Flatliners ขอตายวูบเดียว | C+

เรื่องเป็นยังไง?
- กลุ่มนักศึกษาแพทย์ทำการทดลองเพื่อเข้าใกล้ "ความตาย" แต่มันกลับกลายเป็นประสบการณ์สุดเลวร้ายที่จะส่งผลกระทบต่อชีวิตของพวกเขาทุกคน

ความรู้สึกก่อนดู
- ดูตัวอย่างแล้วน่าสนใจมาก พล็อต, องค์ประกอบต่างๆ น่าสนใจ แต่ก็มาผิดหวังเพราะคะแนนออกมาต่ำตมมาก (ณ ตอนนั้นในเว็บ Rotten Tomatoes ได้ไป 0%) จึงทำให้ความอยากดูลดลงไปเยอะ แต่ก็ต้องมาพีคอีกครั้งเพราะเมื่อเข้าฉายในไทย คำวิจารณ์ออกมาโอเคเลย จึงทำให้ตัดสินใจไปดูในโรงฯ

เมื่อหนังฉาย สิ่งแรกที่เฟลมากคือฉากเปิดเรื่องกับไตเติลเปิดเรื่อง คือนี่มันหนังแผ่นมากๆ สวนทางกับ Logo Sony / Columbia ที่เพิ่งฉายไปไม่ถึงนาทีด้วยซ้ำ แต่พอหนังผ่านพ้นช่วงนั้นไปหนังเริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้น

ช่วงแรกของหนังก็เริ่มเล่าถึงความสัมพันธ์ของตัวละครต่างๆ ซึ่งจุดนี้ความสัมพันธ์ของบางคนก็ทำให้ไม่เชื่อถือมากนักเพราะรู้จักกันเร็วเกินไป หรือ เจอกันไม่เพียงกี่นาทีแต่ถึงขั้นไปไหนมาไหนด้วยในที่ปิดและยามวิกาล

การแสดงของ "เอลเลน เพจ" ถือว่าแสดงได้ตามมาตรฐานของเธอ รวมถึงเพื่อนๆที่เป็นนักศึกษาแพทย์ของเธออีกด้วยอันประกอบไปด้วย หนุ่มบ้าเซ็กส์,  หญิงผิวสีที่โดนกดดันเรื่องการเรียน, หญิงสาวหุ่นดีที่มาพร้อม Sex Appeal, หนุ่มผมยาวเจ้าคารม

สิ่งที่น่าสนใจต่อมาคือการเริ่มใส่ประเด็นต่างๆ ให้กับตัวละครซึ่งทำให้หนังดูน่าสนใจมากขึ้น ซึ่งบางตัวละครก็คาดไม่ถึงเช่นกัน บางคนดูเหมือนจะเรียบร้อยแต่จริงๆร้ายลึก หรือบางคนที่เหมือนจะดูเลวแต่เอาจริงๆก็ไม่มีอะไรเลย นี่สินะที่เขาว่า "อย่ามองคนแต่ที่ภายนอก"

สิ่งที่ชอบในเรื่องนี้ก็คือความคาดไม่ถึงของหนัง มีจุดพีค แต่มันไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรต่อเรื่องมาก เหมือนกับนั่งรถไฟเหาะ เมื่อถึงจุดสูงสุด สุดท้ายก็ต้องลงจากเครื่องอยู่ดี จบแล้วจบกัน เรื่องนี้ก็เช่นกัน

ตลอดเรื่องจะสัมผัสได้ว่าหนังไปไม่สุดสักทาง จะวิทยาศาสตร์ก็ไม่ จะเล่นไปทางความเชื่อก็ไม่ จะระทึกไหมก็ไม่ จะสยองไหมก็ไม่
ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะหนังมีตัวเลือกใหม่ๆให้เล่นเยอะด้วย จึงอาจทำให้อารมณ์หนังบางช่วงลดทอนลงไป

สิ่งที่ขัดใจอีกอย่างหนึ่งคือบางช่วงหนังจะข้ามกระโดดไปอย่างปรับตัวไม่ทัน ข้อดีของมันคือทำให้หนังเดินเรื่องเร็วขึ้น แต่ในทางกลับกันมันปรับตัวไม่ทัน แต่ยังดีที่หนังเดินเข้าเนื้อหาได้เร็ว ความที่ปรับตัวไม่ทันก็ได้ทลายหายไป

โดยรวมหนังดูเอาเพลินๆได้ แต่ความที่หนังมันเดินเรื่องราบเรียบตลอดเรื่อง อีกทั้งระหว่างเดินเรื่องจุดที่น่าสนใจก็ถูกยัดไว้ในต้นเรื่องหมดแล้ว จะไม่แปลกนักที่คุณจะเจอความเนือย หรือง่วงๆช่วงกลางเรื่อง (แต่ผมไม่ง่วงนะ ดูได้เรื่อยๆ)

ใครที่ไม่ชอบเรื่องที่ตัวละครทำอะไรโง่ๆ เรื่องนี้ยังมีให้เห็นนิดหน่อย แต่ก็ไม่น่าขัดใจอะไรมาก ถ้าไม่จับผิดอะไรมาก คุณแทบจะไม่เห็นข้อเสียตรงนี้เลย
ส่วนในความเอาใจช่วยกับตัวละครนั้น เรื่องนี้สอบตก คือเราไม่ค่อยมีอารมณ์ร่วมให้ตัวละครมากนัก คือจะตายก็ได้ จะเป็นก็แล้วแต่

สิ่งที่ชอบ
- โดยรวมถือว่าดีในแง่ความบันเทิง
- "เอลเลน เพจ" และ "นีน่า โดเบรฟ" ที่แจกความสดใสตลอดเรื่อง
- ประเด็นความรู้สึกผิดชอบชั่วดีที่ใส่มาในตัวละครแต่ละตัว
- การใช้เทคโนโลยีต่างๆ ในหนังซึ่งสมเหตุสมผลและพอเป็นไปได้
- หนังเล่นกับความระทึกขวัญและความสยองขวัญแบบ Jump Scare ได้ดี
- มุกตลกทั้งที่ตั้งใจและไม่ตั้งใจที่ใส่มาในหนัง

สิ่งที่ไม่ชอบ
- ฉากเปิดและไตเติลแลดูเป็นหนังแผ่นมากๆ
- หนังสอบตกเรื่ององค์ประกอบของหนัง ขาดๆ เกินๆ
- ความสัมพันธ์ของตัวละครที่ขาดความน่าเชื่อถือและแลดูมั่วในบางส่วน
- หนังควรไปได้ไกลกว่านี้ในแง่ของอารมณ์หนัง
- ความที่หนังเดินเรื่องเป็นเส้นตรงแต่บางช่วงขาดความน่าสนใจจนทำให้หลุดโฟกัสจากหนัง
- หนังจบง่ายเกินไป ซึ่งสวนทางกับหนังที่ปูเรื่องนานมาก
- หนังที่ดูก้าวกระโดดไปเล็กน้อย

สรุปคะแนนให้ 6.5/10 | C+

ขอฝากเพจและพูดคุยเรื่องหนังได้ที่นี่ครับ
https://www.facebook.com/Jubphitnang