Geostorm ( 2017 )
เป็นอีก 1 เรื่องสำหรับภาพยนตร์ต่างประเทศที่ได้รับชมมาครับ
ก็เลยอยากจะมาแบ่งปันความรู้สึกส่วนตัวที่ได้รับชมมาครับ
อันดับแรกเลยครับ ต้องยกนิ้วให้ เจอราร์ด บัตเลอร์ ที่เป็นแรงผลักดันให้เข้ามาชม
และไม่ผิดหวังเลยจริงๆครับสำหรับการแสดงของนักแสดงท่านนี้ ที่จะทำให้ทุกท่านไม่รู้สึกเบื่อ
ถึงแม้นภาพ CG ต่างๆจะออกมาดูเหมือนชิ้นงานทำส่งอาจารย์ก็เถอะ
แต่ถึงยังไงพี่ เจอราร์ด บัตเลอร์ ก็เอาอยู่ทั้งเรื่อง ขอบอก
เนื้อหาของตัวหนังหรือแนวคิดเน้นไปที่ เทคโนโลยี เครือข่ายดาวเทียม และ สถานีอวกาศนานาชาติ
หรืออาจจะเรียกสั้นๆว่า DUTCH BOY คือระบบเครือข่ายดาวเทียมควบคุม สภาพภูมิอากาศของโลก
ฟังดูแล้วยังห่างไกลจัง ลืมบอกไปว่าอย่าลืมสร้างสนามพลังงานที่เอาไว้ป้องกัน
การพุ่ง ชนของ อุกกาบาต และ เศษสะเก็ดดาวด้วยนะครับ เล่นสร้างซะรอบโลกเลย เห็นในหนังแล้วยังตลก อิอิ
ขอบอกว่าเรื่องนี้ก็สนุกแบบ สมเหตุสมผล มีความเป็นไปได้สูง ในโลกแห่งความเป็นจริง
มีการนำแนวคิด การพัฒนาระบบสังคมของโลกที่มีความร่วมมือกันมากขึ้นในเชิงสร้างสรรค์
ที่มีสถานีอวกาศนานาชาติ มีทั้งโรงงานผลิตดาวเทียม ที่อยู่ในสถานีอวกาศนานาชาติ ซึ่งเป้นแนวคิดที่ล้ำมากครับ
โดย ส่วนตัวรู้สึกชอบแนวคิดนี้ของหนังมากครับ
แต่ มุมตรงกันข้าม ในตัวหนังกับมีการ เสียดสีเชื้อชาติ โดยอ้อมๆหรือเน้นๆตามความรู้สึกของผู้รับชม
ฉากต่างๆในหนังจะมีฉากในหลายประเทศ
ที่โดน พายุถล่ม อุณหภูมิร้อนจัด ความเย็นเยือกแข็ง น้ำท่วม หรือแค่เป็นการตลาดทางอ้อม อิอิ
โดยลึกๆแล้วเข้าใจว่ายังงั้น ถ้ามีประเทศไทยด้วยคงจะแจ่มกว่านี้
แต่หนังก็มาประจวบเหมาะ กับ เหตุการณ์จริงๆที่เกิดขึ้น บนโลกของเรา อันนี้คงไม่ใช่การตลาด
แต่อาจจะเป็นความบังเอิญซะมากกว่านะผมว่า มีใครที่ได้ดูมาแล้วคิดแบบนี้บ้างว่า มันบังเอิญจริงๆ
DUTCH BOY ระบบเครือข่ายดาวเทียมควบคุม สภาพภูมิอากาศของโลก โดนไวรัส รับประทานครับท่าน
เป็นแนวคิดในหนังที่ฉลาดมากครับ มันเป็นตัวขับเคลื่อนหรือใบเบิกทางให้หนัง ไปต่อได้ครับ
เอาเป็นว่า หนังเรื่อง Geostorm ( 2017 ) ก็เป็นอีก 1 เรื่องที่เข้ากับเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นในบ้านเราและในอเมริกา
ในตัวเรื่องเนื้อหาสาระในหนังอาจจะยังขาดอะไรหลายๆอย่างที่ทำให้หนังมันดูน่าขบขัน
และไม่ค่อยจะตื่นเต้นสักเท่าไร แต่โดยรวมแล้วก็ทำออกมาได้ลงตัวดีครับ ถึงแม้น CG ในบางฉากจะดูธรรมดาจนเกินไป
แต่ยังไงซะในตัวหนังมันก็มี ความกลมกล่อมจนทำให้ดูจนจบเรื่อง แบบสนุกและรู้สึกชอบมาโดยไม่มีอะไรอธิบายได้
ว่าสนุกยังไงอันนี้ต้องไปดูเองนะครับ
มนุษย์สามารถควบคุม ธรรมชาติ และ เทคโนโลยี ได้ แต่มิอาจควบคุมจิตใจความคิดและความรู้สึกของ มนุษย์ด้วยกันได้
( คุณท่าน แสนดี ) เคยกล่าวไว้ อิอิ
สรุปเลยแล้วกัน มันคือหนัง Sci-Fi แนวแฟนตาซี ภาพยนตร์นวนิยายวิทยาศาสตร์
ที่ดูแล้วจะออกไปทางตลกหน่อยๆเพราะ CG มันตลก อิอิ
% ความน่าดูโดยร่วมและคะแนนต่างๆตามความรู้สึกส่วนตัว คิดเป็น 100 ละ จาก 100
80 % / 100 %
สุดท้ายอยากจะบอกว่าความจริงมันเป็นแบบนี้เอง
ไม่เหมือนกับที่เราจินตนาการไว้เลย อิอิ
[CR] Geostorm ( 2017 ) Review By คุณท่าน แสนดี
เป็นอีก 1 เรื่องสำหรับภาพยนตร์ต่างประเทศที่ได้รับชมมาครับ
ก็เลยอยากจะมาแบ่งปันความรู้สึกส่วนตัวที่ได้รับชมมาครับ
อันดับแรกเลยครับ ต้องยกนิ้วให้ เจอราร์ด บัตเลอร์ ที่เป็นแรงผลักดันให้เข้ามาชม
และไม่ผิดหวังเลยจริงๆครับสำหรับการแสดงของนักแสดงท่านนี้ ที่จะทำให้ทุกท่านไม่รู้สึกเบื่อ
ถึงแม้นภาพ CG ต่างๆจะออกมาดูเหมือนชิ้นงานทำส่งอาจารย์ก็เถอะ
แต่ถึงยังไงพี่ เจอราร์ด บัตเลอร์ ก็เอาอยู่ทั้งเรื่อง ขอบอก
เนื้อหาของตัวหนังหรือแนวคิดเน้นไปที่ เทคโนโลยี เครือข่ายดาวเทียม และ สถานีอวกาศนานาชาติ
หรืออาจจะเรียกสั้นๆว่า DUTCH BOY คือระบบเครือข่ายดาวเทียมควบคุม สภาพภูมิอากาศของโลก
ฟังดูแล้วยังห่างไกลจัง ลืมบอกไปว่าอย่าลืมสร้างสนามพลังงานที่เอาไว้ป้องกัน
การพุ่ง ชนของ อุกกาบาต และ เศษสะเก็ดดาวด้วยนะครับ เล่นสร้างซะรอบโลกเลย เห็นในหนังแล้วยังตลก อิอิ
ขอบอกว่าเรื่องนี้ก็สนุกแบบ สมเหตุสมผล มีความเป็นไปได้สูง ในโลกแห่งความเป็นจริง
มีการนำแนวคิด การพัฒนาระบบสังคมของโลกที่มีความร่วมมือกันมากขึ้นในเชิงสร้างสรรค์
ที่มีสถานีอวกาศนานาชาติ มีทั้งโรงงานผลิตดาวเทียม ที่อยู่ในสถานีอวกาศนานาชาติ ซึ่งเป้นแนวคิดที่ล้ำมากครับ
โดย ส่วนตัวรู้สึกชอบแนวคิดนี้ของหนังมากครับ
แต่ มุมตรงกันข้าม ในตัวหนังกับมีการ เสียดสีเชื้อชาติ โดยอ้อมๆหรือเน้นๆตามความรู้สึกของผู้รับชม
ฉากต่างๆในหนังจะมีฉากในหลายประเทศ
ที่โดน พายุถล่ม อุณหภูมิร้อนจัด ความเย็นเยือกแข็ง น้ำท่วม หรือแค่เป็นการตลาดทางอ้อม อิอิ
โดยลึกๆแล้วเข้าใจว่ายังงั้น ถ้ามีประเทศไทยด้วยคงจะแจ่มกว่านี้
แต่หนังก็มาประจวบเหมาะ กับ เหตุการณ์จริงๆที่เกิดขึ้น บนโลกของเรา อันนี้คงไม่ใช่การตลาด
แต่อาจจะเป็นความบังเอิญซะมากกว่านะผมว่า มีใครที่ได้ดูมาแล้วคิดแบบนี้บ้างว่า มันบังเอิญจริงๆ
DUTCH BOY ระบบเครือข่ายดาวเทียมควบคุม สภาพภูมิอากาศของโลก โดนไวรัส รับประทานครับท่าน
เป็นแนวคิดในหนังที่ฉลาดมากครับ มันเป็นตัวขับเคลื่อนหรือใบเบิกทางให้หนัง ไปต่อได้ครับ
เอาเป็นว่า หนังเรื่อง Geostorm ( 2017 ) ก็เป็นอีก 1 เรื่องที่เข้ากับเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นในบ้านเราและในอเมริกา
ในตัวเรื่องเนื้อหาสาระในหนังอาจจะยังขาดอะไรหลายๆอย่างที่ทำให้หนังมันดูน่าขบขัน
และไม่ค่อยจะตื่นเต้นสักเท่าไร แต่โดยรวมแล้วก็ทำออกมาได้ลงตัวดีครับ ถึงแม้น CG ในบางฉากจะดูธรรมดาจนเกินไป
แต่ยังไงซะในตัวหนังมันก็มี ความกลมกล่อมจนทำให้ดูจนจบเรื่อง แบบสนุกและรู้สึกชอบมาโดยไม่มีอะไรอธิบายได้
ว่าสนุกยังไงอันนี้ต้องไปดูเองนะครับ
มนุษย์สามารถควบคุม ธรรมชาติ และ เทคโนโลยี ได้ แต่มิอาจควบคุมจิตใจความคิดและความรู้สึกของ มนุษย์ด้วยกันได้
( คุณท่าน แสนดี ) เคยกล่าวไว้ อิอิ
สรุปเลยแล้วกัน มันคือหนัง Sci-Fi แนวแฟนตาซี ภาพยนตร์นวนิยายวิทยาศาสตร์
ที่ดูแล้วจะออกไปทางตลกหน่อยๆเพราะ CG มันตลก อิอิ
% ความน่าดูโดยร่วมและคะแนนต่างๆตามความรู้สึกส่วนตัว คิดเป็น 100 ละ จาก 100
80 % / 100 %
สุดท้ายอยากจะบอกว่าความจริงมันเป็นแบบนี้เอง
ไม่เหมือนกับที่เราจินตนาการไว้เลย อิอิ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น