นี่คือจุดเริ่มต้นของชื่อกระทู้รีวิวแสนยาวนี้….
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วจร้า ก่อนบินไปไต้หวัน ก็เกิดอาการอยากได้ไพร์เมอร์ดีๆ สักตัวพกไปใช้
เนื่องจากเช็คสภาพอากาศมาแล้นว่า ช่วงที่เราบินไปคือเดือน ก.ย. ไต้หวันอากาศร้อนแรง
แดดออก มีเสี่ยงฝนบ้างวัน และที่สำคัญอากาศไม่ต่างจากไทยเลย OMG ทำไงดีล่ะที่นี้
เพราะวางแพลนเดินเที่ยวช้อปปิ้งหลายที่ ไปไกลๆ ก็มี หน้าเยิ้ม ผิวหมอง
สีเครื่องสำอางดรอปแน่นวลเลย
ไม่ได้การล่ะ จะไปเที่ยวทั้งทีก็อยากได้เบ้าหน้าดี ผิวสวย ถ่ายรูปอวดประชาชีได้เนอะ
มาคิดก่อนเลยว่าตัวช่วยผิวดีๆ ที่ทำให้เมคอัพติดทนทานนอกจากการบำรุงผิวที่ดีแล้วคืออะไร
เสริจหาอากู๋ไปก็ได้คำตอบว่า “ไพร์เมอร์” ยังไง จะอะไรอีกล่ะที่ช่วยเจ้าได้ ฮึๆๆ
รอช้าอยู่ใยถามอากู๋ต่อไปรอบที่สองสิจ้ะ ล่ะแล้วหาอ่านรีวิวไปเรื่อยๆ จนมาเจอไพร์เมอร์ของ Illamasqua
จากรีวิวลิ้งค์ดังนี้
1.
http://www.jeban.com/viewtopic.php?t=199792
2.
https://ppantip.com/topic/36254187
3.
https://goo.gl/zJWdDA
ตายๆ ยิ่งอ่านยิ่งอยากได้ ไพร์เมอร์อะไรมีให้เลือกตั้ง 3 สูตรทั้งคุมมัน ปรับสภาพผิ เบลอรูขุมขน บำรุงในตัว
แถมยังบอกอีกว่าดีเริ่ดขนาดฟรีซหน้าให้เมคอัพติดทนยาวนานถึง 8 ชั่วโมง งั้นพรุ่งนี้ไปบุกช็อปกันเลยคร่า
ช็อป Illamasqua ที่เซ็นทรัลเวิร์ด โทนสีดำ แซมขาวเบาๆ ตกแต่งชิคๆ ให้ความรู้สึกโมเดิร์น และแฟชั่นจ๋าอยู่พอควรเลย
ชอบนะฟีลลิ่งนี้ วันนี้เค้าไป ดันเป็นวันที่มี Event เปิดตัวคอลเลคชั่นใหม่ Illamasqua Autumn Winter Collection “Aftermath”
พอดีเลย แถมยังเจอบล็อคเกอร์ที่เราคุ้นหน้าหลายคนมางานนี้ด้วย เอาแล่วๆ ใจคอไม่ดีเลยค่ะเพื่อนๆ
เหมือนว่าเราต้องได้เสียตังมากกว่าไพร์เมอร์แน่นอนเลย
เข้าไปยื่นจิ้มๆ ดูของได้ไม่นานก็มี BA ของแบรนด์มาแนะนำสินค้า พร้อมบอกว่าแบรนด์นี้มาจากเกาะอังกฤษเลยนะยูว์
เราใช้แบรนด์นี้เราจะสวย และผิวดีแบบผู้ดีอังกฤษเลยชิมิ อิอิ >< แล้วเราก็บอกความต้องการไปว่าตามรีวิวเรื่องไพร์เมอร์มานะ สนใจมาก
เพราะอยากได้ไพร์เมอร์ที่ตอบโจทย์ในความติดทน BA นางก็บอกว่ามาถูกที่แล้วจ้ะ พร้อมทั้งบรรยาสรรพคุณล้านแปด ของไพร์เมอร์
แต่ละสูตร โดยขอสรุปย่อๆ ว่า
1.
Hydra Veil เหมาะกับผิวแห้งกร้านขาดน้ำ นางจะช่วยเรื่องการเติมน้ำให้ผิวได้ดีเริ่ดเลยจ้ะ
2.
Matte Veil เหมาะกับผิวมัน ช่วยเซทผิวให้แมทท์ ไม่มันวาว แต่ไม่แลดูผิวแห้งเนอะ
3.
Beyound Veil เหมาะกับทุกสภาพผิวเลยจ้ะ แถมยังช่วยปรับความออร่าให้ผิวของเราได้ด้วยเพราะตัวนี้นางมีชิมเมอร์เบาๆ
เนื้อละเอียดช่วยกระจายแสงบนใบหน้าได้ดีเลย ตัวนี้เค้าชอบสุดคือตอบโจทย์ อิอิ
แล้วที่เป็นความว้าวอีกเรื่องที่อยากบอกต่อเลยคือ เครื่องสำอางแบรนด์นี้ ไร้สาร Silicone นะคะ
มันดีงามอ่ะตัวเทอว์ เพราะไรรู้ป่ะ เจ้า Silicone นี่ล่ะคือตัวร้ายภัยเงียบที่หลายคนไม่รู้ว่ามันก่อให้เกิดสิวอุดตันในผิวหน้าเราได้จร้า
บำรุงมาแทบตายอย่ามาตกม้าตาเป็นสิวเพราะ Silicone นะจ้ะ เลิฟคูณสองกันไปอี๊กกก
เนื้อวิบวับๆ ออร่าจริงๆ
มาต่อๆ มีไพร์เมอร์ล้าววว ก็ต้องมีแป้งดีๆ สักตลับ ไงล่ะตกหลุมเข้าให้อีกครั้งแล้ว กับสรรพคุณแป้งพัฟที่ผสมรองพื้น
และมี Pigment สีแน๊นแน่นช่วยปกปิดร่องรอยของผิวแล้วไม่หมองระหว่างวัน อันนี้คือดีย์ ถูกใจพร้อมเปย์จ้ะ
พอได้ลองเนื้อแป้งกะผิวหน้า โดย BA แนะนำให้ใช้แป้งตัวนี้คู่กับแป้งแล้วปัดหน้าเบาๆ ให้ทั่วใบหน้า
ในขั้นตอนสุดท้ายของการแต่งหน้า ก็จะได้การปกปิดที่ดี แต่บางเบาไม่หนักหน้า ไม่วอก และไม่เทาหลีแล้วจร้า
แต่ถ้าใครต้องการปกปิดแบบระดับเวลเพิ่มมาอีกก็ใช้กะพัฟของแบรนด์ได้เลย หรือใครจะออกงานขอแบบปกปิดระดับ HD
เค้าก็แนะนำให้ใช้คู่กับพัฟชุบน้ำเอานะ
และก็คงไม่พลาดกับคอลเลคชั่นใหม่ Autumn Winter Collection “Aftermath” เพิ่งมาเปิดตัว ณ วันที่เราไปเยือน
ในเซทนี้มีมาทั้งอายแชโดว์ ลิป และอายแชโดว์ลิควิดเจลผสมชิมเมอร์
ไปลองจิ้มๆ ที่มือ กะลองที่หน้ามา มันขึ้นชื่อว่าแมทท์นะ ยอมรับว่าสีแน่นจริงไรจริง แต่นางแมทท์แบบผู้ดี
จร้า ไม่แห้งแตก ปลื้มปลิ่มมากๆ โดยเฉพาะลิปสติก ลายเมเบิ้ล หรือบ้านๆ เราเรียกว่าหินอ่อนนั่นเอง
คือเนื้อลิปนางพิเศษตรงที่ว่าเวลาทาลงบนริมฝีปากสีที่ได้จะมีทั้งเข้ม และอ่อนออกมาผสมกัน ทำให้เราจะได้โทนสีใหม่ๆ
ได้ในทุกวันที่เราทา ดูมีกริมมิค ดูไม่เบื่อ แถมทาออกมาสีปากก็ไม่แห้ง ไม่ตกร่อง
อันนี้ลองสามสีเลยกับที่ปาก แต่ที่ถูกใจเค้าก็คือสองสีนี้จ้ะ
- Emanate สีน้ำตาลแดง ออกอิฐๆ ที่สามารถทาได้ทุกวัน แถมยังขับผิวให้ผ่องด้วยนะ
- Tectonic แดงอมชมพู ได้ลุคสาวหวานๆ เหมาะเลยกับวันแบ๊วๆ ไปเดทกะผู้งี้ ฮ่าๆๆ
หรือจะเอาสองสีมาผสมกันก็ออกสีดีงาม สวยเลยจ้ะ เลือกเอาตามความชอบ และความหนักเบาของสีแต่ละแท่งที่ลง
มันก็จะได้สีที่ไม่ซ้ำใคร เหมือนเราได้เนรมิตสีให้เรียวปากให้ตัวเองได้ตลอดเวลา
ขอปิดท้ายด้วยภาพเครื่องสำอางรวมๆ ที่เราเอาไปใช้ที่ไต้หวัน
เพื่อเนรมิต Everyday Look เบาๆ แต่หน้าไม่มัน ไม่ดรอป ถ่ายรูปแล้ว ผิวขึ้นกล้องฟุดๆ
ซูมหน้าหน่อย ไพร์เมอร์ และแป้งนางช่วยได้จริง
ผิวไม่ดรอปสี ไม่เทา สีปากก็สวยจริงๆ ขับผิวดี๊ดีย์
ภาพจากกล้องหลังน้องไอ 7 โนว์ปรับแสง แต่งสี หน้าไม่มันจริงๆ นี่เดินช้อปปิ้ง เที่ยวได้ทั้งวัน สบายๆ
ปอลอ สีแก้มเค้าลองใช้ลิปสี Emanate สีน้ำตาลแดง ออกอิฐๆมาทาแก้มเบาๆ เออสวยค่ะ แนะให้ลอง!
แสงธรรมชาติก็รอดนาจา อันนี้ระหว่างทางไปหมู่บ้านแมว อากาศร้อนจริงๆ นี่หน้ายังไม่ได้ซับมันนะ
ก็มีแอบบวาวเบาๆ ไม่เยิ้ม ถ่ายรูปได้ เริ่ดจริงงงง
ปอลอ เดี๋ยวเค้ามีรีวิวไต้หวันจะตามมาติดๆ น้า อย่าลืมติดตามกันเน้อออ จุ๊ฟๆๆๆ
[CR] หลงกลรีวิวไพร์เมอร์เทพในตำนาน…จนต้องไปบุกช็อป Illamasqua แล้วก็ดันไปเจอคอลเลคชั่นใหม่ด้วยนะแกร๊!!!
นี่คือจุดเริ่มต้นของชื่อกระทู้รีวิวแสนยาวนี้….
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วจร้า ก่อนบินไปไต้หวัน ก็เกิดอาการอยากได้ไพร์เมอร์ดีๆ สักตัวพกไปใช้
เนื่องจากเช็คสภาพอากาศมาแล้นว่า ช่วงที่เราบินไปคือเดือน ก.ย. ไต้หวันอากาศร้อนแรง
แดดออก มีเสี่ยงฝนบ้างวัน และที่สำคัญอากาศไม่ต่างจากไทยเลย OMG ทำไงดีล่ะที่นี้
เพราะวางแพลนเดินเที่ยวช้อปปิ้งหลายที่ ไปไกลๆ ก็มี หน้าเยิ้ม ผิวหมอง
สีเครื่องสำอางดรอปแน่นวลเลย
ไม่ได้การล่ะ จะไปเที่ยวทั้งทีก็อยากได้เบ้าหน้าดี ผิวสวย ถ่ายรูปอวดประชาชีได้เนอะ
มาคิดก่อนเลยว่าตัวช่วยผิวดีๆ ที่ทำให้เมคอัพติดทนทานนอกจากการบำรุงผิวที่ดีแล้วคืออะไร
เสริจหาอากู๋ไปก็ได้คำตอบว่า “ไพร์เมอร์” ยังไง จะอะไรอีกล่ะที่ช่วยเจ้าได้ ฮึๆๆ
รอช้าอยู่ใยถามอากู๋ต่อไปรอบที่สองสิจ้ะ ล่ะแล้วหาอ่านรีวิวไปเรื่อยๆ จนมาเจอไพร์เมอร์ของ Illamasqua
จากรีวิวลิ้งค์ดังนี้
1. http://www.jeban.com/viewtopic.php?t=199792
2. https://ppantip.com/topic/36254187
3. https://goo.gl/zJWdDA
ตายๆ ยิ่งอ่านยิ่งอยากได้ ไพร์เมอร์อะไรมีให้เลือกตั้ง 3 สูตรทั้งคุมมัน ปรับสภาพผิ เบลอรูขุมขน บำรุงในตัว
แถมยังบอกอีกว่าดีเริ่ดขนาดฟรีซหน้าให้เมคอัพติดทนยาวนานถึง 8 ชั่วโมง งั้นพรุ่งนี้ไปบุกช็อปกันเลยคร่า
ช็อป Illamasqua ที่เซ็นทรัลเวิร์ด โทนสีดำ แซมขาวเบาๆ ตกแต่งชิคๆ ให้ความรู้สึกโมเดิร์น และแฟชั่นจ๋าอยู่พอควรเลย
ชอบนะฟีลลิ่งนี้ วันนี้เค้าไป ดันเป็นวันที่มี Event เปิดตัวคอลเลคชั่นใหม่ Illamasqua Autumn Winter Collection “Aftermath”
พอดีเลย แถมยังเจอบล็อคเกอร์ที่เราคุ้นหน้าหลายคนมางานนี้ด้วย เอาแล่วๆ ใจคอไม่ดีเลยค่ะเพื่อนๆ
เหมือนว่าเราต้องได้เสียตังมากกว่าไพร์เมอร์แน่นอนเลย
เข้าไปยื่นจิ้มๆ ดูของได้ไม่นานก็มี BA ของแบรนด์มาแนะนำสินค้า พร้อมบอกว่าแบรนด์นี้มาจากเกาะอังกฤษเลยนะยูว์
เราใช้แบรนด์นี้เราจะสวย และผิวดีแบบผู้ดีอังกฤษเลยชิมิ อิอิ >< แล้วเราก็บอกความต้องการไปว่าตามรีวิวเรื่องไพร์เมอร์มานะ สนใจมาก
เพราะอยากได้ไพร์เมอร์ที่ตอบโจทย์ในความติดทน BA นางก็บอกว่ามาถูกที่แล้วจ้ะ พร้อมทั้งบรรยาสรรพคุณล้านแปด ของไพร์เมอร์
แต่ละสูตร โดยขอสรุปย่อๆ ว่า
1. Hydra Veil เหมาะกับผิวแห้งกร้านขาดน้ำ นางจะช่วยเรื่องการเติมน้ำให้ผิวได้ดีเริ่ดเลยจ้ะ
2. Matte Veil เหมาะกับผิวมัน ช่วยเซทผิวให้แมทท์ ไม่มันวาว แต่ไม่แลดูผิวแห้งเนอะ
3. Beyound Veil เหมาะกับทุกสภาพผิวเลยจ้ะ แถมยังช่วยปรับความออร่าให้ผิวของเราได้ด้วยเพราะตัวนี้นางมีชิมเมอร์เบาๆ
เนื้อละเอียดช่วยกระจายแสงบนใบหน้าได้ดีเลย ตัวนี้เค้าชอบสุดคือตอบโจทย์ อิอิ
แล้วที่เป็นความว้าวอีกเรื่องที่อยากบอกต่อเลยคือ เครื่องสำอางแบรนด์นี้ ไร้สาร Silicone นะคะ
มันดีงามอ่ะตัวเทอว์ เพราะไรรู้ป่ะ เจ้า Silicone นี่ล่ะคือตัวร้ายภัยเงียบที่หลายคนไม่รู้ว่ามันก่อให้เกิดสิวอุดตันในผิวหน้าเราได้จร้า
บำรุงมาแทบตายอย่ามาตกม้าตาเป็นสิวเพราะ Silicone นะจ้ะ เลิฟคูณสองกันไปอี๊กกก
เนื้อวิบวับๆ ออร่าจริงๆ
มาต่อๆ มีไพร์เมอร์ล้าววว ก็ต้องมีแป้งดีๆ สักตลับ ไงล่ะตกหลุมเข้าให้อีกครั้งแล้ว กับสรรพคุณแป้งพัฟที่ผสมรองพื้น
และมี Pigment สีแน๊นแน่นช่วยปกปิดร่องรอยของผิวแล้วไม่หมองระหว่างวัน อันนี้คือดีย์ ถูกใจพร้อมเปย์จ้ะ
พอได้ลองเนื้อแป้งกะผิวหน้า โดย BA แนะนำให้ใช้แป้งตัวนี้คู่กับแป้งแล้วปัดหน้าเบาๆ ให้ทั่วใบหน้า
ในขั้นตอนสุดท้ายของการแต่งหน้า ก็จะได้การปกปิดที่ดี แต่บางเบาไม่หนักหน้า ไม่วอก และไม่เทาหลีแล้วจร้า
แต่ถ้าใครต้องการปกปิดแบบระดับเวลเพิ่มมาอีกก็ใช้กะพัฟของแบรนด์ได้เลย หรือใครจะออกงานขอแบบปกปิดระดับ HD
เค้าก็แนะนำให้ใช้คู่กับพัฟชุบน้ำเอานะ
และก็คงไม่พลาดกับคอลเลคชั่นใหม่ Autumn Winter Collection “Aftermath” เพิ่งมาเปิดตัว ณ วันที่เราไปเยือน
ในเซทนี้มีมาทั้งอายแชโดว์ ลิป และอายแชโดว์ลิควิดเจลผสมชิมเมอร์
ไปลองจิ้มๆ ที่มือ กะลองที่หน้ามา มันขึ้นชื่อว่าแมทท์นะ ยอมรับว่าสีแน่นจริงไรจริง แต่นางแมทท์แบบผู้ดี
จร้า ไม่แห้งแตก ปลื้มปลิ่มมากๆ โดยเฉพาะลิปสติก ลายเมเบิ้ล หรือบ้านๆ เราเรียกว่าหินอ่อนนั่นเอง
คือเนื้อลิปนางพิเศษตรงที่ว่าเวลาทาลงบนริมฝีปากสีที่ได้จะมีทั้งเข้ม และอ่อนออกมาผสมกัน ทำให้เราจะได้โทนสีใหม่ๆ
ได้ในทุกวันที่เราทา ดูมีกริมมิค ดูไม่เบื่อ แถมทาออกมาสีปากก็ไม่แห้ง ไม่ตกร่อง
อันนี้ลองสามสีเลยกับที่ปาก แต่ที่ถูกใจเค้าก็คือสองสีนี้จ้ะ
- Emanate สีน้ำตาลแดง ออกอิฐๆ ที่สามารถทาได้ทุกวัน แถมยังขับผิวให้ผ่องด้วยนะ
- Tectonic แดงอมชมพู ได้ลุคสาวหวานๆ เหมาะเลยกับวันแบ๊วๆ ไปเดทกะผู้งี้ ฮ่าๆๆ
หรือจะเอาสองสีมาผสมกันก็ออกสีดีงาม สวยเลยจ้ะ เลือกเอาตามความชอบ และความหนักเบาของสีแต่ละแท่งที่ลง
มันก็จะได้สีที่ไม่ซ้ำใคร เหมือนเราได้เนรมิตสีให้เรียวปากให้ตัวเองได้ตลอดเวลา
ขอปิดท้ายด้วยภาพเครื่องสำอางรวมๆ ที่เราเอาไปใช้ที่ไต้หวัน
เพื่อเนรมิต Everyday Look เบาๆ แต่หน้าไม่มัน ไม่ดรอป ถ่ายรูปแล้ว ผิวขึ้นกล้องฟุดๆ
ซูมหน้าหน่อย ไพร์เมอร์ และแป้งนางช่วยได้จริง
ผิวไม่ดรอปสี ไม่เทา สีปากก็สวยจริงๆ ขับผิวดี๊ดีย์
ภาพจากกล้องหลังน้องไอ 7 โนว์ปรับแสง แต่งสี หน้าไม่มันจริงๆ นี่เดินช้อปปิ้ง เที่ยวได้ทั้งวัน สบายๆ
ปอลอ สีแก้มเค้าลองใช้ลิปสี Emanate สีน้ำตาลแดง ออกอิฐๆมาทาแก้มเบาๆ เออสวยค่ะ แนะให้ลอง!
แสงธรรมชาติก็รอดนาจา อันนี้ระหว่างทางไปหมู่บ้านแมว อากาศร้อนจริงๆ นี่หน้ายังไม่ได้ซับมันนะ
ก็มีแอบบวาวเบาๆ ไม่เยิ้ม ถ่ายรูปได้ เริ่ดจริงงงง
ปอลอ เดี๋ยวเค้ามีรีวิวไต้หวันจะตามมาติดๆ น้า อย่าลืมติดตามกันเน้อออ จุ๊ฟๆๆๆ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น