จากที่เคยตั้งกระทู้ถามเรื่องไพรเมอร์ไว้แล้วว่าตัวไหนใช้ดีบ้าง ตอนนี้ซื้อมาใช้เองแล้วทั้ง 3 แบบเลยค่ะ หลักๆที่จะรีวิวเลยคือเรื่อง การเติมเต็มรูขุมขน คุมมัน เครื่องสำอางค์ติดทน กลิ่น เกลี่ยง่ายค่ะ (ปรกติเราจะใช้ทาก่อนลงบีบี รองพื้น หรือทาก่อนลงแป้งดินน้ำมันค่ะ)
ต้องบอกก่อนว่าเราเป็นคนผิวแห้งแต่จะมันเล็กน้อยแค่ตรงจมูก รูขุมขนกว้างตรงช่วงแก้ม ก่อนหน้าจะใช้ไพรเมอร์เครื่องสำอางค์จะหลุดตอนช่วงบ่ายๆแล้วก็เป็นคราบค่ะ เราลองใช้ไพรเมอร์ทั้ง 3 ตัวนี้ ทั้งตอนที่ทำงานในห้องแอร์ทั้งวันและตอนที่ต้องออกไปข้างนอกเจอแดดแรงๆค่ะ จะใช้ทั้งวันที่แต่งหน้าแน่นๆจัดเต็มและก็วันที่แต่งเบาคือทาบำรุง กันแดด ไพรเมอร์แล้วก้ตบแป้งดินน้ำมันเลยค่ะ ส่วนครีมบำรุงใช้เหมือนกันหมดทุกครั้งในการลองใช้ไพรเมอร์ 3 ตัวนี้ค่ะ
ไพรเมอร์ที่เราใช้มี 3 แบบ 2 ยี่ห้อค่ะ
1.Benefit The porefessional
2.illamasqua matte veil
3.illamasqua Hydra veil
มาเริ่มกันที่ตัวแรกเลยนะคะ
1.benefit The Porefessional
ตัวนี้ตอนบีบออกมาทาเนื้อครีมจะเป็นสีเนื้อ ไม่เข้มมาก จะหยุ่นๆหน่อยคล้ายๆซิลิโคน ตอนแรกคิดว่าจะเกลี่ยยากค่ะแต่ไม่เลยเกลี่ยง่ายมาก พอเกลี่ยแล้วหน้าจะลื่นๆเหมือนทาแป้งฝุ่นเลย ไม่เป็นคราบด้วยค่ะ พอทาหลังจากลงกันแดดเสร็จแล้วรู้สึกว่าหน้าแมทขึ้นมาทันทีเลย ทาทีละข้างเพื่อเปรียบเทียบกันจะเห็นว่าข้างที่ทาไพรเมอร์ตัวนี้หน้าจะไม่มีความฉ่ำของครีมหรือมอยเจอไรเซอร์ที่เราทาเลยเรียกได้ว่าความมันหายไปเลยค่ะ คุมมันดีเยี่ยมสำหรับสาวๆหน้ามันตัวนี้คงตอบโจทย์ได้ดี ปิดรูขุมขนได้ค่อนข้างดี แต่งหน้าเครื่องสำอางค์ติดทนค่ะ ไม่เป็นคราบระหว่างวัน ซับๆหน้าตรงช่วงทีโซนแล้วเติมแป้งระหว่างวันหน้าก็กลับมาเป๊ะเหมือนเดิมละค่ะ ส่วนเรื่องกลิ่นตัวนี้แทบจะไม่มีเลยค่ะถ้าไม่ตั้งใจดมจริงๆจะไม่ได้กลิ่นอะไรเลย
ข้อดี คือ ไม่มีกลิ่น เกลี่ยง่าย คุมมัน แต่งหน้าติดทน ปิดรูขุมขนได้ดี เมคอัพไม่หลุดแทบจะไม่ต้องเติมแป้งเลยค่ะ
ข้อเสีย ราคาค่อนข้างแพง
ถ้าคะแนนเต็ม 5 ขอให้ 4 ค่ะ ถ้าหมดจะซื้อใช้ซ้ำแน่นอนค่ะ
ขออนุญาติยืมรูปจาก google นะคะ
2.illamasqua matte veil
ตัวนี้เนื้อครีมจะเป็นสีส้มอ่อนใสๆ กลิ่นคล้ายๆยาคูลล์เลยค่ะ หอมอ่อนๆดีค่ะไม่ฉุน ตอนทาแล้วรู้สึกเย็นนิดๆอาจจะเป็นเพราะเนื้อครีมมีความใสละก็ฉ่ำๆไม่ข้นมาก ส่วนตัวคิดว่าถ้าแช่เย็นไว้ละมาทาน่าจะสดชื่นดี ทาแล้วสักพักนึงพอซึมเข้าผิวจะรู้สึกว่าผิวดูแมทขึ้นนิดนึง เกลี่ยง่ายค่ะ ไม่เป็นคราบ แต่ทาแล้วไม่รู้สึกเลยว่าทา ปิดรูขุมขนได้ แต่งหน้าเครื่องสำอางค์ติดทนในระดับนึง คุมมันดี ระหว่างวันถ้าต้องออกแดดแรงๆมีแอบเป็นคราบนิดๆตรงช่วงจมูกและแก้มแต่ซับๆแล้วเติมแป้งก็หายพอให้อภัยได้ค่ะ สาวๆที่หน้าไม่มันมากใช้ตัวนี้พอได้ค่ะ
ข้อดี กลิ่นไม่ฉุน เกลี่ยง่าย คุมมันพอได้
ข้อเสีย ราคาค่อนข้างแพง ไม่ช่วยเรื่องปิดรูขุมขน เมคอัพไม่ค่อยทนในวันที่แดดแรงๆ
ถ้าคะแนนเต็ม 5 ให้ 3 ค่ะ และถ้าหมดแล้วคิดว่าอาจจะซื้อค่ะ
ขออนุญาติยืมรูปจาก google นะคะ
3.illamasqua Hydra veil
ตัวนี้เป็นเนื้อเจลค่ะ เป็นเนื้อเจลที่ไม่เหลวเลยคล้ายๆเจลลี่ ตอนแรกคิดว่าเกลี่ยยากแน่ๆเพราะลองแตะที่หลังมือก่อนแล้วค่อยมาทาที่หน้า แต่พอทาแล้วเกลี่ยง่ายค่ะ ทาแล้วเย็นๆฉ่ำๆสาวๆหน้าแห้งตัวนี้โอเคเลยค่ะ ทาแล้วหน้าไม่แมทเลยแต่จะให้ความฉ่ำๆชุ่มชื้นมากกว่า คุมมันได้ระดับนึง แต่งหน้าติดทนในวันที่อยู่ในห้องแอร์แต่วันที่เจอแดดแอบมีเป็นคราบนิดๆ ซับแล้วเติมแป้งก็หายค่ะ ไม่มีกลิ่นเลย ปิดรูขุมขนได้นิดหน่อย
ข้อดี ไม่มีกลิ่น เกลี่ยง่าย ทาแล้วหน้าดูชุ่มชื้น คุมมันพอได้
ข้อเสีย ราคาค่อนข้างแพง ไม่ปิดรูขุมขน เมคอัพไม่ค่อยทนในวันที่แดดแรงๆ
คะแนนเต็ม 5 ให้ 3 ค่ะ ถ้าหมดอาจจะซื้อใช้ต่อค่ะ
ขออนุญาติยืมรูปจากิgoogle นะคะ
ครบหมดทั้ง 3 ตัวแล้วค่ะ ผิดพลาดยังไงต้องขออภัยด้วยนะคะ
[CR] รีวิว Primer ตัวดัง มีอะไรบ้างมาดูกัน
ต้องบอกก่อนว่าเราเป็นคนผิวแห้งแต่จะมันเล็กน้อยแค่ตรงจมูก รูขุมขนกว้างตรงช่วงแก้ม ก่อนหน้าจะใช้ไพรเมอร์เครื่องสำอางค์จะหลุดตอนช่วงบ่ายๆแล้วก็เป็นคราบค่ะ เราลองใช้ไพรเมอร์ทั้ง 3 ตัวนี้ ทั้งตอนที่ทำงานในห้องแอร์ทั้งวันและตอนที่ต้องออกไปข้างนอกเจอแดดแรงๆค่ะ จะใช้ทั้งวันที่แต่งหน้าแน่นๆจัดเต็มและก็วันที่แต่งเบาคือทาบำรุง กันแดด ไพรเมอร์แล้วก้ตบแป้งดินน้ำมันเลยค่ะ ส่วนครีมบำรุงใช้เหมือนกันหมดทุกครั้งในการลองใช้ไพรเมอร์ 3 ตัวนี้ค่ะ
ไพรเมอร์ที่เราใช้มี 3 แบบ 2 ยี่ห้อค่ะ
1.Benefit The porefessional
2.illamasqua matte veil
3.illamasqua Hydra veil
มาเริ่มกันที่ตัวแรกเลยนะคะ
1.benefit The Porefessional
ตัวนี้ตอนบีบออกมาทาเนื้อครีมจะเป็นสีเนื้อ ไม่เข้มมาก จะหยุ่นๆหน่อยคล้ายๆซิลิโคน ตอนแรกคิดว่าจะเกลี่ยยากค่ะแต่ไม่เลยเกลี่ยง่ายมาก พอเกลี่ยแล้วหน้าจะลื่นๆเหมือนทาแป้งฝุ่นเลย ไม่เป็นคราบด้วยค่ะ พอทาหลังจากลงกันแดดเสร็จแล้วรู้สึกว่าหน้าแมทขึ้นมาทันทีเลย ทาทีละข้างเพื่อเปรียบเทียบกันจะเห็นว่าข้างที่ทาไพรเมอร์ตัวนี้หน้าจะไม่มีความฉ่ำของครีมหรือมอยเจอไรเซอร์ที่เราทาเลยเรียกได้ว่าความมันหายไปเลยค่ะ คุมมันดีเยี่ยมสำหรับสาวๆหน้ามันตัวนี้คงตอบโจทย์ได้ดี ปิดรูขุมขนได้ค่อนข้างดี แต่งหน้าเครื่องสำอางค์ติดทนค่ะ ไม่เป็นคราบระหว่างวัน ซับๆหน้าตรงช่วงทีโซนแล้วเติมแป้งระหว่างวันหน้าก็กลับมาเป๊ะเหมือนเดิมละค่ะ ส่วนเรื่องกลิ่นตัวนี้แทบจะไม่มีเลยค่ะถ้าไม่ตั้งใจดมจริงๆจะไม่ได้กลิ่นอะไรเลย
ข้อดี คือ ไม่มีกลิ่น เกลี่ยง่าย คุมมัน แต่งหน้าติดทน ปิดรูขุมขนได้ดี เมคอัพไม่หลุดแทบจะไม่ต้องเติมแป้งเลยค่ะ
ข้อเสีย ราคาค่อนข้างแพง
ถ้าคะแนนเต็ม 5 ขอให้ 4 ค่ะ ถ้าหมดจะซื้อใช้ซ้ำแน่นอนค่ะ
ขออนุญาติยืมรูปจาก google นะคะ
2.illamasqua matte veil
ตัวนี้เนื้อครีมจะเป็นสีส้มอ่อนใสๆ กลิ่นคล้ายๆยาคูลล์เลยค่ะ หอมอ่อนๆดีค่ะไม่ฉุน ตอนทาแล้วรู้สึกเย็นนิดๆอาจจะเป็นเพราะเนื้อครีมมีความใสละก็ฉ่ำๆไม่ข้นมาก ส่วนตัวคิดว่าถ้าแช่เย็นไว้ละมาทาน่าจะสดชื่นดี ทาแล้วสักพักนึงพอซึมเข้าผิวจะรู้สึกว่าผิวดูแมทขึ้นนิดนึง เกลี่ยง่ายค่ะ ไม่เป็นคราบ แต่ทาแล้วไม่รู้สึกเลยว่าทา ปิดรูขุมขนได้ แต่งหน้าเครื่องสำอางค์ติดทนในระดับนึง คุมมันดี ระหว่างวันถ้าต้องออกแดดแรงๆมีแอบเป็นคราบนิดๆตรงช่วงจมูกและแก้มแต่ซับๆแล้วเติมแป้งก็หายพอให้อภัยได้ค่ะ สาวๆที่หน้าไม่มันมากใช้ตัวนี้พอได้ค่ะ
ข้อดี กลิ่นไม่ฉุน เกลี่ยง่าย คุมมันพอได้
ข้อเสีย ราคาค่อนข้างแพง ไม่ช่วยเรื่องปิดรูขุมขน เมคอัพไม่ค่อยทนในวันที่แดดแรงๆ
ถ้าคะแนนเต็ม 5 ให้ 3 ค่ะ และถ้าหมดแล้วคิดว่าอาจจะซื้อค่ะ
ขออนุญาติยืมรูปจาก google นะคะ
3.illamasqua Hydra veil
ตัวนี้เป็นเนื้อเจลค่ะ เป็นเนื้อเจลที่ไม่เหลวเลยคล้ายๆเจลลี่ ตอนแรกคิดว่าเกลี่ยยากแน่ๆเพราะลองแตะที่หลังมือก่อนแล้วค่อยมาทาที่หน้า แต่พอทาแล้วเกลี่ยง่ายค่ะ ทาแล้วเย็นๆฉ่ำๆสาวๆหน้าแห้งตัวนี้โอเคเลยค่ะ ทาแล้วหน้าไม่แมทเลยแต่จะให้ความฉ่ำๆชุ่มชื้นมากกว่า คุมมันได้ระดับนึง แต่งหน้าติดทนในวันที่อยู่ในห้องแอร์แต่วันที่เจอแดดแอบมีเป็นคราบนิดๆ ซับแล้วเติมแป้งก็หายค่ะ ไม่มีกลิ่นเลย ปิดรูขุมขนได้นิดหน่อย
ข้อดี ไม่มีกลิ่น เกลี่ยง่าย ทาแล้วหน้าดูชุ่มชื้น คุมมันพอได้
ข้อเสีย ราคาค่อนข้างแพง ไม่ปิดรูขุมขน เมคอัพไม่ค่อยทนในวันที่แดดแรงๆ
คะแนนเต็ม 5 ให้ 3 ค่ะ ถ้าหมดอาจจะซื้อใช้ต่อค่ะ
ขออนุญาติยืมรูปจากิgoogle นะคะ
ครบหมดทั้ง 3 ตัวแล้วค่ะ ผิดพลาดยังไงต้องขออภัยด้วยนะคะ