###Hornamese### Backpack in Vietnam DAY 3


พอมาถึงตอนนี้แล้วถ้าหากใครยังไม่ได้อ่านของตอนแรกๆ ผมขอแนะนำให้ไปเริ่มอ่านตั้งแต่ตอนแรก เพื่ออรรถรสในการอ่าน
DAY 1: https://ppantip.com/topic/36705169
DAY 2: https://ppantip.com/topic/36982039

เป้าหมายของวันนี้คือเราจะเดินทางจากโฮจิมินห์ไปยังมุยเน่
แหกขี้ตาตื่นแต่เช้า อาบน้ำ จัดกระเป๋า พร้อมเช็คเอ้าท์ เราเดินไปที่บริษัททัวร์ “The Sinh Tourist” ซึ่งมีบริการรถหลายเส้นทางและเป็นที่น่าเชื่อถือของนักท่องเที่ยว สำหรับรถที่เรานั่งเป็นประเภท sleeper คือไม่มีที่นั่งมีแต่ที่นอน 180 องศาเลยทีเดียว ตามที่เจ้าหน้าที่แจ้งเอาไว้รถจะออกจากที่นี่ประมาณ 7 โมงเช้า แต่เรามาถึงที่นี่ตั้งแต่ 6.30 เผื่อมีอะไรฉุกเฉิน ผมเองก็เริ่มหิวข้าวเพราะเมื่อคืนเรากินร้านอาหารไทยแค่นิดเดียวเอง เลยเดินไปซื้อ Banh Mhi ที่ขายอยู่ริมถนน อารมณ์เหมือนผมเดินไปซื้อข้าวเหนียวหมูปิ้งหน้าปากซอยแหละครับ ขนมปังแข็งๆสอดไส้ด้วยหมูยอผักนาๆชนิด อันนี้เป็นมื้อแรกที่เรากิน Banh Mhi ซึ่งร้านนี้ผมให้ 6/10 เพราะการเดินทางตลอดทริปนี้เราได้ลิ้มลอง Banh Mhi จากหลายๆ ร้านซึ่งก็มีรสชาติ ไส้ แตกต่างกันออกไปตามความคิดสร้างสรรค์และวัตถุท้องถิ่นของเชฟ

เมื่อถึง 7 โมง พวกเราเริ่มกังวลเพราะรถยังไม่มา ผมเลยเดินไปถามเจ้าหน้าที่ แต่เจ้าหน้าที่ก็พูดภาษาเวียดนามใส่ผม 5555 ก็เลยใช้วิธีถามฝรั่งที่เค้าจะไปมุยเน่เหมือนกัน จนในที่สุดเราก็ได้ขึ้นมาบนรถครับ และนี่เป็นครั้งแรกของพวกเราทั้งสามคนที่ได้มานั่งรถแบบ sleeper แต่โชคชะตากลั่นแกล้งเราส่งเราไปนั่งบริเวณหลังสุดชั้นล่างของรถซึ่งเป็นที่นอน 5 ที่เรียงติดกัน ยิ้มโคตรอึดอัดเลย ร้อนก็ร้อน นอนก็นอนไม่ได้นั่งก็ติดหัวอีก อะไรมันจะลำบากขนาดนี้ 55555
ผ่านไปประมาณ 2 ชั่วโมง รถพักก็แวะปั๊มให้พวกเราเข้าห้องน้ำ เราก็มาจัดหนักอาหารเช้ากันที่นี่ ผมกับภู ซื้อบิ๊กเปาหมูมา ต้นซื้อมังคุดไปนั่ง(นอน)กินบนรถ บิ๊กเปาหมูรสชาติกินได้ คือพวกเราเป็นคนกินง่ายอยู่แล้วกินอะไรก็อร่อยไปหมด แต่ที่เด็ดดวงจริงๆ พวกเรายกให้มังคุดของต้น ราคาแพงกว่าที่ไทยนะ แต่รสชาตินี่เอาไป 10/10 เลย หวานฉ่ำ

ประมาณ 1 ชั่วโมงผ่านมา บรรยากาศข้างทางเริ่มเปลี่ยนไป เราเริ่มเห็นทะเล ผืนทราย ใช่แล้วครับเราเดินทางมาถึงมุยเน่แล้ว ผมรีบควักมือถือขึ้นมาเปิด google map เพื่อดูว่าใกล้ถึงโรงแรมหรือยัง พอถึงจุดนี้ผมขออธิบายถึงการส่งผู้โดยสารของบริษัทนี่ตามที่ผมเข้าใจ คือเมื่อรถผ่านโรงแรมไหนก่อนก็จะส่งผู้โดยสารตรงนั้นก่อน แต่ถ้าผู้โดยสารยังไม่มีที่พัก ก็สามารถไปลงที่บริษัททัวร์ที่ตั้งอยู่ในมุยเน่ได้ ความตลกอยู่ที่ว่าที่พักของเรามันไม่ได้เป็น resort&spa เหมือนชาวบ้านที่ร่วมเดินทาง ทำให้คนรถไม่ได้สนใจเลยขับผ่านไปแบบไร้เยื่อใย ตอนนั้นผมดู google map อยู่ก็เริ่มไม่สบายใจที่ยิ้มขับเลยไปแบบไม่ชะลอ และจอดเลยมาประมาณ 1 km ผมเลยเดินเอามือถือไปให้คนขับดู แต่ยิ้มก็ด่าผมกลับมา ผมเข้าใจว่า คนรถพูดว่า “ใจเย็นๆไม่ต้องรีบ กลับไปนั่งก่อน” ผมก็เดินกลับมาเพราะยังไม่มีคนลงจากรถ แต่พอผ่านไปประมาณ 5 นาที เริ่มมีฝรั่งลงจากรถ ผมเลยทำเหมือนเดิม แต่ตอนที่มันด่าผม ผมก็ตะโกนใส่เค้ากลับแล้วให้เค้าดูที่พัก สติพี่แกเริ่มกลับมา แกหันมาหาผมแล้วยิ้มให้ผม รู้เลยตอนนั้น ผมเลยตะโกนให้ภูกับต้นลงมาจากรถแล้วมาหยิบกระเป๋า เราก็หยิบสัมภาระของตัวเองพร้อมอำลาลุงคนรถ เดินย้อนกลับมาประมาณ 1 km ซึ่งเป็นระยะที่สบายๆ แต่อากาศที่นี่ไม่เหมือนในโฮจิมินห์ แล้วยิ่งตอนนั้นเป็นช่วงกลางวันพอดี แดดแรงมาก ซึ่งเราก็มาถึงปากซอยทางเข้าที่พักเราตามที่มีป้ายติด ทำให้เราสบายใจ เลยเดินเข้าไปในซอย ที่พักของเราวันนี้ที่มุยเน่ชื่อ Mui Ne Hills ตอนแรกเราก็เฉยๆชื่อเพราะก็เหมือนชื่อโรงแรมทั่วไป แต่มาสะดุดไอคำว่า Hill(เนิน) เนี่ยแหละ พวกเราก็สงสัยว่ามันติดทะเลมันจะ Hill ได้ไงวะ แต่พอเดินเข้าซอยมาแปปนึงทางเริ่มชันขึ้นชันขึ้นจาก 0 องศา จนเกิน 45 องศา แล้วระยะขึ้นเนินไม่ใช่ใกล้ๆ พอขึ้นมาถึงที่พักเรารีบวางสัมภาระเลยโคตรเหนื่อย Hill จริงๆ 5555 เราก็ติดต่อเจ้าหน้าที่พร้อมเข้าไปวางกระเป๋าในห้อง
อย่างที่บอกไปก่อนว่าตอนนี้เที่ยงแล้วคงต้องได้เวลาอาหารกลางวัน ตอนเดินขึ้น Hill เนี่ยผมเห็นร้านอาหารตามสั่งสไตล์เวียดนามเห็นคนนั่งกินอยู่เยอะ ผมเลยใช้ “กฎคนส่วนมาก” ซึ่งเป็นกฎที่พวกเราตั้งขึ้นมาเองจากการสังเกต คือ ร้านไหนมีคนเยอะแปลว่าอร่อย ง่ายๆ 5555 แต่ไม่ได้ผลกับร้านนี้ เพราะไอที่คนเยอะไม่ใช่เพราะอาหารอร่อย แต่เพราะยิ้มรอนาน 5555 ผมสั่งไปตั้งแต่ 12.30 ได้อาหารประมาณ 13.00 ยิ้มโคตรเฉื่อย แต่ด้วยความเฉื่อยมันก็ดีนะเราก็ได้ซึมซับบรรยากาศ local ของที่นี่ เห็นวิถีชีวิตคนในซอย Hill นี่ 55555 และความจริงรสชาติก็ไม่ได้แย่ ราคาก็รับได้ ผมให้ 7.5/10 แล้วกัน

ได้เวลาออกเดินทาง!! การเที่ยวใน Mui Ne เนี่ยไม่เหมือนในโฮจิมินห์ที่มีระบบขนส่งมวลชน ที่นี่อยู่ทะเลบรรยากาศก็เหมือนอยู่ตามเกาะแต่ก็มี taxi บ้าง แต่เราคงไม่เที่ยวโดย taxi มัน basic เกินไป ตรงซอย Hill มีร้านเช้ามอเตอร์ไซค์อยู่ร้านนึง ซึ่งก็มีลุงคนนึงนอนอยู่ ผมเลยเสนอว่าจะเช่ามอเตอร์ไซค์ไหมราคาไม่แพงเค้าคิดคันละ 100,000 Dong ต่อคันต่อวัน แต่ตอนนั้นผมขับเป็นอยู่คนเดียวอีก 2 ขับไม่เป็น แต่ผมบอกว่าให้ลองขับดูก่อนไม่ได้ยาก ไอต้นเลยลองขับออกลง Hill ซักพักยิ้มก็ขับได้เหมือนเซียนเลย สรุปคือเราก็เช่ามอเตอร์ไซค์มา 2 คัน โดยที่ภูซ้อนคันผม ไอต้นขับคนเดียว
เราขับไปที่สายธารแห่งสวรรค์ครับ และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่เราต้องผิดหวังกับเมืองนี้ หรือ เพราะเราอาจเตรียมตัวมาดีไม่พอ พวกผมขับรถมอไซค์ไปจอดหน้าทางเข้ามียามคนนึงเดินมาคุยกันสนุกเฮฮาเหมือนคุ้นเคยกันมาก่อน และบังคับให้เราจ่ายค่าเข้า 50,000 ดอง ครับ ซึ่งที่ผมหาข้อมูลมาที่นี่มันให้เข้าฟรี พวกเราจึงบอกพี่ยามว่า จะไปกินข้าวกันก่อนเดี๋ยวกลับมาใหม่  ยามคนที่อารมณ์ดีเมื่อกี้กลายเป็นหน้าโหดเลยครับ เก็บตังค่าจอดรถมอไซค์ อยากจะด่ามันจริงๆ กูมาจอดยังไม่ถึง 10 นาที รถยังไม่ทันจะได้ลง มาเก็บเงินกูซะงั้น

ต้น: นี่ก็เป็นความผิดพลาดครั้งแรกของการเดินทางครั้งนี้เลยครับเพราะเราศึกษาข้อมูลมาไม่ดีก็เลยเสียเงินกันฟรีๆเลย ถือเป็นบทเรียนแรกในทริปนี้เลยก็ว่าได้
อู๋: บทเรียนแรกคงจะเป็น casino ของเมิงมากกว่านะต้น 5555

หลังจากเสียเงินให้กับยามคนนั้นแล้ว เราก็วนรถไปหาที่จอดแบบไม่เสียค่าเข้า ซึ่งมันอยู่เยื้องๆกับที่เมื่อกี้นี้เอง ซึ่งจะเสียแค่ค่าจอดรถ 2,000 ดอง

ที่ๆเราอยู่มันคือปลายสายของ Fairy stream ซึ่งเราจะต้องเดินย้อนขึ้นไปบนต้นน้ำ ระหว่างเดินทางก็จะเจอกับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติตลอดเกือบทั้งทาง เดินไปเรื่อยๆก็จะเจอกับแลนด์มาร์กของที่นี่คือจะเป็นสันทรายสูงๆ ราวกับว่าแม่น้ำนี้ทอดยาวมาอยู่ระหว่างหุบเขา เปรียบเสมือนกับว่าอยู่บนสรวงสวรรค์ของนางฟ้า ซึ่งตรงนี้คนจะหยุดถ่ายรูปกันเยอะมากๆ พวกเราจึงตัดสินใจเดินกันขึ้นไปต่อเผื่อจะเจอจุดที่คนเงียบๆ ขณะเราเดินย้อนสายน้ำขึ้นไป รองเท้ามันก็ถ่วงให้เดินช้าลงและด้วยความอยากสัมผัสธรรมชาติให้ได้มากที่สุด เราจึงตัดสินใจถอดรองเท้าและซ่อนรองเท้าไว้ตามข้างทาง ระหว่างทางเราก็ถ่ายรูปเล่นไปเรื่อยๆ จนมาเจอกับร้านทำลายบรรยากาศ เป็นร้านอาหารของชาวเวียดนามพร้อมกับคาราโอเกะกลางธรรมชาติ พวกเขาร้องเพลงอะไรกันก็ไม่รู้ แต่พวกเราพยายามร้องเพลง “ผู้สาวขาเลาะ” ให้เข้ากับจังหวะเพลงนั้นมากที่สุด

หน้าร้านอาหารเขียนไว้ว่าเดินขึ้นไปอีกจะเจอกันน้ำตกที่เป็นต้นน้ำของธารน้ำนี้ ในใจผมก็คิดไว้เลยจะได้นอนแช่น้ำตกสบายๆซะแล้ว แต่พอเดินไปถึงก็ไม่ใช่อย่างที่คิดครับ มันคือน้ำตกล่อซื้อ เป็นแค่น้ำตกเล็กๆทำอะไรก็ไม่ได้ เราทำได้แค่ถ่ายรูปน้ำตกปลอบใจตัวเอง และก็เดินกลับมาด้วยความผิดหวัง 55555
คุณยังจำรองเท้าที่ซ่อนไว้ระหว่างทางกันได้ไหมครับ มันได้จากพวกเราไปแล้ว รองเท้าหายครับ  เราจึงได้เดินสัมผัสธรรมชาติจนหนำใจเลยทีเดียว
และนี่คือภาพร้านทำลายบรรยากาศครับ จะอยู่เยื้อยงๆด้านขวา


ขึ้นมาจากธารแห่งนางฟ้าแล้วจัดหารองเท้าแล้วก็เดินทางกันไปหาสถานที่ขึ้นชื่อที่สุดของมุยเน่เลย คือ Red Sand Dunes ค่าจอดรถหน้า Sand Dunes ก็แค่ 1,000 ดอง แต่สิ่งที่เราต้องดีลด้วยคือคนขายสไลด์เดอร์ เป็นเด็กผญตัวน้อยๆเดินเข้ามาพร้อมกับคำแรกที่ฝึกซ้อมกันมาอย่างดีออกจากปากว่า “5 thousands” ไออู๋สวนกลับไปทันทีทันใดโดยไม่ต้องคิด “ 1 thousand” ฟาดฟันราคากันไปมาจนเราได้ บอร์ดมาที่ 2,000 ดอง
อากาศบน Sand dunes ค่อนข้างดีเลยครับถึงแดดจะแรงแต่ก็มีลมโกรกเข้าฝั่งมาตลอด เราเลยตัดสินใจนั่งพักกันบนยอด sand dunes แล้วค่อยถ่ายรูปเล่นกันตามระเบียบ เราใช้เวลาอยู่ที่นี่นานพอสมควร เราเสพธรรมชาติเต็มที่จนอิ่มใจแต่ไม่อิ่มกาย ซักพักครับสัญญาณ “I feel it coming.” เริ่มมา ถูกต้องครับ ฝนกำลังจะตก พวกเรารีบวิ่งมาที่มอเตอร์ไซค์แต่ก็มีดีลเลอร์คนเดิมมาขวางทางเรา คือเราต้องคืนตัวสไลเดอร์ แต่คือเราทำมันพังหลังจากเล่นได้ไม่กี่ครั้ง 55555 ผมพยายามจะหนีแต่ก็ไม่ได้เพราะดูเหมือนจะมีผู้ติดตามมาด้วย ผมเลยยอมเสีย 1,000 ดองไป แล้วก็ขับมุ่งหน้าไปยังที่ Hills ที่พักของเรา ระหว่างทางร้านอาหารทะเลมากมายดึงดูดเราเข้าไป ในที่สุดเราก็ไปเสียท่าให้กับร้านๆ หนึ่ง รสชาติก็ถือว่าโอเค 5.42/10 กลับกันดีกว่าไม่ทันไรฝนก็ลงแต่เรามาถึงที่พักพอดี ด้วยความเหน็ดเหนื่อยเราก็อาบน้ำแล้วเข้านอนทันทีเพราะพรุ่งนี้เช้าเราต้องตื่นตี 3 เพื่อไปที่ White sand dune ห่างจากที่พักประมาณ 20 km เพื่อดูพระอาทิตย์ขึ้น แต่คืนนั้นครับแทนที่จะได้นอนสบายๆ มีสหายฝรั่งที่นอนห้องเดียวกับพวกเราเมาเละเทะแถมยังอ้วกเลี่ยลาดห้อง ทำขวดเบียร์แตก เราก็คุยปั่นหัวเขานิดหน่อยเพื่อเรียกเสียงฮามากลบความหงุดหงิดของเพื่อนๆ สุดทายเราก็ได้นอนแต่มันดึกไปหน่อย อีกไม่กี่ชั่วโมงก็ตี 3 แล้วไว้เจอกันนะ White sand dune

อ่านตอนอื่นๆ
DAY 4: https://ppantip.com/topic/37014220
DAY 5: https://ppantip.com/topic/37014562
DAY 6: https://ppantip.com/topic/37039062
DAY 7: https://ppantip.com/topic/37065746
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่