สวัสดีครับ ตอนนี้ ย่างเข้าปลายปี
หน้าฝนกำลังผ่านไป ฤดูหนาวกำลังคืบคลานมา
และเป็นเวลาของการท่องเที่ยว ทั้งในและต่างประเทศของหลายๆคน
จริงๆ หุบเขาคุโรเบะนี้ เป็นทริปตั้งแต่ปีที่แล้วแล้วครับ
ผมมีโอกาสเดินทางไป ตอนเมื่อวันที่ 20 ตุลาปีก่อน แล้ว FB มันขึ้นแจ้งเตือนพอดี
เลยนึกถึงความหลัง
และตั้งกระทู้รีวิวเอาไว้เป็นข้อมูลดีกว่า เผื่อใครกำลังวงแผนไปญี่ปุ่น ว่าจะไปเที่ยวที่ไหน จะได้เก็บไว้เป็นอีกตัวเลือกหนึ่ง
เส้นทางรถรางหรือรถไฟ สาย Kurobe Gorge นี้ ใครที่เป็นนักเดินทางสายธรรมชาติ น่าจะตกหลุมรักที่นี่ได้ไม่ยากครับ
บรรยากาศของการนั่งรถไฟเปิดประทุน(ผมเรียกอย่างนั้น) กินลมเย็นๆที่ตีผ่านหน้า พร้อมกับชมวิว ธรรมชาติสวยๆ ของภูเขาสูงๆ ใบไม้ที่กำลังเปลี่ยนสี และลำธารสีฟ้า พร้อมกับแวะตามจุดต่างๆที่เราอยากแวะ รับรองว่าจะเป็นช่วงเวลาของความสุขอีกช่วงหนึ่งเลย
เรื่องการเดินทาง และที่พักในญี่ปุ่น ผมขอข้ามไปนะครับ เพราะคนที่ตั้งใจจะไปนั้น ควรหาข้อมูลและวางแผนกันอยู่แล้ว
แต่จะขอบอกพิกัด และภูมิศาสตร์คร่าวๆเอาไว้
คือ เส้นทางรถไฟ สาย Kurobe Gorge เนี่ย มันตั้งอยู่ในเขต จังหวัดโทยาม่า
ใครที่ตั้งใจจะมาเที่ยวแถบนี้ หรือมีแพลน ข้าม Alpine Route หรือว่าต้องนั่งรถไฟจาก Takayama ไปยังโตเกียว หรือโอซาก้าอยู่แล้ว ก็อาจจะแวะเที่ยวที่หุบเขา Kurobe นี่เสียสักวันก็ได้ครับ
ส่วนกระทู้นี้ ผมขอตั้งต้น ที่ สถานีรถไฟ Unazuki onsen ซึ่งกาเดินทางมาที่นี่ ก็มาได้โดยการนั่งรถไฟสาย Dentetsu Toyama ครับ สามารถนั่งจาก Toyama มาได้เลย ส่วนผมเอง นอนที่เมือง Uozu เพราะไกล้อีกนิด ที่พักราคาไม่แพง
อันนี้สถานี Unazuki Onsen
และจากสถานี Unazuki Onsen Station เราจะต้องเดินอีกนิดหนึ่ง เพื่อไปขึ้นรถไฟสาย Kurobe Gorge ที่สถานี Unazuki Station ซึ่งเป็นต้นสายของรถไฟนำเที่ยวขบวนนี้ (Pass ไม่สามารถใช้ได้นะครับ)
บรรยากาศของเมือง Unazuki Onsen ครับ
พอถึงสถานี เราก็ซื้อตั๋วเลย ซึ่งการซื้อตั๋วนั้น มันจะมีให้เลือกว่าเราจะไปลงที่ไหน จากสถานีหลักๆ 4 สถานี (Unazuki(สถานีต้นทาง), Kuronagi,Kanetsuri และ Keyakidaira(สถานีปลายทาง)) และก็มีสถานีย่อยๆอีก ซึ่งแต่ละสถานีก็จะมีที่ท่องเที่ยว และทิวทัศน์ที่ต่างๆกันออกไป
ตรงนี้ผมแนะนำว่า ให้นั่งยาวไปถึงสถานี Keyakidaira ก่อน แล้วระหว่างทาง หากถูกใจสถานีไหนก็ค่อยซื้อตั๋วแวะมาเป็นจุดๆไปตอนขากลับครับ
ซึ่งรายละเอียดว่า แต่ละจุด มีอะไรน่าสนใจบ้าง นั้น สามารถหาข้อมูลจากในเนต หรือแผ่นใบปลิว ที่สถานีได้เลย
สถานีปลายทาง Keyakidaira
จากสถานี Keyakidaira ก็จะมีทางเดินไปชมธรรมชาติตามจุดต่างๆ เช่นสะพานแดง ชะโงกหิน บ่อแช่เท้า
ส่วนผม เดินขึ้นเขาไปอีกสามกิโล ไป Babadani onsen ครับ
วิวสองข้างทางขณะเดินป่า
ที่เห็นในภาพ นี่คือ Babadani onsen ครับ เป็นจุดที่ผมตั้งใจเดินไป สังเกตุว่า ไม่ค่อยมีใครเดินมาถึงที่นี่กันซักเท่าไหร่เลย
ส่วนใหญ่จะอยู่ที่สถานี และละแวกใกล้ๆ
Babadani onsen เป็นบ่อออนเซ็นเล็กๆ กลางแจ้งครับ กลางแจ้งในที่นี้คือค่อนข้างจะเปิดโล่งเลย
สัมผัสกับธรรมชาติได้เต็มที่ วันที่ผมไปไม่มีใครเลย เลยได้ยึกทั้งบ่อ เป็นออนเซ็นส่วนตัวเลย แช่น้ำร้อน แก้เมื่อยล้า ก่อนจะเดินกลับไปที่สถานี
ส่วนภาพที่เหลือ ก็จะเป็นภาพรวมๆ ของวิวสองข้างทาง ที่รถไฟผ่าน และบรรยากาศรวมๆ นะครับ
อีกสถานี ที่ผมแวะคือ สถานี Kanetsuri
ตรงนี้มันจะมีโตรกผา และลำธารที่ใสมากๆ เป็นสีฟ้าสดๆเลย
ผมแวะกินกาแฟ กับชาที่ตรงสถานีนี้ครับ
มันจะมีคาเฟ่ตั้งอยู่ที่หนึ่ง น่าแปลกใจดีเหมือนกัน ว่ามาตั้งถึงอะไรบนนี้
ได้คุยกับคุณป้าเจ้าของร้าน เค้าว่าเคยมาเมืองไทยตั้งเจ็ดครั้ง ชอบกระบี่มาก
ถ้าหน้าหนาว ที่นี่ปิด เค้าก็จะชอบไปเมืองไทยกัน
มีเรื่องเรื่องหนึ่งที่อยากเล่า ก็คือ เมื่อไปญี่ปุ่นใหม่ๆ ผมเคยคิดว่า ยิ่งออกไปไกลๆ ออกนอกเมือง หรือเข้าป่าเข้าดอยไป ของกินก็จะยิ่งอร่อย
เหมือนที่เคยอ่านในหนังสือการ์ตูน พวกร้านที่อยู่ในป่าในดอย มักเป็นร้านแบบแรไอเทม ปรากฎว่า ร้อยทั้งร้อย ตามเมืองใหญ่ๆ ของกินมักดีกว่า
แต่ก็นะ เน้นกินกับบรรยากาศกันมากกว่า
พอมาลองคิดๆดู ก็ไม่น่าต่างจากบ้านเราเท่าไหร่เลยครับ คือของกินในป่าในดอย มักสู้ในเมืองไม่ได้ แถมจะแพงด้วย
จบการรีวิว ของ Kurobe Gorge ไว้เท่านี้ก่อนนะครับ
ช่วงที่ผมไป ใบไม้แดงยังไม่พีคเต็มที่ ซึ่งถ้าพีค ผมว่าน่าจะสวยกว่านี้
ใครจะมาเที่ยวที่นี่ ผมแนะนำให้กำหนดเวลาไว้ หนึ่งวันเต็มๆ สำหรับที่นี่นะครับ
เพราะใช้เวลาในการเดินทางค่อนข้างมากหน่อย
แถม ซูชิ กับปลาดิบ ในซุปเปอร์ที่เมือง Uozu ประทับใจ อร่อยและถูกมากๆครับ
[CR] มินิรีวิว นั่งรถรางชมวิว ที่ Kurobe Gorge ชมใบไม้เปลี่ยนสี
สวัสดีครับ ตอนนี้ ย่างเข้าปลายปี
หน้าฝนกำลังผ่านไป ฤดูหนาวกำลังคืบคลานมา
และเป็นเวลาของการท่องเที่ยว ทั้งในและต่างประเทศของหลายๆคน
จริงๆ หุบเขาคุโรเบะนี้ เป็นทริปตั้งแต่ปีที่แล้วแล้วครับ
ผมมีโอกาสเดินทางไป ตอนเมื่อวันที่ 20 ตุลาปีก่อน แล้ว FB มันขึ้นแจ้งเตือนพอดี
เลยนึกถึงความหลัง
และตั้งกระทู้รีวิวเอาไว้เป็นข้อมูลดีกว่า เผื่อใครกำลังวงแผนไปญี่ปุ่น ว่าจะไปเที่ยวที่ไหน จะได้เก็บไว้เป็นอีกตัวเลือกหนึ่ง
เส้นทางรถรางหรือรถไฟ สาย Kurobe Gorge นี้ ใครที่เป็นนักเดินทางสายธรรมชาติ น่าจะตกหลุมรักที่นี่ได้ไม่ยากครับ
บรรยากาศของการนั่งรถไฟเปิดประทุน(ผมเรียกอย่างนั้น) กินลมเย็นๆที่ตีผ่านหน้า พร้อมกับชมวิว ธรรมชาติสวยๆ ของภูเขาสูงๆ ใบไม้ที่กำลังเปลี่ยนสี และลำธารสีฟ้า พร้อมกับแวะตามจุดต่างๆที่เราอยากแวะ รับรองว่าจะเป็นช่วงเวลาของความสุขอีกช่วงหนึ่งเลย
เรื่องการเดินทาง และที่พักในญี่ปุ่น ผมขอข้ามไปนะครับ เพราะคนที่ตั้งใจจะไปนั้น ควรหาข้อมูลและวางแผนกันอยู่แล้ว
แต่จะขอบอกพิกัด และภูมิศาสตร์คร่าวๆเอาไว้
คือ เส้นทางรถไฟ สาย Kurobe Gorge เนี่ย มันตั้งอยู่ในเขต จังหวัดโทยาม่า
ใครที่ตั้งใจจะมาเที่ยวแถบนี้ หรือมีแพลน ข้าม Alpine Route หรือว่าต้องนั่งรถไฟจาก Takayama ไปยังโตเกียว หรือโอซาก้าอยู่แล้ว ก็อาจจะแวะเที่ยวที่หุบเขา Kurobe นี่เสียสักวันก็ได้ครับ
ส่วนกระทู้นี้ ผมขอตั้งต้น ที่ สถานีรถไฟ Unazuki onsen ซึ่งกาเดินทางมาที่นี่ ก็มาได้โดยการนั่งรถไฟสาย Dentetsu Toyama ครับ สามารถนั่งจาก Toyama มาได้เลย ส่วนผมเอง นอนที่เมือง Uozu เพราะไกล้อีกนิด ที่พักราคาไม่แพง
อันนี้สถานี Unazuki Onsen
และจากสถานี Unazuki Onsen Station เราจะต้องเดินอีกนิดหนึ่ง เพื่อไปขึ้นรถไฟสาย Kurobe Gorge ที่สถานี Unazuki Station ซึ่งเป็นต้นสายของรถไฟนำเที่ยวขบวนนี้ (Pass ไม่สามารถใช้ได้นะครับ)
บรรยากาศของเมือง Unazuki Onsen ครับ
พอถึงสถานี เราก็ซื้อตั๋วเลย ซึ่งการซื้อตั๋วนั้น มันจะมีให้เลือกว่าเราจะไปลงที่ไหน จากสถานีหลักๆ 4 สถานี (Unazuki(สถานีต้นทาง), Kuronagi,Kanetsuri และ Keyakidaira(สถานีปลายทาง)) และก็มีสถานีย่อยๆอีก ซึ่งแต่ละสถานีก็จะมีที่ท่องเที่ยว และทิวทัศน์ที่ต่างๆกันออกไป
ตรงนี้ผมแนะนำว่า ให้นั่งยาวไปถึงสถานี Keyakidaira ก่อน แล้วระหว่างทาง หากถูกใจสถานีไหนก็ค่อยซื้อตั๋วแวะมาเป็นจุดๆไปตอนขากลับครับ
ซึ่งรายละเอียดว่า แต่ละจุด มีอะไรน่าสนใจบ้าง นั้น สามารถหาข้อมูลจากในเนต หรือแผ่นใบปลิว ที่สถานีได้เลย
สถานีปลายทาง Keyakidaira
จากสถานี Keyakidaira ก็จะมีทางเดินไปชมธรรมชาติตามจุดต่างๆ เช่นสะพานแดง ชะโงกหิน บ่อแช่เท้า
ส่วนผม เดินขึ้นเขาไปอีกสามกิโล ไป Babadani onsen ครับ
วิวสองข้างทางขณะเดินป่า
ที่เห็นในภาพ นี่คือ Babadani onsen ครับ เป็นจุดที่ผมตั้งใจเดินไป สังเกตุว่า ไม่ค่อยมีใครเดินมาถึงที่นี่กันซักเท่าไหร่เลย
ส่วนใหญ่จะอยู่ที่สถานี และละแวกใกล้ๆ
Babadani onsen เป็นบ่อออนเซ็นเล็กๆ กลางแจ้งครับ กลางแจ้งในที่นี้คือค่อนข้างจะเปิดโล่งเลย
สัมผัสกับธรรมชาติได้เต็มที่ วันที่ผมไปไม่มีใครเลย เลยได้ยึกทั้งบ่อ เป็นออนเซ็นส่วนตัวเลย แช่น้ำร้อน แก้เมื่อยล้า ก่อนจะเดินกลับไปที่สถานี
ส่วนภาพที่เหลือ ก็จะเป็นภาพรวมๆ ของวิวสองข้างทาง ที่รถไฟผ่าน และบรรยากาศรวมๆ นะครับ
อีกสถานี ที่ผมแวะคือ สถานี Kanetsuri
ตรงนี้มันจะมีโตรกผา และลำธารที่ใสมากๆ เป็นสีฟ้าสดๆเลย
ผมแวะกินกาแฟ กับชาที่ตรงสถานีนี้ครับ
มันจะมีคาเฟ่ตั้งอยู่ที่หนึ่ง น่าแปลกใจดีเหมือนกัน ว่ามาตั้งถึงอะไรบนนี้
ได้คุยกับคุณป้าเจ้าของร้าน เค้าว่าเคยมาเมืองไทยตั้งเจ็ดครั้ง ชอบกระบี่มาก
ถ้าหน้าหนาว ที่นี่ปิด เค้าก็จะชอบไปเมืองไทยกัน
มีเรื่องเรื่องหนึ่งที่อยากเล่า ก็คือ เมื่อไปญี่ปุ่นใหม่ๆ ผมเคยคิดว่า ยิ่งออกไปไกลๆ ออกนอกเมือง หรือเข้าป่าเข้าดอยไป ของกินก็จะยิ่งอร่อย
เหมือนที่เคยอ่านในหนังสือการ์ตูน พวกร้านที่อยู่ในป่าในดอย มักเป็นร้านแบบแรไอเทม ปรากฎว่า ร้อยทั้งร้อย ตามเมืองใหญ่ๆ ของกินมักดีกว่า
แต่ก็นะ เน้นกินกับบรรยากาศกันมากกว่า
พอมาลองคิดๆดู ก็ไม่น่าต่างจากบ้านเราเท่าไหร่เลยครับ คือของกินในป่าในดอย มักสู้ในเมืองไม่ได้ แถมจะแพงด้วย
จบการรีวิว ของ Kurobe Gorge ไว้เท่านี้ก่อนนะครับ
ช่วงที่ผมไป ใบไม้แดงยังไม่พีคเต็มที่ ซึ่งถ้าพีค ผมว่าน่าจะสวยกว่านี้
ใครจะมาเที่ยวที่นี่ ผมแนะนำให้กำหนดเวลาไว้ หนึ่งวันเต็มๆ สำหรับที่นี่นะครับ
เพราะใช้เวลาในการเดินทางค่อนข้างมากหน่อย
แถม ซูชิ กับปลาดิบ ในซุปเปอร์ที่เมือง Uozu ประทับใจ อร่อยและถูกมากๆครับ