Geostorm (Dean Devlin, 2017) คะแนน C
By Form Corleone
"ความสนุกสนานแบบไร้เหตุผล ไม่ต้องการความเข้าใจใดๆทั้งสิ้น" ภาพรวมทั้งหมดของงานนี้คงตอบสนองความบันเทิงด้วยรูปแบบมหันตภัยทั้งบนพื้นโลกและนอกโลกผสมการเมืองแบบมั่วซั่วทั้งบนอวกาศและบนพื้นล่าง แต่ก็ยังคงสนุกสนานเรียกช่วงเวลาเพลินๆชวนลุ้นได้บ้างในบางฉาก คือถ้าใครชื่นชอบงานสไตล์ใช้เอฟเฟคถล่มโลกเยอะๆ งานนี้น่าจะคุ้มค่าอยู่พอสมควรในการรับชมฉากโลกแตกเหล่านั้น แต่ถ้ามองไปที่สาระและบทภาพยนตร์ทั้งหมดคงเป็นงานที่ไร้แก่นสารอยู่พอสมควร แม้จะมีประเด็นความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของแต่ละประเทศสอดแทรกอยู่ก็ตาม เช่น ตัวละครในกระสวยอวกาศที่เป็นนักบินแต่ละประเทศมักจะมีบุคลิกเอนเอียงไปในทางเสียดสีประเทศนั้นๆอยู่พอสมควร แต่ไม่ถึงขั้นวิพากษ์ใส่ร้ายประเทศเหล่านั้นแบบชัดเจน อันนี้ต้องตีความเอาเองในแต่ละประเทศ ตัวอย่างเช่น นักบินชาวอัฟกานิสถานที่แอบเก็บงำข้อมูลความผิดพลาดของกระสวยส่งสัญญาณจนเกิดเป็นหายนะตามมาหรือการร่วมมือระหว่างสหรัฐอเมริกากับประเทศจีน(ฮ่องกง) เป็นต้น เพราะเนื้อหามุ่งเน้นไปที่ความสัมพันธ์ระหว่างหมู่มนุษย์เพื่อช่วยกันกอบกู้โลกเอาไว้เสียมากกว่า โดยมีตัวละครหลักคือ 'Gerard Butler' และ 'Jim Sturgess' ขับเคลื่อนเรื่องราวทั้งหมดในฐานะวิศวกรบนกระสวยอวกาศและนักการเมืองระหว่างประเทศในภาคพื้นดิน แม้บุคลิกทั้งสองคนจะดูขัดกับบทที่ได้รับอยู่ก็ตาม แต่ก็อย่าไปถือสาหาความอะไรกับคาแรกเตอร์ต่างๆของตัวละครให้เสียเวลาเพราะหนังเองแทบที่จะไม่ได้สร้างความสัมพันธ์ให้เรารู้จักภูมิหลังของตัวละครมากมายนัก ตัวหนังเพียงมุมเน้นตอบโจทย์ความบันเทิงที่ย่อยง่าย ไม่ต้องคิดเยอะและไม่ต้องไตร่ตรองเยอะ จึงแล้วแต่จริตของคนที่จะเลือกชอบและไม่ชอบแตกต่างกันไป
การยำเรื่องราวหลายๆอย่างเข้าด้วยกันของภาพยนตร์เรื่องนี้แม้จะดูจับต้นชนปลายได้มั่วมาก ทั้งปัญหาการตามหาคนร้ายที่จงใจใส่ไวรัสลงไปในระบบจนก่อปัญหาให้เกิดภัยพิบัติไปทั่วโลก ปัญหาการเมืองที่ไม่สมเหตุสมผลในบทสรุปส่งท้าย รวมไปถึงหลักการทางวิทศาสตร์หลายๆอย่างที่ขาดความสร้างสรรค์ แต่ก็ต้องยอมรับอย่างเลี่ยงไม่ได้ว่าเหตุผลต่างๆเหล่านี้คงต้องถูกพับเก็บใส่ลิ้นชักลงไปก่อนถึงจะรับชมภาพยนตร์เรื่องนี้ได้อย่างสนุกสนานซึ่งตัวหนังเองไม่ได้มีปัญหาในการตอบสนองความสนุกที่อยู่เหนือเหตุผลเหล่านี้ ถึงแม้ว่าสารข้อความทางวิชาการจะมีให้เห็นอยู่บ้างแต่ก็เป็นเพียงเสี้ยววินาทีก่อนจะตัดไปเป็นภาพเหตุการณ์ภัยพิบัติตามมาอย่างต่อเนื่อง จุดนี้เป็นเหมือนดาบสองคมที่ถ้าเลือกเส้นทางแบบนี้คงต้องยอมแลกกับเหตุผลของตัวหนังหรือลดทอนให้ดูง่ายเข้าว่า แล้วจัดใส่บันเทิงเอฟเฟคเข้าไว้ ตัดสลับภาพให้ชวนลุ้นเยอะๆ ดังนั้น 'Geostorm' จึงไม่ใช่งานที่ตอบโจทย์ด้วยสาระแต่ตอบโจทย์ด้วยความวินาศสันตะโรที่สุดแล้วแต่ว่าใครจะชอบ ท้ายสุด งานนี้จึงไม่ต้องมองหาเหตุผลให้มากมายนักเพราะจะทำให้เครียดปวดหัวเปล่าๆ เราจึงต้องตัดอะไรไปหลายๆอย่างในช่วงขณะที่ดูจึงจะทำให้ตัวงานพอมีความสนุกสนานได้อยู่ในระดับหนึ่งสำหรับคนที่ชอบงานที่มีบทภาพยนตร์เข้มข้นหรือมีเนื้อหาสาระที่ให้ได้ขบคิด แต่ถ้าใครชอบงานสไตล์ไม่ต้องคิดอะไรเยอะงานนี้คงตอบสนองได้ดีเลยมั๊ง? สุดท้ายก็ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคลนั้นแหละ…
ขอให้มีความสุขกับการรับชมภาพยนตร์ครับ
ตัวอย่างหนัง
ติดตามรีวิวภาพยนตร์ได้ที่
Page:
https://www.facebook.com/MoviesDelightClub/
Blog:
http://moviesdelightclub.blogspot.com/
Review: Geostorm (Dean Devlin, 2017) เขียนโดย Form Corleone
By Form Corleone
"ความสนุกสนานแบบไร้เหตุผล ไม่ต้องการความเข้าใจใดๆทั้งสิ้น" ภาพรวมทั้งหมดของงานนี้คงตอบสนองความบันเทิงด้วยรูปแบบมหันตภัยทั้งบนพื้นโลกและนอกโลกผสมการเมืองแบบมั่วซั่วทั้งบนอวกาศและบนพื้นล่าง แต่ก็ยังคงสนุกสนานเรียกช่วงเวลาเพลินๆชวนลุ้นได้บ้างในบางฉาก คือถ้าใครชื่นชอบงานสไตล์ใช้เอฟเฟคถล่มโลกเยอะๆ งานนี้น่าจะคุ้มค่าอยู่พอสมควรในการรับชมฉากโลกแตกเหล่านั้น แต่ถ้ามองไปที่สาระและบทภาพยนตร์ทั้งหมดคงเป็นงานที่ไร้แก่นสารอยู่พอสมควร แม้จะมีประเด็นความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของแต่ละประเทศสอดแทรกอยู่ก็ตาม เช่น ตัวละครในกระสวยอวกาศที่เป็นนักบินแต่ละประเทศมักจะมีบุคลิกเอนเอียงไปในทางเสียดสีประเทศนั้นๆอยู่พอสมควร แต่ไม่ถึงขั้นวิพากษ์ใส่ร้ายประเทศเหล่านั้นแบบชัดเจน อันนี้ต้องตีความเอาเองในแต่ละประเทศ ตัวอย่างเช่น นักบินชาวอัฟกานิสถานที่แอบเก็บงำข้อมูลความผิดพลาดของกระสวยส่งสัญญาณจนเกิดเป็นหายนะตามมาหรือการร่วมมือระหว่างสหรัฐอเมริกากับประเทศจีน(ฮ่องกง) เป็นต้น เพราะเนื้อหามุ่งเน้นไปที่ความสัมพันธ์ระหว่างหมู่มนุษย์เพื่อช่วยกันกอบกู้โลกเอาไว้เสียมากกว่า โดยมีตัวละครหลักคือ 'Gerard Butler' และ 'Jim Sturgess' ขับเคลื่อนเรื่องราวทั้งหมดในฐานะวิศวกรบนกระสวยอวกาศและนักการเมืองระหว่างประเทศในภาคพื้นดิน แม้บุคลิกทั้งสองคนจะดูขัดกับบทที่ได้รับอยู่ก็ตาม แต่ก็อย่าไปถือสาหาความอะไรกับคาแรกเตอร์ต่างๆของตัวละครให้เสียเวลาเพราะหนังเองแทบที่จะไม่ได้สร้างความสัมพันธ์ให้เรารู้จักภูมิหลังของตัวละครมากมายนัก ตัวหนังเพียงมุมเน้นตอบโจทย์ความบันเทิงที่ย่อยง่าย ไม่ต้องคิดเยอะและไม่ต้องไตร่ตรองเยอะ จึงแล้วแต่จริตของคนที่จะเลือกชอบและไม่ชอบแตกต่างกันไป
การยำเรื่องราวหลายๆอย่างเข้าด้วยกันของภาพยนตร์เรื่องนี้แม้จะดูจับต้นชนปลายได้มั่วมาก ทั้งปัญหาการตามหาคนร้ายที่จงใจใส่ไวรัสลงไปในระบบจนก่อปัญหาให้เกิดภัยพิบัติไปทั่วโลก ปัญหาการเมืองที่ไม่สมเหตุสมผลในบทสรุปส่งท้าย รวมไปถึงหลักการทางวิทศาสตร์หลายๆอย่างที่ขาดความสร้างสรรค์ แต่ก็ต้องยอมรับอย่างเลี่ยงไม่ได้ว่าเหตุผลต่างๆเหล่านี้คงต้องถูกพับเก็บใส่ลิ้นชักลงไปก่อนถึงจะรับชมภาพยนตร์เรื่องนี้ได้อย่างสนุกสนานซึ่งตัวหนังเองไม่ได้มีปัญหาในการตอบสนองความสนุกที่อยู่เหนือเหตุผลเหล่านี้ ถึงแม้ว่าสารข้อความทางวิชาการจะมีให้เห็นอยู่บ้างแต่ก็เป็นเพียงเสี้ยววินาทีก่อนจะตัดไปเป็นภาพเหตุการณ์ภัยพิบัติตามมาอย่างต่อเนื่อง จุดนี้เป็นเหมือนดาบสองคมที่ถ้าเลือกเส้นทางแบบนี้คงต้องยอมแลกกับเหตุผลของตัวหนังหรือลดทอนให้ดูง่ายเข้าว่า แล้วจัดใส่บันเทิงเอฟเฟคเข้าไว้ ตัดสลับภาพให้ชวนลุ้นเยอะๆ ดังนั้น 'Geostorm' จึงไม่ใช่งานที่ตอบโจทย์ด้วยสาระแต่ตอบโจทย์ด้วยความวินาศสันตะโรที่สุดแล้วแต่ว่าใครจะชอบ ท้ายสุด งานนี้จึงไม่ต้องมองหาเหตุผลให้มากมายนักเพราะจะทำให้เครียดปวดหัวเปล่าๆ เราจึงต้องตัดอะไรไปหลายๆอย่างในช่วงขณะที่ดูจึงจะทำให้ตัวงานพอมีความสนุกสนานได้อยู่ในระดับหนึ่งสำหรับคนที่ชอบงานที่มีบทภาพยนตร์เข้มข้นหรือมีเนื้อหาสาระที่ให้ได้ขบคิด แต่ถ้าใครชอบงานสไตล์ไม่ต้องคิดอะไรเยอะงานนี้คงตอบสนองได้ดีเลยมั๊ง? สุดท้ายก็ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคลนั้นแหละ…
ขอให้มีความสุขกับการรับชมภาพยนตร์ครับ
ตัวอย่างหนัง
ติดตามรีวิวภาพยนตร์ได้ที่
Page: https://www.facebook.com/MoviesDelightClub/
Blog: http://moviesdelightclub.blogspot.com/