แชร์ประสบการณ์ว่าด้วยร้านค้าประชารัฐ 15 วันผ่านมา! ที่เป็นความคิดเห็นส่วนตัวล้วนๆครับ
1.คิดว่า!ร้านจะได้ลูกค้าใหม่ปรากฎว่าลูกค้าเก่าที่มีกำลังซื้อหายหมด จากเดิมลูกค้าที่ซื้อคนวันละ 200 กว่าบาท กลายเป็นไม่มีใครมาเลย ไปร้านอื่นแทน เหตุผลคือคนเยอะ และมั่วมาก ส่วนลูกค้าที่ใช้บัตรกะว่าเดี๋ยวต้องกลับมาซื้อแน่ๆ ก็ไม่มีกำลังซื้อหรือของที่รูดไปยังมีเหลือใช้
2.ทุนเงินสดที่ใช้หมุนเวียนในแต่ละวันไม่ต่ำกว่า 300,000 บาท ย้ำว่าต้องมี สามแสน จึงจะสามารถรองรับคนมารูดได้ประมาณ 100 คน/วัน
3.การโอนยอดกลับให้จากกรมบัญชีกลาง 3 วันทำการ ตามนั่นจริงครับ เสาร์อาทิตย์วันหยุดต่างๆปิดเงียบไม่มีโอน หาทุนสำรองกันครับ
4.จากข้อ (3) กรมบัญชีกลางไม่โอนเงินมาก็เอาเงินสดที่ได้จากส่วนที่ลูกค้าจ่ายเพิ่มไปซื้อของมาใช้ซิ? เป็นไปได้ยากครับ มีวงเงิน 300 บาท เกินมาเป็น 304 ยังเอาออกเลยครับ
5.ของหายครับ กล้องวงจรปิด 8 ตัวยังเอาไม่อยู่ และก็ไม่กลัวกัน เช่น เอาเครื่องดื่มจากตู้แชร์เสร็จแล้วก็กินแล้วก็ซ่อนไว้ตามชั้นนี่เยอะมาก แกล้งเดินออกจากร้านก็มี
6.คนช่วยขาย อย่างน้อย 4-5 คน/วัน ญาติต้องมาช่วยด้วยใจ มิฉะนั้นไม่ทัน สินค้าทุกอย่างต้องแสดงราคา นั่งแป๊ะกันแต่เช้ายันเย็น
**7. สำคัญมาก พาณิชย์จังหวัดบังคับให้ขายราคาถูก ให้เบอร์เซลล์มา โทรไป โน้นเซลล์ส่วนกลาง กรุงเทพ ไม่มีทางหรอกครับที่จะได้ราคาส่งเหมือนห้างใหญ่ๆ น้ำมันพืชขายขวด 29.5 แทบเป็นไปไม่ได้ ที่สำคัญเซลล์มาเดือนละหนครับ และสั่งยอดไป20,000 มีของส่ง 5,000 ครับ ตัดไปได้เลยครับ ต้องพึ่งแมคโคร และโลตัส และยี่ปั๊วอีกเช่นเคย
8.ผลจากข้อ (7) โดนลูกค้าที่มีบัตรว่า ทำไมขายแพง ที่ห้างโน่นนี่นั่นถูกกว่า (ในใจคิดขนาดน้ำมันได้กำไรแค่ขวดละ 1 บาท) ลูกค้ากลุ่มนี้อีกเช่นกัน ปล่อยข่าวโน่นนี่นั่น ของแพง ทำให้ร้านเสียหาย ขนาดใช้แอพราคาเช็คราคาแล้วขายราคาประมาณห้างใหญ่
9.ว่าด้วยระบบราชการ อยากส่งเสริมให้รับสินค้ากลุ่มโอท็อบมาขาย ผักจากชาวบ้านมาขาย ร้านผมอยู่แถวบ้านชายทะเลก็รับปลาตากแห้งมาขาย ขายดี ชาวบ้านดีใจครับแต่ไม่มีทางจะออกใบเสร็จเก็บไว้ได้ เพราะเป็นกลุ่มชาวบ้าน
**10.รัฐบาลไม่มีนโยบายที่ชัดเจนเรื่องภาษี ซึ่งโดนเต็มๆแน่ ปีนึงเกิน 1.8 ล้านแน่นอน โชว์ห่วยไม่มาทางทำเรื่องภาษี 7% เป็น ของแต่ละอย่างที่รับซื้อมาจากชาวบ้านไม่มีทางทำได้ รัฐบาลไม่มีนโยบายประสานสรรพากรในเรื่องนี้ ภาษีถ้าเทียบกับรายจ่ายไม่มีทางคุ้ม ที่อยู่ได้ก็จะเป็นห้างใหญ่ๆที่มีการจัดทำระบบ VAT 7% และคิดว่าโชว์ห่วยส่วนใหญ่ที่เข้าโครงการนี้ส่วนใหญ่ไม่ออกใบเสร็จการซื้อสินค้าเตรียมไว้
11.(ความคิดส่วนตัวล้วนๆ) ต้องเตรียมรับมือปัญหา กลุ่มลูกค้าที่เรียกร้องสินค้าและการบริการอารมณ์ประมาณเครดิตการ์ด รอยัล แพลทินัม
ที่กล่าวมาทั้งหมดไม่รู้จะเดินทางไปในทิศทางไหนวอนหน่วยงานที่ดูแลเรื่องนี้ประสานหน่อยก็ยังดีครับ
แชร์ประสบการณ์ว่าด้วยเจ้าของร้านค้าประชารัฐ 15 วันผ่านมา!
1.คิดว่า!ร้านจะได้ลูกค้าใหม่ปรากฎว่าลูกค้าเก่าที่มีกำลังซื้อหายหมด จากเดิมลูกค้าที่ซื้อคนวันละ 200 กว่าบาท กลายเป็นไม่มีใครมาเลย ไปร้านอื่นแทน เหตุผลคือคนเยอะ และมั่วมาก ส่วนลูกค้าที่ใช้บัตรกะว่าเดี๋ยวต้องกลับมาซื้อแน่ๆ ก็ไม่มีกำลังซื้อหรือของที่รูดไปยังมีเหลือใช้
2.ทุนเงินสดที่ใช้หมุนเวียนในแต่ละวันไม่ต่ำกว่า 300,000 บาท ย้ำว่าต้องมี สามแสน จึงจะสามารถรองรับคนมารูดได้ประมาณ 100 คน/วัน
3.การโอนยอดกลับให้จากกรมบัญชีกลาง 3 วันทำการ ตามนั่นจริงครับ เสาร์อาทิตย์วันหยุดต่างๆปิดเงียบไม่มีโอน หาทุนสำรองกันครับ
4.จากข้อ (3) กรมบัญชีกลางไม่โอนเงินมาก็เอาเงินสดที่ได้จากส่วนที่ลูกค้าจ่ายเพิ่มไปซื้อของมาใช้ซิ? เป็นไปได้ยากครับ มีวงเงิน 300 บาท เกินมาเป็น 304 ยังเอาออกเลยครับ
5.ของหายครับ กล้องวงจรปิด 8 ตัวยังเอาไม่อยู่ และก็ไม่กลัวกัน เช่น เอาเครื่องดื่มจากตู้แชร์เสร็จแล้วก็กินแล้วก็ซ่อนไว้ตามชั้นนี่เยอะมาก แกล้งเดินออกจากร้านก็มี
6.คนช่วยขาย อย่างน้อย 4-5 คน/วัน ญาติต้องมาช่วยด้วยใจ มิฉะนั้นไม่ทัน สินค้าทุกอย่างต้องแสดงราคา นั่งแป๊ะกันแต่เช้ายันเย็น
**7. สำคัญมาก พาณิชย์จังหวัดบังคับให้ขายราคาถูก ให้เบอร์เซลล์มา โทรไป โน้นเซลล์ส่วนกลาง กรุงเทพ ไม่มีทางหรอกครับที่จะได้ราคาส่งเหมือนห้างใหญ่ๆ น้ำมันพืชขายขวด 29.5 แทบเป็นไปไม่ได้ ที่สำคัญเซลล์มาเดือนละหนครับ และสั่งยอดไป20,000 มีของส่ง 5,000 ครับ ตัดไปได้เลยครับ ต้องพึ่งแมคโคร และโลตัส และยี่ปั๊วอีกเช่นเคย
8.ผลจากข้อ (7) โดนลูกค้าที่มีบัตรว่า ทำไมขายแพง ที่ห้างโน่นนี่นั่นถูกกว่า (ในใจคิดขนาดน้ำมันได้กำไรแค่ขวดละ 1 บาท) ลูกค้ากลุ่มนี้อีกเช่นกัน ปล่อยข่าวโน่นนี่นั่น ของแพง ทำให้ร้านเสียหาย ขนาดใช้แอพราคาเช็คราคาแล้วขายราคาประมาณห้างใหญ่
9.ว่าด้วยระบบราชการ อยากส่งเสริมให้รับสินค้ากลุ่มโอท็อบมาขาย ผักจากชาวบ้านมาขาย ร้านผมอยู่แถวบ้านชายทะเลก็รับปลาตากแห้งมาขาย ขายดี ชาวบ้านดีใจครับแต่ไม่มีทางจะออกใบเสร็จเก็บไว้ได้ เพราะเป็นกลุ่มชาวบ้าน
**10.รัฐบาลไม่มีนโยบายที่ชัดเจนเรื่องภาษี ซึ่งโดนเต็มๆแน่ ปีนึงเกิน 1.8 ล้านแน่นอน โชว์ห่วยไม่มาทางทำเรื่องภาษี 7% เป็น ของแต่ละอย่างที่รับซื้อมาจากชาวบ้านไม่มีทางทำได้ รัฐบาลไม่มีนโยบายประสานสรรพากรในเรื่องนี้ ภาษีถ้าเทียบกับรายจ่ายไม่มีทางคุ้ม ที่อยู่ได้ก็จะเป็นห้างใหญ่ๆที่มีการจัดทำระบบ VAT 7% และคิดว่าโชว์ห่วยส่วนใหญ่ที่เข้าโครงการนี้ส่วนใหญ่ไม่ออกใบเสร็จการซื้อสินค้าเตรียมไว้
11.(ความคิดส่วนตัวล้วนๆ) ต้องเตรียมรับมือปัญหา กลุ่มลูกค้าที่เรียกร้องสินค้าและการบริการอารมณ์ประมาณเครดิตการ์ด รอยัล แพลทินัม
ที่กล่าวมาทั้งหมดไม่รู้จะเดินทางไปในทิศทางไหนวอนหน่วยงานที่ดูแลเรื่องนี้ประสานหน่อยก็ยังดีครับ