เรียนผู้บริหารและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องรวมถึงผู้ที่มีอำนาจตัดสินใจของทาง Dell

สวัสดีค่ะ ตามหัวกระทู้นะคะ เราใช้ Notebook Dell Inspiron 7460 spec ตัว Core i5 ราคาประมาณ 3x,xxx

อย่างที่ทุกคนทราบว่า Dell ขึ้นชื่อเรื่องการบริการ Support และ Onsite Support
แต่เอาจริงๆ แล้วคงไม่มีใครอยากใช้บริการซัพพอตหรอก เพราะไม่อยากเสียเวลา ไม่อยากให้ของเสียหรือต้องซ่อม
เราเองก็ไม่คิดว่าจะใช้คุ้มนะ แต่คุ้มจนหัวร้อนเลยแหล่ะ

ซื้อเครื่องมาเมื่อต้นปี มกรา 17 ใช้ได้ประมาณสองอาทิตย์มั้ง จำได้ว่าไม่นาน มีปัญหาที่ keyboard มันค้างและบางทีทำเครื่องช็อต
จะพิมพ์งานที ก็โอโหห ... ลากข้อความไปร้อยกว่าหน้า !

ซึ่งนั่นเป็นการโทรหา Dell Support ครั้งแรก
- รับเรื่องดีมาก มาเปลี่ยนให้ถึงที่ในวันถัดไป พนักงานที่มาเปลี่ยนก็แบบพูดดี ทำดีมาก เออเราก็ประทับใจในการบริการเค้าอยู่นะ
หลังจากนั้นลองใช้ไปเรื่อยๆ โอเคคีบอร์ดไม่มีปัญหาใดๆ พอลองฟังเพลงหรือดูหนังงง อ้าววเฮ้ยยย เสียงเอเลี่ยนก็มาา เครื่องก็ช็อต นี่อีกแล้วหรอวะ ก็โทรหาซัพพอต เค้าบอกว่าให้เราเช็คเรื่องการติดตั้งพวก antivirus มันอาจจะมีผลกระทบ แล้วให้อัพเดท driver, audio ไรงี้ในเว็บ dell support ได้เลย หลังจากทำตามที่เเนะนำ เราก็เทสผลและสังเกตมาเรื่อยๆ ประมานหลายวีคมันก็ยังเป็นนะ แต่คือขี้เกียจโทรคุยละ โทรไม่รู้กี่รอบ ก็จะแนะนำเหมือนเดิม เหนื่อยหน่ายยมากค่ะ

จนกระทั่ง.....จอฟ้าาาา!!!!!! Notebook ใจดีบอก code ให้สำหรับแก้ไขเพื่อใช้นำไปค้นหาในเนตได้ด้วย ซึ่งมันเป็นบ้างไม่เป็นบ้าง
Restart เครื่องเองประมานสี่รอบติดๆกัน จึงโทรหา Support

- คำตอบเดิมของซับพอตต บอกให้อัพเดทไบออส driver จ้าาา เอาตามตรง เบื่อชิบ เป็นๆหายๆ จะซิมเคสให้ยังไงดีเดล??

จุดเริ่มต้นความหัวร้อนที่แท้ทรู ยิ้ม
เปิดเครื่องมาจอฟ้า พร้อมบอกว่า device not found คราวนี้ไม่สามารถเข้าหน้า Window ได้อีกเลย

โทรหา Dell Support ไม่รู้รอบที่เท่าไหร่จากปัญหาต่างๆข้างต้น
Dell support : ให้กด F12 ย้ำๆ เพื่อเข้าหน้า Boot Option ให้ทำการ test diagnostic
เปิดปิดเครื่องหลายรอบมาก ดังลั่นไปหมด ไม่มีอะไรผิดปกติ เลยเเจ้งปัญหาเรื่องเสียงและเครื่องช็อตไปด้วยเลย

วันรุ่งขึ้น dell ส่งคนมาเปลี่ยนอะไหล่ ( mainboard, ssd และลำโพงเพื่อแก้ปัญหาเสียงเอเลี่ยน) ในขณะที่ช่างทำก็โทรสอบถามวิธีการแก้ปัญหาตลอดการถอดอะไหล่ (ในใจคิดละนี่ XXX เป็นใครเนี่ย ทำเป็นจริงใช่ไหม) พอเปลี่ยนเสร็จเค้าบอกเป็น policy ของทางเดลไม่สามารถลงวินโดให้ได้ โอเคเราต้องเอามาลงเอง พนักงานก็กลับเลยนะคะไม่ได้ติดตามผลใดๆ (มุมมองเราคิดว่าเค้าควรจะอยู่รอเช็คนิดนึงว่าสิ่งที่เค้าเปลี่ยนมันเเก้ปัญหาได้หรือเปล่า ไม่ใช่มีหน้าที่มาเปลี่ยนแล้วก็จบ ถ้าเกิดปัญหาไม่ถูกแก้ไขก็ต้องโทรอีก ลองคิดสภาพนะคะว่ามันเสียเวลามั้ย ??) ไอ้เราไม่ได้แบคอัพก็กลัวลงวินโดมันจะหายคือคำตอน recovery เนี่ยมี delete my file, delete everything ควรเลือกอันไหน (นี่เริ่มคิดละจบคอมมาจริงหรอเราเนี่ย 555) จึงตัดสินใจว่าเดี๋ยวไปร้านถอด hdd อีกลูกมาแบคอัพก็ได้ (์Notebook มี HDD + SSD ตัวที่เปลี่ยนคือ SDD ค่ะ) แต่ถ้าแกะเครืองจะเสียประกันไหม เลยโทรหาเดล เดลบอกว่าปกติเเล้วจะทำการ disable hdd เพื่อลงวินให้แต่ policy ใหม่ลงให้ไม่ได้ ทำได้แค่เปลี่ยนอะไหล่ " ลูกค้าต้องไปจัดการทำเอาเอง จะไปร้านเพื่อถอดหรืออะไรก็แล้วเเต่ลูกค้า แต่ถ้าอะไหล่แตกก็ไม่รับประกัน " โอเคนะเราเกทว่าอะไหล่เปนไรก็รับผิดชอบเองเพราะเกิดการจากแกะเเล้วมันแตก แต่งงว่า process คุณ
XXX จะทราบได้ไงครับว่าแก้ได้แล้ว? เลยถามไปว่าถ้าไปร้านแล้วทำไรแล้วไม่หายทำไงหรอ เดลบอกว่าเปิดเคสมาใหม่นะ (อห เสียเวลามากๆๆๆ) เเล้วทางเดลพุดจาไม่ดีหัวเราก็เริ่มร้อนละ บอกให้ทางเดลส่งเมลมาเลยว่าเเนะนำให้ไปร้านเพื่อจัดการเอาเอง บลาๆ คืออยากได้หลักฐานไง เค้าก็ส่งเมลนะส่งเเบบกว้างเหมือนมหาสมุทรอะ เราเลยบอกว่าส่งเมลเหมือนที่บอกสิคะ เดลตอบว่า " ผมเชื่อว่าคุณ XXX มีความจำที่ดีสามารถจดจำเนื้อหาได้เป็นอย่างดีดังนั้นไม่จำเป็นต้องส่งเมลครับ พร้อมตบท้ายว่า จะฟ้องหรือร้องเรียนก็เชิญนะ เราไม่ mind จะ record ก็ได้ "

โอโหห ปรี้ดแตกเลยจ้าเลยบอกว่า งั้นพุดใหม่อีกรอบสิคะ จะได้บันทึกเสียง ซึ่งแน่นอนทาง Call Center (ทราบชื่อและนามสกุล) ไม่กล้าพูดใหม่ ยื้อกันยุประมาณสองชั่วโมง อินี่หมดความอดทนเลยบอกไปว่าช่างมันเหอะ เสียเวลาขี้เกียจเถียงละเหนื่อย

สุดท้ายเลยรบกวนให้รุ่นพี่ที่มหาลัยช่วยเหลือ เพื่อแกะเครื่องและเอา HDD ออกมา Back Up พี่เราก็สงสัยตั้งเเต่เเรกเเล้วว่ามันเป็นเพราะว่า File Window เสียหรือเปล่า แค่ลงวินโดใหม่ก็น่าจะหายนะ เลยลองทำตามวิธีพี่เค้า คือมันจะมีโปรแกรมนึงอะที่เสียบไปก็รู้แล้วว่า มันพังที่ HDD , SDD หรือเปล่า ซึ่งมันยังมองเห็นข้อมูลแสดงว่ามันไม่ได้เสียที่ส่วนนี้ และด้วยความที่ SDD ตัวเดิมที่ทางเดลให้เก็บไว้ได้หนึ่งอาทิตย์เพื่อทำการ Back Up นั้นตัวเสียบเพื่อดึงข้อมูลมันแพง เลยแกะเครื่องใหม่ใช้ ssd ตัวเดิมและลองลง Window ใหม่สรุปหายจ้าา ที่เสียคือไฟล์ boot window เสียแค่นั้นน ลงวินใหม่จบเลยย
ตอนนั้นรู้สึกแบบ Dell คะ ทำไมทำเราเสียเวลาขนาดนี้ และเราก็เจ็บใจด้วยที่เราโง่เอง ถ้ารู้เเต่ต้นคงไม่ต้องโทรหา Support อาจจะมารุ่นพี่แล้วจบเลย TT

ครั้งนั้นคิดว่าจบละ พอกันทีเครื่องเราใช้ได้ หวังว่าคงไม่มีไรเกิดขึ้นเเละต้องเปลี่ยนอะไรอีก เบื่อแล้วด้วย

ผ่านมายังไม่ถึงหนึ่งวีค ...
Xxxxเดลลล ชาตแบตไม่เข้าจ้าา ไม่ไหวววแล้วว โทรไป นางบอกรอเปลี่ยนแบตวีคนึง อ่าา..อาเมนน งานฉันละ บอกเดลว่า ไม่เอาละนะ คืนเครื่องไปเลย ให้ทางเครดิตโทรมาเลยจ้า ทำเรื่องกันไป เค้าบอกว่าเปลี่ยนเครื่องใหม่ใช้เวลา 1 เดือน รีฟันสองเดือน แต่ทุกอย่างต้องรอให้เคสเปลี่ยนแบตจบก่อนน
อ่อรุ่นนี้เป็นแบตแบบบิ้วอินนะ คือถอดไม่ได้จะเสียบเเบตตรงก็ไม่ได้ ตอนนี้ nb นอนตายตากแอร์อยู่ (ซึ่งจริงๆในส่วนนี้ไม่ทราบชัดเจนมันทำการ Disable แบตเเล้วชาร์จได้ไหม คือไม่มีการแนะนำใดใดจากทาง Dell)

1. แจ้งเรื่องแบตเตอรี่เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2560
2. Dell Support โทรมา วันที่ 10 ตุลาคม 2560 เพื่อบอกว่าอะไหล่จะได้ในวันที่ 12 เเต่ติดวันหยุดยาว 13-15 จะสามารถเข้ามาเปลี่ยนได้ในวันที่ 16 ตุลาคม (แบตต้องสั่งจากต่างประเทศไม่มีอะไหล่ Stock ต้องผ่านเรื่องภาษี ศุลกากร บลาๆ)
- ซึ่งเราบอกว่าไม่ได้ ช่วยเร่งเคสให้หน่อยได้หรือเปล่า คือลองคิดนะคะว่าทำงานทุกวันเเล้ว Notebook มีเครื่องเดียว เราจะทำยังไงได้หรอคะ ?
- Dell บอกว่าช่างจะโทรหาในวันรุ่งขึ้นเวลา 9.00 หากมีอะไรให้ส่งเมลคุยกับคนที่เปิด Task มาในเมลเดิมได้เลย ซึ่งเราส่งไปแล้วไม่มีการตอบกลับใดใด หรือตามเคสใดใด คือ No respond มากๆค่ะ
3. วันที่ 11 ตุลาคม โทรไปหา Dell ประมาณ 10 โมงกว่าว่าตกลงยังไง ไม่เห็นมีใครโทรมาหาเลย
- Dell แจ้งว่าอะไหล่ยังไม่พร้อม จะพร้อมอีกทีตอนเที่ยง แต่ไม่รู้ว่าช่างจะมีคิวว่างเข้ามา Support ให้เราหรือเปล่าจะโทรมาแจ้งอีกที
- เวลาประมาณบ่ายสอง เหมือนเดิมค่ะ Email ไม่ได้รับ โทรศัพท์ ไม่มีการแจ้งใดใด รออย่างไร้ความหมายจึงทำการโทรหา Support อีกรอบ
- Dell บอกว่าอะไหล่ยังไม่ได้ จะได้อีกทีวันที่ 26 ตุลาคม และยังไม่รับประกันว่าจะได้ในวันนั้นอาจจะมีการเปลี่ยนเเปลง(ณ ตอนนั้นอึ้งไปนิดนึงค่ะว่าตอนเเรกบอก 16 ตอนนี้เป็น 26 เเล้วที่โทรหาบอกได้ 9 โมง และเที่ยงนั่นคืออะไร ) หัวร้อนมากๆเลยค่ะ เลยบอกไปว่าสรุปทางคุณนี่ยังไงคะ แจ้งก็ไม่เหมือนกัน อีกคนบอกได้เเล้ว เเล้วอีกคนก็บอกไม่ได้ เลื่อนไปเลื่อนมา จะยื้อกันไปเพื่ออะไรคะ รวมทั้งยังบอกว่าคืนเครื่องไปเลยได้มั้ยคะ ไม่ต้องมาแก้เเล้ว ไม่อยากใช้อีกต่อไป เสียความรู้สึกมากๆ นึกว่าเค้าจะบอกเหมือนข้างต้น เเต่เปล่าค่ะ เค้าบอกว่าทำได้เลย เเต่ต้องทำเรื่องส่งทาง Refund ให้พิจารณาอีกทีว่าจะได้หรือไม่ได้ (แนวโน้มเหมือนจะไม่ได้ Call Center พูดเหมือนประมาณว่า เรามีปัญหาที่รออะไหล่ไม่ได้ ซึ่งเอาจริงๆนะคะ มันไม่ใช่เเค่นั้นค่ะ มันเปลี่ยนหลายรอบ เสียความรู้สึกกับการบริการ การพูดจา จนไม่อยากใช้หรือข้องเกี่ยวกันอีกต่อไปแล้วค่ะ) สรุปว่าทำ Parallel ไปพร้อมกันคือส่งเรื่องให้ Refund และรออะไหล่ ซึ่งตรงนี้เค้าก็ทำให้เราไม่ได้เลย เค้าบอกว่าต้องรอมาทำให้วันจันทร์และจะเเจ้งให้ทราบอีกครั้ง (อ่าา บอกตามตรงเหนื่อยมากเลยค่ะ กับการที่บอกว่าจะเเจ้งให้ทราบแล้วก็หายไปเลย ต้องโทรติดตามตลอด)

สุดท้ายคือเราไม่ทราบแล้วจริงๆ ค่ะว่าเราควรทำยังไงต่อ เราไม่อยากใช้เครื่องของทาง Dell อีกต่อไป เราเสียความรู้สึกมามากพอแล้ว มากแบบไม่รู้จะอธิบายความรู้สึกยังไง ไม่รู้ว่า Dell มีตัวตนจริงๆหรือไม่ (เคยส่งข้อความไปแจ้งกับทาง Dell Thailand แต่อ่านแล้วไม่ตอบค่ะ) คุยกับ Call Center น่าจะเกือบสามสิบครั้งได้ ทั้งโดนพักสายเป็นครึ่งชั่วโมง พูดจาไม่ดี รวมถึงตอนนี้ที่พิมพ์กระทู้อยู่ ก็ไม่มีไรคืบหน้าเลยค่ะ

อยากให้คนที่มีอำนาจตัดสินใจหรือระดับสูงๆ ของทาง Dell รับทราบเรื่องและเเสดงความรับผิดชอบหรือแนวทางการแก้ไขในจุดนี้ค่ะ
เราไม่โอเคแบบ มาก ๆ กระทบงาน เสียเวลา เสียความรู้สึกมาก ๆ เลยค่ะ ขอบคุณที่อ่านมาถึงตรงนี้นะคะ

** Update **
ตอนนี้ notebook ใช้ได้แล้วนะคะ ช่างได้เข้ามาเปลี่ยนแบตให้แล้ว ขอแจงและเเชร์เพื่อเป็น study case ดังนี้ค่ะ
1.Refund
- แจ้งกับทาง Dell Support และได้ส่งเรื่องไปแล้วแต่ทางเดลไม่อนุมัติ
- ทางเดลแนะนำว่าเราจะต้องทำเรื่อง refund กับทางตัวเเทนที่เราไปซื้อมา ในที่นี้คือ ไอทีซิตี้ ฟอร์จูน ซึ่ง process จะแตกต่างกันค่ะ
แล้วเรายังอยาก Refund เครื่องอีกหรือไม่?
- ตอบเลยว่าอยากก เพราะแค่คิดว่าจะมีอะไรเสียเเละต้องโทรหาซัพพอตอีก เราก็เบื่อเหนื่อยมากๆ แต่ถ้าไปทำเรื่อง Refund มันยุ่งยากอีกก็คงขี้เกียจ (กะว่าลองไปคุยกับเค้าเรื่อง process ก่อน) บอกตามตรงขี้เกียจไฟว้ละ เสียความรู้สึกและเสียเวลา
2. แบตตัวเครื่องเป็นแบบ build in
- กรณีแบตบิ้วอินจะมีข้อเสียคือ หากเสียแล้วจะเสียเลย ไม่เหมือนกับแบตโน๊ตบุครุ่นอื่นๆที่ต่อให้แบตเสียก็ยังใช้ไฟจาก Adapter ได้อยู่ดี
3. การ suppport นั้นมีหลายเกรดจะมีผลเรื่องของอะไหล่และการดูแล จากตอนเเรกที่เราคิดว่ามันมีแบบธรรมดากับที่เป็นแบบโปร แต่ยังมีแบ่งลงไปอีก คือ
- consumer
ติดตามเรื่องเอง อะไหล่ส่วนใหญ่ต้องรอสั่งจากต่างประเทศ ( ซึ่งใช้เวลานานมาก เพราะต้องผ่านเรื่องการเสียภาษีศุลกากร บลาๆ )
- corporate
ตัวเเทนจะดูแลให้ เเละค่อนข้างมีอะไหล่สำรอง ไม่ต้องสั่งจากต่างประเทศ
4. Technical Support
ทาง Dell เองไม่มี Technical Support ( ช่างที่มาเปลี่ยนอะไหล่ ) ซึ่งจ้าง Outsource มีสองเจ้า
- SVOA ส่วนใหญ่ดูแลโซนต่างจังหวัด หรือโซนศาลาแดงสีลม
- อีกเจ้าชื่อไรจำไม่ได้ ( เจ้านี้ละเปลี่ยนอะไหล่ให้ล่าสุด)
5. Dell Support ส่วนใหญ่ประจำอยู่ที่มาเลเซียและเป็นคนมาเลเซีย ซึ่งคนไทยน้อยมาก หากเป็นคนไทยจะเป็นระดับ manager ( คนที่พูดจาไม่ดีนี่ชื่อไทยมากนามสกุลด้วยดังนั้นยิ่งรู้สึกแบบบ โอ้ยย!!)
- ข้อมูลในส่วนนี้ได้จากการพูดคุยกับช่างที่มาเปลี่ยนวันนี้ หลังจากที่มีหัวหน้าฝ่ายเทคนิคโทรมาติดตามเคสก่อนหน้า จึงได้ขอให้เค้าส่งช่างที่มีประสบการณ์เข้ามาดูแล เพราะคราวก่อนช่างดูไม่มีประสบการณ์มากๆ คือทำอะไรโทรถามตลอด ไม่สามารถตอบคำถามที่เราสงสัยใดๆได้
6. Facebook DELL
- America ได้ส่งเรื่องให้ทราบแต่ไม่มีการอ่านหรือเคลื่อนไหวใดใด
- Thailand ขอเลข Service Tag ชื่อ เบอร์โทร อาการของเครื่อง และบอกว่าจะมีเจ้าหน้าที่บริการลูกค้ามาแจง แต่สุดท้ายก็หายต๋อม
7. ขอบคุณพันทิพ ถึงเเม้ว่า Dell จะไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ เเต่เหมือนเราได้ระบายเเละแชร์ความคิดเห็นซึ่งกันเเละกัน แต่ยังคาดหวังว่าผู้ที่เกี่ยวข้องระดับสูงๆของ Dell จะรับทราบและปรับปรุง

หลังจากที่ทำการพูดคุยกับช่างคือรู้สึกดีขึ้นมาก เค้าพูดจาดี ใส่ใจ และเทคเเคร์ดีมาก ๆ แบบมีความ professional เค้าบอกว่าหากมีอะไรโทรปรึกษาเค้าก็ได้ เพราะเค้าเป็นคนสุดท้ายที่ได้จับเครื่องนี้ คือฟังประโยคนี้ละแบบ เออเนี่ยทำด้วยใจนะ จะผ่านมากี่มือ เเต่คนสุดท้ายคือเค้าต้องรับผิดชอบงี้ โคตรจะแบบขอบคุณ คำนับเก้าสิบองศา
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่