คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 6
คนนอก ..ไม่ได้เป็นข้างไหนใครทั้งสิ้นในห้องราขดำเนิน อาจมีคนรู้จักที่นี่ แต่เราคุยกันที่เว็บอื่น
ห่างหายจากพันทิปไปเสียนาน เข้ามาติดตามประปรายเป็นระยะๆเฉพาะบางเรื่อง
มาเมื่อราว 1 เดือนที่ผ่านมา เผอิญได้ติดตามเรื่องราวในวิกฤติที่เกิดขึ้นอย่างสนใจ
เมื่อคืนราวๆสองทุ่ม เพิ่งเสนอความคิดเห็นแลกเปลี่ยนเรื่อง "ล็อคอินซ้อน ต้นเหตุปัญหาในห้องราชฯ"
พอดีเช้านี้มาเห็นกระทู้นี้พบว่าความคิดเห็นของท่าน จขกท คล้ายกันอย่างน่าแปลกใจ
ต่างกันตรงที่ว่า จขกท ได้ขยายรายละเอียดเรื่อง WM ก็ได้จัดการปัญหาเรื่องนี้อยู่ ทำให้หายสงสัยในข้อนี้ไป
นี่คือข้อสรุป (เมื่อคืน) ที่มองห้องราชฯ
" วิกฤติที่ห้องราชฯ ช่วงนี้ ส่วนหนึ่งเพราะระบบของเว็บด้วย ที่ไม่เคร่งครัด ยอมให้คนคนหนึ่งมีหลายล็อคอิน โลกเสมือนจริงแบบโซเชียลที่โน้มเอียงจะใส่หน้ากากต่อกันแล้ว (ในชั้นแรกนี้มีเหตุผลคือเพื่อป้องกันตัวเอง) ยังเพิ่มความหลอกลวงเข้ามาอีกขั้น เป็นทางเปิดอย่างสมบูรณ์แบบให้ "ความหลอกลวง คือ ความชอบธรรม" (ทุกคน?)ยกโทษให้เรื่องผิดกติกาแบบล็อคอินซ้อนนี้ว่า ใครๆเขาก็ทำกัน จากแค่ปกป้องตนเองเลยกลายเป็นโป้ปดต่อคนอื่น เพี่อหลอกลวง เพื่อเอาชนะ เพื่อตักตวงให้ได้ประโยชน์ ล้วนแล้วแต่ไม่ได้ยกระดับอุปนิสัยเพื่อส่วนรวม หรือเพื่อคนอื่นเลย
จากนั้นอีกข้อหนึ่ง คือสมาชิกละเมิดธรรมชาติของโซเชียล ไปนัดกันเจอกันนอกรอบ ได้ไปรู้ตัวตนจริงๆของคนที่ปิดบังกัน เจอคนที่เข้ากันได้ก็ดีไป แต่ ..การที่จะสนิทกันได้อย่างลึกซึ้งยาวนานนั้น มันไม่ใช่แค่อุดมการณ์ทางการเมืองเหมือนกันอย่างเดียว ยังต้องมีรายละเอียดปลีกย่อยในชีวิตอีกมากมายหลายอย่าง เช่น การดำรงชีวิต การประกอบสัมมาอาชีพ การใช้เงิน การพูดจา การเลือกคบเพื่อน ฯลฯ เลยกลายเป็นแรงเสริมของการสะสมความร้าวลึก รอวันปะทุ ในที่สุดวิกฤติก็มาถึง "
ทั้งหมดข้างบนคือความคิดเห็นเมื่อคืน ขอขยายความหลังจากได้อ่านท่านโบกกรัก ..
.... ภาวะที่เรียกว่า "ความหลอกลวง คือ ความชอบธรรม" ในห้องราชฯ ทำให้ศักดิ์ศรีของการต่อสู้ทางความคิดหายไปหมดไม่เหลือหรอ เกิดความหวาดระแวงไปทั่วทุกหย่อมหญ้า ทีแรกเข้าใจอย่างที่เขียนข้างบน คือคิดว่าทาง WM ปล่อยปละละเลย แต่จากที่คุณโบกกรักเขียน ก็ทำให้เข้าใจได้ว่า เขาก็จัดการอยู่ แต่ในท้ายที่สุดก็อาจต้องปล่อยมือ สุดที่จะบล็อคได้ทันท่วงที ทันกาล สมาชิกในสุดท้ายจำนวนหนึ่งต่างคนต่างโกงกติกาของเว็บ ต่างคนต่างจ้วงแทงกัน จึงได้เละตุ้มเป๊ะ ประกอบกับส่วนหนึ่ง เรื่องที่ฟูมากขึ้นก็มาจากคนที่ไปเจอกันตัวเป็นๆข้างนอกโลกโซเชียลด้วย โดยคิดแค่ผิวๆว่า ทัศนะเรื่องการเมืองเหมือนกัน คงจะคบกันได้อย่างลึกซึ้ง บางคนอาจเลยธงไปถึงดูดดื่มขนาดตายแทนกันได้ เป็นพวกเป็นพ้อง เป็นแกงก์ เป็นก๊ก เป็นเหล่า ที่จริงมันสุดโต่งเกินไป รู้จักกันแค่ทางตัวอักษร - แต่โลกแห่งความเป็นจริงยังต้องเรียนรู้กันอีกนาน ยังต้องทำความเข้าใจ และปรับตัวกันอีกเยอะ เมื่อไปเจอของจริง และความคาดหวังสูงจึงนำมาซึ่งปัญหาที่ซับซ้อนขึ้น และเมื่อผิดใจจนต่างต้องแยกย้ายกันไป - ทำใจไม่ได้ไม่ให้อภัย ก็ยิ่งสร้างความเคียดแค้นมาใช้ตัวตนในโลกโซเชียลฟาดฟันกันด้วยยุทธวิธีต่างๆ การเจอกันนอกรอบน้อย เรื่องราวความขัดแย้งก็อาจจะน้อยกว่าที่เป็น เพราะมันจะจำกัดจินตนาการไว้แค่ในโลกของเรื่องเสมือนจริงแค่นั้น
นี่เป็นเพียงมุมมองหนึ่งจากข้างนอกที่มองเข้ามา อาจเป็นประโยชน์ได้บ้าง คิดว่านะ
และขออภัยหากไปกระทบกระทั่งใคร ไม่ได้เจตนาจะเจาะลึกถึงใคร เพราะไม่รู้จักเป็นการส่วนตัวทั้งโลกจริงและเสมือนจริง
ทางแก้ก็คือ รู้ปัญหา - แก้ไข ทุกคนมีความสามารถทั้งนั้น ขั้นแรกที่น่าจะทำคือร่วมมือกันทำให้กติกาเป็นกติกาได้ตลอดเวลา ข้อนี้ก่อน
ห่างหายจากพันทิปไปเสียนาน เข้ามาติดตามประปรายเป็นระยะๆเฉพาะบางเรื่อง
มาเมื่อราว 1 เดือนที่ผ่านมา เผอิญได้ติดตามเรื่องราวในวิกฤติที่เกิดขึ้นอย่างสนใจ
เมื่อคืนราวๆสองทุ่ม เพิ่งเสนอความคิดเห็นแลกเปลี่ยนเรื่อง "ล็อคอินซ้อน ต้นเหตุปัญหาในห้องราชฯ"
พอดีเช้านี้มาเห็นกระทู้นี้พบว่าความคิดเห็นของท่าน จขกท คล้ายกันอย่างน่าแปลกใจ
ต่างกันตรงที่ว่า จขกท ได้ขยายรายละเอียดเรื่อง WM ก็ได้จัดการปัญหาเรื่องนี้อยู่ ทำให้หายสงสัยในข้อนี้ไป
นี่คือข้อสรุป (เมื่อคืน) ที่มองห้องราชฯ
" วิกฤติที่ห้องราชฯ ช่วงนี้ ส่วนหนึ่งเพราะระบบของเว็บด้วย ที่ไม่เคร่งครัด ยอมให้คนคนหนึ่งมีหลายล็อคอิน โลกเสมือนจริงแบบโซเชียลที่โน้มเอียงจะใส่หน้ากากต่อกันแล้ว (ในชั้นแรกนี้มีเหตุผลคือเพื่อป้องกันตัวเอง) ยังเพิ่มความหลอกลวงเข้ามาอีกขั้น เป็นทางเปิดอย่างสมบูรณ์แบบให้ "ความหลอกลวง คือ ความชอบธรรม" (ทุกคน?)ยกโทษให้เรื่องผิดกติกาแบบล็อคอินซ้อนนี้ว่า ใครๆเขาก็ทำกัน จากแค่ปกป้องตนเองเลยกลายเป็นโป้ปดต่อคนอื่น เพี่อหลอกลวง เพื่อเอาชนะ เพื่อตักตวงให้ได้ประโยชน์ ล้วนแล้วแต่ไม่ได้ยกระดับอุปนิสัยเพื่อส่วนรวม หรือเพื่อคนอื่นเลย
จากนั้นอีกข้อหนึ่ง คือสมาชิกละเมิดธรรมชาติของโซเชียล ไปนัดกันเจอกันนอกรอบ ได้ไปรู้ตัวตนจริงๆของคนที่ปิดบังกัน เจอคนที่เข้ากันได้ก็ดีไป แต่ ..การที่จะสนิทกันได้อย่างลึกซึ้งยาวนานนั้น มันไม่ใช่แค่อุดมการณ์ทางการเมืองเหมือนกันอย่างเดียว ยังต้องมีรายละเอียดปลีกย่อยในชีวิตอีกมากมายหลายอย่าง เช่น การดำรงชีวิต การประกอบสัมมาอาชีพ การใช้เงิน การพูดจา การเลือกคบเพื่อน ฯลฯ เลยกลายเป็นแรงเสริมของการสะสมความร้าวลึก รอวันปะทุ ในที่สุดวิกฤติก็มาถึง "
ทั้งหมดข้างบนคือความคิดเห็นเมื่อคืน ขอขยายความหลังจากได้อ่านท่านโบกกรัก ..
.... ภาวะที่เรียกว่า "ความหลอกลวง คือ ความชอบธรรม" ในห้องราชฯ ทำให้ศักดิ์ศรีของการต่อสู้ทางความคิดหายไปหมดไม่เหลือหรอ เกิดความหวาดระแวงไปทั่วทุกหย่อมหญ้า ทีแรกเข้าใจอย่างที่เขียนข้างบน คือคิดว่าทาง WM ปล่อยปละละเลย แต่จากที่คุณโบกกรักเขียน ก็ทำให้เข้าใจได้ว่า เขาก็จัดการอยู่ แต่ในท้ายที่สุดก็อาจต้องปล่อยมือ สุดที่จะบล็อคได้ทันท่วงที ทันกาล สมาชิกในสุดท้ายจำนวนหนึ่งต่างคนต่างโกงกติกาของเว็บ ต่างคนต่างจ้วงแทงกัน จึงได้เละตุ้มเป๊ะ ประกอบกับส่วนหนึ่ง เรื่องที่ฟูมากขึ้นก็มาจากคนที่ไปเจอกันตัวเป็นๆข้างนอกโลกโซเชียลด้วย โดยคิดแค่ผิวๆว่า ทัศนะเรื่องการเมืองเหมือนกัน คงจะคบกันได้อย่างลึกซึ้ง บางคนอาจเลยธงไปถึงดูดดื่มขนาดตายแทนกันได้ เป็นพวกเป็นพ้อง เป็นแกงก์ เป็นก๊ก เป็นเหล่า ที่จริงมันสุดโต่งเกินไป รู้จักกันแค่ทางตัวอักษร - แต่โลกแห่งความเป็นจริงยังต้องเรียนรู้กันอีกนาน ยังต้องทำความเข้าใจ และปรับตัวกันอีกเยอะ เมื่อไปเจอของจริง และความคาดหวังสูงจึงนำมาซึ่งปัญหาที่ซับซ้อนขึ้น และเมื่อผิดใจจนต่างต้องแยกย้ายกันไป - ทำใจไม่ได้ไม่ให้อภัย ก็ยิ่งสร้างความเคียดแค้นมาใช้ตัวตนในโลกโซเชียลฟาดฟันกันด้วยยุทธวิธีต่างๆ การเจอกันนอกรอบน้อย เรื่องราวความขัดแย้งก็อาจจะน้อยกว่าที่เป็น เพราะมันจะจำกัดจินตนาการไว้แค่ในโลกของเรื่องเสมือนจริงแค่นั้น
นี่เป็นเพียงมุมมองหนึ่งจากข้างนอกที่มองเข้ามา อาจเป็นประโยชน์ได้บ้าง คิดว่านะ
และขออภัยหากไปกระทบกระทั่งใคร ไม่ได้เจตนาจะเจาะลึกถึงใคร เพราะไม่รู้จักเป็นการส่วนตัวทั้งโลกจริงและเสมือนจริง
ทางแก้ก็คือ รู้ปัญหา - แก้ไข ทุกคนมีความสามารถทั้งนั้น ขั้นแรกที่น่าจะทำคือร่วมมือกันทำให้กติกาเป็นกติกาได้ตลอดเวลา ข้อนี้ก่อน
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 14
กระทู้มีสาระดีครับ น่าเสียดายสายไปสามปี
กระทู้ที่ออกมาตำหนิเช่นนี้สามปีที่แล้วก็มีออกมา เป็นการตำหนิการทำเรื่องหลอกลวงโดยใช้หลายล็อกอินแปลงร่างสร้างเรื่อง สร้างดราม่า
แต่สุดท้ายก็กลับลำกันหมดหลังจากโดนหลังไมค์ถล่ม ต้องยอมรับความหลอกลวงคือความชอบธรรม ส่วนที่ไม่ยอมรับความผิดปกติ ก็จะถูกผลักไปเป็นสลิ่ม
การที่การยอมรับความหลอกลวงคือความชอบธรรม เกิดขึ้นได้สาเหตุน่าจะมาจากการเลือกข้างมีพวกจึงละเลยความถูกต้อง พวกเดียวกันทำอะไรก็ไม่ผิด และเมื่อบอร์ดมีการเปลี่ยนระบบจุดอ่อนตรงนี้จึงถูกครอบงำ ครอบงำโดยทีมงานจัดตั้งที่มีเจตนาไม่บริสุทธิ์ แค่เข้ามารับใช้การเมืองในสื่อโซเชียลเช่นบอร์ดนี้
ปัญหาของการเข้ามาของทีมงานจัดตั้งก็เป็นอีกปัญหาของบอร์ดนี้ โดยเฉพาะกลุ่มที่มีนัยยะแค่รับใช้ฝ่ายการเมือง เพื่อให้ห้องการเมืองอันดับหนึ่งมีแนวทางออกไปในทิศทางเดียวกันที่สมประโยชน์กับฝ่ายการเมืองของตน สร้างกลุ่มก้อนแล้วพวกมากลากไป เพื่อ แถ แหล อวย กลับผิดให้เป็นถูก ให้การเมืองฝั่งตน และปิดกั้นทุกอย่างที่ไม่ใช่แนวทางของตนไม่ว่าวิธีแบบไหน
ขอสะท้อนอีกประเด็นปัญหาของห้องนี้ น่าจะสำรวจตนเองกันบ้าง ว่าต้องสูญเสียอิสระทางความคิดไปกับการเลือกข้างแค่ไหน
และต้องยอมรับความไม่ถูกต้องอะไรไปบ้าง มันใช่แล้วหรือ
กระทู้ที่ออกมาตำหนิเช่นนี้สามปีที่แล้วก็มีออกมา เป็นการตำหนิการทำเรื่องหลอกลวงโดยใช้หลายล็อกอินแปลงร่างสร้างเรื่อง สร้างดราม่า
แต่สุดท้ายก็กลับลำกันหมดหลังจากโดนหลังไมค์ถล่ม ต้องยอมรับความหลอกลวงคือความชอบธรรม ส่วนที่ไม่ยอมรับความผิดปกติ ก็จะถูกผลักไปเป็นสลิ่ม
การที่การยอมรับความหลอกลวงคือความชอบธรรม เกิดขึ้นได้สาเหตุน่าจะมาจากการเลือกข้างมีพวกจึงละเลยความถูกต้อง พวกเดียวกันทำอะไรก็ไม่ผิด และเมื่อบอร์ดมีการเปลี่ยนระบบจุดอ่อนตรงนี้จึงถูกครอบงำ ครอบงำโดยทีมงานจัดตั้งที่มีเจตนาไม่บริสุทธิ์ แค่เข้ามารับใช้การเมืองในสื่อโซเชียลเช่นบอร์ดนี้
ปัญหาของการเข้ามาของทีมงานจัดตั้งก็เป็นอีกปัญหาของบอร์ดนี้ โดยเฉพาะกลุ่มที่มีนัยยะแค่รับใช้ฝ่ายการเมือง เพื่อให้ห้องการเมืองอันดับหนึ่งมีแนวทางออกไปในทิศทางเดียวกันที่สมประโยชน์กับฝ่ายการเมืองของตน สร้างกลุ่มก้อนแล้วพวกมากลากไป เพื่อ แถ แหล อวย กลับผิดให้เป็นถูก ให้การเมืองฝั่งตน และปิดกั้นทุกอย่างที่ไม่ใช่แนวทางของตนไม่ว่าวิธีแบบไหน
ขอสะท้อนอีกประเด็นปัญหาของห้องนี้ น่าจะสำรวจตนเองกันบ้าง ว่าต้องสูญเสียอิสระทางความคิดไปกับการเลือกข้างแค่ไหน
และต้องยอมรับความไม่ถูกต้องอะไรไปบ้าง มันใช่แล้วหรือ
ความคิดเห็นที่ 4
ล้อกอินพวกนี้ ราคาติดลบไม่เท่าไหร่
พวกที่เอินยอล้อกอินเหล่านี้
.. ผมชอบ .. ผมรัก .. คริคริ อิอิ
อ้อล้อกัน ยิ่งทำให้รู้สึกว่า หืมมมม????!!!!!
เหมือนพวก "เปรี้ยวแฟนคลับ"
เห็น "ฆาตกรเป็นฮีโร่" ? รึเปล่า
หลายคน ให้ความสำคัญแค่ "ความสะใจชั่วครั้งชั่วคราว"
*ใครกัดสลิ่มคือเพื่อนกัน*
เวลาเสิ้อแดงทะเลาะกัน มักมีคำๆนึงออกมาให้เห็น
*อุดมการณ์เดียวกัน ไม่อยากให้ทะเลาะกัน*
ขอถาม
คำว่าอุดมการณ์นั้น คืออะไร?
คำว่าอุดมการณ์นั้น คุณมองกันที่ไหน?
อุดมการณ์เดียวกัน แต่นิสัยไม่เหมือนกัน เป็นไปได้
อุดมการณ์ดี แต่นิสัยไม่ดี ก็มีเยอะ
แต่ที่สำคัญ คนบางคน เคยมีอุดมการณ์กับเขาด้วยหรือ??
จำได้สมัยเริ่มแรก เคยตั้งคำถามเอาไว้
คุณหาเพื่อนร่วมอุดมการณ์กันเพื่ออะไร
ถ้าแค่หาพวกพ้องไว้ด่าทอกัน ในโลกไซเบอร์ หาได้ไม่ยากหรอก แค่สมัครล้อกอินเยอะๆ ก็เหมือนมีพวกเยอะละ
ถ้าพูดถึงนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย คุณรวมเราไปได้ทุกเวลา
แต่อย่าเรียกเราว่า เสื้อแดงพันทิบ
ณ วันนี้ ก็ยังคิดแบบนี้อยู่ ขออภัย ที่อาจจะฟังไม่เข้าหูสมาชิกหลายๆท่านที่เคารพ
การเมืองเล็ก สะท้อนการเมืองใหญ่ได้ ฉันใดฉันนั้น
ในเมื่อคนฝักใฝ่การเมือง ยังรู่จักแค่ "พวกใครพวกมัน"
หรือ "พวกเยอะๆไว้ก่อน" มันก็เลยสะท้อนออกมาว่า
เมื่อถึงเวบลาเลือกตั้งจริง คนเหล่านี้
จะยอมรับ*เสียงสกปรก* ที่ทำให้ตัวเองชนะ รึเปล่า?
จะทำทุกวิถีทาง เพื่อเอาชนะรึเปล่า?
จะเลือกคนดี หรือแค่ร่วมกันไม่ให้คนที่เกลียดชนะการเลือกตั้ง?
แค่คำว่า"คนดี" ก็ต้องมีเงื่อนไขอีกว่า คนดีของใคร? ดียังไง? ดีแค่ไหน?
พูดตรงๆ คนที่ปากว่ามีอุดมการณ์เป็นประชาธิปไตย แต่ชอบใช้คำถามนี้ปิดปากคนอื่น
มันทำให้ต้องคิดหนักละว่า อุดมการณ์ประชาธิปไตยประสาอะไร ที่ต้องมาถามหรือวิจารณ์ความชอบ ความนิยม ความต้องการของผู้อื่น
พอดีกว่า ชักออกทะเล
ได้ข่าวน้าไม่ว่าง เมื่อวานกะจะชวนมาร่วมสังฆกรรมอะไรสักหน่อย
เป็นโชคดีของสัมภเวสีไป
พวกที่เอินยอล้อกอินเหล่านี้
.. ผมชอบ .. ผมรัก .. คริคริ อิอิ
อ้อล้อกัน ยิ่งทำให้รู้สึกว่า หืมมมม????!!!!!
เหมือนพวก "เปรี้ยวแฟนคลับ"
เห็น "ฆาตกรเป็นฮีโร่" ? รึเปล่า
หลายคน ให้ความสำคัญแค่ "ความสะใจชั่วครั้งชั่วคราว"
*ใครกัดสลิ่มคือเพื่อนกัน*
เวลาเสิ้อแดงทะเลาะกัน มักมีคำๆนึงออกมาให้เห็น
*อุดมการณ์เดียวกัน ไม่อยากให้ทะเลาะกัน*
ขอถาม
คำว่าอุดมการณ์นั้น คืออะไร?
คำว่าอุดมการณ์นั้น คุณมองกันที่ไหน?
อุดมการณ์เดียวกัน แต่นิสัยไม่เหมือนกัน เป็นไปได้
อุดมการณ์ดี แต่นิสัยไม่ดี ก็มีเยอะ
แต่ที่สำคัญ คนบางคน เคยมีอุดมการณ์กับเขาด้วยหรือ??
จำได้สมัยเริ่มแรก เคยตั้งคำถามเอาไว้
คุณหาเพื่อนร่วมอุดมการณ์กันเพื่ออะไร
ถ้าแค่หาพวกพ้องไว้ด่าทอกัน ในโลกไซเบอร์ หาได้ไม่ยากหรอก แค่สมัครล้อกอินเยอะๆ ก็เหมือนมีพวกเยอะละ
ถ้าพูดถึงนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย คุณรวมเราไปได้ทุกเวลา
แต่อย่าเรียกเราว่า เสื้อแดงพันทิบ
ณ วันนี้ ก็ยังคิดแบบนี้อยู่ ขออภัย ที่อาจจะฟังไม่เข้าหูสมาชิกหลายๆท่านที่เคารพ
การเมืองเล็ก สะท้อนการเมืองใหญ่ได้ ฉันใดฉันนั้น
ในเมื่อคนฝักใฝ่การเมือง ยังรู่จักแค่ "พวกใครพวกมัน"
หรือ "พวกเยอะๆไว้ก่อน" มันก็เลยสะท้อนออกมาว่า
เมื่อถึงเวบลาเลือกตั้งจริง คนเหล่านี้
จะยอมรับ*เสียงสกปรก* ที่ทำให้ตัวเองชนะ รึเปล่า?
จะทำทุกวิถีทาง เพื่อเอาชนะรึเปล่า?
จะเลือกคนดี หรือแค่ร่วมกันไม่ให้คนที่เกลียดชนะการเลือกตั้ง?
แค่คำว่า"คนดี" ก็ต้องมีเงื่อนไขอีกว่า คนดีของใคร? ดียังไง? ดีแค่ไหน?
พูดตรงๆ คนที่ปากว่ามีอุดมการณ์เป็นประชาธิปไตย แต่ชอบใช้คำถามนี้ปิดปากคนอื่น
มันทำให้ต้องคิดหนักละว่า อุดมการณ์ประชาธิปไตยประสาอะไร ที่ต้องมาถามหรือวิจารณ์ความชอบ ความนิยม ความต้องการของผู้อื่น
พอดีกว่า ชักออกทะเล
ได้ข่าวน้าไม่ว่าง เมื่อวานกะจะชวนมาร่วมสังฆกรรมอะไรสักหน่อย
เป็นโชคดีของสัมภเวสีไป
แสดงความคิดเห็น
ตั้งกระทู้การเมือง โดนลบไปแล้ว 14 ล๊อคอิน งั้นตั้งกระทู้ดราเมติคดีกว่า..............โบกกรัก
เพื่อที่จะไม่โดนยึดล๊อคอิน ผมอ่านแล้วไม่ใช่แค่สมเพช แต่ ขอสาธุในความคิดที่มันวิปลาส ที่ ผิดเพี้ยน
ไปจากวัฒนธรรมของคนห้องราชดำเนินที่ผมได้เห็นมาเกิน 10 ปีแล้ว
1-2 ปีที่ผ่านมานี้ วัฒนธรรมคนราชดำเนินเริ่มเปลี่ยนไปเช่นนั้นหรือ จะยกหางตัวเอง จะหมิ่นใครคนที่
เห็นต่าง เมื่อก่อนพวกเขาต้องด่าแบบกล้าให้ยึดล๊อคอิน ต้องแสดงตัวตนว่าเขาเป็นใคร นั่นเพราะอดึต
ทุกตัวตนต้องเปิดหน้ากากแลก ต้องกล้าได้กล้าเสีย จะวิจารณ์ใครเขา ถ้าถูกต้องก็ได้รับความชื่นชม
แต่ถ้าผิด ต้องให้สังคมราชดำเนินประนาม
ทุกวันนี้มันเปลี่ยนไป จะด่า หรือ หมิ่นประมาทใคร พวกนี้ต้องใช้ล๊อคอินตัวเลข จะยกหางให้ตัวเอง ก็
ต้องเป็นคนที่สมาชิกห้องนี้ไม่สามารถพิสูจน์ทราบตัวตนได้
ล๊อคอินตัวเลข เม้นท์กันไปเป็นร้อยจนสุดท้าย wm ลบกระทู้ เพราะ ล๊อคอินตัวเลขพวกนี้อ้างขื่อคนโน้น คนนี้
และ หมื่นประมาทชื่อกันไปมาเป็นร้อยเม้นท์ อ้างชื่อสมาชิกเมื่อไหร่ wm ก็ลบหมดครับ การโดนลบกระทู้ หรือ
โดนฟลัดกระทู้ เพราะ ล๊อคอินตัวเลขหมื่นประมาทล๊อคอินตัวตนทั้งนั้น
ตรรกะผิดเพื้ยนมาก ๆ ที่สำคัญในเฟสบุ๊ค คนราชดำเนินบางคนกลับแนะนำเพื่อนคนอื่นว่า ถ้าจะด่าใครให้
เปลี่ยนเป็นล๊อคอินตัวเลขก่อน ........... ผมว่าคน ๆ นี้ เลว คน ๆ นี้ กล้าแทงคนอื่นลับหลังได้เสมอ
ขอโทษ เมืองไทยเรียก "ไม่ใช่นักเลง" แค่กับตัวตนยังไม่กล้าเปิดเผย คนแบบนี้ ภาษาอังกฤษ เขาเรียกว่า
face-body-wife ครับ ประนามใคร กล่าวหาใคร แก้ตัวแทนตัวเอง เปิดหน้ามาคุยกันครับว่าตัวเองแก้ต่างเอง
ผมโดนยึดล๊อคอินมาเยอะ เพราะ วิจารณ์เยอะ แต่ก็ทนครับเพราะอยู่ห้องนี้มานานมาก แต่ไม่เคยมี 2 ล๊อคอิน
ในเวลาเดียวกัน
ทุกวันนี้ ผม โบกกรัก ล๊อคอินที่โดนยึดมา 14 ล๊อคอินแล้ว แต่ผมไม่กล้าไปอวตาร ไปแอบสร้างล๊อคอินอวย
หรือ ล๊อคอินหมื่นตัวเลขอันใหม่ ไม่กล้าอวตารแล้วมาตั้งกระทู้แก้ต่างแทนตัวเองแบบโนเนมเหมือนคนบ้าบางคน
ผมอยากจะบอกสมาชิกห้องราชดำเนินว่า อย่าไปเชื่อ หรือ อย่าไปให้ราคา ล๊อคอินคนไหน ที่ไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร
เขาแค่ไปซื้อซิมอันเดียว มันถูกไปกับราคาความเชื่อของเราครับ
คนพวกนี้ พวกเขาราคาถูกเหมือนราคาซิม 7-11 นั่นแปลว่า ราคาคนพวกนี้ ไม่เกินร้อยบาทครับ เงินร้อยบาท คง
ไม่สามารถเปลี่ยนความคิดของคนราชดำเนินได้ และ ไม่สามารถชี้นำพวกเราได้ ขอได้โปรดพิจารณา
ถ้าเราไปโต้เแย้งเจ้าของกระทู้ตัวเลข ไปด่าเจ้าของกระทู้ตัวเลขที่ไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร สุดท้ายกระทู้โดนลบ ล๊อคอิน
คุณโดนยึดแน่ อยากจะเรียนถามว่า มันคุ้มหรือไม่ เมื่อล๊อคอินเก่าแก่ของคุณแลกกับเงิน 100 บาท
ราคา ล๊อคอินโนเนม ที่มาแก้ต่าง ที่มาฟลัดกระทู้ ที่มาหมิ่นประมาทบุคคล ปล่อยให้มันโดดเดี่ยว แห้งเฉาตายไป
ดีกว่าครับ ถ้าสมาชิกไม่ตอบ ไม่ให้ราคาคนพวกนี้ ไม่นาน มันก็จะตายหายไปจากห้องราชดำเนินด้วยตัวของเอง
ด้วยความเคารพในวิจารณญาน และ สามัญสำนึก ของสมาชิกทุกท่าน
ราตรีสวัสดิ์ และ ขอบคุณ
โบกกรัก