“น่านไง....หนาวนี้ไปน่านกัน”


         สวัสดีค่ะ.... ตอนนี้ใกล้จะเข้าหน้าหนาวแล้ว โปรแกรมเที่ยวก็โผล่ปุ๊บขึ้นมา นึกขึ้นได้อีกทีก็แพ็กของใส่กระเป๋าล้อลากมุ่งตรงไปสนามบินแล้ว 555+ ถ้าพูดถึงหน้าหนาวหลายๆ คนอาจนึกถึงภูเขา ทะเลหมอก หรืออยากสัมผัสบรรยากาศเย็นๆ ให้มันสบายปอด ก็คงต้องมุ่งไปทางภาคเหนือตอนบนอย่างเชียงใหม่ เชียงราย เป็นส่วนใหญ่ แต่ใครจะรู้บ้างละทางตอนเหนือใกล้ประเทศเพื่อนบ้านอย่างประเทศลาวจะมีธรรมชาติบริสุทธิ์ ซ่อนอยู่ ต้องขอยกให้เมืองชายแดนแห่งล้านนาตะวันออกจังหวัด “น่าน” เมืองเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติที่สมบูรณ์  ความเป็นอยู่เรียบง่าย มีเสน่ห์ในวัดวาอาราม และเด็ดสุด คือ มีสถานที่ให้ถ่ายรูปหลากหลายแนว .... เราคนหนึ่งแหละที่ชอบถ่ายรูป ไปมา 3 รอบก็ยังติดใจและรอบล่าสุดก็ไปแบบครอบครัวใหญ่ที่มีทั้งผู้ใหญ่และเด็ก เอาเป็นว่าไปอ่านรีวิวกันเลยนะคะ เผื่อเพื่อนๆ จะได้เก็บไว้เป็นข้อมูลเที่ยวในช่วงปีใหม่นี้

******************************************************************

มาเริ่มกันเลย...ช่วงที่เราไปตอนนั้นประมาณต้นปีจองไปตอนโปรถูก ยังไงก็ขอขอบคุณพี่หางแดงที่พาพวกเราร่อนไปถึง จ.น่าน วางแผนไปกัน 4 วัน 3 คืน และเหมารถตู้วิ่งยาวตลอดการเดินทาง กว่าจะถึงน่านก็ช่วงเย็นๆ

  

คืนแรกสำหรับพวกเราพักกันที่ “คุ้มเมืองมินทร์” บอกเลยว่าสวยมาก 555+ ไปมากี่ทีก็มาพักที่นี่ เพราะใกล้สถานที่สำคัญหลายๆ อย่าง เรียกว่าอยู่ใจกลางเมืองก็ว่าได้  ส่วนมื้อเย็นฝากท้องไว้ “ร้านเฮือนภูคา” ร้านนี้อาหารเหนืออร่อยมากค่ะ (ไม่แน่ใจว่าหิวรึเปล่า >_<) ว่าแล้วก็จัดกันเลย แถมตบท้ายด้วย มื้อดึก “ขนมหวานป้านิ่ม” ใครมาน่านไม่ได้มาชิมฝีมือป้าแกนะ มาไม่ถึงแน่นอนแถม ชิลๆ บรรยากาศกลางคืนเย็นๆ ด้วย เสียดายวันที่เราไปวัดศรีพันต้นไม่เปิดไฟ ไม่งั้นนะได้ถ่ายรูปมาอวดแล้ว  และล่าสุดป้านิ่มย้านร้านไปอยู่แถวบ้านมงคลนิมิต ทางไปวัดสวนตาล ถ.ทางเข้าสนามกีฬา อบจ.น่าน แล้วนะใครไปไม่ถูกลองโทรถามป้าเค้าได้ที่ 085 036 6108 ป้าใจดีจร้า 😊 เอาเป็นว่าคืนนี้พวกเราขอพักผ่อนเก็บแรงไปขึ้นดอยพรุ่งนี้กันนะคะ

(บัวลอยไอติม 😊)

**************************

วันที่สองของการเดินทาง เราจะไป “ดอยภูคา” กันค่ะ บอกแล้วแผนการเดินทางเราเที่ยวให้ครอบคลุม ไหนๆ มาทั้งทีต้องจัดให้เต็ม ก่อนขึ้นดอยก็ต้องเติมพลังที่คุ้งเมืองก่อน เล่นจัดแบบนี้ เอาซิไม่อิ่มให้มันรู้ไป


จากนั้นก็ปั่นสองล้อรอบเมืองไหว้พระสิ่งศักดิ์สิทธิ์วัดที่มีชื่อเสียงอย่าง “วัดภูมินทร์”



“วัดภูมินทร์” หากเข้าเมืองน่านไม่ได้แวะถือว่าไม่ถึงแน่ๆ... ข้างในมีพระพุทธรูปขนาดใหญ่ 4 องค์ หันหลังชนกัน หันหน้าออกไปทั้ง 4 ทิศด้วยค่ะ และอีกสิ่งที่โดดเด่นจนใครต่อหลายคนที่มาที่นี้ต้องอัพภาพขึ้น  Status Facebook ส่วนตัวว่ามาถึงแล้วนะจ๊ะ คือ ภาพจิตรกรรม “ปู่ม่านย่าม่าน” เด่นสง่าเป็นสัญลักษณ์หนึ่งของเมืองน่านเลย และต่อมาใกล้ๆ กันก็ “วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร”  



และไม่ห่างกันมากเดินข้ามฝั่งไปจะเจอ “พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน” เป็นสถานที่จัดแสดงเกี่ยวกับโบราณคดีด้านวัตถุและประวัติศาสตร์ท้องถิ่น และมุมเด็ดเป็นต้องแชะภาพส่งท้ายคือบริเวณทางเข้าพิพิธภัณฑ์ฯ มีต้นลีลาวดีขนาดใหญ่จัดเป็นซุ้มปลูกเรียงกันเป็นทอดยาว เป็นไฮไลท์ถ่ายรูปกันมาก ว่าแล้วก็แชะเก็บภาพไว้เป็นที่ระลึก.....




แป๊ปๆ ก็มื้อเที่ยงละค่ะ 555+ คุณลุงขับรถตู้ของพวกเราเป็นไกด์นำทางพาพวกเราไปชิมอาหารเมืองเหนืออย่าง ข้าวซอย น้ำเงี้ยว ข้าวกั้นจิ้น ที่ “ร้านอาหารวันดา” ตบท้ายด้วยขนมหวานน้ำแข็งใส





กองทัพต้องเดินด้วยท้อง เมื่ออิ่มจากร้านป้าวันดา ก็พุ่งตรงไปอำเภอปัวกันเลยค่ะ  แวะ “ร้านกาแฟไทลื้อ” ร้านกาแฟกลางท้องทุ่ง ไม่เชื่อต้องมาดูด้วยตัวเอง


จากนั้นก็เดินทางเข้าสู่ @ บ่อเกลือ ซึ่งเป็นเส้นผ่านทางไปอุทยานดอยภูคา-บ่อเกลือ  เส้นทางสะดวกแม้โค้งเยอะหน่อยๆ ก็ตาม 555+ “บ่อเกลือ” ชื่อก็บอกแล้วว่ามีเกลือ ที่มีสารพัดประโยชน์ทั้งขัดผิว แช่เท้า และนำมาประกอบอาหาร และไม่ใช่แค่เกลืออย่างเดียว ที่นี่พวกเราได้ชิม “ขนมเหนียวจิ้มคลุกงาขี้ม่อน” อยากบอกอร่อยอ่ะ เราคิดว่าเป็นตัวแป้งที่คลุกงาแถมจิ้มน้ำตาลหน่อย พูดก็น้ำลายสอเลยทีเดียว


เดินไม่ไกลมากก็มีวิวสวนดอกไม้ สะพานข้ามธารน้ำ พร้อมตบท้าย ฝากท้องร้านกลิ่นไอดิน (อาหารอร่อย*สมราคา)

พวกเราเข้าที่พักในอุทยานดอยภูคาก็ค่ำแล้ว (เกือบไม่ทัน >_<) บรรกาศยามค่ำ ชิกๆ คลูๆ ตรงระเบียงบ้าน ก็แค่ 8-9 องศาเอง เน้น “เองงงงง” เย็นเยือกมากกว่าแทบจะนอนกอดกันเลย!!! 555+ เอาเป็นว่าคืนนี้จบกันก่อนแยกย้ายพักผ่อนค่ะ

*****************************
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่