ตอนที่ 1 พบเจอ
“ได้ยินเสียงฉันไหม ผ่านมานานแล้วที่เราไม่ได้คุยกันเลยนะ ยังคงหาคำตอบและอยากรู้อยู่สินะว่าฉันคือใครและประโยคนั้นมันคืออะไร ใช่ไหม” เสียงปริศนาได้กลับมาอีกครั้งในความฝันของวอลนัท
ยามเช้าอันสดใส วอลนัทได้ตื่นมาพร้อมกับดูนาฬิกา ทำหน้าตกใจเล็กน้อยและตะโกนลั่นบ้านว่า “สายแล้ว”
ตามเคยกับการที่เธอต้องไปโดนทำโทษตอนเช้าเพราะมาโรงเรียนสายไม่ทันเข้าแถว
“เพิ่งเปิดเทอมมาได้สองอาทิตย์เองนะเธอมาสายแล้วหรอ” ครูคุมประตูพูด
“มาสายดีกว่าไม่มานะคะคุณครูสุดสวย” เธอตอบกลับอย่างรวดเร็วพร้อมกับทำหน้าตาล้อเลียนใส่อาจารย์
พอมาถึงห้องเรียน ก็เป็นตามปกติของเธอ เดินเข้าไปในห้องนั่งเงียบๆคนเดียว แต่เนื่องจากเธอขึ้นมัธยมปลายมาปีแรกจึงมี กิจกรรมประจำโรงเรียนคือ การหาบัดดี้ข้ามรุ่น พอหลังเลิกเรียนวันนั้นตอนเย็น ห้องรุ่นพี่ของเธอก็ได้เรียกทุกคนไปรวมตัวหน้าห้องของพวกรุ่นพี่ เพื่อนในห้องของเธอก็ดูตื่นเต้นมากกับการทำกิจกรรมครั้งนี้ แต่ก็เหมือนเดิมที่เธอนั่งเบื่อและไม่สนโลกเหมือนเดิม
“น้องๆที่น่ารักทุกคนเชิญมาต่อแถวกันให้เป็นระเบียบเรียบร้อยทางด้านนี้เลยค่ะ”รุ่นพี่ผู้หญิงคนหนึ่งได้พูด
ทุกคนก็มาต่อแถวแล้วจับฉลากไป แต่ละคนก็ได้คำใบ้ที่ต่างกันไป น่าประหลาดใจที่ทุกคนได้คำใบ้หมด ยกเว้นของวอลนัท พอเธอเปิดคำใบ้ไปกลับเจอกระดาษที่ว่างเปล่าไม่มีใครเขียนอะไรเลย เธอก็เลยตัดสินใจเดินไปถามรุ่นพี่ผู้หญิงที่เป็นคนดูแลกิจกรรมนี้
“ทำไมของหนูไม่มีคำใบ้”เธอได้ถามรุ่นพี่
ทันทีที่คำถามได้ออกจากปากของเธอไปเพียงเสียววินาที เธอได้ตัดสินใจหันหลังแล้วเดินกลับเพราะเธอได้อ่านความคิดของพี่คนนี้แล้วพบว่า พี่คนนี้ไม่รู้ว่าทำไมถึงไม่มีคำใบ้ และจะโกหกเธอว่าเป็นคำใบ้ประมาณว่าว่างเปล่า เธอเลยเลือกที่จะเดินกลับมาพร้อมกับสงสัยว่าทำไมของเธอได้กระดาษเปล่า แต่อย่างไงก็ตามวอลนัทก็คือวอลนัท เธอไม่ได้สนใจอะไรมากอยู่แล้ว เธอจึงโยนกระดาษอันนั้นทิ้ง แล้วไปเรียนพิเศษ
“เต็มอีกแล้วอะไรกันเนี่ย ทำไมที่ต้องเต็มทุกวันนี้เนี่ย” เสียงเด็กกลุ่มหนึ่ง
รอยยิ้มประจำตัวของวอลนัทก็ได้แสดงขึ้นบนใบหน้าของเธอหลังจากได้ยินเสียงของเด็กกลุ่มพวกนั้นเพราะเธอได้อ่านความคิดของเด็กกลุ่มนั้นแล้วว่า ถึงจะมีที่ว่างเด็กพวกนั้นก็ไม่ได้ตั้งใจจะมาเรียนด้วยซ้ำ
เธอได้นั่งเรียนวิชาชีววิทยา ระหว่างเรียนก็เป็นเช่นเคยตามการเรียนของเธอ เธอจะหลับทุกครั้งไม่ว่าจะเป็นที่โรงเรียนหรือที่เรียนพิเศษ แต่ด้วยความความสามารถของเธอ ดังนั้นเธอจึงเข้าใจในการเรียนไม่ว่าเธอจะเรียนหรือหลับก็ตาม
ก่อนเลิกเรียนสิบห้านาทีเธอจะโทรให้พ่อมารับทุกครั้ง พอถึงเวลาเลิกเรียนระหว่างที่วอลนัทกำลังเดินลงบันได โทรศัพท์ของเธอได้ดังขึ้นเป็นข้อความเชิญให้เข้ากลุ่มกิจกรรมการหาบัดดี้ข้ามรุ่น
“จะเข้าดีไหมนะ เข้าไปเราก็ไม่มีรุ่นพี่อยู่แล้ว” เธอได้พูดกับตัวเองแล้วทำถ้าคิดก่อนจะกดตกลงเข้าร่วมกลุ่ม
ภายในกลุ่มก็ได้คุยกันอย่างสนุกสนานแต่เธอก็ไม่ได้สนใจอะไรเลย ปิดการแจ้งเตือนไม่อ่านสักข้อความในกลุ่ม เธอได้ปิดโทรศัพท์และอยู่กับโลกของเธอตามเคย
เสียงฝนตกหนักมาก ทำให้เธออ่านได้ไม่ค่อยมีสมาธิ เธอจึงหยิบเศษกระดาษเปล่ามาหนึ่งแผ่น ด้วยความที่กระดาษเปล่านั้น มันทำให้เธอนึกถึงกระดาษเปล่าที่เธอจับได้วันนี้ เธอจึงวิ่งไปที่ห้องนอนแม่อย่างรวดเร็ว
“แม่ แม่ว่ากระดาษเปล่ามันเป็นคำใบ้อะไรได้บ้าง”เธอได้ตั้งถามกับแม่ของเธอ
“ก็ไม่มีอะไรไง เลยเป็นกระดาษเปล่า”แม่ได้ตอบวอลนัทแล้วก็ขำ
“ไม่น่าถามแม่เลย”เธอได้พูดแล้วทำหน้าผิดหวังเล็กน้อย
“ก็อาจจะไม่มีตัวตน เป็นสิ่งที่มองไม่เห็นจึงว่างเปล่า”แม่ได้ตอบกลับด้วยน้ำเสียงเบาๆ
หลังจากนั้น วอลนัทก็ได้กลับมาห้องแล้วนอนคิดเกี่ยวกับคำพูดแม่ เธอได้นอนคิดอยู่พักนึง จนเธอรู้สึกว่าง่วงมากมันทำให้เธอคิดถึงเรื่องเก่าๆปริศนาคำพูดและตัวอักษรในคืนนั้น เธอได้คิดจนเธอหลับไป
“ตื่นได้แล้วลูก เดี๋ยวไปโรงเรียนสายนะ”แม่ได้พูดกับวอลนัท
“ตื่นแล้วแม่” เธอได้ตอบด้วยน้ำเสียงสะลึมสะลือ
แต่อย่างไงก็ตามเธอก็ไปโรงเรียนสายอยู่ดีและก็โดนทำโทษตามเคย
หลังจากนั้นเธอได้เดินขึ้นห้อง มีเสียงเฮฮามากภายในห้องของเธอเพราะได้มีขนมเต็มห้องและจดหมายจากห้องรุ่นพี่เต็มไปหมด แต่เป็นที่น่าเศร้าเพราะเพื่อนๆทุกคนได้ขนมและจดหมายยกเว้นวอลนัทคนเดียว เธอไม่ได้อะไรเลย มันทำให้เธอคิดว่าเธอคงไม่ได้ร่วมกิจกรรมนี้ เธอจึงนั่งเบื่อโลกตามเคย
“กินขนมไหมวอลนัท”เนฟเพื่อนของเธอได้ถาม
“ไม่เป็นไร ขอบใจมาก”เธอได้ตอบเนฟ และได้อ่านความคิดเนฟ จึงรู้ว่าเนฟได้ถามตามมารยาท
เพื่อนๆในห้องได้ตื่นเต้นกับจดหมายและได้เอามาอวดกัน แล้วมาช่วยกันสืบหาว่าใครเป็นบัดดี้รุ่นพี่ของพวกเขากัน พอช่วงกลางวันก็จะมีขนมชุดใหม่มาให้ ส่วนตอนเย็นก็จะเป็นพวกจดหมายให้พวกรุ่นน้องเอากลับบ้านไปตอบแล้วเขียนมาให้พวกรุ่นพี่ในวันรุ่งขึ้น ระหว่างที่ทุกคนกำลังรับจดหมายกัน วอลนัทก็ได้เดินไปหน้าโรงเรียนเพื่อกลับบ้าน เพราะเธอไม่มีบัดดี้รุ่นพี่เหมือนคนอื่น
“ทำไมวันนี้กลับบ้านเร็วละลูก ไม่มีเรียนหรอ” พ่อของเธอถาม
“มีค่ะ แต่หนูรู้สึกไม่ค่อยสบายเลยกลับบ้านดีกว่า” เธอตอบพ่อพร้อมกลับทำหน้าเหนื่อยกับชีวิต
วอลนัทได้ขึ้นห้องนอนของเธอไป โยนตัวเองลงบนเตียงของเธอแล้วก็ได้หลับไป เธอได้ตื่นมาอีกทีในเวลาห้าทุ่มกว่า พร้อมกับความเงียบทั้งบ้าน พ่อแม่ได้หลับไปแล้ว ด้วยความหิวเธอจึงลงมาต้มบะหมี่สำเร็จรูปกิน
“อร่อยไหมละวอลนัท” เสียงเบาๆที่น่ากลัว
“แกคือใคร ทำไมไม่แสดงตัวออกมา” วอลนัทได้ตอบกลับแบบไม่กลัว
“ฉันเคยบอกเธอไปแล้วว่าฉันคือใคร” เสียงน่ากลัวยิ่งขึ้น
สักพักเสียงนั้นก็หายไปโดยที่วอลนัทไม่ได้ข้อมูลอะไรเพิ่มเติมเลย ด้วยความโกรธทำให้วอลนัทมีสีหน้าที่เปลี่ยนไปและน่ากลัวมากเหมือนกับไม่ใช่เธอ ค่ำคืนนี้เป็นคืนที่วอลนัทไม่คิดถึงเรื่องไรนอกจากเรื่องนี้
จนถึงตอนเช้า เธอก็ยังไม่ได้นอนและก็ไม่มีการแสดงอาการง่วงนอนออกมาเลย เธอได้อาบน้ำกินข้าวไปโรงเรียนตามปกติ โดยก็เป็นชีวิตประจำวันของเธอมาโรงเรียนสาย ถูกทำโทษ ไม่ร่วมกิจกรรม วันนี้ทั้งวันเธอคิดแต่เรื่องเมื่อคืนไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น กลับมาบ้านก็ไม่คุยกับใครขึ้นห้องนอน คิดแต่เรื่องนี้จนหลับไปด้วยความที่ร่างกายเหนื่อยล้ามาก
“สายอีกแล้ว” เธอได้พูดกับพ่อของเธอ ขณะที่พ่อของเธอกำลังขับรถไปส่งโรงเรียน
“ก็ลูกตื่นสาย แล้วเมื่อคืนกินเสร็จก็ไม่ล้างจานนะ” พ่อเธอได้ถามแล้วยิ้ม
“ลืมเลย” เธอได้ตอบพ่อของเธอ
ตามเคยเธอโดนทำโทษ แต่วันนี้เธอมาสายเป็นพิเศษ จึงต้องถูกทำโทษด้วยการทำความสะอาดบริเวฌหน้าโรงเรียน
“ปีสองแล้วนะลูก ทำไมยังมาสายอีก” ครูคุมประตูได้ถามเด็กผู้ชายคนหนึ่ง
“ผมตื่นสายอะครับ” เด็กผู้ชายคนนั้นได้ตอบแล้วหัวเราะ
“ไปช่วยรุ่นน้องผู้หญิงคนนั้น ทำความสะอาดเลย พอเสร็จแล้วมานั่งรอครูตรงนี้ละ” ครูได้บอกเด็กผู้ชาย
หลังจากทำความสะอาดเสร็จทั้งสองคนก็ได้มานั่งรอครูคุมประตู ระหว่างที่รอ วอลนัทได้แอบมองเด็กผู้ชายคนนั้นแล้วพบว่าเขาคือรุ่นพี่ของห้อง เธอจึงนั่งคิดสักพัก
“เออ อยู่ห้องบัดดี้ของพี่ใช่ไหมเนี่ย” รุ่นพี่ได้ถามเธอ
“ใช่ค่ะ” เธอได้ตอบรุ่นพี่คนนั้น
“ดิฟที ยินดีที่ได้รู้จัก” รุ่นพี่ได้พูดแล้วยื่นมือมา
“วอลนัทค่ะ ยินดีที่ได้รู้จัก”เธอได้ตอบกลับแล้วยื่นมือไปจับกับรุ่นพี่คนนั้น
ระหว่างเดินขึ้นห้องเรียน เธอได้ตัดสินใจหันหลังไปเพื่อจะถามพี่ดิฟที เกี่ยวกับเรื่องทำไมเธอถึงได้กระดาษเปล่า พอเธอหันไป รุ่นพี่ก็ได้หายไปแล้ว
หมดคาบเรียนก่อนที่จะรับประทานอาหารกลางวัน ก็มีพี่จินนี่ ที่คอยดูแลเรื่องกิจกรรม เธอได้เดินเข้ามาในห้องเรียนของพวกวอลนัท
“ก่อนจะไปกินข้าวกลางวันกัน ช่วยเขียนคำใบ้ของแต่ละคนให้พี่หน่อย” พี่จินนี่ได้พูดหน้าห้อง
หลังจากทุกคนเขียนเสร็จ จินนี่ก็ได้ตกใจว่าทำไมหลังชื่อวอลนัท ไม่มีการเขียนอะไรเลย เธอเลยรีบไปตามหาวอลนัทที่โรงอาหาร
“ใช่น้องวอลนัทไหม ทำไมไม่เขียนคำใบ้ต่อชื่อตัวเอง” จินนี่ได้ถามวอลนัท
“คำใบ้ของหนู มันเป็นกระดาษเปล่าเลยไม่รู้เขียนอะไรดี” เธอได้ตอบกลับไปด้วยอาการเบื่อ
ภายในห้องเรียนของจินนี่ ก็เป็นเหมือนห้องของวอลนัท รุ่นพี่ทุกคนได้อ่านจดหมายและกินขนมอย่างสนุก จินนี่ได้เดินไปถามหัวหน้าห้องของเธอเกี่ยวกับเรื่องของวอลนัท
“คือว่าน้องคนนี้ได้คำใบ้เป็นกระดาษเปล่า น้องเลยไม่ได้เขียนอะไรมา” จินนี่ได้ถามหัวหน้าห้อง
“ทำไงดีละ คนดูแลคือเธอนะจินนี่ จะแก้ปัญหาอย่างไงตัดสินใจเองเลย” หัวหน้าห้องได้ตอบจินนี่
ช่วงเวลาหลังเลิกเรียนที่ห้องเรียนของวอลนัท ก็ได้มีจดหมายมาถึงวอลนัท ทำให้เธอตกใจมากและรีบเปิดจดหมายนั้นออก
“สวัสดีน้องวอลนัท คำใบ้พี่เองกระดาษเปล่า จริงๆพี่มีคำใบ้คือจุดอะ พี่จุดไว้ที่กระดาษแต่มันคงเล็กไป ทำให้น้องไม่เห็น ขอโทษด้วยที่ไม่ได้ส่งขนมกับจดหมายให้เลย แต่ต่อจากนี้จะส่งให้กินจนอ้วนเลย ส่งจดหมายจนอ่านไม่ทัน พรุ่งนี้เตรียมตัวรับของได้เลย”
พออ่านเสร็จเธอก็ดีใจมาก มันจึงทำให้เธอไปเรียนพิเศษโดยไม่หลับและกลับบ้านกินข้าวกับพ่อแม่อย่างมีความสุข หลังจากทำธุระส่วนตัวเสร็จ เธอก็ได้หยิบกระดาษมาหนึ่งแผ่นเพื่อที่จะเขียนตอบกลับรุ่นพี่ของเธอ
เวลาเที่ยงคืนกว่า เธอก็ได้เขียนจดหมายเสร็จ ขณะที่กำลังจะนอนก็เหมือนเช่นเคย เธอได้คิดถึงคำพูด เสียง และประโยคนั้นเช่นเคย จนหลับไปในที่สุด
“ทำไมวันนี้ลูกสาวฉันตื่นเช้าคะคุณ” แม่ได้ถามพ่อ
“สงสัยมีธุระโงเรียนตอนเช้ามั้งแม่” พ่อได้ตอบแม่
วอลนัทก็ได้ไปโรงเรียนและเข้าแถวแต่เช้าเพื่อจะดูว่าขนมและจดหมายของเธอถึงรุ่นพี่คนไหน แต่ก็เป็นที่น่าผิดหวังเพราะว่าทั้งจดหมายและขนมของทุกคนจะถูกรวมที่พี่จินนี่จนถึงที่ห้องของพวกรุ่นพี่ พี่จินนี่ถึงจะแจกให้รุ่นพี่ทุกคน
เป็นที่ตื่นเต้นมากในหมู่พวกรุ่นพี่ผู้ชายเมื่อได้เห็นจดหมายของวอลนัทเพราะเธอเป็นคนที่น่ารัก ไม่ว่าใครก็อยากได้เธอเป็นบัดดี้
“เฮ้ยๆ นี่มันน้องของฉัน ฉันควรได้อ่านก่อนสิ” พี่ของวอลนัทได้พูด
“อะไรกัน” “โกง” “อยากอ่านมั่ง” เพื่อนๆก็ได้พูดกันแบบเสียงดัง
“งั้นก้อ่านพร้อมกันหมดเลยสิ” หัวหน้าห้องได้พูดแล้วหัวเราะ
พี่ของวอลนัทได้ทำหน้าตกใจแล้วตะโกนว่า “ก็ได้ มาอ่านพร้อมกันเลย” พร้อมกับทำหน้าหมดอารมณ์
หลังจากที่ทุกคนได้อ่านจดหมายก็ได้แยกย้ายไปนั่งตามที่นั่งของตัวเอง
“ฉันควรได้อ่านคนแรกและอ่านคนเดียว เพราะนี้น้องบัดดี้ฉันนะ” พี่ของวอลนัทได้พูดกับหัวหน้าห้องอย่างจริงจัง
“คิดมากหน่า เอาของน้องฉันไปอ่านไปละ แลกกัน” หัวหน้าห้องพูดแล้วก็ยิ้ม
“ให้ตาย ไม่เอาด้วยหรอก วันหลังฉันจะให้น้องส่งจดหมายมาตอนเย็นแล้วเอากลับไปอ่านที่บ้านคนเดียวเลย คอยดู” พี่ของวอลนัทได้ตอบกลับ
“ตามใจ” หัวหน้าห้องได้พูดแล้วหัวเราะ
โรงอาหารตอนกลางวันโต๊ะของวอลนัท เธอได้มองว่าขนมของเธออยู่ที่รุ่นพี่คนไหน แต่มองไปก็ไม่รู้เพราะขนมของทุกคนรุ่นพี่ได้แบ่งกันกิน
“เธอว่าพี่บัดดี้ของเธอคือใคร” วอลนัทได้ถามเนฟ
“พี่คนไหนไม่รู้ แต่ที่แน่ๆคือพี่คนนั้นเป็นผู้ชายชัวร์” เนฟได้ตอบแล้วยิ้มอย่างดีใจ
เย็นหลังโรงเรียนเลิกวอลนัทได้เจอรุ่นพี่คนหนึ่งบนรถโดยสารที่เธอกำลังนั่งกลับบ้าน เธอก็ได้มองและคิดว่าเคยเจอพี่คนนี้ที่ไหน
“พี่ใช่คนที่มาโรงเรียนสายแล้วโดนทำโทษแบบหนูปะคะ” วอลนัทได้ถาม
“โทษนะครับ พี่ไม่เคยมาโรงเรียนสาย” รุ่นพี่ได้ตอบแล้วยิ้มที่มุมปาก
ระหว่างที่รุ่นพี่กำลังตอบ วอลนัทก็ได้อ่านความคิดของรุ่นพี่ เลยได้รู้ว่ารุ่นพี่คนนี้โกหกเธอ
“พี่ดิฟที หนูจำได้” วอลนัทได้พูดแล้วชี้นิ้วใส่รุ่นพี่
“จำได้ แล้วถามทำไม” ดิฟทีพูดแล้วก็หัวเราะ
วอลนัทก็ได้ยิ้มแล้วถามดิฟที “ พี่บัดดี้ของหนูคนไหน”
“บอกไม่ได้ เดี๋ยวไม่สนุกนะ อีกสองอาทิตย์ก็เฉลยแล้วรอหน่อยนะ” ดิฟทีได้ตอบด้วยน้ำเสียงแปลกประหลาด
ทันใดนั้นวอลนัทได้รู้สึกแปลก พอเธอจะอ่านความคิดดิฟทีก็เจอแต่ความว่างเปล่า มันเป็นครั้งแรกในชีวิตเธอที่อ่านความคิดใครแล้วเจอความเปล่า ทำให้เธอรู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ครั้งนี้มาก
วอลนัท ตอนที่1
“ได้ยินเสียงฉันไหม ผ่านมานานแล้วที่เราไม่ได้คุยกันเลยนะ ยังคงหาคำตอบและอยากรู้อยู่สินะว่าฉันคือใครและประโยคนั้นมันคืออะไร ใช่ไหม” เสียงปริศนาได้กลับมาอีกครั้งในความฝันของวอลนัท
ยามเช้าอันสดใส วอลนัทได้ตื่นมาพร้อมกับดูนาฬิกา ทำหน้าตกใจเล็กน้อยและตะโกนลั่นบ้านว่า “สายแล้ว”
ตามเคยกับการที่เธอต้องไปโดนทำโทษตอนเช้าเพราะมาโรงเรียนสายไม่ทันเข้าแถว
“เพิ่งเปิดเทอมมาได้สองอาทิตย์เองนะเธอมาสายแล้วหรอ” ครูคุมประตูพูด
“มาสายดีกว่าไม่มานะคะคุณครูสุดสวย” เธอตอบกลับอย่างรวดเร็วพร้อมกับทำหน้าตาล้อเลียนใส่อาจารย์
พอมาถึงห้องเรียน ก็เป็นตามปกติของเธอ เดินเข้าไปในห้องนั่งเงียบๆคนเดียว แต่เนื่องจากเธอขึ้นมัธยมปลายมาปีแรกจึงมี กิจกรรมประจำโรงเรียนคือ การหาบัดดี้ข้ามรุ่น พอหลังเลิกเรียนวันนั้นตอนเย็น ห้องรุ่นพี่ของเธอก็ได้เรียกทุกคนไปรวมตัวหน้าห้องของพวกรุ่นพี่ เพื่อนในห้องของเธอก็ดูตื่นเต้นมากกับการทำกิจกรรมครั้งนี้ แต่ก็เหมือนเดิมที่เธอนั่งเบื่อและไม่สนโลกเหมือนเดิม
“น้องๆที่น่ารักทุกคนเชิญมาต่อแถวกันให้เป็นระเบียบเรียบร้อยทางด้านนี้เลยค่ะ”รุ่นพี่ผู้หญิงคนหนึ่งได้พูด
ทุกคนก็มาต่อแถวแล้วจับฉลากไป แต่ละคนก็ได้คำใบ้ที่ต่างกันไป น่าประหลาดใจที่ทุกคนได้คำใบ้หมด ยกเว้นของวอลนัท พอเธอเปิดคำใบ้ไปกลับเจอกระดาษที่ว่างเปล่าไม่มีใครเขียนอะไรเลย เธอก็เลยตัดสินใจเดินไปถามรุ่นพี่ผู้หญิงที่เป็นคนดูแลกิจกรรมนี้
“ทำไมของหนูไม่มีคำใบ้”เธอได้ถามรุ่นพี่
ทันทีที่คำถามได้ออกจากปากของเธอไปเพียงเสียววินาที เธอได้ตัดสินใจหันหลังแล้วเดินกลับเพราะเธอได้อ่านความคิดของพี่คนนี้แล้วพบว่า พี่คนนี้ไม่รู้ว่าทำไมถึงไม่มีคำใบ้ และจะโกหกเธอว่าเป็นคำใบ้ประมาณว่าว่างเปล่า เธอเลยเลือกที่จะเดินกลับมาพร้อมกับสงสัยว่าทำไมของเธอได้กระดาษเปล่า แต่อย่างไงก็ตามวอลนัทก็คือวอลนัท เธอไม่ได้สนใจอะไรมากอยู่แล้ว เธอจึงโยนกระดาษอันนั้นทิ้ง แล้วไปเรียนพิเศษ
“เต็มอีกแล้วอะไรกันเนี่ย ทำไมที่ต้องเต็มทุกวันนี้เนี่ย” เสียงเด็กกลุ่มหนึ่ง
รอยยิ้มประจำตัวของวอลนัทก็ได้แสดงขึ้นบนใบหน้าของเธอหลังจากได้ยินเสียงของเด็กกลุ่มพวกนั้นเพราะเธอได้อ่านความคิดของเด็กกลุ่มนั้นแล้วว่า ถึงจะมีที่ว่างเด็กพวกนั้นก็ไม่ได้ตั้งใจจะมาเรียนด้วยซ้ำ
เธอได้นั่งเรียนวิชาชีววิทยา ระหว่างเรียนก็เป็นเช่นเคยตามการเรียนของเธอ เธอจะหลับทุกครั้งไม่ว่าจะเป็นที่โรงเรียนหรือที่เรียนพิเศษ แต่ด้วยความความสามารถของเธอ ดังนั้นเธอจึงเข้าใจในการเรียนไม่ว่าเธอจะเรียนหรือหลับก็ตาม
ก่อนเลิกเรียนสิบห้านาทีเธอจะโทรให้พ่อมารับทุกครั้ง พอถึงเวลาเลิกเรียนระหว่างที่วอลนัทกำลังเดินลงบันได โทรศัพท์ของเธอได้ดังขึ้นเป็นข้อความเชิญให้เข้ากลุ่มกิจกรรมการหาบัดดี้ข้ามรุ่น
“จะเข้าดีไหมนะ เข้าไปเราก็ไม่มีรุ่นพี่อยู่แล้ว” เธอได้พูดกับตัวเองแล้วทำถ้าคิดก่อนจะกดตกลงเข้าร่วมกลุ่ม
ภายในกลุ่มก็ได้คุยกันอย่างสนุกสนานแต่เธอก็ไม่ได้สนใจอะไรเลย ปิดการแจ้งเตือนไม่อ่านสักข้อความในกลุ่ม เธอได้ปิดโทรศัพท์และอยู่กับโลกของเธอตามเคย
เสียงฝนตกหนักมาก ทำให้เธออ่านได้ไม่ค่อยมีสมาธิ เธอจึงหยิบเศษกระดาษเปล่ามาหนึ่งแผ่น ด้วยความที่กระดาษเปล่านั้น มันทำให้เธอนึกถึงกระดาษเปล่าที่เธอจับได้วันนี้ เธอจึงวิ่งไปที่ห้องนอนแม่อย่างรวดเร็ว
“แม่ แม่ว่ากระดาษเปล่ามันเป็นคำใบ้อะไรได้บ้าง”เธอได้ตั้งถามกับแม่ของเธอ
“ก็ไม่มีอะไรไง เลยเป็นกระดาษเปล่า”แม่ได้ตอบวอลนัทแล้วก็ขำ
“ไม่น่าถามแม่เลย”เธอได้พูดแล้วทำหน้าผิดหวังเล็กน้อย
“ก็อาจจะไม่มีตัวตน เป็นสิ่งที่มองไม่เห็นจึงว่างเปล่า”แม่ได้ตอบกลับด้วยน้ำเสียงเบาๆ
หลังจากนั้น วอลนัทก็ได้กลับมาห้องแล้วนอนคิดเกี่ยวกับคำพูดแม่ เธอได้นอนคิดอยู่พักนึง จนเธอรู้สึกว่าง่วงมากมันทำให้เธอคิดถึงเรื่องเก่าๆปริศนาคำพูดและตัวอักษรในคืนนั้น เธอได้คิดจนเธอหลับไป
“ตื่นได้แล้วลูก เดี๋ยวไปโรงเรียนสายนะ”แม่ได้พูดกับวอลนัท
“ตื่นแล้วแม่” เธอได้ตอบด้วยน้ำเสียงสะลึมสะลือ
แต่อย่างไงก็ตามเธอก็ไปโรงเรียนสายอยู่ดีและก็โดนทำโทษตามเคย
หลังจากนั้นเธอได้เดินขึ้นห้อง มีเสียงเฮฮามากภายในห้องของเธอเพราะได้มีขนมเต็มห้องและจดหมายจากห้องรุ่นพี่เต็มไปหมด แต่เป็นที่น่าเศร้าเพราะเพื่อนๆทุกคนได้ขนมและจดหมายยกเว้นวอลนัทคนเดียว เธอไม่ได้อะไรเลย มันทำให้เธอคิดว่าเธอคงไม่ได้ร่วมกิจกรรมนี้ เธอจึงนั่งเบื่อโลกตามเคย
“กินขนมไหมวอลนัท”เนฟเพื่อนของเธอได้ถาม
“ไม่เป็นไร ขอบใจมาก”เธอได้ตอบเนฟ และได้อ่านความคิดเนฟ จึงรู้ว่าเนฟได้ถามตามมารยาท
เพื่อนๆในห้องได้ตื่นเต้นกับจดหมายและได้เอามาอวดกัน แล้วมาช่วยกันสืบหาว่าใครเป็นบัดดี้รุ่นพี่ของพวกเขากัน พอช่วงกลางวันก็จะมีขนมชุดใหม่มาให้ ส่วนตอนเย็นก็จะเป็นพวกจดหมายให้พวกรุ่นน้องเอากลับบ้านไปตอบแล้วเขียนมาให้พวกรุ่นพี่ในวันรุ่งขึ้น ระหว่างที่ทุกคนกำลังรับจดหมายกัน วอลนัทก็ได้เดินไปหน้าโรงเรียนเพื่อกลับบ้าน เพราะเธอไม่มีบัดดี้รุ่นพี่เหมือนคนอื่น
“ทำไมวันนี้กลับบ้านเร็วละลูก ไม่มีเรียนหรอ” พ่อของเธอถาม
“มีค่ะ แต่หนูรู้สึกไม่ค่อยสบายเลยกลับบ้านดีกว่า” เธอตอบพ่อพร้อมกลับทำหน้าเหนื่อยกับชีวิต
วอลนัทได้ขึ้นห้องนอนของเธอไป โยนตัวเองลงบนเตียงของเธอแล้วก็ได้หลับไป เธอได้ตื่นมาอีกทีในเวลาห้าทุ่มกว่า พร้อมกับความเงียบทั้งบ้าน พ่อแม่ได้หลับไปแล้ว ด้วยความหิวเธอจึงลงมาต้มบะหมี่สำเร็จรูปกิน
“อร่อยไหมละวอลนัท” เสียงเบาๆที่น่ากลัว
“แกคือใคร ทำไมไม่แสดงตัวออกมา” วอลนัทได้ตอบกลับแบบไม่กลัว
“ฉันเคยบอกเธอไปแล้วว่าฉันคือใคร” เสียงน่ากลัวยิ่งขึ้น
สักพักเสียงนั้นก็หายไปโดยที่วอลนัทไม่ได้ข้อมูลอะไรเพิ่มเติมเลย ด้วยความโกรธทำให้วอลนัทมีสีหน้าที่เปลี่ยนไปและน่ากลัวมากเหมือนกับไม่ใช่เธอ ค่ำคืนนี้เป็นคืนที่วอลนัทไม่คิดถึงเรื่องไรนอกจากเรื่องนี้
จนถึงตอนเช้า เธอก็ยังไม่ได้นอนและก็ไม่มีการแสดงอาการง่วงนอนออกมาเลย เธอได้อาบน้ำกินข้าวไปโรงเรียนตามปกติ โดยก็เป็นชีวิตประจำวันของเธอมาโรงเรียนสาย ถูกทำโทษ ไม่ร่วมกิจกรรม วันนี้ทั้งวันเธอคิดแต่เรื่องเมื่อคืนไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น กลับมาบ้านก็ไม่คุยกับใครขึ้นห้องนอน คิดแต่เรื่องนี้จนหลับไปด้วยความที่ร่างกายเหนื่อยล้ามาก
“สายอีกแล้ว” เธอได้พูดกับพ่อของเธอ ขณะที่พ่อของเธอกำลังขับรถไปส่งโรงเรียน
“ก็ลูกตื่นสาย แล้วเมื่อคืนกินเสร็จก็ไม่ล้างจานนะ” พ่อเธอได้ถามแล้วยิ้ม
“ลืมเลย” เธอได้ตอบพ่อของเธอ
ตามเคยเธอโดนทำโทษ แต่วันนี้เธอมาสายเป็นพิเศษ จึงต้องถูกทำโทษด้วยการทำความสะอาดบริเวฌหน้าโรงเรียน
“ปีสองแล้วนะลูก ทำไมยังมาสายอีก” ครูคุมประตูได้ถามเด็กผู้ชายคนหนึ่ง
“ผมตื่นสายอะครับ” เด็กผู้ชายคนนั้นได้ตอบแล้วหัวเราะ
“ไปช่วยรุ่นน้องผู้หญิงคนนั้น ทำความสะอาดเลย พอเสร็จแล้วมานั่งรอครูตรงนี้ละ” ครูได้บอกเด็กผู้ชาย
หลังจากทำความสะอาดเสร็จทั้งสองคนก็ได้มานั่งรอครูคุมประตู ระหว่างที่รอ วอลนัทได้แอบมองเด็กผู้ชายคนนั้นแล้วพบว่าเขาคือรุ่นพี่ของห้อง เธอจึงนั่งคิดสักพัก
“เออ อยู่ห้องบัดดี้ของพี่ใช่ไหมเนี่ย” รุ่นพี่ได้ถามเธอ
“ใช่ค่ะ” เธอได้ตอบรุ่นพี่คนนั้น
“ดิฟที ยินดีที่ได้รู้จัก” รุ่นพี่ได้พูดแล้วยื่นมือมา
“วอลนัทค่ะ ยินดีที่ได้รู้จัก”เธอได้ตอบกลับแล้วยื่นมือไปจับกับรุ่นพี่คนนั้น
ระหว่างเดินขึ้นห้องเรียน เธอได้ตัดสินใจหันหลังไปเพื่อจะถามพี่ดิฟที เกี่ยวกับเรื่องทำไมเธอถึงได้กระดาษเปล่า พอเธอหันไป รุ่นพี่ก็ได้หายไปแล้ว
หมดคาบเรียนก่อนที่จะรับประทานอาหารกลางวัน ก็มีพี่จินนี่ ที่คอยดูแลเรื่องกิจกรรม เธอได้เดินเข้ามาในห้องเรียนของพวกวอลนัท
“ก่อนจะไปกินข้าวกลางวันกัน ช่วยเขียนคำใบ้ของแต่ละคนให้พี่หน่อย” พี่จินนี่ได้พูดหน้าห้อง
หลังจากทุกคนเขียนเสร็จ จินนี่ก็ได้ตกใจว่าทำไมหลังชื่อวอลนัท ไม่มีการเขียนอะไรเลย เธอเลยรีบไปตามหาวอลนัทที่โรงอาหาร
“ใช่น้องวอลนัทไหม ทำไมไม่เขียนคำใบ้ต่อชื่อตัวเอง” จินนี่ได้ถามวอลนัท
“คำใบ้ของหนู มันเป็นกระดาษเปล่าเลยไม่รู้เขียนอะไรดี” เธอได้ตอบกลับไปด้วยอาการเบื่อ
ภายในห้องเรียนของจินนี่ ก็เป็นเหมือนห้องของวอลนัท รุ่นพี่ทุกคนได้อ่านจดหมายและกินขนมอย่างสนุก จินนี่ได้เดินไปถามหัวหน้าห้องของเธอเกี่ยวกับเรื่องของวอลนัท
“คือว่าน้องคนนี้ได้คำใบ้เป็นกระดาษเปล่า น้องเลยไม่ได้เขียนอะไรมา” จินนี่ได้ถามหัวหน้าห้อง
“ทำไงดีละ คนดูแลคือเธอนะจินนี่ จะแก้ปัญหาอย่างไงตัดสินใจเองเลย” หัวหน้าห้องได้ตอบจินนี่
ช่วงเวลาหลังเลิกเรียนที่ห้องเรียนของวอลนัท ก็ได้มีจดหมายมาถึงวอลนัท ทำให้เธอตกใจมากและรีบเปิดจดหมายนั้นออก
“สวัสดีน้องวอลนัท คำใบ้พี่เองกระดาษเปล่า จริงๆพี่มีคำใบ้คือจุดอะ พี่จุดไว้ที่กระดาษแต่มันคงเล็กไป ทำให้น้องไม่เห็น ขอโทษด้วยที่ไม่ได้ส่งขนมกับจดหมายให้เลย แต่ต่อจากนี้จะส่งให้กินจนอ้วนเลย ส่งจดหมายจนอ่านไม่ทัน พรุ่งนี้เตรียมตัวรับของได้เลย”
พออ่านเสร็จเธอก็ดีใจมาก มันจึงทำให้เธอไปเรียนพิเศษโดยไม่หลับและกลับบ้านกินข้าวกับพ่อแม่อย่างมีความสุข หลังจากทำธุระส่วนตัวเสร็จ เธอก็ได้หยิบกระดาษมาหนึ่งแผ่นเพื่อที่จะเขียนตอบกลับรุ่นพี่ของเธอ
เวลาเที่ยงคืนกว่า เธอก็ได้เขียนจดหมายเสร็จ ขณะที่กำลังจะนอนก็เหมือนเช่นเคย เธอได้คิดถึงคำพูด เสียง และประโยคนั้นเช่นเคย จนหลับไปในที่สุด
“ทำไมวันนี้ลูกสาวฉันตื่นเช้าคะคุณ” แม่ได้ถามพ่อ
“สงสัยมีธุระโงเรียนตอนเช้ามั้งแม่” พ่อได้ตอบแม่
วอลนัทก็ได้ไปโรงเรียนและเข้าแถวแต่เช้าเพื่อจะดูว่าขนมและจดหมายของเธอถึงรุ่นพี่คนไหน แต่ก็เป็นที่น่าผิดหวังเพราะว่าทั้งจดหมายและขนมของทุกคนจะถูกรวมที่พี่จินนี่จนถึงที่ห้องของพวกรุ่นพี่ พี่จินนี่ถึงจะแจกให้รุ่นพี่ทุกคน
เป็นที่ตื่นเต้นมากในหมู่พวกรุ่นพี่ผู้ชายเมื่อได้เห็นจดหมายของวอลนัทเพราะเธอเป็นคนที่น่ารัก ไม่ว่าใครก็อยากได้เธอเป็นบัดดี้
“เฮ้ยๆ นี่มันน้องของฉัน ฉันควรได้อ่านก่อนสิ” พี่ของวอลนัทได้พูด
“อะไรกัน” “โกง” “อยากอ่านมั่ง” เพื่อนๆก็ได้พูดกันแบบเสียงดัง
“งั้นก้อ่านพร้อมกันหมดเลยสิ” หัวหน้าห้องได้พูดแล้วหัวเราะ
พี่ของวอลนัทได้ทำหน้าตกใจแล้วตะโกนว่า “ก็ได้ มาอ่านพร้อมกันเลย” พร้อมกับทำหน้าหมดอารมณ์
หลังจากที่ทุกคนได้อ่านจดหมายก็ได้แยกย้ายไปนั่งตามที่นั่งของตัวเอง
“ฉันควรได้อ่านคนแรกและอ่านคนเดียว เพราะนี้น้องบัดดี้ฉันนะ” พี่ของวอลนัทได้พูดกับหัวหน้าห้องอย่างจริงจัง
“คิดมากหน่า เอาของน้องฉันไปอ่านไปละ แลกกัน” หัวหน้าห้องพูดแล้วก็ยิ้ม
“ให้ตาย ไม่เอาด้วยหรอก วันหลังฉันจะให้น้องส่งจดหมายมาตอนเย็นแล้วเอากลับไปอ่านที่บ้านคนเดียวเลย คอยดู” พี่ของวอลนัทได้ตอบกลับ
“ตามใจ” หัวหน้าห้องได้พูดแล้วหัวเราะ
โรงอาหารตอนกลางวันโต๊ะของวอลนัท เธอได้มองว่าขนมของเธออยู่ที่รุ่นพี่คนไหน แต่มองไปก็ไม่รู้เพราะขนมของทุกคนรุ่นพี่ได้แบ่งกันกิน
“เธอว่าพี่บัดดี้ของเธอคือใคร” วอลนัทได้ถามเนฟ
“พี่คนไหนไม่รู้ แต่ที่แน่ๆคือพี่คนนั้นเป็นผู้ชายชัวร์” เนฟได้ตอบแล้วยิ้มอย่างดีใจ
เย็นหลังโรงเรียนเลิกวอลนัทได้เจอรุ่นพี่คนหนึ่งบนรถโดยสารที่เธอกำลังนั่งกลับบ้าน เธอก็ได้มองและคิดว่าเคยเจอพี่คนนี้ที่ไหน
“พี่ใช่คนที่มาโรงเรียนสายแล้วโดนทำโทษแบบหนูปะคะ” วอลนัทได้ถาม
“โทษนะครับ พี่ไม่เคยมาโรงเรียนสาย” รุ่นพี่ได้ตอบแล้วยิ้มที่มุมปาก
ระหว่างที่รุ่นพี่กำลังตอบ วอลนัทก็ได้อ่านความคิดของรุ่นพี่ เลยได้รู้ว่ารุ่นพี่คนนี้โกหกเธอ
“พี่ดิฟที หนูจำได้” วอลนัทได้พูดแล้วชี้นิ้วใส่รุ่นพี่
“จำได้ แล้วถามทำไม” ดิฟทีพูดแล้วก็หัวเราะ
วอลนัทก็ได้ยิ้มแล้วถามดิฟที “ พี่บัดดี้ของหนูคนไหน”
“บอกไม่ได้ เดี๋ยวไม่สนุกนะ อีกสองอาทิตย์ก็เฉลยแล้วรอหน่อยนะ” ดิฟทีได้ตอบด้วยน้ำเสียงแปลกประหลาด
ทันใดนั้นวอลนัทได้รู้สึกแปลก พอเธอจะอ่านความคิดดิฟทีก็เจอแต่ความว่างเปล่า มันเป็นครั้งแรกในชีวิตเธอที่อ่านความคิดใครแล้วเจอความเปล่า ทำให้เธอรู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ครั้งนี้มาก