ผมไปเจอเอกสาร "Secrets of Better Fuel Economy" โดยบังเอิญในเน็ต และคิดว่าน่าจะมีประโยชน์สำหรับผู้ใช้รถใช้ถนนใช้รถเน้นประหยัดน้ำมันครับ
เอกสารนี้จริงๆแล้วทำออกมาสาหรับรถบรรทุก แต่ผมตัดเฉพาะส่วนที่เป็นหลักการทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งน่าจะสามรถนำมาปรับใช้กับรถบ้านใช้งานทั่วไปได้ หรือท่านใดคิดว่า ส่วนใดใช้ได้ ส่วนใดใช้ไม่ได้ ลองมาคุยกันได้นะครับ น่าจะเป็นกประโยชน์สำหรับท่านอื่นที่เข้ามาอ่านด้วยครับ..
https://cumminsengines.com/uploads/docs/cummins_secrets_of_better_fuel_economy.pdf
ผมแปลไม่เก่งนะครับ แต่น่าจะพอเป็นแนวทางให้หลายๆท่านพอเข้าใจเนื้อความ ถ้าแปลผิดขออภัยนะครับ..
1. ตามหลักอากาศพลศาสตร์ ถ้าลด Drag Force ลงได้ 2% จะประหยัดเชื้อเพลิงได้ราว 1%
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้การลด Drag Force (ทำให้ประหยัดเชื้อเพลิงขึ้น) ทำได้ แต่รถสมัยนี้ก็ดีไซน์มาค่อนข้างดีแล้ว แต่การกระทำบางอย่างเป็นการเพิ่มค่า Drag Force โดยไม่รู้ตัว เช่น ใส่ยางล้นๆ ติดเสาวิทยุ ติดแร็คจักรยาน ปล่อยรถฝุ่นจับไม่ยอมล้างรถ
http://ecomodder.com/wiki/index.php/Vehicle_Coefficient_of_Drag_List
2. ในกรณีที่ใช้ความเร็วมากกว่า 55 ไมล์/ชม. (88.5 กม./ชม.) ความเร็วที่เพิ่มขึ้นแต่ละไมล์ (1.6 กม./ชม.) จะสิ้นเปลืองเพิ่มขึ้นอีก 0.1 ไมล์/แกลลอน (0.0425 กม./ล.)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ นั่นคือ ถ้าขับเร็วขึ้นจาก 88.5 กม./ชม. เป็น 120 กม./ชม. จะกินน้ำมันมากขึ้น 0.85 กม./ลิตร (น้อยแฮะ)
3. ยางสึกประหยัดเชื้อเพลิงกว่ายางใหม่อาจจะมากถึง 7%
4. ยางดอกลายขวางที่ผ่านการใช้งานมาแล้ว อาจประหยัดเชื้อเพลิงถึง 0.4 ไมล์/แกลลอน (0.17 กม./ลิตร) เทียบกับยางดอกลายขวางที่ใหม่
5.ใส่ยางที่มีดอกตามแนวยาวที่ล้อที่ใช้ขับเคลื่อน ประหยัดเชื้อเพลิงขึ้น 2-4% เทียบกับใช้ยางที่มีดอกยางแนวขวาง
6. ทุกๆ 10 ปอนด์ที่ลมยางรถบรรทุกอ่อนจนกินยางด้านนอก เปลืองเชื้อเพลิงขึ้นอีก 1% (ลมยางรถบรรทุกแข็งกว่ารถยนต์บ้านมาก คือเติมประมาณ 120 psi เทีบกับรถบ้านที่เติมประมาณ 30psi ข้อนี้จึงไม่สามารถเทียบใช้กับรถยนต์ได้)
7.ระยะรันอินของยางคือ ประมาณ 35,000-50,000 ไมล์ (ยางรถยรรทุก อายุการใช้งานนานกว่ารถยนต์บ้านมาก นั่นคือ ประมาณ 2 แสนถึง 4 แสน กทม. เรียกว่า 5-10 เท่าเทียบกับยางรถยนต์ ไม่สามารถนำไปเทียบใช้ได้)
8. สำหรับความเร็วต่ำกว่า 50 ไมล์/ชม. (80.5 กม./ชม.) ยางมีผลต่อความสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงมากที่สุด ในความเร็วสูงกว่านั้น อากาศพลศาสตร์ มีผลมากกว่ายาง (เพราะฉะนั้น ถ้าขับรถเร็วกว่า 80.5 อากาศพลศาสตร์มีผลมากครับ)
9. คนขับเก่งๆสามารถขับประหยัดกว่าถึง 30% เทียบกับคนที่ขับประหยัดไม่เก่ง
10 การติดเครื่องจอดรถนั้นเปลืองมาก จอดทิ้ง 1 ชม.สำหรับการเดินทางไกล ทำให้เปลืองเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้น 1% (น้อยแฮะ)
อยากให้กูรูทั้งหลายช่วยแชร์ข้อมูลเพิ่มเติม ชางพันทิปเราจะได้ใช้รถประหยัดขึ้นอีกครับ เขียนหรือแปลอะไรผิดพลาด ต้องขออภัยล่วงหน้านะครับ
[กระทู้ชวนคุย] Secrets of Better Fuel Economy
เอกสารนี้จริงๆแล้วทำออกมาสาหรับรถบรรทุก แต่ผมตัดเฉพาะส่วนที่เป็นหลักการทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งน่าจะสามรถนำมาปรับใช้กับรถบ้านใช้งานทั่วไปได้ หรือท่านใดคิดว่า ส่วนใดใช้ได้ ส่วนใดใช้ไม่ได้ ลองมาคุยกันได้นะครับ น่าจะเป็นกประโยชน์สำหรับท่านอื่นที่เข้ามาอ่านด้วยครับ..
https://cumminsengines.com/uploads/docs/cummins_secrets_of_better_fuel_economy.pdf
ผมแปลไม่เก่งนะครับ แต่น่าจะพอเป็นแนวทางให้หลายๆท่านพอเข้าใจเนื้อความ ถ้าแปลผิดขออภัยนะครับ..
1. ตามหลักอากาศพลศาสตร์ ถ้าลด Drag Force ลงได้ 2% จะประหยัดเชื้อเพลิงได้ราว 1%
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
2. ในกรณีที่ใช้ความเร็วมากกว่า 55 ไมล์/ชม. (88.5 กม./ชม.) ความเร็วที่เพิ่มขึ้นแต่ละไมล์ (1.6 กม./ชม.) จะสิ้นเปลืองเพิ่มขึ้นอีก 0.1 ไมล์/แกลลอน (0.0425 กม./ล.) [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
3. ยางสึกประหยัดเชื้อเพลิงกว่ายางใหม่อาจจะมากถึง 7%
4. ยางดอกลายขวางที่ผ่านการใช้งานมาแล้ว อาจประหยัดเชื้อเพลิงถึง 0.4 ไมล์/แกลลอน (0.17 กม./ลิตร) เทียบกับยางดอกลายขวางที่ใหม่
5.ใส่ยางที่มีดอกตามแนวยาวที่ล้อที่ใช้ขับเคลื่อน ประหยัดเชื้อเพลิงขึ้น 2-4% เทียบกับใช้ยางที่มีดอกยางแนวขวาง
6. ทุกๆ 10 ปอนด์ที่ลมยางรถบรรทุกอ่อนจนกินยางด้านนอก เปลืองเชื้อเพลิงขึ้นอีก 1% (ลมยางรถบรรทุกแข็งกว่ารถยนต์บ้านมาก คือเติมประมาณ 120 psi เทีบกับรถบ้านที่เติมประมาณ 30psi ข้อนี้จึงไม่สามารถเทียบใช้กับรถยนต์ได้)
7.ระยะรันอินของยางคือ ประมาณ 35,000-50,000 ไมล์ (ยางรถยรรทุก อายุการใช้งานนานกว่ารถยนต์บ้านมาก นั่นคือ ประมาณ 2 แสนถึง 4 แสน กทม. เรียกว่า 5-10 เท่าเทียบกับยางรถยนต์ ไม่สามารถนำไปเทียบใช้ได้)
8. สำหรับความเร็วต่ำกว่า 50 ไมล์/ชม. (80.5 กม./ชม.) ยางมีผลต่อความสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงมากที่สุด ในความเร็วสูงกว่านั้น อากาศพลศาสตร์ มีผลมากกว่ายาง (เพราะฉะนั้น ถ้าขับรถเร็วกว่า 80.5 อากาศพลศาสตร์มีผลมากครับ)
9. คนขับเก่งๆสามารถขับประหยัดกว่าถึง 30% เทียบกับคนที่ขับประหยัดไม่เก่ง
10 การติดเครื่องจอดรถนั้นเปลืองมาก จอดทิ้ง 1 ชม.สำหรับการเดินทางไกล ทำให้เปลืองเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้น 1% (น้อยแฮะ)
อยากให้กูรูทั้งหลายช่วยแชร์ข้อมูลเพิ่มเติม ชางพันทิปเราจะได้ใช้รถประหยัดขึ้นอีกครับ เขียนหรือแปลอะไรผิดพลาด ต้องขออภัยล่วงหน้านะครับ