ความฝันถึงเหตุการณ์ล่วงหน้า ความรู้ก่อนกาลเวลาของเหตุการณ์นั้นจะเกิดขึ้น ความน่าฉงนที่วิทยาศาสตร์ทางรูปวัตถุไม่อาจเข้าใจ

ความฝันเห็นเหตุการณ์ล่วงหน้าของบุคคลทั่วไป..รวมไปถึงการเกิดนิมิตในสมาธิของผู้ปฏิบัติธรรมทั้งหลายก็มีอยู่..
.........................................................................................................................
ก่อนหน้าที่จะถึงวันสงกรานต์ ประมาณ  3 – 4 วัน คาดว่าน่าจะตรงกับเช้ามืดวันเสาร์ หรือ เช้ามืดวันอาทิตย์(ไม่แน่ใจ) ของวันที่ 9 – 10 เม.ย. 2548
ในช่วงเวลาประมาณ 05:00 –  06:00 นาฬิกา

       ข้าพเจ้าหลับฝันไปว่า ตนเองกำลังยืนอยู่ ณ.ตรงแนวเขตชายแดนไทย - พม่า ซึ่งมีแม่น้ำเป็นเขตแดน ข้าพเจ้ามองดูสายน้ำนั้นช่างคดเคี้ยวยาวไกล และแลเห็นมีชาวบ้านอาศัยอยู่บ้างตามฝั่งแม่น้ำ แล้วข้าพเจ้าก็มองเห็นทหารพม่าเดินถือปืนดาหน้าเข้ามาเป็นแถว
และได้ยินเสียงบอกเตือนขึ้นในฝันว่า”หนีเร็วทหารพม่าจะใช้อาวุธเคมีปราบชนกลุ่มน้อยตามแนวชายแดน” เมื่อได้ยินดังนั้น ข้าพเจ้าก็ตกใจรับหนีข้ามกลับมาฝั่งไทย โดยในฝันรู้สึกว่าได้พาครอบครัวชาวบ้านแถบนั้นหนีข้ามมาด้วย พอข้ามกลับมาฝั่งไทยได้ และเดินไปตามถนนเลียบเชิงเขา
ข้าพเจ้าก็สะดุ้งตื่นขึ้นมาทันที พร้อมกับก็เกิดความคิดขึ้นมาว่า”ประเทศพม่านั้นยากจน” จะเอาเงินที่ไหนไปซื้อหาอาวุธเคมี..แล้วข้าพเจ้าก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรหรือบันทึกความฝันนั้นไว้ในทันทีแต่ประการใด

       ต่อจากนั้นมาอีกหลายวัน ในเวลาตอนเย็นของวันที่ 21 เมษายน 2548  หลังเลิกงานกลับมาแล้ว ข้าพเจ้าก็นอนดูโทรทัศน์ ช่อง ไอทีวี อยู่ที่บ้านเวลาประมาณ 18:00 นาฬิกา ซึ่งเป็นช่วงของการรายงานข่าวประจำวัน ก็มองเห็นข้อความข่าวที่เลื่อนอยู่ทางด้านล่างของจอโทรทัศน์ มีข้อความว่า”ทหารพม่าใช้อาวุธเคมีสู้รบกับทหารกะเหรี่ยงตามแนวชายแดนด้านตรงข้ามจังหวัดแม่ฮ่องสอน” ทำให้ทหารชนกลุ่มน้อยชาวกะเหรี่ยงที่ถูกอาวุธนี้มีอาการอาเจียนเป็นเลือด หมดแรง เป็นอัมพาต และถูกนำตัวเข้ามารักษาในโรงพยาบาลในฝั่งไทยตามข่าว..
ข้าพเจ้าเห็นแล้วก็รู้สึกประหลาดใจว่าทำไมข่าวนี้ เหตุใดจึงมาเกิดขึ้นตรงกับความฝันที่เกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้ได้  จึงได้รื้อฟื้นสัญญาแห่งความฝันที่ยังไม่ได้ลืมเลือนนั้นบันทึกไว้..ในขณะที่ฝันและบันทึกความฝันนี้ข้าพเจ้าอยู่ต่างจังหวัดที่ห่างไกลกันมากจากจังหวัดบ้านเกิด..
ในวันนั้นข้าพเจ้าหวังว่าสันติภาพความสงบสุขของผู้คนแถบนั้นคงจักมีขึ้นได้ในสักวันหนึ่ง และหลังจากกลับไปเยี่ยมบ้าน
ก็ได้สอบถามเหตุการณ์นั้นจากพ่อบุญธรรมของข้าพเจ้าที่ท่านเป็นกำนันและท่านรองเจ้าอาวาสวัดที่บ้าน ท่านทั้งสองก็ยืนยันว่าเป็นจริงตามนั้น
..............................................................................
และในวันนี้ข้าพเจ้าก็พอมองเห็นเค้าลางของสันติภาพนั้นแล้ว..แต่ในส่วนที่น่าเป็นห่วงก็ยังมีอยู่
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่