมือนกับที่เราดูในเว็บ มีอ่างอาบน้ำ พร้อมที่อาบน้ำด้านบน มีบริการชักโครก







           และเมื่อทำการเปิดไฟห้องน้ำ ก็ต้องพบว่า ห้องน้ำที่นี่ไม่ค่อยสะอาด และรู้สึกถึงความไม่เรียบร้อยของอุปกรณ์ในการใช้งาน เร่ิ่มตั้งแต่ก๊อกน้ำ ที่เวลาเปิดต้องใช้ความระมัดระวังว่า จะหลุดติดมือเราออกมาหรือเปล่า กระจกมองก็เปื้อนรอยอะไรสักอย่างเด่นชัด ด้านล่างของอ่างล้างหน้า ก็มีการซ่อมแซม โดยยังไม่ได้ปกปิดรอยอะไรเลย

            ผ้าเช็ดเท้าในห้องน้ำ เปียกโชกตั้งแต่ก่อนเราใช้งาน เมื่อนำผ้าเช็ดตัวเข้ามาเก็บไว้ในห้องน้ำ ก็ต้องพบว่า ผ้าเช็ดตัวสีออกหม่นมาก เนื่องจากไฟในส่วนที่นอนเป็นสีส้ม เลยทำให้ตอนแรกดูเหมือนขาวสะอาด ส่วนอ่างอาบน้ำที่เราตั้งใจเลือกที่พักที่นี่ เพื่อมาใช้งาน ก็ต้องตกตะลึงกับคราบที่มีไม่ใช่น้อย เรียกว่าเห็นแล้วไม่กล้าใช้ครับ สำหรับผ้าม่านที่เป็นพลาสติกในห้องน้ำ ทำมาได้แบบพอดีมาก เรียกว่าถ้าขึ้นไปยืนอาบน้ำด้านบนในอ่างอาบน้ำ ด้านนอกนี่มองเห็นเราข้างในกันแบบชัดเจนทีเดียว จะดึงมาปิดฝั่งที่อาบน้ำ คนที่เดินไปมาในบริเวณฝั่งอ่างล้างหน้า ข้างนอกก็จะมองเห็นอีกเช่นกัน เป็นการอาบน้ำที่ตื่นเต้นในระดับหนึ่งเลยทีเดียว



ชื่อสินค้า:   Hi Scene Resort สวนผึ้ง
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่