ญาติมาขออยู่ด้วย ไม่รู้ว่าที่คิดอยู่มันถูกมั้ย เป็นคุณเจอแบบนี้จะทำอย่างไร น้ำท่วมปาก

สวัสดีค่ะ เราเพิ่งกู้ซื้ิอบ้านได้ค่ะ บ้านเป็นบ้าน 3 ชั้น มีทั้งหมด 3 ห้องนอนค่ะ ชั้นล่างเราตั้งใจจะทำเป็นร้านนม-ขนมปัง กำลังให้ช่างบิ้วอินให้ค่ะ และเราก็มีบ้านอีกหลังค่ะที่อยู่กับแม่ พ่อเลี้ยง และน้องสาวเป็นลูกพี่ลูกน้อง (ลูกของน้องสาวแม่แท้ๆ) น้องอยู่มอ3 ค่ะ แม่เลี้ยงมาตั้งแต่เด็กค่ะ เพราะว่าน้าหรือน้องสาวแม่ไปทำงานในเมือง มีแฟนใหม่ ไม่ได้เลี้ยงดูเอง คือให้แม่เรารับผิดชอบดูแล แต่เราก็อยู่ด้วยกันมาแบบนี่ไม่เคยคิดอะไร รักเหมือนน้องแท้ๆเลยค่ะ ไปไหนก็พาไป กินอะไรก็กินเหมือนกัน อยากได้อะไรก็ซื้อให้ จนตอนนี้น้าจะออกจากงานแล้วจะกลับมาเช่าบ้านอยู่ แล้วอีกประมาน3 เดือนจะไปหางานทำใหม่ แม่เราเอ่ยปากว่าถ้าอยู่แค่นั้นก็มาอยู่บ้านเราก่อนก็ได้ แม่เราคิดว่าเผื่อจะได้มาช่วยเราขายของได้บ้างอ่ะค่ะ จะได้ไม่ต้องไปเสียค่าเช่าบ้านเพราะอยู่แค่ไม่นาน เราก็เลยโอเคเพราะเห็นแก่แม่ค่ะ แล้วก็คิดว่าก็น้า แม่ของน้องที่อยู่ด้วยกันมานาน ก็เลยตกลง (ลืมบอกไปค่ะว่าน้ามีลูกสาวอีกคน เป็นพี่สาวของน้องที่อยู่กับเราค่ะ แต่มีครอบครัวไปแล้ว  ) พอลูกสาวคนโตรู้ว่าน้าจะกลับมาแล้วมาอยู่กับเราก็เลยจะให้น้าเลี้ยงลูกเล็กให้ชั่วคราว แล้วตัวเองจะได้ไปทำงานได้ เราเลยคิดว่าถ้าจะเลี้ยงก็ต้องมาเลี้ยงที่บ้านเรา ซึ่งจริงๆแล้วเราแค่ให้น้ามาอยู่ชั่วคราวแล้วมาช่วยเราขายของ เพราะยังไงค่าใช้จ่ายในบ้านเราก็ต้องออกหมด เราเลยปฏิเสธไปก่อนเลยค่ะว่ายังไงก็เอามาเลี้ยงที่นี่ไม่ได้นะ จบเรื่องนี้ไป หลังจากนั้นได้คุยโทรศัพท์กับน้า น้าถามเราว่าห้องนอนติดแอร์มั้ย เราบอกไม่ได้ติด น้าบอกว่าถ้ามาอยู่จะติดแอร์นะเพราะนอนร้อนๆไม่ได้ แล้วก็คุยกับน้องสาวที่อยู่กับเราว่าจะแต่งห้องเป็นแบบนั้นแบบนี้ เรามานั่งคิดแล้วถ้าติดแอร์มันก็ต้องเปลืองไฟมากขึ้นไปอีก เพราะข้างล่างเราทำร้านก็ติดแอร์เปิดตลอดอยู่แล้ว และเราเป็นคนจ่ายทุกอย่างหมด แบบนี้มันไม่โอเคเลยค่ะ และน้าก็พูดประมาณว่าถ้าออกจากงานมาอีกก็ต้องมาอยู่กับเรา จะให้ไปอยู่ไหน ทำนองนี้อ่ะค่ะ เราควรทำไงดีคะ เราดูใจดำไปมั้ยคะถ้าจะปฏิเสธ นี่ยังไม่ได้เข้ามาอยู่ยังทำเราคิดมากขนาดนี้ ใจจริงอยากช่วยแต่ยังไม่ทันไรก็เป็นแบบนี้แล้ว กลัวมีปัญหาวันข้างหน้า อยากให้เค้าเข้าใจในมุมของเรา ถ้าเป็นเพื่อนๆจะทำไงดีคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 20
แยกปัญหาก่อนคะ
ครอบครัวคุณ
1. ต้องการหาคนเลี้ยงหลาน เพื่อที่แม่ของน้องจะได้ออกไปหางานทำ
2. อยากได้คนช่วยทำขนม
3. คุณเป็นคนขี้เกรงใจ ไม่อยากให้น้ามาอาศัยแต่ไม่รู้จะปฏิเสธแบบไหนดี

ทางแก้ไขปัญหาของคุณ
สามารถแก้ได้โดย รับสมัครคนงานคะ 1 คน 2 ตำแหน่ง (แอบงานหนัก)
เวลาไม่ได้ผลงานตามใจเราสามารถว่ากล่าว ตักเตือนได้ ไม่ต้องเกรงใจ และเลิกจ้างหา ลูกจ้างคนใหม่ได้

ปัญหาของน้า
1. อยากได้ห้องนอนที่มีแอร์
2. อยากให้ตกแต่งห้องตามที่น้าต้องการ
3. กำลังจะตกงาน อยากพัก 3 เดือน เลยอยากประหยัดเงินค่าเช่าห้อง  

น้าคุณเป็นคนไร้ความคิด ไม่มีการวางแผนในชีวิต =>ถ้าออกจากงานไม่มีที่อยู่ เลยต้องมาอยู่กับคุณ
ขาดความเกรงใจ => ลืมไปรึเปล่าว่าจะมาอาศัยแค่ชั่วคราว
เป็นบุคคลน่ารังเกียจที่ยังไม่รู้ตัวว่า ตัวเองได้สร้างความลำบากใจให้คนอื่น
คนแบบนี้น่ากลัวคะ ระวังเข้ามาแล้วจะไม่ออก เอาแต่เฝ้าทวงบุญคุณนะคะ

วิธีการปฎิเสธแบบนุ่มนวล
บอกว่าฝากคนรู้จักหาเด็กมาช่วยงาน ซึ่งได้แล้ว ห้องเลยเต็ม
ไม่สามารถให้อยู่ได้

หรือบอกน้าว่า เกรงใจน้ามากเลยคะ
ที่น้าบอกมาทั้งหมดไม่สามารถจัดให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นแอร์ หรือ ตกแต่งห้อง
เพราะเพิ่งเริ่มลงทุนเปิดร้านและซื้อบ้าน เงินหมุนไม่พอ
คิดว่าถ้าน้ามาอยู่ที่นี่ น้าต้องลำบากมากแน่ๆ งั้นรบกวนน้าช่วยหาที่อื่นอยู่ไปก่อนชั่วคราว
ถ้ามีเงินซื้อแอร์ และตกแต่งห้องเมื่อไหร่ จะบอกคะ
และก็บอกคุณแม่ตามนี้คะ ว่าทุกอย่างเพิ่งเริ่มต้องใช้เงินลงทุนและเงินหมุนอีกเยอะกว่าจะได้ลูกค้าประจำ
ถ้าน้าต้องการให้ซื้อแอร๋ และ ตกแต่งห้องแบบตามใจน้าทั้งหมดคงทำไม่ได้
ถึงแม้มันจะเป็นบ้านของคุณ แต่คุณไม่ได้ต้องการเสียเงินกับค่าซื้อแอร์ และ ค่าตกแต่งห้อง เพื่ออาศัย
ถ้าลูกค้าเยอะมากๆ หรือต้องการมีห้อง VIP  อาจทำส่วนนี้ไว้บริการลูกค้าเพิ่ม
แม่เองก็รักครอบครัวแม่ (แม่แต่งงานใหม่) ตัวคุณเองก็รักครอบครัวของคุณเช่นกัน
คนในบ้านจะคิดยังไง ถ้าเอาเงินในครอบครัวที่ช่วยกันหามาปรนเปรอคนอื่น อยากให้ครอบคุณแตกแยกเพราะคนอื่นเหรอ

คุณลองถามแม่น่ะคะ ว่าคุณรักแม่มาก แล้วแม่รักคุณมากเท่าที่คุณรักแม่รึเปล่า
ความคิดเห็นที่ 9
คิดให้ดีๆนะครับ ไม่ให้มาแต่แรก มันง่ายกว่ามาอยู่แล้วอยากให้ออกนะครับ
ความคิดเห็นที่ 14
มาอยู่ชั่วคราวแต่จะติดแอร์และนอนร้อนไม่ได้...มีความเป็นไปได้ว่าจะอยู่ยาวครับและเป็นคนทำตนให้เลี้ยงดูยาก..ภาษาชาวบ้านก็คือ
เยอะไปหน่อย..เอาตัวเองเป็นที่ตั้ง..ดูได้จากการไม่รับผิดชอบเลี้ยงดูลูกของตัวเอง แต่ปล่อยให้คุณแม่ของคุณดูแลแทน..แถมยังพูดเผื่อไว้อีกว่าถ้าออกจากงานก็จะมาอยู่กับคุณอีก

ผมมีความเห็นว่าประเด็นที่สำคัญคือคุณต้องคุยกับคุณแม่ให้ท่านเข้าใจว่าคุณคิด ย่างไร และขออนุญาตท่านว่าคุณจะตัดสินใจอย่างไร
หากท่านเข้าใจ..ผมว่าน่าจะจบได้...เพราะดูแล้วคุณก็มีแนวทางอยู่แล้ว

การยับยั้งไม่ให้เข้ามาอยู่ในบ้านเรา..แน่นอนน้าคุณย่อมไม่พอใจ..แต่หากมาอยู่แล้วการจะให้ออกไปยิ่งไม่พอใจมากกว่าและความเป็นไปได้ก็ยาก
ขึ้นไปอีกครับ
ความคิดเห็นที่ 22
ประเด็นคือ ทำไมเราต้องเกรงใจ คนที่ไม่เกรงใจเรา
คุณต้องใจแข็งแต่แรก อย่ายอม
ยื่นคำขาดกลายๆว่า จะไม่ติดแอร์ให้ เพราะจะมาอยู่ชั่วคราว
(เน้นว่าต้องพูดบ่อยๆว่า จะมาอยู่ชั่วคราว)  และในอีกกี่เดือน
คุณมีแพลนจะใช้ห้องที่น้าจะมาอยู่ ไว้ทำอะไรก็ว่าไป
จะแต่งเรื่อง โม้ก็ได้ แต่ต้องทำให้น้ารู้ว่า มันมีdeadline ของการมาอยู่ที่นี้
ไม่ได้มาอยู่ถาวร    

เราไม่แนะนำให้อ้างแบบอย่ามาอยุ่กับคุณเลย กลัวน้าลำบาก โน่นนี้นั่น
วิธีนี้ใช้ไม่ได้ผลกับคนแบบนี้หรอก  เค้าจะตอบว่าไม่เป็นไร ไม่ลำบาก
คราวนี้คุณน้ำท่วมปากของจริง    น้าต้องเกรงใจคุณ ไม่ใช่คุณเกรงใจน้า


ถ้าคุณไม่พูดให้เคลีย์เด็ดขาดตั้งแต่แรก รับรอง เค้าอยู่แช่บ้านคุณอีกนาน
แล้วอย่าโทษใคร  จงโทษตัวเอง
ความคิดเห็นที่ 2
สงสารคุณมากค่ะ  ที่เจอญาติแบบนี้
ถ้าไม่พูด  คุณก็จะต้องรับเลี้ยงญาติกลุ่มนี้ทั้งฝูงค่ะ
การพูดออกไปตรงๆไม่ใช่เรื่องไม่มีน้ำใจ
แต่มันใช่ธุระของคุณเหรอคะที่ต้องมาหาเลี้ยงคนกลุ่มนี้
คุณจะไม่มีภาระอะไรของตัวเองเหรอ
มาอาศัยอยู่ชั่วคราว
แทนที่จะเกรงใจเจ้าของบ้าน  แต่นี่โห
ไม่ติดแอร์อยู่ไม่ได้นะ
ใครจ่ายค่าไฟ
ญาติที่ไม่มีความเกรงใจ  สร้างปัญหามานักต่อนักแล้ว
คุยกันเลยค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่