แพลนชีวิตเล่นๆ ตอนนี้อายุ 24 ผ่อนบ้านหมด ตอนอายุ 42 เลยกะอยากมีลูกตอน35 เพราะลูกจะได้ 7ขวบพอดี ดูเพ้อฝันไปไหม 555??

เราแค่ลองมานั่งคิดไว้เล่นๆ แต่ก็อยากให้เป็นจริงแบบนั้นนะ คือตอนนี้เรา 24 กว่าจะอายุ35 เรามีเวลาอีก 11 ปีในการสร้างเนื้อสร้างตัว ทำงาน วางรากฐานชีวิตให้มั่นคง บ้านที่พ่อแม่เราซื้อ ก็ผ่อนตามสเต็ปไปเรื่อยๆ เงินเดือนช่วงนี้ ทำได้แค่ช่วยพ่อจ่าย และค่าน้ำค่าไฟค่าโทรศัพท์อินเตอร์เน็ต  ค่าส่วนกลางเท่านั้น ยังไม่มีศักยภาพที่จะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดในบ้านได้ เราจึงคิดว่าจะค่อยๆโตในหน้าที่การงานไปเรื่อยๆ ทำงานที่มั่นคง และคงอีกไม่กี่ปีหรอก
ที่ก็คงเป็นเราที่ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด และความฝันที่จะมีลูกของเราไม่นับการมีแฟนนะ คือมีแฟนหรือไม่มีก็ได้ ไม่อยากเอาบุคคลอีกคนเข้ามาอยู่ในแพลนชีวิต เพราะอยากทำตัวเองให้อยู่ได้ด้วยตัวเอง แต่ถ้าสมมุติวันนึงมีแฟนก็จะถือว่าเป็นกำไรชีวิต ชีวิตจะได้ไม่ติดลบ ถ้าเกิดไม่มี แต่ก็ต้องเป็นคนที่มีรากฐานชีวิตพอสมควรแล้ว ไม่ใช่เริ่มจาก 0 ไปด้วยกัน เราเริ่มของเราคนเดียวพอไม่อยากเอาชีวิตไปผูกกับใครถ้าไม่ได้รู้สึกว่าเป็นคนที่ใช่จริงๆ กลับมาที่เรื่องอยากมีลูก ลูกเราจะมีพ่อหรือไม่มีก็ได้ ในระยะเวลาในช่วง 11 ปีต่อจากนี้ เราว่าเราคงสร้างตัวได้ในระดับนึงที่พอจะ ทำให้พ่อแม่เราสบายได้แล้ว และพร้อมที่จะดูแลอีก 1ชีวิต ที่เราคิดอยากจะดูแลเขา เมื่อผ่อนบ้านหมด ภาระอันหนักอึ้งก็จะหมดไป เรารู้นะว่าต้องมีค่าใช้จ่ายอื่นๆที่ใหญ่ๆตามมาอีกเป็นแน่ แต่อย่างน้อยก็รู้สึกหมดห่วงไปอีกstepนึง อายุ42 ไปส่งลูกที่กำลังจะเข้า ป1 นั่นคือภาพฝันของเราในตอนนี้เลย ถ้าเรามีโอกาสได้มีชีวิตอยู่ถึงวันนั้น เราอยากจะทำให้แพลนนี้เป็นจริงในสักวัน

ขอโทษคนอ่านล่วงหน้าด้วย ถ้ามันเพ้อเจ้อเกินไป อย่าด่ากันเลยนะ มาให้กำลังใจกันดีกว่าเน้อะ

ขอบคุณค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
นี่คือความคิดส่วนใหญ่ของ ผญ.ยุคนี้นะครับ
ไม่กล้าตำหนิ...
..ส่วนมาก..แม้ไม่ต้องนำพ่อแม่มาอ้างก็ตาม..ก็จะขอผ่อนคอนโด..หรือรถยนต์และไปเที่ยวเกาหลีญี่ปุ่น...กินเที่ยวให้คุ้ม..และค่อยคิดมีแฟนมีสามีตอนอายุเฉียด..35..ปี!!!
....แต่ค่านิยมอันนี้พึ่งมีมาหลังปี 2540..นั่นเพราะยุคนี้ผู้หญิงเรียนสูงกว่า ผช. ทำงานรายได้สูงกว่าด้วยครับ...
....และประเทศค่อนข้างเจริญ..การเจอภัยพิบัติน้อย..ภาวะสงครามไม่มี...ผู้หญิงรู้สึกอยู่ตัวคนเดียวปบอดภัย
...แต่ผลที่ปรากฏพบว่า...พอแต่งงานจริงๆ..ไม่สามารถมีลูกได้...มักจะมีภาวะ..จากการฉีดยาคุมกำเนิดมาบ้าง..ทำให้มีลูกยาก..หรืออายุมากจนมีลูกยาก..เพราะเกินวัยเจริญพันธุ์ที่อายุ 20-30 ปี
...พอมีแฟน..แต่งงาน..ไม่มีลูก..และจากการที่ใช้ชีวิตคนเดียวมานาน..ทำให้ทะเลาะเลิกร้างกับสามีได้ง่าย..
...สุดท้ายเมื่อชีวิตคู่ไม่สมหวัง...และรู้สึกอิ่มตัวกับการเที่ยวเตร่..ก็จะโทษเวรกรรม..
...หันเข้าหาวัด..ไปบวชชีพราหมณ์เนกขัมมะ...อยากจะบรรลุธรรมในชาตินี้.
...และมักจะนำทรัพย์สินที่มีทำบุญให้วัดเป็นจำนวนมาก...เพื่อหวังว่า..ชาติหน้าจะมีชีวิตที่สมบูรณ์
...ตอนนี้..ในปี.พ.ศ.2560..นี้...ผญ.กลุ่มนี้กำลังมีมาก...ที่เป็นโสดหาวัด...
....แต่ผมไม่รู้ว่าในอนาคต...ชีวิตมันจะบรรลุธรรมกันดั่งที่ฝันหรือไม่...
...จะมีตัวแปรการป่วยไข้..มะเร็งเป็นกันมาก..โดยเฉพาะมะเร็งที่มดลูก..(ไม่ทราบว่าเพราะไม่มีลูกไหม).อาจตกงาน...ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ..มีสงคราม..ทำให้การจ้างผู้หญิงทำงานน้อยลง..รายได้อาจหมดไป..จากการรักษาตัวเพราะอาการป่วย..ถูกโกงเงินถูกเอาเปรียบง่าย..เพราะตัวคนเดียวไม่มีใครคอยดูแลหรือเป็นคู่คิด..และอาจต้องมาเป็นหญิงสูงอายุ..แบบอยู่ตัวคนเดียวไม่มีลูกหลานดูไหม...
...ผมไม่อยากคิดในแง่ร้าย
...เพียงแต่อยากบอกว่า...แต่งงานช้า..โอกาสที่ชีวิตคู่ไม่สมหวังจะสูงตามอายุ..จากนิสัยของเราทีาชินกับการอยู่คนเดียวมานาน...ปรับตัวเข้ากับผู้ชายได้ยาก...
...และถ้าไม่สมหวัง..ก็ไม่มีอะไรรับประกันว่า..การศึกษาธรรมะจะบรรลุธรรมได้ง่ายๆเลย..ถ้าไม่ไปบวชตลอดชีวิตเป็นแม่ชีไปเลย..ซึ่งขนาดแม่ชียังสึก..พระสงฆ์ทำผิดศีลมากมาย...
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่