วันนี้ (จันทร์ 16 ต.ค. 2017) ทหารฟิลิปปินส์ได้ทำการบุกเข้าโจมตีฐานที่มั่นสุดท้ายของกลุ่มกบฏในเมื่องมาราวี สามารถสังหารผู้นำกบฏคือนายอิสนิลอน ฮาปิลอน ผู้นำกลุ่มอาบูไซยัฟ และนายโอมาร์คัยยัม เมาเต้ ผู้นำกลุ่มพี่น้องเมาเต้ ยืนยันศพสำเร็จ ยุติสงครามมาราวีที่สู้กันมาเกือบห้าเดือน มีคนตายกว่าพันคนลงได้ (พี่น้องเมาเต้อีกสามคนรวมทั้ง นายอับดุลเลาะห์ เมาเต้ ซึ่งเป็นผู้นำสำคัญอีกคน ได้ถูกฆ่าไปก่อนหน้านี้แล้ว รวมมีพี่น้องตระกูลเมาเต้ตายในศึกมาราวีทั้งสิ้นสี่คน)
ศพผู้นำกบฏ
โอมาร์คัยยัม และอับดุลเลาะห์ เมาเต้
อิสนิลอน ฮาปิลอน
อิสนิลอน ฮาปิลอนตาย
ในช่วงท้ายๆ ของสงครามพวกกบฏสูญเสียกำลังมาก เคยเจรจายอมแพ้กับรัฐบาล โดยขอแลกตัวประกันที่มีอยู่ราว 40-70 คน กับการยอมปล่อยพวกตนหนีไป แต่ประธานาธิบดีดูเตอร์เตไม่ยอมรับข้อเสนอดังกล่าว บอกว่าต้องยอมแพ้ไม่มีเงื่อนไขเท่านั้น
พวกกบฏเสียขวัญมีการบังคับให้ตัวประกัน (ส่วนใหญ่เป็นเด็กกับผู้หญิง ครู และนักเรียนชาวคริสต์) มาร่วมรบด้วย ทำให้มีตัวประกันตายไปในการนี้พอสมควร อย่างไรก็ตามเนื่องจากพวกกบฏดูแลไม่ทั่วถึง ตัวประกันไม่ต่ำกว่าสี่คนจึงสามารถหลบรอดออกมาได้เอง รวมทั้งบาทหลวงเทเรซิโต ซูกานอปผู้นำชาวคริสต์มาราวีซึ่งเป็นตัวประกันสำคัญที่สุด
เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมากบฏแตกกันเอง มีกบฏ 8 คนนำตัวประกัน 9 คนหลบออกมาขอยอมแพ้แบบไม่มีเงื่อนไข
วันเสาร์ที่ผ่านมาทัพรัฐบาลสู้กับกบฏถึงขั้นตะลุมบอม สามารถแย่งตัวประกันเป็นเด็กสาวอายุ 16 ปี ออกมาได้แค่คนเดียว แลกกับทหารบาดเจ็บกว่า 20 นาย แต่ข้อมูลจากเด็กสาวคนนั้นก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เผด็จศึกได้สำเร็จในวันจันทร์
ในช่วงที่ตีสังหารกบฏได้หมดแล้วนั้น ยังมีตัวประกันชุดสุดท้ายเหลือรอดอยู่ 17 คน มีทั้งที่เป็นผู้หญิงและเด็กทารก จึงอนุมานได้ว่าตัวประกันรอดอย่างน้อย 30 คนเศษ นับว่าเยอะเมื่อเทียบกับที่ประมาณว่ามีตัวประกันทั้งหมด 40-70 คน
ทหารฟิลลิปปินส์ฉลองชัยชนะ
ศึกมาราวีถูกจุดชนวนจากการที่รัฐบาลทราบข่าวว่านายฮาปิลอนมาพบกับพี่น้องเมาเต้ในเมืองนี้ จึงเข้าจับกุม แต่ถูกพวกกบฏยิงต่อสู้จนพ่ายแพ้ และพวกกบฏขยายผลจนยึดเมืองมาราวีได้ในตอนแรก สงครามดำเนินอยู่ 4 เดือน 3 อาทิตย์ กบฏตาย 822 คน ทหารรัฐบาลตาย 163 คน ชาวบ้านตาย 87 คน
แม้จะมีกบฏบางส่วนยังคงต่อสู้อยู่ตามป่าเขา แต่ชัยชนะดังกล่าวก็เป็นการทำลายล้างกลุ่ม ISIS สาขาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไปถึงรากฐาน
::: ::: :::
ท่านที่สนใจติดต่อข่าวสารสงคราม ข่าวต่างประเทศได้ที่เพจ The Wild Chronicles ที่นี่นะครับ
https://www.facebook.com/pongsorn.bhumiwat
ส่วนอันนี้กรุ๊ปคุยกันในเพจ
https://www.facebook.com/groups/thewildchronicles
*** The Wild Chronicles: ศึกมาราวียุติแล้ว รัฐบาลชนะ - ผู้นำฝ่ายกบฏถูกฆ่าตายทั้งสิ้น ***
ศพผู้นำกบฏ
โอมาร์คัยยัม และอับดุลเลาะห์ เมาเต้
อิสนิลอน ฮาปิลอน
อิสนิลอน ฮาปิลอนตาย
ในช่วงท้ายๆ ของสงครามพวกกบฏสูญเสียกำลังมาก เคยเจรจายอมแพ้กับรัฐบาล โดยขอแลกตัวประกันที่มีอยู่ราว 40-70 คน กับการยอมปล่อยพวกตนหนีไป แต่ประธานาธิบดีดูเตอร์เตไม่ยอมรับข้อเสนอดังกล่าว บอกว่าต้องยอมแพ้ไม่มีเงื่อนไขเท่านั้น
พวกกบฏเสียขวัญมีการบังคับให้ตัวประกัน (ส่วนใหญ่เป็นเด็กกับผู้หญิง ครู และนักเรียนชาวคริสต์) มาร่วมรบด้วย ทำให้มีตัวประกันตายไปในการนี้พอสมควร อย่างไรก็ตามเนื่องจากพวกกบฏดูแลไม่ทั่วถึง ตัวประกันไม่ต่ำกว่าสี่คนจึงสามารถหลบรอดออกมาได้เอง รวมทั้งบาทหลวงเทเรซิโต ซูกานอปผู้นำชาวคริสต์มาราวีซึ่งเป็นตัวประกันสำคัญที่สุด
เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมากบฏแตกกันเอง มีกบฏ 8 คนนำตัวประกัน 9 คนหลบออกมาขอยอมแพ้แบบไม่มีเงื่อนไข
วันเสาร์ที่ผ่านมาทัพรัฐบาลสู้กับกบฏถึงขั้นตะลุมบอม สามารถแย่งตัวประกันเป็นเด็กสาวอายุ 16 ปี ออกมาได้แค่คนเดียว แลกกับทหารบาดเจ็บกว่า 20 นาย แต่ข้อมูลจากเด็กสาวคนนั้นก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เผด็จศึกได้สำเร็จในวันจันทร์
ในช่วงที่ตีสังหารกบฏได้หมดแล้วนั้น ยังมีตัวประกันชุดสุดท้ายเหลือรอดอยู่ 17 คน มีทั้งที่เป็นผู้หญิงและเด็กทารก จึงอนุมานได้ว่าตัวประกันรอดอย่างน้อย 30 คนเศษ นับว่าเยอะเมื่อเทียบกับที่ประมาณว่ามีตัวประกันทั้งหมด 40-70 คน
ทหารฟิลลิปปินส์ฉลองชัยชนะ
ศึกมาราวีถูกจุดชนวนจากการที่รัฐบาลทราบข่าวว่านายฮาปิลอนมาพบกับพี่น้องเมาเต้ในเมืองนี้ จึงเข้าจับกุม แต่ถูกพวกกบฏยิงต่อสู้จนพ่ายแพ้ และพวกกบฏขยายผลจนยึดเมืองมาราวีได้ในตอนแรก สงครามดำเนินอยู่ 4 เดือน 3 อาทิตย์ กบฏตาย 822 คน ทหารรัฐบาลตาย 163 คน ชาวบ้านตาย 87 คน
แม้จะมีกบฏบางส่วนยังคงต่อสู้อยู่ตามป่าเขา แต่ชัยชนะดังกล่าวก็เป็นการทำลายล้างกลุ่ม ISIS สาขาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไปถึงรากฐาน
::: ::: :::
ท่านที่สนใจติดต่อข่าวสารสงคราม ข่าวต่างประเทศได้ที่เพจ The Wild Chronicles ที่นี่นะครับ
https://www.facebook.com/pongsorn.bhumiwat
ส่วนอันนี้กรุ๊ปคุยกันในเพจ
https://www.facebook.com/groups/thewildchronicles