Flatliners (Niels Arden Oplev, 2017) คะแนน C
By Form Corleone
"ความซ้ำซ้อนสยองขวัญทำลายความน่าสนในส่วนของคอนเซ็ปต์อย่างสิ้นเชิง" ถ้าภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่เคยมีมาก่อนหน้านี้ การนั่งดูไอเดียต่างๆของตัวภาพยนตร์คงจะเป็นจุดที่ดีและน่าสนใจอยู่ไม่น้อย แต่เมื่อตัวภาพยนตร์เป็นการรีเมคภาพยนตร์ Flatliners (1990) จึงทำให้ไอเดียในหนังนั้นไม่ได้แปลกใหม่อะไร แต่สิ่งที่ดีกว่าคือฉากซีจีที่ทำได้แนบเนียนกว่าเพราะอยู่ในยุคสมัยปัจจุบันซึ่งจะมองเป็นข้อดีนั้นคงจะไม่ได้ ตัวภาพยนตร์มีความน่ารำคาญในตัวละครและความน่าเบื่อในจังหวะภูตผีที่ค่อนข้างเชยและจับทางได้ง่าย ร่วมไปถึงภาพเหตุการณ์ซ้ำๆที่ปรากฏในเรื่องทำให้เนื้อหาทั้งหมดถูกลดทอนลงไปจนกลายเป็นหนังวัยรุ่นสยองขวัญเรียบๆธรรมดาๆเรื่องหนึ่ง แบบที่ดูเพลินๆแก้เบื่อไปได้ในระดับปานกลาง แต่สำหรับใครที่ไม่เคยดูงานก่อนหน้านี้คงจะดูสนุกขึ้นกว่าคนที่รู้ประเด็นของตัวภาพยนตร์อยู่แล้ว ตัวหนังเล่าเรื่องราวของกลุ่มนักศึกษาแพทย์ที่ทำการทดลองหยุดหัวใจเพื่อไปสัมผัส+สำรวจโลกหลังความตาย ว่าแท้จริงแล้วโลกหลังความตายนั้นมีอยู่จริงหรือไม่ แต่สิ่งที่พวกเขาได้รับกลับมาคือบทเรียนจากความผิดพลาดในอดีตที่ตามมาหลอกหลอนจนถึงขั้นตามล่าเอาชีวิต
การกำกับของ 'Niels Arden Oplev' ไม่สามารถพาให้เราร่วมลุ้นไปกับตัวละครได้ในระดับที่ดี นอกจากนี้ยังไม่สามารถนำพาให้เราร่วมตั้งคำถามถึงสิ่งที่เกิดขึ้นหรือตั้งคำถามถึงโลกหลังความตายแบบที่ตัวหนังได้เปิดไว้ ยิ่งไปกว่านั้น การคลี่คลายปัญหาต่างๆในเรื่องยังง่ายและไร้ซึ่งพลังในการสื่อสาร ทั้งๆที่ตัวข้อความของภาพยนตร์เรื่องนี้ค่อนข้างดีในช่วงอายุวัยรุ่น ดังนั้น เราจึงรู้สึกว่ากลุ่มตัวละครในเรื่อง คือเหล่าวัยรุ่นที่ขาดสติและไร้ซึ่งความคิดใดๆต่อเหตุการณ์ในเรื่องในเชิงลึก ทำให้ตัวภาพยนตร์เป็นเพียงการตอบสนองความบันเทิงที่ตื้นเขินและปานกลาง ขาดความจริงจัง+ไตร่ตรองในเค้าโครงที่ตัวเองได้สร้างเอาไว้เท่าที่ควรจะเป็น ฉะนั้น เมื่อตัวภาพยนตร์ไม่ได้สร้างพล็อตเรื่องให้ตัวละครผูกโยงไว้ในระดับที่ดี จึงทำให้การผลักดันตัวละครแต่ละตัวต้องพบเจอกับเหตุการณ์ต่างๆนั้นไม่สร้างความสัมพันธ์ที่ส่งผลกระทบต่อความรู้สึกได้มากมายนัก แม้ว่าเราจะสามารถติดตามเรื่องราวทั้งหมดไปได้เรื่อยๆก็ตาม การแสดงของเหล่านักแสดงถือว่าไม่มีใครโดดเด่นหรือเป็นตัวละครที่น่าจดจำ นอกจากหน้าตาดี+หุ่นดี ได้แค่นั้น ส่วนฉากสยองขวัญก็ทำในรูปแบบที่จับทางได้ ซาวด์ประกอบไม่ส่งให้ตัวงานดูน่ากลัว
ท้ายสุด 'Flatliners' จึงเป็นภาพยนตร์ที่มีไอเดียที่น่าสนใจแม้จะซ้ำของเดิมก็ตาม แต่เนื้องานกลับขาดความลงตัวหรือไม่ครบรสทั้งในข้อความที่ต้องการสื่อสารที่เป็นแง่ดีของงานนี้และงานส่วนสยองขวัญที่ทำได้เรียบเฉย เฉกเช่น งานวัยรุ่นโดนตามล่าปกติทั่วๆไป ทรัพยากรในเรื่องจึงถูกนำมาใช้ได้อย่างไม่คุ้มค่า ภาพรวมทั้งหมดของงานนี้จึงอยู่ในระดับปานกลางที่ไม่ถึงกลับแย่จนทนดูไม่ไหว และไม่ถึงขั้นปวดหัวไปกับความไร้สติของตัวละครมากเกินไป ทำให้ถ้าเราเปรียบเทียบกับงานปี 1990 งานนี้จึงเป็นเพียงขนมหวานที่ขาดความดราม่าเข้มข้น ขาดน้ำหนักเหตุผลของตัวละครแต่ละตัว รวมถึงขาดจุดมุ่งหมายในคำถามเชิงวิทยาศาสตร์ และส่งผลไปถึงการคลายปมทั้งหมดด้วย ทำให้ใครที่เคยดูเวอร์ชั่นเดิมคงจะผิดหวังเป็นอย่างมาก แต่ถ้าใครไม่เคยดูคงจะรู้สึกเพลินๆไปกับตัวหนังได้ไม่มากเกินไปและไม่น้อยจนเกินไป...
ขอให้มีความสุขกับการรับชมภาพยนตร์ครับ
ตัวอย่างหนัง
ติดตามรีวิวภาพยนตร์ได้ที่
Page:
https://www.facebook.com/MoviesDelightClub/
Blog:
http://moviesdelightclub.blogspot.com/
Review: Flatliners (Niels Arden Oplev, 2017) เขียนโดย Form Corleone
By Form Corleone
"ความซ้ำซ้อนสยองขวัญทำลายความน่าสนในส่วนของคอนเซ็ปต์อย่างสิ้นเชิง" ถ้าภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่เคยมีมาก่อนหน้านี้ การนั่งดูไอเดียต่างๆของตัวภาพยนตร์คงจะเป็นจุดที่ดีและน่าสนใจอยู่ไม่น้อย แต่เมื่อตัวภาพยนตร์เป็นการรีเมคภาพยนตร์ Flatliners (1990) จึงทำให้ไอเดียในหนังนั้นไม่ได้แปลกใหม่อะไร แต่สิ่งที่ดีกว่าคือฉากซีจีที่ทำได้แนบเนียนกว่าเพราะอยู่ในยุคสมัยปัจจุบันซึ่งจะมองเป็นข้อดีนั้นคงจะไม่ได้ ตัวภาพยนตร์มีความน่ารำคาญในตัวละครและความน่าเบื่อในจังหวะภูตผีที่ค่อนข้างเชยและจับทางได้ง่าย ร่วมไปถึงภาพเหตุการณ์ซ้ำๆที่ปรากฏในเรื่องทำให้เนื้อหาทั้งหมดถูกลดทอนลงไปจนกลายเป็นหนังวัยรุ่นสยองขวัญเรียบๆธรรมดาๆเรื่องหนึ่ง แบบที่ดูเพลินๆแก้เบื่อไปได้ในระดับปานกลาง แต่สำหรับใครที่ไม่เคยดูงานก่อนหน้านี้คงจะดูสนุกขึ้นกว่าคนที่รู้ประเด็นของตัวภาพยนตร์อยู่แล้ว ตัวหนังเล่าเรื่องราวของกลุ่มนักศึกษาแพทย์ที่ทำการทดลองหยุดหัวใจเพื่อไปสัมผัส+สำรวจโลกหลังความตาย ว่าแท้จริงแล้วโลกหลังความตายนั้นมีอยู่จริงหรือไม่ แต่สิ่งที่พวกเขาได้รับกลับมาคือบทเรียนจากความผิดพลาดในอดีตที่ตามมาหลอกหลอนจนถึงขั้นตามล่าเอาชีวิต
การกำกับของ 'Niels Arden Oplev' ไม่สามารถพาให้เราร่วมลุ้นไปกับตัวละครได้ในระดับที่ดี นอกจากนี้ยังไม่สามารถนำพาให้เราร่วมตั้งคำถามถึงสิ่งที่เกิดขึ้นหรือตั้งคำถามถึงโลกหลังความตายแบบที่ตัวหนังได้เปิดไว้ ยิ่งไปกว่านั้น การคลี่คลายปัญหาต่างๆในเรื่องยังง่ายและไร้ซึ่งพลังในการสื่อสาร ทั้งๆที่ตัวข้อความของภาพยนตร์เรื่องนี้ค่อนข้างดีในช่วงอายุวัยรุ่น ดังนั้น เราจึงรู้สึกว่ากลุ่มตัวละครในเรื่อง คือเหล่าวัยรุ่นที่ขาดสติและไร้ซึ่งความคิดใดๆต่อเหตุการณ์ในเรื่องในเชิงลึก ทำให้ตัวภาพยนตร์เป็นเพียงการตอบสนองความบันเทิงที่ตื้นเขินและปานกลาง ขาดความจริงจัง+ไตร่ตรองในเค้าโครงที่ตัวเองได้สร้างเอาไว้เท่าที่ควรจะเป็น ฉะนั้น เมื่อตัวภาพยนตร์ไม่ได้สร้างพล็อตเรื่องให้ตัวละครผูกโยงไว้ในระดับที่ดี จึงทำให้การผลักดันตัวละครแต่ละตัวต้องพบเจอกับเหตุการณ์ต่างๆนั้นไม่สร้างความสัมพันธ์ที่ส่งผลกระทบต่อความรู้สึกได้มากมายนัก แม้ว่าเราจะสามารถติดตามเรื่องราวทั้งหมดไปได้เรื่อยๆก็ตาม การแสดงของเหล่านักแสดงถือว่าไม่มีใครโดดเด่นหรือเป็นตัวละครที่น่าจดจำ นอกจากหน้าตาดี+หุ่นดี ได้แค่นั้น ส่วนฉากสยองขวัญก็ทำในรูปแบบที่จับทางได้ ซาวด์ประกอบไม่ส่งให้ตัวงานดูน่ากลัว
ท้ายสุด 'Flatliners' จึงเป็นภาพยนตร์ที่มีไอเดียที่น่าสนใจแม้จะซ้ำของเดิมก็ตาม แต่เนื้องานกลับขาดความลงตัวหรือไม่ครบรสทั้งในข้อความที่ต้องการสื่อสารที่เป็นแง่ดีของงานนี้และงานส่วนสยองขวัญที่ทำได้เรียบเฉย เฉกเช่น งานวัยรุ่นโดนตามล่าปกติทั่วๆไป ทรัพยากรในเรื่องจึงถูกนำมาใช้ได้อย่างไม่คุ้มค่า ภาพรวมทั้งหมดของงานนี้จึงอยู่ในระดับปานกลางที่ไม่ถึงกลับแย่จนทนดูไม่ไหว และไม่ถึงขั้นปวดหัวไปกับความไร้สติของตัวละครมากเกินไป ทำให้ถ้าเราเปรียบเทียบกับงานปี 1990 งานนี้จึงเป็นเพียงขนมหวานที่ขาดความดราม่าเข้มข้น ขาดน้ำหนักเหตุผลของตัวละครแต่ละตัว รวมถึงขาดจุดมุ่งหมายในคำถามเชิงวิทยาศาสตร์ และส่งผลไปถึงการคลายปมทั้งหมดด้วย ทำให้ใครที่เคยดูเวอร์ชั่นเดิมคงจะผิดหวังเป็นอย่างมาก แต่ถ้าใครไม่เคยดูคงจะรู้สึกเพลินๆไปกับตัวหนังได้ไม่มากเกินไปและไม่น้อยจนเกินไป...
ขอให้มีความสุขกับการรับชมภาพยนตร์ครับ
ตัวอย่างหนัง
ติดตามรีวิวภาพยนตร์ได้ที่
Page: https://www.facebook.com/MoviesDelightClub/
Blog: http://moviesdelightclub.blogspot.com/