กระทู้นี้เป็นกระทู้ที่ 2 ของผมครับ จากกระทู้แรกที่เขียนเรื่อง
"ทำงานอย่างไรถึงจะประสบความสำเร็จ" ซึ่งผมดีใจมากครับที่มีคนมาตอบ
มาพูดคุยกันเกือบ 20 คอมเมนต์ ถึงแม้บางคนอาจจะมองว่า
ผมโลกสวยเกินไปหรือปล่าว ? อายุแค่ 30 ปี มาพูดเรื่องความสำเร็จได้หรอ ?
พูดแบบนี้แสดงว่ายังไม่เคยเจอโลกการทำงานที่แท้จริง ? หรือบางส่วนก็ให้
กำลังใจกันซึ่งผมขอขอบพระคุณมากครับ ผมเองเคารพทุกความคิดเห็นครับ
เพราะอย่างที่พูดไปแล้วว่าประสบการณ์ของแต่ละคนมันต่างกัน
ในส่วนที่ผมเอามาเล่าก็เป็นประสบการณ์ในส่วนที่ผมพบเจอมาครับ
หากท่านใดจะเอาไปปรับใช้ก็ยินดีและหวังเป็นอย่างยิ่งว่าสิ่งที่ผมเขียน
จะเป็นประโยชน์ต่อท่านไม่มากก็น้อย ผมเชื่อเสมอว่า "ผลงานที่ดี"
ย่อมออกมาจากคนที่คิดดี พูดดี ทำดี
เข้าเรื่องที่อยากจะพูดในวันนี้เลยดีกว่าครับ อย่างที่บอกไปแล้วว่าผมเป็น
"เจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคล" หรือ HR ตัวเล็กๆ ถึงแม้หน้าที่รับผิดชอบจะไม่เกี่ยว
กับการสัมภาษณ์งานสักเท่าไหร่อาจจะมีเฉี่ยวๆ ไปช่วยงานเขาบ้าง ถ้าเขา
ต้องการความช่วยเหลือ ดังนั้นประสบการณ์ที่จะมาแชร์จึงไม่ใช่ประสบการณ์
ในฐานะ HR ผู้สัมภาษณ์งานนะครับ แต่เป็นประสบการณ์ของคนที่ได้ฟัง
HR ผู้สัมภาษณ์งานบ่นให้ฟังบ่อยๆ (555) และในฐานะที่ผมเองทำงานมา 8 ปี
กับ 2 บริษัทและผ่านการสัมภาษณ์งานมา 8 ครั้ง
1.ประวัติการทำงาน (Resume' หรือ CV) ควรเขียนให้ถูกต้องทั้งภาษาไทย
และภาษาอังกฤษโดยเฉพาะภาษาไทย พยายามหลีกเลี่ยงภาษาพูดและใช้
ภาษาเขียนอย่างเป็นทางการ ตรวจสอบความถูกต้องให้ดีก่อนที่จะส่งให้ HR
เพราะขนาด Resume' ยังเขียนถูกๆผิดๆ แล้วถ้ามาทำงานจะไหวหรอ
(HR บางที่อาจจะไม่ซีเรียสในส่วนนี้ แต่ผมว่าเขียนให้ถูกจะดีกว่า)
จริงๆ เรื่อง Resume' มีเคล็ดลับมากมาย ที่อยากจะบอก แต่ว่ามันใช่ประเด็น
หลักของวันนี้ ซึ่งหากมีโอกาสจะเขียนเรื่อง Resume' สักครั้งครับ
2.การแต่งกาย ควรแต่งกายสุภาพ เรียบร้อย ให้เกียรติสถานที่ และเหมาะสม
กับตำแหน่งงาน (ถ้างานศิลปะก็อาจจะแต่งแนว เรอเนสซอง ได้ 555)
สำหรับผู้ชายก็ใส่เสื้อเชิ๊ตแขนยาวสีเรียบๆ กางเกงสแลคสีดำ รองเท้าคัทชู
ส่วนผู้หญิงจะกางเกงขาวยาวหรือกระโปรงแบบสุภาพก็ได้ แต่ไม่ต้องถึงกับ
ผูกไทด์ใส่สูทก็ได้ 555 (อันนี้ก็เวอร์ไปหน่อย) เพราะมีหลายคน
แต่งตัวมาสัมภาษณ์งานไม่ค่อยเหมาะสม เช่น ผมยาวรุงรัง เสื้อผ้าหน้าผม
ไม่เรียบร้อย ซึ่งมันส่งผลต่อบุคลิกภาพของเรานะครับ สำหรับผมเอง เวลาจะ
สัมภาษณ์งาน จะตัดผมก่อน 1 อาทิตย์ให้มันยาวนิดหน่อย ถ้าสั้นเกินจะขาด
ความมั่นใจ เลือกเสื้อผ้าที่ใส่แล้วมั่นใจ
3.การไปถึงสถานที่สัมภาษณ์ก่อนเวลานัดหมาย ปกติผมจะไปถึงก่อนเวลา
ประมาณ 1 ชั่วโมง (สำหรับสถานที่ที่เรารู้จักและไปถูกแน่นอน แต่ถ้าบริษัท
หรือสถานที่ที่เราไม่รู้จัก ผมจะมาด้อมๆมองๆก่อนวันสัมภาษณ์ ป้องกันการ
หลงทาง หรือมาไม่ถูก) พอมาถึงก่อนเวลา เราก็มีเวลาเตรียมตัว ซึ่งอาจจะ
รอข้างนอกบริษัท หรือเข้าไปรอที่บริเวณโถงรับแขกของบริษัทก็ได้ครับ
การมารอก่อน ทำให้เรามีเวลาเตรียมตัวอีกนิดหน่อย (ทั้งที่ก่อนหน้านี้เรา
เตรียมตัวมาอย่างดีทั้งคืนแล้ว อย่าลืมว่าคนที่เตรียมที่ดีเท่านั้น ถึงจะได้งาน)
เตรียมสัมภาษณ์ภาษาอังกฤษอีกซักรอบ ซักซ้อมให้มั่นใจ และเข้าห้องน้ำให้
เรียบร้อย ดื่มน้ำใหัสดชื่น ช่วยลดความตื่นเต้นได้ (ปวดฉี่ในห้องสัมภาษณ์
ล่ะแย่เลย) หรือรับประทานอาหารมาให้เรียบร้อย แต่อย่ากินจนอิ่มมากนะ
เดี๋ยวจะง่วง
4.การตอบคำถามในการสัมภาษณ์ ตอบด้วยถ้อยคำที่ชัดเจน ช้าๆ ชัดๆ
แต่ไม่ช้ามากจนชวนหลับ หรือเร็วเกินไปจนฟังไม่ทัน ตั้งสติไว้ อย่าลนลาน
ตอบคำถามตามความเป็นจริงให้มากที่สุด (หรือมโนได้ แต่อย่าให้เวอร์)
มีประสบการณ์ด้านไหนมา ก็เล่าไปตามจริง ตอบคำถามตามความคิด
และความจริง (เพราะอะไรน่ะ หรอ ? เพราะเราไม่รู้หรอกว่าตอบแบบไหน
แล้วจะได้งาน อย่าคิดไปเองว่าตอบแบบมโนไปแล้วจะดี ดังนั้นตอบตาม
ความจริง ดีที่สุด แต่มโนสร้างภาพนิดหน่อยได้ 555)
5.การนำเสนอตัวเอง ถ้าผู้สัมภาษณ์เปิดโอกาสให้เราพรีเซนต์ตัวเอง
เราต้องจับหลักให้ได้ ว่าหน้าที่หลักๆ ของตำแหน่งที่เรามาสัมภาษณ์
คืออะไร เอามาเชื่อมโยงกับประสบการณ์ของเราให้ได้ (อันนี้สำคัญ)
เช่น สมัครตำแหน่งเจ้าหน้าที่ความปลอดภัย (จป.) ก็พยายามหาจุด
เชื่อมโยง เช่น มีประสบการณ์ในการควบคุมการทำงานของผู้รับเหมา
มีประสบการณ์ในการวิเคราะห์อุบัติเหตุ เคยเข้าร่วมประกวดสถาน
ประกอบการดีเด่นด้านความปลอดภัย เป็นผู้รับผิดชอบในการซ้อม
อพยพหนีไฟประจำปี เป็นต้น
หรือ อย่างผมสมัครตำแหน่ง HR ผมก็ขายของไปสิว่า เคยทำงาน
ร่วมกับสหภาพแรงงานมากว่า 5 ปี มีความรู้ด้านกฎหมายแรงงาน
เคยร่วมเจรจาข้อเรียกร้อง เป็นที่ปรึกษาด้านแรงงาน เป็นต้น
จริงๆ อยากได้ความรู้จากเจ้าหน้าที่สรรหาและว่าจ้างมากกว่าครับ
และคิดว่าผู้สมัครงานมือใหม่ก็อยากจะรู้เช่นกัน ท่านใดมีจิตเมตตา
จะช่วยแชร์ประสบการณ์ก็ยินดีเป็นอย่างยิ่งครับ
แบ่งปัน : สัมภาษณ์งานอย่างไรให้ประสบความสำเร็จ
"ทำงานอย่างไรถึงจะประสบความสำเร็จ" ซึ่งผมดีใจมากครับที่มีคนมาตอบ
มาพูดคุยกันเกือบ 20 คอมเมนต์ ถึงแม้บางคนอาจจะมองว่า
ผมโลกสวยเกินไปหรือปล่าว ? อายุแค่ 30 ปี มาพูดเรื่องความสำเร็จได้หรอ ?
พูดแบบนี้แสดงว่ายังไม่เคยเจอโลกการทำงานที่แท้จริง ? หรือบางส่วนก็ให้
กำลังใจกันซึ่งผมขอขอบพระคุณมากครับ ผมเองเคารพทุกความคิดเห็นครับ
เพราะอย่างที่พูดไปแล้วว่าประสบการณ์ของแต่ละคนมันต่างกัน
ในส่วนที่ผมเอามาเล่าก็เป็นประสบการณ์ในส่วนที่ผมพบเจอมาครับ
หากท่านใดจะเอาไปปรับใช้ก็ยินดีและหวังเป็นอย่างยิ่งว่าสิ่งที่ผมเขียน
จะเป็นประโยชน์ต่อท่านไม่มากก็น้อย ผมเชื่อเสมอว่า "ผลงานที่ดี"
ย่อมออกมาจากคนที่คิดดี พูดดี ทำดี
เข้าเรื่องที่อยากจะพูดในวันนี้เลยดีกว่าครับ อย่างที่บอกไปแล้วว่าผมเป็น
"เจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคล" หรือ HR ตัวเล็กๆ ถึงแม้หน้าที่รับผิดชอบจะไม่เกี่ยว
กับการสัมภาษณ์งานสักเท่าไหร่อาจจะมีเฉี่ยวๆ ไปช่วยงานเขาบ้าง ถ้าเขา
ต้องการความช่วยเหลือ ดังนั้นประสบการณ์ที่จะมาแชร์จึงไม่ใช่ประสบการณ์
ในฐานะ HR ผู้สัมภาษณ์งานนะครับ แต่เป็นประสบการณ์ของคนที่ได้ฟัง
HR ผู้สัมภาษณ์งานบ่นให้ฟังบ่อยๆ (555) และในฐานะที่ผมเองทำงานมา 8 ปี
กับ 2 บริษัทและผ่านการสัมภาษณ์งานมา 8 ครั้ง
1.ประวัติการทำงาน (Resume' หรือ CV) ควรเขียนให้ถูกต้องทั้งภาษาไทย
และภาษาอังกฤษโดยเฉพาะภาษาไทย พยายามหลีกเลี่ยงภาษาพูดและใช้
ภาษาเขียนอย่างเป็นทางการ ตรวจสอบความถูกต้องให้ดีก่อนที่จะส่งให้ HR
เพราะขนาด Resume' ยังเขียนถูกๆผิดๆ แล้วถ้ามาทำงานจะไหวหรอ
(HR บางที่อาจจะไม่ซีเรียสในส่วนนี้ แต่ผมว่าเขียนให้ถูกจะดีกว่า)
จริงๆ เรื่อง Resume' มีเคล็ดลับมากมาย ที่อยากจะบอก แต่ว่ามันใช่ประเด็น
หลักของวันนี้ ซึ่งหากมีโอกาสจะเขียนเรื่อง Resume' สักครั้งครับ
2.การแต่งกาย ควรแต่งกายสุภาพ เรียบร้อย ให้เกียรติสถานที่ และเหมาะสม
กับตำแหน่งงาน (ถ้างานศิลปะก็อาจจะแต่งแนว เรอเนสซอง ได้ 555)
สำหรับผู้ชายก็ใส่เสื้อเชิ๊ตแขนยาวสีเรียบๆ กางเกงสแลคสีดำ รองเท้าคัทชู
ส่วนผู้หญิงจะกางเกงขาวยาวหรือกระโปรงแบบสุภาพก็ได้ แต่ไม่ต้องถึงกับ
ผูกไทด์ใส่สูทก็ได้ 555 (อันนี้ก็เวอร์ไปหน่อย) เพราะมีหลายคน
แต่งตัวมาสัมภาษณ์งานไม่ค่อยเหมาะสม เช่น ผมยาวรุงรัง เสื้อผ้าหน้าผม
ไม่เรียบร้อย ซึ่งมันส่งผลต่อบุคลิกภาพของเรานะครับ สำหรับผมเอง เวลาจะ
สัมภาษณ์งาน จะตัดผมก่อน 1 อาทิตย์ให้มันยาวนิดหน่อย ถ้าสั้นเกินจะขาด
ความมั่นใจ เลือกเสื้อผ้าที่ใส่แล้วมั่นใจ
3.การไปถึงสถานที่สัมภาษณ์ก่อนเวลานัดหมาย ปกติผมจะไปถึงก่อนเวลา
ประมาณ 1 ชั่วโมง (สำหรับสถานที่ที่เรารู้จักและไปถูกแน่นอน แต่ถ้าบริษัท
หรือสถานที่ที่เราไม่รู้จัก ผมจะมาด้อมๆมองๆก่อนวันสัมภาษณ์ ป้องกันการ
หลงทาง หรือมาไม่ถูก) พอมาถึงก่อนเวลา เราก็มีเวลาเตรียมตัว ซึ่งอาจจะ
รอข้างนอกบริษัท หรือเข้าไปรอที่บริเวณโถงรับแขกของบริษัทก็ได้ครับ
การมารอก่อน ทำให้เรามีเวลาเตรียมตัวอีกนิดหน่อย (ทั้งที่ก่อนหน้านี้เรา
เตรียมตัวมาอย่างดีทั้งคืนแล้ว อย่าลืมว่าคนที่เตรียมที่ดีเท่านั้น ถึงจะได้งาน)
เตรียมสัมภาษณ์ภาษาอังกฤษอีกซักรอบ ซักซ้อมให้มั่นใจ และเข้าห้องน้ำให้
เรียบร้อย ดื่มน้ำใหัสดชื่น ช่วยลดความตื่นเต้นได้ (ปวดฉี่ในห้องสัมภาษณ์
ล่ะแย่เลย) หรือรับประทานอาหารมาให้เรียบร้อย แต่อย่ากินจนอิ่มมากนะ
เดี๋ยวจะง่วง
4.การตอบคำถามในการสัมภาษณ์ ตอบด้วยถ้อยคำที่ชัดเจน ช้าๆ ชัดๆ
แต่ไม่ช้ามากจนชวนหลับ หรือเร็วเกินไปจนฟังไม่ทัน ตั้งสติไว้ อย่าลนลาน
ตอบคำถามตามความเป็นจริงให้มากที่สุด (หรือมโนได้ แต่อย่าให้เวอร์)
มีประสบการณ์ด้านไหนมา ก็เล่าไปตามจริง ตอบคำถามตามความคิด
และความจริง (เพราะอะไรน่ะ หรอ ? เพราะเราไม่รู้หรอกว่าตอบแบบไหน
แล้วจะได้งาน อย่าคิดไปเองว่าตอบแบบมโนไปแล้วจะดี ดังนั้นตอบตาม
ความจริง ดีที่สุด แต่มโนสร้างภาพนิดหน่อยได้ 555)
5.การนำเสนอตัวเอง ถ้าผู้สัมภาษณ์เปิดโอกาสให้เราพรีเซนต์ตัวเอง
เราต้องจับหลักให้ได้ ว่าหน้าที่หลักๆ ของตำแหน่งที่เรามาสัมภาษณ์
คืออะไร เอามาเชื่อมโยงกับประสบการณ์ของเราให้ได้ (อันนี้สำคัญ)
เช่น สมัครตำแหน่งเจ้าหน้าที่ความปลอดภัย (จป.) ก็พยายามหาจุด
เชื่อมโยง เช่น มีประสบการณ์ในการควบคุมการทำงานของผู้รับเหมา
มีประสบการณ์ในการวิเคราะห์อุบัติเหตุ เคยเข้าร่วมประกวดสถาน
ประกอบการดีเด่นด้านความปลอดภัย เป็นผู้รับผิดชอบในการซ้อม
อพยพหนีไฟประจำปี เป็นต้น
หรือ อย่างผมสมัครตำแหน่ง HR ผมก็ขายของไปสิว่า เคยทำงาน
ร่วมกับสหภาพแรงงานมากว่า 5 ปี มีความรู้ด้านกฎหมายแรงงาน
เคยร่วมเจรจาข้อเรียกร้อง เป็นที่ปรึกษาด้านแรงงาน เป็นต้น
จริงๆ อยากได้ความรู้จากเจ้าหน้าที่สรรหาและว่าจ้างมากกว่าครับ
และคิดว่าผู้สมัครงานมือใหม่ก็อยากจะรู้เช่นกัน ท่านใดมีจิตเมตตา
จะช่วยแชร์ประสบการณ์ก็ยินดีเป็นอย่างยิ่งครับ