JJNY : 5in1 ญาติรวมตัวหน้ากลาโหมอิสราเอล│อิสราเอลเสริมทหารเข้ากาซา│กมธ.ทหารเตรียมเชิญแจง│"โรม"แนะทางออก│ไปดูผลโพล!

ญาติรวมตัวหน้ากลาโหมอิสราเอล ถามหาความปลอดภัยของตัวประกัน
https://www.pptvhd36.com/news/ต่างประเทศ/209123
 
 
ครอบครัวของตัวประกันที่ถูกกลุ่มฮามาสจับตัวไปรวมตัวชุมนุมหน้ากระทรวงกลาโหมอิสราเอล เพื่อเรียกร้องให้อิสราเอลช่วยตัวประกันให้จงได้

ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (28 ต.ค.) ที่หน้าสำนักงานใหญ่กระทรวงกลาโหมอิสราเอลในกรุงเทลอาวีฟ เต็มไปด้วยญาติและครอบครัวของตัวประกันที่ถูกกลุ่มติดอาวุธฮามาสจับกุมตัวไป เพื่อเรียกร้องให้อิสราเอลทำทุกอย่างที่เป็นไปได้เพื่อช่วยตัวประกันในฉนวนกาซา
 
แต่การโจมตีฉนวนกาซาที่หนักหน่วงขึ้นของอิสราเอลกระตุ้นให้ครอบครัวเกิดความหวาดกลัวว่า คนที่พวกเขารักจะถูกกระสุนรถถังและระเบิดทางอากาศของอิสราเอล หรือถูกกลุ่มฮามาสทร้ายหรือไม่

และยังทำให้เกิดคำถามที่สำคัญกว่านั้นว่า รัฐบาลอิสราเอลได้ละทิ้งความหวังทั้งหมดในการเจรจาปล่อยตัวแล้วหรือ? กลยุทธ์ของกองทัพที่จะทำให้ฮามาสปล่อยตัวประกันคืออะไร? มีกลยุทธ์บ้างไหม?
 
อิสราเอลรายงานว่า ขณะนี้ มีตัวประกันที่ถูกกลุ่มฮามาสจับตัวไป 229 คน ในจำนวนนี้เกินครึ่งเป็นชาวต่างชาติ แต่ตลอดเวลานับตั้งแต่สงครามอิสราเอล-ฮามาสเริ่มขึ้น แทบไม่มีความเคลื่อนไหวเรื่องการช่วยเหลือตัวประกันที่ชัดเจนจากอิสราเอลเลย
 
ฮาอิม รูบินสไตน์ โฆษกของ Hostages and Missing Families Forum ซึ่งเป็นกลุ่มช่วยเหลือตัวประกันและครอบครัว กล่าวว่า “มีแผนไหม? เราไม่รู้ นั่นคือสิ่งที่เราต้องการทราบ

เขาเสริมว่า “เรายังต้องการทราบความหมายของสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ด้วย” รูบินสไตน์กล่าว โดยอ้างถึงการโจมตีภาคพื้นดินในฉนวนกาซาโดยกองทัพอิสราเอล ซึ่งมีการทิ้งระเบิดใส่เป้าหมายใต้ดินของกลุ่มฮามาส 150 แห่ง ซึ่งรวมถึงอุโมงค์ที่อาจมีตัวประกันบางส่วนด้วย
 
ครอบครัวขู่ว่าจะเริ่มการประท้วงบนท้องถนนเพื่อตอกย้ำถึงความสิ้นหวังของพวกเขา กดดันให้นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู ยอมตกลงที่จะพบกับพวกเขาในเย็นวันเสาร์ และได้จัดการประชุมอย่างเร่งรีบกับครอบครัวของตัวประกัน
 
แต่เนทันยาฮูไม่ได้ให้คำมั่นต่อข้อตกลงใด ๆ เพียงบอกกับครอบครัวเหล่านี้ว่า “เราจะใช้ทุกวิถีทางที่จะพาพวกเขากลับบ้าน” โดยยังไม่ชัดเจนว่าเนทันยาฮูจะให้ความมั่นใจอะไรได้บ้าง เนื่องจากดูเหมือนเขาจะไม่มีแผนเจรจาแลกเปลี่ยนนักโทษ หรือหยุดการโจมตี ซึ่งกลุ่มฮามาสกล่าวว่าเป็นหนึ่งในเงื่อนไขของการปล่อยตัว
 
ยูอาฟ กัลแลนต์ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมอิสราเอล กล่าวว่า “เราโจมตีทั้งเหนือพื้นดินและใต้ดิน เราโจมตีหน่วยปฏิบัติการก่อการร้ายทุกระดับ ทุกที่ คำสั่งสำหรับกองทัพนั้นชัดเจน ปฏิบัติการจู่โจมจะดำเนินต่อไปจนกว่าจะมีคำสั่งใหม่
 
กัลแลนต์ยังบอกอีกว่า “ยิ่งเพิ่มแรงกดดันทางทหาร เพิ่มการยิงมากขึ้น และโจมตีกลุ่มฮามาสได้มากเท่าไร เราก็จะยิ่งมีโอกาสที่จะทำให้กลุ่มฮามาสยอมตกลงร่วมกันหาวิธีแก้ปัญหาที่จะช่วยให้คนที่คุณรักกลับมาได้
 
แต่นั่นเป็นคำกล่าวที่เป็นลางไม่ดีเท่าไรนักสำหรับครอบครัวของตัวประกัน โดยเฉพาะหลังจากที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กลุ่มฮามาสอ้างว่ามีตัวประกันประมาณ 50 คนเสียชีวิตจากการโจมตีของอิสราเอล

มิหนำซ้ำ ครอบครัวตัวประกันกล่าวว่า พวกเขาแทบไม่มีการติดต่อกับรัฐบาลเลย
 
อินบัล ซัค วัย 38 ปี ซึ่งลูกพี่ลูกน้องของเขาถูกลักพาตัวจากชุมชนเกษตรกรรมเบเอรี ใกล้ฉนวนกาซา พร้อมสมาชิกในครอบครัวอีก 6 คน กล่าวว่า “เราไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับพวกเขา เราไม่รู้ว่าพวกเขาถูกยิงหรือเปล่า มีหมอหรือเปล่า มีอาหารหรือเปล่า ... เราแค่เป็นห่วงพวกเขามาก
 
ด้าน ซีฟ เชอร์มาน ซึ่งหลานชายวัย 19 ปี รอน เชอร์มาน ถูกลักพาตัวไปในการโจมตีของกลุ่มฮามาสเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม กล่าวว่า “ตัวประกันไม่ได้รับการปล่อยตัว พวกเขาตกอยู่ในอันตราย
 
เขายังบอกอีกว่า วันนั้นรัฐบาลละทิ้งชาวอิสราเอลที่อาศัยอยู่ใกล้ฉนวนกาซา และตอนนี้ก็เสี่ยงที่จะทอดทิ้งผู้รอดชีวิตที่ถูกจับ

ขณะที่ เชลลี วัย 62 ปี ซึ่งมาประท้วงหน้ากลาโหมรัสเซีย บอกว่า “รัฐบาลเป็นหนี้เราหลังจากที่พวกเขาไม่ได้ปกป้องเรา เราควรมุ่งความสนใจไปที่ตัวประกัน เราจะไม่กินหรือนอนจนกว่าจะพาพวกเขากลับบ้าน ตัวประกันต้องมาก่อน มีเวลาสำหรับการทำสงครามเสมอ
 
ส่วน อายเล็ต ซาเมราโน ซึ่งลูกชายถูกจับตัวไป ตัวสั่นขณะที่เธอพูด “ลูกชายของฉัน ลูกชายตัวน้อยของฉัน สัตว์เหล่านั้นพาเขาไป พวกเขาฆ่าเด็กต่อหน้าพ่อแม่ และฆ่าพ่อแม่ต่อหน้าลูก

เธอกล่าวหารัฐบาลอิสราเอลว่า พวกเขาปล่อยญาติ ๆ ของตัวประกันไว้ในสุญญากาศข้อมูล แต่กลับแสดงความมั่นใจในการตัดสินใจโจมตีฉนวนกาซา
 
ที่ผ่านมา กลุ่มฮามาสกล่าวว่า อิสราเอลจะต้องปล่อยนักโทษชาวปาเลสไตน์ทั้งหมดที่มีอยู่หลายพันคนออกจากเรือนจำ เพื่อและกับอิสรภาพของตัวประกัน
 
ยาห์ยา ซินวาร์ ผู้นำกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา กล่าวว่า “เราพร้อมที่จะดำเนินการข้อตกลงแลกเปลี่ยนนักโทษทันที ซึ่งรวมถึงการปล่อยตัวนักโทษชาวปาเลสไตน์ทั้งหมดออกจากเรือนจำอิสราเอล เพื่อแลกกับตัวประกันทุกคนที่เราคุมขังไว้
 
ชาวปาเลสไตน์หลายพันคนถูกควบคุมตัวในเรือนจำ 19 แห่งในอิสราเอล และอีก 1 แห่งในเขตเวสต์แบงก์
 
ในการประชุม บางครอบครัวบอกกับเนทันยาฮูว่า การมีเส้นแบ่งที่เข้มงวดกับกลุ่มฮามาสนั้นเป็นสิ่งที่สมเหตุสมผล แต่ก็มีอีกกลุ่มที่บอกว่า พวกเขาสนับสนุนการแลกเปลี่ยนนักโทษเต็มรูปแบบ และเห็นชอบให้ทำข้อตกลงกับฮามาส
 
เมลราฟ โกเนน ซึ่งลูกสาวของเธอเป็นหนึ่งในตัวประกัน กล่าวว่า “เท่าที่ครอบครัวกังวล ข้อตกลงในการแลกตัวสมาชิกในครอบครัวของเรากับนักโทษภายใต้กรอบ ‘และทุกคนกันทุกคน’ นั้นเป็นไปได้ และจะได้รับการสนับสนุนในวงกว้าง
 
อิฟัต คัลเดรอน ซึ่งมีลูกพี่ลูกน้องเป็นตัวประกัน กล่าวว่า “เอาตัวพวกเขาไปเลย เราไม่ต้องการพวกเขาที่นี่ เราต้องการให้ครอบครัวและตัวประกันทุกคนกลับบ้าน พวกเขาเป็นพลเมือง พวกเขาไม่ใช่ทหาร
 
เรียบเรียงจาก Al JazeeraThe Guardian



อิสราเอลเสริมทหารเข้ากาซา ยูเอ็นหวั่นกลียุคหลังโดนปล้นสะดม
https://www.dailynews.co.th/news/2850801/
 
กองทัพอิสราเอลระดมกำลังทหารเข้าไปในภาคเหนือฉนวนกาซาเพิ่มอีก ท่ามกลางวิกฤติมนุษยธรรมภายในพื้นที่ ที่ยูเอ็นเตือนว่า "กำลังจะหายนะ" เมื่อเริ่มมีการปล้นสะดม
 
 
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล เมื่อวันที่ 29 ต.ค. ว่าพล.ร.ต.ดาเนียล ฮาการี โฆษกกองทัพอิสราเอล กล่าวว่า มีการเสริมกำลังทหารในฉนวนกาซา เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา เพื่อขยายขอบเขตของปฏิบัติการโจมตีภาคพื้นดิน ในภาคเหนือและภาคกลางของฉนวนกาซา โดยภารกิจสำคัญ คือการกวาดล้างกลุ่มฮามาส และการช่วยเหลือตัวประกันให้ได้ครบทุกคน

ขณะที่สำนักงานบรรเทาทุกข์และจัดหางานของสหประชาชาติ สำหรับผู้ลี้ภัยปาเลสไตน์ในตะวันออกใกล้ ( ยูเอ็นอาร์ดับเบิลยูเอ ) ออกแถลงการณ์ว่า “ระเบียบพลเรือน” ในสังคมของฉนวนกาซา กำลังล่มสลายอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่สงครามระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสปะทุ เมื่อวันที่ 7 ต.ค. ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ เกิดการปล้นสะดมคลังสินค้า และโกดังเก็บอาหารของยูเอ็นอาร์ดับเบิลยูเอ ในเมืองเดอีร์ อัล-บาลาห์ ทางตอนกลางของฉนวนกาซา ซึ่งเป็นสถานที่เก็บสิ่งของบรรเทาทุกข์ จากขบวนคาราวาน ซึ่งเดินทางข้ามแดนจากอียิปต์ผ่านด่านราฟาห์ เข้ามาในฉนวนกาซา เมื่อวันที่ 21 ต.ค. ที่ผ่านมา

นอกจากนี้ ยูเอ็นอาร์ดับเบิลยูเอเรียกร้อง การเพิ่มโควตาของรถบรรทุกลำเลียงสิ่งของข้ามแดนจากฉนวนกาซา ซึ่งมีเพียง 84 เที่ยวเท่านั้น ถือว่าน้อยมาก เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยก่อนเกิดสงคราม ที่สถิติของยูเอ็นอาร์ดับเบิลยูเอระบุว่า อยู่ที่วันละราว 500 คัน
  


กมธ.ทหาร เตรียมเชิญ ‘สุทิน-ผบ.ทร.’ แจงปมเรือดำน้ำสัปดาห์หน้า ถ้าไม่คืบ จ่อยกระดับกดดัน
https://www.matichon.co.th/politics/news_4257230

โฆษก กมธ.ทหาร เผย เตรียมทำหนังสือเชิญ ‘สุทิน-ผบ.ทร.’ แจงปมเรือดำน้ำสัปดาห์หน้า เผย หากเชิญอีก 2-3 ครั้งยังไม่คืบ จ่อยกระดับกดดันต่อ ชี้ มีโอกาสหยิบไปอภิปรายไม่ไว้วางใจ ขึ้นอยู่กับข้อมูลว่าครบถ้วนหรือไม่
 
เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม นายชยพล สท้อนดี ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การทหาร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ กมธ.การทหาร ได้ทำหนังสือเทียบเชิญนายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) เพื่อชี้แจงรายละเอียดการปรับสัญญาโครงการซื้อเรือดำน้ำเป็นเรือฟริเกตแทนว่า ในสัปดาห์หน้าก็จะออกหนังสือเชิญ ผบ.ทร. และนายสุทินอีกครั้ง ซึ่งสัปดาห์ที่แล้วในที่ประชุม กมธ.ทหาร ก็ไม่ได้หารือเรื่องเรือดำน้ำ แต่เป็นการหารือเรื่องการกู้เรือรบหลวงสุโขทัยแทน เพราะทาง ทร.ได้ให้เหตุผลว่า ข้อมูลยังไม่ครบจึงยังไม่สามารถชี้แจงได้
 
โดยทาง กมธ.ต้องตามเรื่องต่อไปเรื่อยๆ เพราะทาง ทร.ก็ไม่ได้แจ้งรายละเอียดเพิ่มเติมว่าจะมาชี้แจงอีกครั้งเมื่อไหร่ ส่วนหากภายในสัปดาห์หน้าทั้งทาง ทร.และนายสุทินยังไม่ชี้แจงอะไรเพิ่มเติม ขณะนี้อาจจะเป็นการขอความร่วมมือกันก่อน คงจะขอความร่วมมือชี้แจงไม่เกิน 2-3 ครั้ง แต่หากยังไม่มีความคืบหน้าทาง กมธ.ก็จะค่อยๆ ยกระดับขึ้น
 
เมื่อถามว่า อนาคตจะมีการหยิบยกเรื่องนี้ไปเป็น 1 ในหัวข้อการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลด้วยหรือไม่ นายชยพลกล่าวว่า มีความเป็นไปได้ แต่ขึ้นอยู่กับว่าเรามีหลักฐานมากแค่ไหน สุดท้ายเราก็ต้องว่ากันไปตามข้อมูล ระหว่างนี้เราจะทำหน้าที่ตรวจสอบได้ดีแค่ไหน เราก็หวังพึ่งข้าราชการที่ต้องการความเปลี่ยนแปลงในการสอดส่องช่วยกันด้วย


 
"โรม" แนะทางออก "แพทองธาร" หากหวังชนะ "ก้าวไกล" หยัน "เศรษฐา" ตาขาว
https://www.thairath.co.th/news/politic/2736485

"รังสิมันต์ โรม" แนะ "แพทองธาร" หากหวังชนะ "ก้าวไกล" ต้องแก้โครงสร้างการเมือง หยัน นายกฯ ตาขาว กลัว ไม่ยอมมาตอบกระทู้ในสภา ขู่ รัฐบาลกำลังบีบให้ก้าวไกลต้องใช้ยาแรงทางกฎหมายโดยไม่รู้ตัว
 
เมื่อวันที่ 29 ต.ค. 66 นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ขึ้นรับตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่ น.ส.แพทองธาร อายุยังน้อย มาลงการเมืองได้ไม่นาน แต่ขึ้นมาระดับบนได้ โตไวขนาดนี้ทั้งที่ พรรคเพื่อไทย มีบุคลากรเก่าๆ หลายคน ไม่ใช่เรื่องง่าย ไม่ธรรมดาที่จะได้รับการยอมรับแบบนี้ พรรคก้าวไกล อยากเชิญชวนทุกพรรคแก้ปัญหาเรื่องโครงสร้างทางการเมือง ตราบใดที่ไม่เเตะเรื่องโครงสร้างแก้ปัญหาประเทศอย่างยั่งยืนไม่ได้ หวังว่าทุกพรรคเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงแล้ว ถ้าตระหนักว่า พรรคก้าวไกล เป็นคู่แข่งที่ต้องจะเอาชนะให้ได้ ก็ต้องตอบโจทย์ต่อปัญหาโครงสร้างทางการเมือง หวังว่า น.ส.แพทองธาร คนที่ถือว่าอายุอย่างน้อย เป็นคนรุ่นใหม่ จะเห็นปัญหาแบบเดียวกับที่พรรคก้าวไกลเห็น และวันนี้เพื่อไทยเป็นรัฐบาล ก็อยากเห็นการแก้ปัญหานี้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่