คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
เจ้าหน้าที่คนไหนบอกว่าทายาทขอตรวจสอบหลักฐานไม่ได้
ให้เข้าไปหาหัวหน้าสำนักงานที่ดินนั้นเลย และเล่าให้เขาฟังว่ามาขอเพราะอะไร
เอาเอกสารเกี่ยวกับตัวเราที่จะโยงถึงความเป็นพ่อลูกกัน ถ้ามีใบตายก็เอาไปด้วย
มีใบเกิดก็เอาไปด้วย แล้วไปยื่นคำขอตรวจสอบหลักฐานทะเบียนที่ดิน
ให้ยื่นคำขอตามแบบฟอร์มเลย กรอกข้อความและยื่นไป แล้วถ้าใครบอกตรวจดูไม่ได้
ให้บอกเขาให้สั่งลงมาเป็นลายลักษณ์อักษรโดยบอกเขาไปด้วยว่า จะเอาไปฟ้อง
ศาลปกครองว่าสั่งการไม่ถูกต้อง รับรองว่าเขาจะรีบทำให้เลย และไม่ต้องมีผู้จัดการ
มรดก่กอนหรอก มันเป็นสิทธิพื้นฐานที่ทายาทจะขอดูได้อยู่แล้ว ขนาดประชาชน
ทั่วไปยังขอตรวจสอบได้เลยถ้ามีเหตุผลสมควร มันไม่ใช่ความลับที่ให้ดูไม่ได้
นะ ทะเบียนที่ดินนี่น่ะ มันเป็นเอกสารมหาชนที่ใช้อ้างอิงเกี่ยวกับที่ดินไม่ใช่เพื่อการปกปิด
เจ้าหน้าที่บางคนอาจไม่รู้จริง บางคนอาจขี้เกียจทำเรื่องและไปค้นหาเอกสาร
ที่จริงเราเอาผิดได้ ไปฟ้องเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดเลยให้เอาโทษวินัย
ให้เข้าไปหาหัวหน้าสำนักงานที่ดินนั้นเลย และเล่าให้เขาฟังว่ามาขอเพราะอะไร
เอาเอกสารเกี่ยวกับตัวเราที่จะโยงถึงความเป็นพ่อลูกกัน ถ้ามีใบตายก็เอาไปด้วย
มีใบเกิดก็เอาไปด้วย แล้วไปยื่นคำขอตรวจสอบหลักฐานทะเบียนที่ดิน
ให้ยื่นคำขอตามแบบฟอร์มเลย กรอกข้อความและยื่นไป แล้วถ้าใครบอกตรวจดูไม่ได้
ให้บอกเขาให้สั่งลงมาเป็นลายลักษณ์อักษรโดยบอกเขาไปด้วยว่า จะเอาไปฟ้อง
ศาลปกครองว่าสั่งการไม่ถูกต้อง รับรองว่าเขาจะรีบทำให้เลย และไม่ต้องมีผู้จัดการ
มรดก่กอนหรอก มันเป็นสิทธิพื้นฐานที่ทายาทจะขอดูได้อยู่แล้ว ขนาดประชาชน
ทั่วไปยังขอตรวจสอบได้เลยถ้ามีเหตุผลสมควร มันไม่ใช่ความลับที่ให้ดูไม่ได้
นะ ทะเบียนที่ดินนี่น่ะ มันเป็นเอกสารมหาชนที่ใช้อ้างอิงเกี่ยวกับที่ดินไม่ใช่เพื่อการปกปิด
เจ้าหน้าที่บางคนอาจไม่รู้จริง บางคนอาจขี้เกียจทำเรื่องและไปค้นหาเอกสาร
ที่จริงเราเอาผิดได้ ไปฟ้องเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดเลยให้เอาโทษวินัย
แสดงความคิดเห็น
การปลอมลายเซนต์ผู้เสียชีวิต
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าเราไม่ได้อยู่พ่อ เพราะเราเรียนอยู่ต่างจังหวัดแต่พ่อเป็นคนส่งเราเรียนนะ เรื่องมีอยู่ว่าพ่อเราได้เสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 19 ก.ค. 60 ที่ผ่านมาค่ะ โดยหลังจากพ่อเสียได้ไม่ถึงเดือนก็มีผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งสนิทกับพ่อเรามาก (ประมาณว่าแอบคบหากับพ่อเราแต่มิได้เปิดเผย และไม่ได้อยู่กินด้วยกัน) ซึ่งคุณ ง (นามสมมติ) ได้บอกเราว่าพ่อเราได้นำโฉนดที่ดินแปลงหนึ่งใน จ.พิษณุโลก (บ้านที่พ่อเราอยู่) ไปทำสัญญาเงินกู้ไว้กับคุณ ว (นามสมมติ) ซึ่งคุณ ง และคุณ ว สนิทกันมาก ได้ทำการกู้ยืมด้วยจำนวนเงิน 180,000 บาท ดอกเบี้ยร้อยละ 2 บาทต่อเดือน จากนั้นเราได้เดินทางไปหาคุณ ว เพื่อพูดคุยและขอดูเอกสารการกู้ยืม ซึ่งในหนังสือการกู้ยืมนั้นเราสามารถสังเกตุเห็นได้ว่าลายเซนต์มันไม่เหมือนกับลายเซนต์ของพ่อเรา แต่ตอนนั้นก็ยังไม่ได้พุดอะไรออกไป ถ้าจำไม่ผิดมีเอกสารอยู่สามแผ่น คือ หนังสือการกู้ยืม (ซึ่งเรามั่นใจว่าไม่ใช่ลายเซนต์พ่อเรา) 2.สำเนาทะเบียนบ้าน (นี่เป็นลายเซนต์ของพ่อเรา) และ 3. สำเนาบัตรประชาชนพ่อเรา(นี่เป็นลายเซนต์พ่อเรา) โดยคุณ ว ผู้ที่อ้างว่าพ่อเราได้นำโฉนดไปไว้ที่เค้าได้ทักมาทวงเงินเราทุกวัน เราจึงบอกกับทนาย แต่ทนายบอกให้เราอยุ่เฉยๆ ไม่ต้องสนใจเดี๋ยวทนายจะดึงกลับมาให้หมด (คุณ ง เอาของ ของพ่อเราไปหลายอย่างมากค่ะ) ซึ่งก่อนหน้านี้เราเคยไปติดต่อกรมที่ดินว่าได้มีการจำนองผ่านกรมที่ดินหรือไม่ แต่ไม่สามารถตรวจสอบได้เพราะต้องมีผู้จัดการมรดกก่อนจึงจะตรวจสอบได้
**และคุณ ง ยังเคยบอกเราไว้ว่าสามีของคุณ ว เป็นหัวหน้ากรมที่ดินอีก ทำให้กังวลไปใหญ่เลยค่ะ
#ตอนนี้เราได้ทำเรื่องขอเป็นผู้จัดการมรดก รอขึ้นศาลวันที่ 13 พ.ย. 60 นี้ แต่เรากลัวว่าผู้หญิงคนดังกล่าวจะนำโฉนดที่ดินของเราขายทอดตลาด เพราะว่าในหนังสือสัญญาระบุไว้ว่าหากผู้ฝากเสียชีวิต สามารถขายทอดตลาดได้เลย เราเลยกังวลมากๆ ว่าเขาจะเอาบ้านและที่ของพ่อเราไปขาย 😭
ปล.ผู้หญิงคนที่สนิทกับพ่อเราไม่ได้จดทะเบียนสมรสกับพ่อเรานะคะ และยังเอาข้าวของทุกอย่างในบ้านของเราไปหมดโดยอ้างว่าจะเก็บไว้ให้พี่ชายคนโตของเรา ซึ่งพี่ชายเราติดคุกอยู่ มีโทษถึง 10 ปี และตอนนี้พึ่งติดได้ 1ปี 8 เดือนค่ะ อีกนานมากกว่าจะออก ซึ่งเราคิดว่าเค้าไม่มีสิทธิในตรงนี้ แต่เค้าขนของที่บ้านเราไปไว้ที่บ้านเค้าหมดแล้ว อาทิ โต๊ะจีน เครื่องมือช่าง (เยอะมากๆ สามารถสร้างตึกได้เลยแหละค่ะ) ปืนของพ่อเรา (พ่อเรารับราชการตำรวจ) และฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านด้วยค่ะ 😭 เลยอยากขอความคิดเห็นจากผู้รู้หรือผู้มีประสบการณ์คล้ายคลึงกันมาช่วยแนะนำหน่อยค่ะ ตอนนี้กังวลมากๆ
***เราไม่สามารถลงรูปได้อะ อยากให้เห็นรูปของลายเซนต์มากๆเลยค่ะ ว่ามันต่างกันขนาดไหน