หลังจากส่งรายงานตัวสุดท้ายเป็นที่เรียบร้อย ก็ได้เวลาที่จะเริ่มทริป 2 อาทติย์เสียที โดยทริปนี้มีผู้ร่วมทริปด้วยกันทั้งหมด 5 ชีวิตครับ เราจะเริ่มเที่ยวกันตั้งแต่ Portugal - Spain - Italy กันยาวๆเลย โดยเริ่มจากตั้งแต่วันที่ 13 กย. 2017 - 27 กย. 2017 ครับ

ติดตามตอนอื่นๆได้ที่ตามลิงค์:
ตอนที่ 1 : ชีวิตนักเรียน -- https://ppantip.com/topic/36955509
ตอนที่ 2 : Greece -- https://ppantip.com/topic/36956716
ตอนที่ 3 : Iceland -- https://ppantip.com/topic/36957829
ตอนที่ 5 : Spain -- https://ppantip.com/topic/36959343
ตอนที่ 6 : Italy -- https://ppantip.com/topic/36960249

เริ่มกันที่ประเทศแรก Portugal ตามสูตรครับเราเลือกใช้บริการของสายการบิน EasyJet จากสนามบิน Gatwick  มาลงที่สนามบิน Francisco Sá Carneiro Airport ที่ Porto ครับ จากนั้นเราก็ใช้บริการ Uber ที่เราคุ้นเคยยิงตรงไปที่พักเลย ซึ่งด้วยเรามีการ 5 คน + สัมภาระ ทำให้เราต้องเรียก Uber ถึง 2 คันครับ ปล. ตามที่เคบบอกไปครับที่ยุโรปส่วนใหญ่จะไม่มี Uber XL เหมือนในอังกฤษ ถ้าอยากได้คันใหญ่ไปด้วยกันอาจต้องลองดู Taxi ที่จอดรับในสนามบิน ไม่แน่ใจว่าวิธีไหนถูกกว่ากัน

วันที่ 13
การเที่ยวในเมือง Porto ส่วนใหญ่เราใช้การเดินเท้าครับ หรือ ถ้าไม่ไหวจริงๆก็มีอีกวิธีคือ Uber โดยที่แรกที่เราไปก็คือ São Bento Train Station ซึ่งตกแต่งด้านในด้วยกระเบื้องที่มีลายเป็นเอกลักษณ์ของที่นี่
ด้านซ้ายมือก็คือสถานีรถไฟที่เรากำลังตามหาครับ
ด้านในสถานีก็มีนักท่องเที่ยว มาเก็บภาพผนังที่เป็นเอกลักษณ์ครับ
จากนั้นเราก็เดินต่อไปยัง ร้านหนังสือ Lello & Irmão โดยระหว่างทางเราก็ผ่าน Clérigos Church ซึ่งตอนนั้นไม่แน่ใจว่าเขาทำพิธีอะไรอยู่นะครับ คนเยอะมาก
หลังคาบ้านที่นี่ส่วนใหญ่ก็มีสีออกไปในโทนเดียวกันคือ สีออกส้มๆ
เดินมาเรื่อยๆเราก็มาถึงร้านหนังสือ Lello & Irmão ซึ่งการจะเข้าร้านได้นั้นเราต้องเสียค่าเข้าประมาณ 3  ยูโร โดยจุดขายตั๋วจะต้องเดินไปซื้ออาคารข้างๆนะครับ ด้านในก็ตามรูปเลยครับ คนเยอะมากกกกก ถ่ายรูปยังไก็ติดคนครับ
สถานที่ต่อไปที่เราจะไปก็คือ สะพาน PonteDomLuís ซึ่งเป็นสะพานข้ามแม่น้ำ Douro River โดยตัวสะพานนั้นมีการออกแบบที่คล้ายกับ Eiffel Tower ครับ โดยรู้สึกว่าจะใช้วิศวกรผู้สร้างคนเดียวกัน ชั้นแรกของสะพานจะให้รถทั่วไปวิ่งครับ ส่วนชั้นบนเป็นรถราง สะพานคือด้านซ้ายมือของรูปครับ ซึ่งเรากำลังจะเดินลงไปด้านล่าง
ตลอดเส้นทางของแม่น้ำก็จะมีร้านอาหาร บาร์ คอยให้บริการครับ
หลังจากใช้เวลาดื่มด่ำบรรยากาศโดยรอบสักพักใหญ่ พวกเราก็เกือบถอดใจไม่ขึ้นไปบนสะพานอีกด้านแล้วเพราะดูไกลเหลือเกิน แต่ทำไงได้ครับ มาแล้วก็ต้องลุย
วิวชั้นแรกของสะพานครับ ซึ่งจะเห็น cable car อยู่ไกลๆ (ค่าขึ้นน่าจะประมาณ 5 - 6 ยูโร ครับ)
สุดท้ายรอก็เดินเรื่อยๆมาจนถึงครับ ถึงแม้จะมีบางช่วงที่ทางชัน แต่ก็ไม่ได้ยากและใกล้ขนาดนั้นครับ
เมื่อขึ้นมา เราก็พบว่ามีนักท่องเที่ยวเยอะแยะไปหมดขึ้นมารอดูพระอาทิตย์ตก บรรยากาศโรแมนติกดีครับ
จากนั้นเราก็เดินข้ามสะพานจากชั้นบนกลับมาฝั่งเดิมเพื่อทานข้าวเย็นและเรียก Uber กลับที่พัก