สวัสดีค่ะ ช่วงนี้เป็นช่วงที่เราได้เดินทางบ่อยมากๆ ถ้าพูดภาษาหมอดูก็คือชีพจรลงเท้านั่นแหละ ไปมาร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำ ตัวคนเดียวบ้างมีเพื่อนบ้าง อันตรายบ้าง ปลอดภัยบ้าง ปน ๆ กันไป มีหลายเมืองที่เราไปด้วยความคาดหวังจากการสปอยของรีวิว แต่พอไปถึงจริงๆแล้วกลับไม่ได้ว้าวอย่างที่คิดแต่บางเมืองกระแสไม่ได้แรงมากแต่พอไปถึงแล้วเรากลับประทับใจไม่รู้ลืม "แม่สอด" ก็เป็นอีกเมืองนึงที่ไม่ได้ฮิตมาก แต่พอไปถึงแล้วเรากลับประทับใจมาก มาเริ่มต้นจากการการเดินทาง ตอนแรกตามแพลนคือเรากะจะขับรถไปแต่ก็มีคนรอบตัวเตือนว่าไม่ควร
เพราะทางอันตรายมาก คดเคี้ยว ชัน และเป็นถนนสองเลนสวนกันเป็นระยะทางที่ค่อนข้างไกลเลยเลือกเดินทางโดยเครื่องบิน โชคดีที่แม่สอดมีสนามบินมาถึงแม่สอดโดยตรงเลย ในแต่ละวันก็มีหลายเที่ยวให้เลือกตามความสะดวกของเราเองแม่สอดเมืองที่เศรษฐกิจดีมาก เนื่องจากเป็นเมืองชายแดนติดกับอ.เมียวดีประเทศพม่า เพราะฉะนั้นทำธุรกิจในไทยก็เหมือนทำที่พม่าด้วย
พอเราลงเครื่องก็มุ่งหน้าไปที่พัก เราพักที่โรงแรม ฮ็อป อินน์ แม่สอด อยู่ห่าวจากสนามบินประมาณ 2 กิโลเมตร
ตอนนี้เข้าใจว่าเปิดสาขา 2 เพื่อรองรับผู้เข้ามาเข้าพัก โดยเปิดในบริเวณเดียวกันโรงแรมใหม่น่านอนเชียวแหละ
พอพักจนหายเหนื่อยก็เดินทางไปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำเมือง ที่แรกที่ไปคือ ศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช
ที่ต่อไปคือวัดไทยสามัคคี ในวัดประดิษฐานหลวงพ่อทันใจ
คนพื้นเมืองเค้าบอกว่าอยากได้อะไรก็ขอเอา ตั้งจิตอธิษฐานดี ๆ ท่านทำให้สมหวังมานักต่อนักแล้ว
คือมันมีเรื่องคาใจอยู่เรื่องนึง ระหว่างที่เราไปไหว้ศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช กับไหว้หลวงพ่อทันใจที่วัดไทยสามัคคี เราเสี่ยงเซียมซีทั้งสองที่นะแล้วได้เบอร์เดียวกันคือเบอร์ 17 เราแปลกใจมากคำทำนายก็มีทั้งดีและไม่ดีปน ๆ กันไปแหละ มันก็เหมือนกับชีวิตของเรา ขึ้น ๆ ลง ๆ มันไม่มีอะไรแน่นอน ถ้าจะพูดตามหลักวิทยาศาสตร์มันก็คือความน่าจะเป็นที่เกิดขึ้นได้ แต่ถ้าพูดในเรื่องความเชื่อความศรัทธาก็น่าจะเป็นการเตือนให้เราระมัดระวังตัวเองจากเรื่องไม่ดีที่อยู่ในคำทำนายและไม่ให้เราเหลิงกับคำทำนายที่ดี
เราคิดแบบนี้นะ
เราเก็บบรรยากาศโดยรวมในวัดมาฝาก
อันนี้เป็นภาพของเกจิชื่อดังของทางภาคเหนือที่มาร่วมกันปลุกเสกพระทันใจ
อย่างที่เราบอกไปว่าวัฒนธรรมสองฟากฝั่งแม่น้ำเมย ในเมืองแม่สอดมันแยกกันไม่ออก
อยู่ด้วยกันอย่างกลมกลืน นี่คงเป็นเสน่ห์สำคัญที่ทำให้เราตกหลุมรักเมืองนี้
[img]h
สถาปัตยกรรมก็จะเป็นแบบฉบับของภาคเหนือผสมพม่านิดๆ
อันนี้เป็นเหมือนรากไม้ใหญ่ๆที่เอามาทำเป็นหุ่นยนต์มั๊ย? น่าจะใช่นะ
จะบอกว่าเราประทับใจวัดนี้มาก
[CR] "แม่สอด" เมืองนอกกระแสที่มีดีกว่าที่คิด
เพราะทางอันตรายมาก คดเคี้ยว ชัน และเป็นถนนสองเลนสวนกันเป็นระยะทางที่ค่อนข้างไกลเลยเลือกเดินทางโดยเครื่องบิน โชคดีที่แม่สอดมีสนามบินมาถึงแม่สอดโดยตรงเลย ในแต่ละวันก็มีหลายเที่ยวให้เลือกตามความสะดวกของเราเองแม่สอดเมืองที่เศรษฐกิจดีมาก เนื่องจากเป็นเมืองชายแดนติดกับอ.เมียวดีประเทศพม่า เพราะฉะนั้นทำธุรกิจในไทยก็เหมือนทำที่พม่าด้วย
พอเราลงเครื่องก็มุ่งหน้าไปที่พัก เราพักที่โรงแรม ฮ็อป อินน์ แม่สอด อยู่ห่าวจากสนามบินประมาณ 2 กิโลเมตร
ตอนนี้เข้าใจว่าเปิดสาขา 2 เพื่อรองรับผู้เข้ามาเข้าพัก โดยเปิดในบริเวณเดียวกันโรงแรมใหม่น่านอนเชียวแหละ
พอพักจนหายเหนื่อยก็เดินทางไปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำเมือง ที่แรกที่ไปคือ ศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช
ที่ต่อไปคือวัดไทยสามัคคี ในวัดประดิษฐานหลวงพ่อทันใจ
คนพื้นเมืองเค้าบอกว่าอยากได้อะไรก็ขอเอา ตั้งจิตอธิษฐานดี ๆ ท่านทำให้สมหวังมานักต่อนักแล้ว
คือมันมีเรื่องคาใจอยู่เรื่องนึง ระหว่างที่เราไปไหว้ศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช กับไหว้หลวงพ่อทันใจที่วัดไทยสามัคคี เราเสี่ยงเซียมซีทั้งสองที่นะแล้วได้เบอร์เดียวกันคือเบอร์ 17 เราแปลกใจมากคำทำนายก็มีทั้งดีและไม่ดีปน ๆ กันไปแหละ มันก็เหมือนกับชีวิตของเรา ขึ้น ๆ ลง ๆ มันไม่มีอะไรแน่นอน ถ้าจะพูดตามหลักวิทยาศาสตร์มันก็คือความน่าจะเป็นที่เกิดขึ้นได้ แต่ถ้าพูดในเรื่องความเชื่อความศรัทธาก็น่าจะเป็นการเตือนให้เราระมัดระวังตัวเองจากเรื่องไม่ดีที่อยู่ในคำทำนายและไม่ให้เราเหลิงกับคำทำนายที่ดี
เราคิดแบบนี้นะ
เราเก็บบรรยากาศโดยรวมในวัดมาฝาก
อันนี้เป็นภาพของเกจิชื่อดังของทางภาคเหนือที่มาร่วมกันปลุกเสกพระทันใจ
อย่างที่เราบอกไปว่าวัฒนธรรมสองฟากฝั่งแม่น้ำเมย ในเมืองแม่สอดมันแยกกันไม่ออก
อยู่ด้วยกันอย่างกลมกลืน นี่คงเป็นเสน่ห์สำคัญที่ทำให้เราตกหลุมรักเมืองนี้
[img]h
สถาปัตยกรรมก็จะเป็นแบบฉบับของภาคเหนือผสมพม่านิดๆ
อันนี้เป็นเหมือนรากไม้ใหญ่ๆที่เอามาทำเป็นหุ่นยนต์มั๊ย? น่าจะใช่นะ
จะบอกว่าเราประทับใจวัดนี้มาก
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น