Geostrom เมฆาถล่มโลก | B+


เรื่องเป็นยังไง
- Geostorm เกิดขึ้นเมื่อดาวเทียมควบคุมภูมิอากาศของโลกเกิดความเสียหาย จนทำให้สภาพอากาศทั่วโลกแปรปรวนถึงขีดสุด แต่เมื่อชายสองพี่น้องเดินทางขึ้นไปซ่อมแซมดาวเทียมในอวกาศ สิ่งที่พวกเขาค้นพบคือแผนการลอบสังหารประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังหายนะครั้งนี้


ความรู้สึกก่อนดู
- ไม่ได้คาดหวังอะไรมากเลย (รวมถึง CG ตัวอย่างหนังบางช่วงออกจะไม่เนียนด้วยซ้ำ)
เพราะช่วงหลังๆหนังแนวภัยพิบัติเริ่มแห้งแล้งลงเรื่อยๆ (ขนาดหนัง San Andreas / 2012 ที่คนอื่นชอบยังรู้สึกเฉยๆ) เพราะมัวไปใส่ใจกับ CG โดยที่หนังบางเรื่องลืมคำนึงถึงเรื่องบทและอารมณ์คนดูเหมือนกับ ID4 ที่เราคล้อยตามเพราะมีประเด็นเกี่ยวกับความรักชาติมาเกี่ยวข้อง


นอกเรื่องมามากพอแล้ว มาพูดถึงตัวหนังกันบ้าง


เมื่อดูแล้วหนังโอเคกว่าที่คิดไว้เยอะมาก หนังมันไม่ได้ขายที่ภัยพิบัติล้วนๆ แต่แทรกประเด็นอื่นๆมาด้วยที่ทำให้เราสนุกและคล้อยตามไปกับหนังมากขึ้น เช่น การลอบสังหารประธานาธิบดี, การจิกกัดการเมืองในสหรัฐอเมริกา, การไล่ล่า, ความสัมพันธ์ในครอบครัวที่ไม่ยัดเยียดจนเกินไป

อีกทั้งหนังเองมีบทที่ฉลาดกว่าหนังภัยพิบัติเรื่องอื่นๆ ที่ผ่านมา เช่น การสืบหาตัวคนร้าย, การเลือกใช้เทคโนโลยีการควบคุมสภาพอากาศในหนัง ทำให้รู้สึกว่า การมีสิ่งนี้เข้ามาอยู่ในหนังทำให้หนังดูสนุกมากขึ้น ทำให้ไม่น่าเบื่อเลยแม้แต่น้อย
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าบทมันจะดีมากนะ เพราะบางช่วงมันจะดูไม่สมเหตุสมผลไปบ้าง (หรือความเว่อนั่นแหละ) ซึ่งคงเป็นความจงใจของผู้กำกับด้วยแหละ ส่วนตัวคิดว่า ถ้าหนังขาดความเว่อไป หนังจะดูขาดมิติขาดสีสันไปมากพอสมควร (ถ้าคุณอยากดูให้สนุกพยายามไปจับผิดกับมันมากมาย ถ้าคุณจับผิดมาก คุณก็อาจจะดูหนังไม่สนุกเลยก็ได้)

CG ในหนังต้องบอกว่าเนียนประมาณ 90% เลยทีเดียว โดยเฉพาะฉากในอวกาศที่เนียนกริบจนนึงถึงหนัง Gravity
ส่วนฉากภัยพิบัติที่ถล่มต้องบอกว่ามีลอยบ้างเล็กน้อย แต่เนียนกว่าในตัวอย่างเยอะ รู้สึกว่าหนังจะมีบางส่วนที่แก้ CG ให้เนียนขึ้นหลังจากที่โดนกระแสในแง่ลบหลังจากปล่อยตัวอย่างแรกออกมา

ใครที่คาดหวังว่าจะเห็นฉากถล่มเมืองแบบเต็มๆตาต้องบอกว่าผิดหวังไว้ก่อนเลย ถึงแม้หน้าหนังจะขายภัยพิบัติ แต่พอดูเนื้อในจริงๆภัยพิบัติเป็นแค่ส่วนประกอบเท่านั้น ส่วนเนื้อเรื่องหลักเน้นไปที่การสืบหาตัวคนร้ายมากกว่า และต้องชมผู้กำกับและคนเขียนบทเลยเพราะส่วนนึงนี่คือหนังขายเนื้อหา / บทชัดๆ และบทส่วนใหญ่ถือว่าดีเลย

ในส่วนของ 3D ขอบอกว่าโอเคประมาณนึงเลย แต่อย่าคาดหวังว่าจะทะลุใส่ลูกตามากนะ มีน้อย แต่ถ้าดูเพราะมิติภาพ ความลึกของภาพนี่ถือว่าดีกว่าหนังหลายๆเรื่องเลย แต่ก็ขอติส่วนเล็กๆ นิดเดียวจริงๆ คือฉากนึงจะโฟกัสภาพ 3D ไม่อยู่ (ดอกหญ้ารอบบ้านพระเอก ไม่ชัดจนเห็นจาก 1 ดอกซ้อนเป็น 2 ดอก)

การแสดงของทุกคนถือว่าดีเลยทีเดียว เคมีหลายๆคนเข้ากันมาก แต่ก็ต้องขอตินิดเดียวคือ ความสัมพันธ์ระหว่างคนดูกับตัวละครเรื่องนี้จะไม่ค่อยเน้นมากนัก จึงทำให้อยากเอาใจช่วยให้กับตัวละครเพียงบางตัวเท่านั้น ส่วนตัวละครที่น่าจดจำเราจะจำแค่ตัวสมทบอย่างเช่น ลูกสาวของเจค (พระเอก) คือน้อง Talitha Bateman (เจนิส เด็กสาวที่ไม่กลัวผีใน Annabelle: Creation) ส่วนตัวละครหลักไม่ใช่ว่าไม่น่าจดจำ แต่ด้วยความที่บทกระจายให้นักแสดงเท่าๆกันจึงทำให้ส่วนนี้จางหายไปบ้าง แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาหลักของเรื่องเลย

สิ่งที่ชอบ
- บทหนังที่ดีขึ้นกว่าหนังแนวภัยพิบัติหลายๆเรื่อง (ตัดทิ้งเรื่องความไม่สมเหตุสมผล)
- CG ที่เนียนมากกว่าตัวอย่างหนัง โดยเฉพาะฉากในอวกาศ (ที่มีเยอะอยู่เหมือนกัน)
- รักษาอารมณ์ของหนังให้กับคนดูได้อยู่หมัดตลอดทั้งเรื่อง
- Score หนังเรื่องนี้ทำได้ดีมาก โดยเฉพาะฉากที่ต้องลุ้นกับตัวละคร
- Talitha Bateman ที่มาน้อยแต่ความสดใสน้องมาเต็ม
- ประเด็นจิกกัดทางการเมืองของสหรัฐอเมริกา (โดนัลด์ ทรัมป์)
- การเล่าเรื่องดี ทำให้ไม่รู้สึกเบื่อ
- 3D หนังที่มิติภาพดี


สิ่งที่ไม่ชอบ
- CG อีก 10% ที่ดูลอยนิดๆ

ใครที่กำลังชั่งใจที่จะดูหนังเรื่องนี้ ผมขอบอกได้เลยว่า "ไปดูเถอะครับ" ไม่เสียดายเงินแน่นอน
ปล่อยเกรดโดยไม่ต้องคิด 8.5/10 | B+

พูดคุยเรื่องหนังหรือข่าวสารเรื่องหนังเพิ่มได้ที่
https://web.facebook.com/Jubphitnang/