สวัสดีค่ะ....วันนี้จะมาเล่าประสบการณ์ในการมาใช้บริการที่โรงพยาบาลย่านเพชรบุรีตัดใหม่ ที่เราค่อนข้างประทับใจบริการและยังมีเรื่องการใช้สิทธิการรักษาพยาบาลร่วมได้ด้วย  คิดว่าน่าจะมีประโยชน์กับเพื่อนๆ ในห้องนี้ที่อาจจะยังไม่ทราบกัน (เพราะเห็นพยาบาลเค้าบอกว่าเพิ่งเปิดได้ไม่นาน)
ขอเล่าต้นเหตุที่ต้องเข้าโรงพยาบาลนิดนึง เราขับรถไปหาเพื่อนเพื่อทำธุระแถวๆ เพชรบุรีตัดใหม่นี่แหละ พอทำธุระเสร็จก็วนหาของกินเพราะจะบ่าย 2 แล้ว เลยแวะฟู๊ดแลนด์ แต่ตอนเดินออกมาที่จอดรถ เกิดลื่นแล้วขาพลิก จริงๆ ก็เกิดจากความซุ่มซ่ามของเราเองนี่แหละ เฮ้อ.... ปวดข้อเท้ามากเลย มันก็ดูเหมือนไม่เป็นอะไรจากภายนอก แต่เวลาลงน้ำหนักมันจะเจ็บแปล๊บขึ้นมา เลยตัดสินใจหาโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด เปิด google map กันเลย เห็นว่าโรงพยาบาลเพชรเวชนี่ใกล้สุดแล้ว ก็เลยขับมาเลาะมาเรื่อยๆ พอเห็นป้ายมีโรงพยาบาลก็เริ่มชะลอรถ ทางเข้าโรงพยาบาลค่อนข้างแคบ ต้องรอสัญญาไฟให้รถลงมาก่อนถึงจะขึ้นไปหาที่จอดได้ ระหว่างวนรถขึ้นที่จอดรถได้ยินเสียงจากลำโพงบอกว่าชั้นไหนว่าง และมี รปภ. รอโบกรถให้อยู่ หลังจากจอดรถเรียบร้อยต้องลงไปถามประชาสัมพันธ์ก่อนที่ชั้น 1 เพราะไม่รู้ต้องทำไงบ้าง ไม่เคยมาโรงพยาบาลนี้


ประชาสัมพันธ์ก็ถามเราว่า “เป็นอะไรมาคะ มีสิทธิการรักษาอะไรบ้างคะ”
... เอ่อ คือ ลื่น...ข้อเท้าพลิกค่ะ...แล้วก็มีประกันอุบัติเหตุ กับเบิกค่ารักษาพยาบาลบริษัทได้ค่ะ
ประชาสัมพันธ์หันไปเรียกบุรุษพยาบาลให้เอารถมาให้และบอกว่า “เชิญที่พรีเมี่ยมคลินิกชั้น 16 เลยค่ะ เป็นคลินิกเปิดใหม่ค่ะ”
.... โอ่ววววว เดี๋ยวค่ะ ค่ารักษาจะแพงไหมคะ
ประชาสัมพันธ์เค้าก็แจ้งประมาณว่า พรีเมี่ยมคลินิก เป็นคลินิกที่ให้บริการแก่ผู้ป่วยชำระเงินเอง, เบิกประกันและผู้ป่วยประกันสังคมที่ใช้สิทธิ์ร่วมกับประกันโดยไม่ต้องจ่ายส่วนเกินใดๆ
... งั้นลองดูก็ได้ค่ะ







รอลิฟต์นานไปหน่อย เห็นมีแค่ 2 ตัว แต่คนใช้ค่อนข้างเยอะ พอขึ้นไปถึงชั้น 16 ... “ใหม่จัง” (แหง๋สิก็เค้าเพิ่งเปิดใหม่อ่ะ) แต่ก็ไม่ได้เหม็นสีหรืออะไรเลยนะ มีพยาบาลเข้ามาต้อนรับถามอาการเบื้องต้น แล้วถามเหมือนเดิมว่ามีประกันอะไรไหมคะ ขอบัตรประชาชน ถ่ายรูปทำประวัติหน่อยค่ะ แล้วก็กรอกประวัติให้ด้วย แต่จริงๆ เราว่าเค้าน่าจะมีการติดต่อเบื้องต้นจากประชาสัมพันธ์ข้างล่างที่ได้สอบถามเบื้องต้นจากลูกค้าไปแล้ว หรือบุรุษพยาบาลที่เข็นเรามาน่าจะรับข้อมูลเบื้องต้นมาเพื่อแจ้ง พูดซ้ำอีกรอบแต่ก็ไม่เป็นไร มันก็แค่นิดหน่อย




จากนั้นเค้าก็ให้เรานั่งรอเรียกเพื่อเข้าห้องคัดกรองผู้ป่วย ไม่เกิน 5 นาที สอบถามอาการอย่างละเอียด วันนี้มาพบหมอเป็นอะไรมา เป็นมากี่วัน ต้องการพบแพทย์คนไหนเป็นพิเศษไหม (รีเควสหมอที่เราต้องการได้ด้วย) ต้องการใบรับรองแพทย์ไหมคะ ถามไปพร้อมๆ กับการตรวจค่าเบื้องต้น วัดความดัน อุณหภูมิร่างกาย การหายใจ ค่าออกซิเจนในเลือด ส่วนสูง น้ำหนัก วัดค่า BMI ให้ด้วย จากนั้นพยาบาลก็เข็นรถไปที่หน้าห้องตรวจแล้วบอกว่ารอสักครู่นะคะ




รอเข้าห้องตรวจก็สักพักใหญ่อยู่เหมือนกันก็เลย รู้สึกอยากเข้าห้องน้ำก็เลยจะลุกเดินไปห้องน้ำ แต่พยาบาลคงเห็นว่าหันไปหันมาละมั้ง เลยเดินปรี่เข้ามาหาแล้วถามว่าจะไปไหนคะ ได้แต่ตอบไปอย่างเขินๆ ว่า “จะเข้าห้องน้ำค่ะ อยากเดินด้วย เมื่อยก้น” และก็ยิ้มอ่อนให้พยาบาล 555+ แต่พยาบาลก็ยังเข็นไปถึงห้องน้ำคนพิการ แต่เราอยากเข้าห้องน้ำคนปกติมากกว่า เลยบอกว่าจอดตรงนี้แหละค่ะขอเข้าห้องน้ำธรรมดา ^^ ห้องน้ำสะอาดดูดีกว่าห้องน้ำที่บ้านอีก




พอเสร็จธุระก็มารอหน้าห้องตรวจเหมือนเดิม นั่งไปสักพักไม่มีไรทำและดูเหมือนจะรอนาน เพราะเห็นคนนั่งรอหน้าห้องตรวจเยอะ เลยถามพยาบาลด้วยความสงสัยว่า ที่นี่มีกี่แผนก เห็นห้องเยอะไปหมด พยาบาลก็บอกว่ามีเกือบครบทุกอย่างเลยค่ะ แล้วก็ชี้บอกว่าตรงนั้นเป็นห้องหัตถการ ฉีดยาให้น้ำเกลือ รวมถึงดูอาการ มีแผนกสูตินารี ห้องตรวจเลือด แผนกการเงิน จ่ายยา โน่นนี่นั่น เหมือนเป็น One stop service อะไรทำนองนั้น คือเราก็จำได้ไม่หมดนะว่ามีแผนกอะไรอีกบ้าง จำได้แค่พยาบาลบอกว่าไม่มีแผนกกุมารเวชแผนกเดียว เด็กมีภูมิคุ้มกันน้อยกว่าเลยแยกไป

แล้วก็มีเสียงเรียกชื่อเรา เออ...ได้เข้าห้องตรวจสักที (จะว่าไปรอตรวจประมาณ 10 นาทีได้) หมอก็ถามว่าเป็นอะไรยังไง เราก็บอกเหตุการณ์ความซุ่มซ่ามของเราไปพร้อมกับบอกว่าปวดตรงไหน แล้วหมอก็จับตรงที่บอกว่าปวด เราก็ร้องเจ็บ (ก็เจ็บจริงๆ) “งั้นเดี๋ยวหมอให้ไปเอกซเรย์ดูก่อนนะ” พยาบาลก็เข็นเราไปห้องเอกซเรย์ รอแปปนึง ไม่ถึง 5-10 นาที ก็เสร็จ กลับมาที่ห้องหน้าห้องตรวจอีกครั้ง พอเข้าห้องตรวจ เห็นหมอดูฟิล์มจากหน้าจอคอมอยู่ แล้วหมอก็มาจับข้อเท้าขยับไปๆ มาๆ ขยับไปซ้ายที ... เจ็บไหมครับ? ไม่ค่อยเจ็บค่ะ ขยับไปขวาที เจ็บไหมครับ? เจ็บค่ะ หมอก็วินิจฉัยว่า อาจเป็นที่เส้นเอ็นอักเสบ เพราะดูจากฟิล์มไม่มีรอยร้าวหรือแตกหัก เดียวหมอจ่ายยาให้นะครับ




แล้วก็ได้นั่งดูโทรทัศน์อีกครั้ง แต่เหมือนเดิมคือ ไม่ถึง 10 นาทีก็เรียกชื่อให้รับยา และจ่ายเงิน (เบิกบริษัท) เป็นอันจบพิธี ผ่าม!!!
เราว่ารวมๆ แล้วมันก็ค่อนข้างโอเคสำหรับเรา รอแต่ละจุด ไม่เกิน 5-10 นาที จะเสียเวลาก็ตรงรอหน้าห้องตรวจนานไปนิด แต่ใช้เวลาหาหมอครั้งนึงไม่เกินชั่วโมงมันก็โอเคนะ มีเกือบทุกแผนกในชั้นเดียวไม่ต้องเดินไปชั้นอื่นอีก เร็วขึ้นและจบในชั้นเดียว ไม่ต้องเดินเรื่องวุ่นวาย แล้วที่สำคัญคือ เราใช้ประกันอุบัติเหตุ ร่วมกับเบิกบริษัทในส่วนเกิน 200 บาท บริษัทจ่ายน้อยลง (เป็นประโยชน์กับบริษัทเรา) แล้วยังใช้เวลาน้อยลงกับการหาหมอ (ก็เป็นประโยชน์กับเรา) เจ้าหน้าที่บอกกับเราว่า ถ้ามีประกันสังคมกับโรงพยาบาลเพชรเวช ก็สามารถใช้สิทธิร่วมได้ อย่างของเราวันนี้ถ้าเรามีประกันสังคมกับที่นี่ 200บาท ส่วนเกินไม่ต้องจ่าย รพ.เขาจะปัดเข้าประกันสังคมให้ ซึ่งถือว่าเป็นทางเลือกใหม่สำหรับผู้ที่จะเลือกโรงพยาบาลประกันสังคม เราก็ว่าจะย้ายมาที่นี่เหมือนกัน ...

แต่มีเรื่องฝากโรงพยาบาลนิดนึงในส่วนที่อยากให้ปรับปรุง
- การส่งต่อจากประชาสัมพันธ์ชั้นล่าง น่าจะส่งต่อข้อมูลมาก่อนจะได้ไม่ต้องเหมือนเริ่มต้นใหม่
- รอลิฟต์นาน ลิฟต์โดยสารไม่พอกับการใช้งาน เห็นมีแค่ 2 ลิฟต์ ตัวใหญ่กับตัวเล็ก
- ที่จอดรถน้อยไปหน่อย ควรขยายพื้นที่จอดรถด้านล่างเพื่อความสะดวก

เอาบรรยากาศที่แอบไปถ่ายมาตอนที่หาหมอเสร็จแล้วมาให้ดูกัน