เนื่องด้วย ผมเพิ่งได้ไปเที่ยว NORWAY มาเป็นระยะเวลา 12 วัน ช่วง 22-9-17 ถึง 3-10-17 โดยไปเอง หาข้อมูลเอง ทำทริปเอง ไปกันสองคนกับภรรยา
(มีเส้นทางดังนี้--กรุงเทพ บินตรงด้วย กบท. ลงที่ออสโลแต่เช้าตรู่ นั่งรอถึงบ่ายสองครึ่งเพื่อนั่งเครื่องบิน Norwegian Airline ต่อขึ้นไปทางเหนือ ไปเมือง TROMSO อยู่ TROMSO 2 คืน คืนที่ 3 เวลา 1.30 น. ขึ้นเรือเฟอรี่รวม 18 ชม. มาลงที่เกาะ LOFOTEN ที่เมือง SVOLVAER แล้วเช่ารถขับอยู่บน LOFOTEN รวม 4 คืน จึงเดินทางไป OSLO โดยบิน 2 ต่อ ไปลง BODO ก่อน แล้วจึงบินต่อไปลง OSLO หลังจากนั้น ก็พักที่ OSLO 3 คืนก่อนกลับกรุงเทพด้วย กบท. มาถึง กทม. 5.35 น. ของวันที่ 3-10-17)
พบสิ่งน่าสนใจ ขอนำมาเล่า เท่าที่รู้มาเห็นมานะครับ หากท่านใดมีข้อมูลเพิ่มเติม ช่วยนำมาเขียนไว้ก็จะมีประโยชน์มากขึ้นครับ ผมขอเล่าเป็นข้อ ๆ พร้อมรูปประกอบ ดังนี้
หมายเหตุ อัตราแลกเปลี่ยนในช่วงที่ผมไป 1 Norwegian Krone (หรือตัวย่อคือ NOK. หลายคนเรียกว่า เงินน๊อค กรุณาเรียกเงินโครนจะดีกว่าครับ ถูกต้องมากกว่า คนอื่นฟังแล้วเข้าใจด้วยสิ) อยู่ที่ 4.26 บาทสำหรับธนบัตร (แลกไปจาก SUPER RICH ธนาคารแลกไม่ไหวขายแพงมาก ๆ) และประมาณ 4.35 บาท สำหรับบัตรเครดิต
1. Heater ในนอร์เวย์ต่างจากประเทศยุโรปอื่น ๆ คือไม่นิยมใช้ท่อน้ำมันร้อนเดินรอบบ้านเพื่อใช้เป็นฮีทเตอร์ แต่จะใช้ฮีทเตอร์ไฟฟ้า อันเล็ก ๆ ติดตามมุมด้านล่างหน้าต่าง ทำงานได้เร็วกว่าระบบท่อน้ำมันมาก ราคาอันละประมาณสัก 3 พันบาท (ผมไปสำรวจร้านเครื่องใช้ไฟฟ้ามา) การติดตั้ง เคลื่อนย้าย ตลอดจนการดูแลรักษา จะทำได้ง่าย มีประสิทธิภาพมากกว่า แบบเดินท่อน้ำมันนั้น เพื่อนชาวสวิสบอกว่า พอถึงเวลาที่หนาวมากพอที่จะต้องใช้ฮีทเดอร์แล้ว เขาจะต้องลงไปชั้นไต้ดิน เดินเครื่องทำความร้อน ผมไม่แน่ใจว่าเป็นแบบเตาหรือเปล่า แล้วเขาก็จะเปิดทิ้งไว้ทั้งฤดู เตาด้านใต้บ้าน ก็จะอุ่นน้ำมันให้เดินไปในท่อ ลอดตามพื้น ตามผนังไปทั่ว ๆ บ้าน การดูแลรักษาคงยุ่งมากกว่าแบบไฟฟ้าที่นอร์เวย์นี้มากมายนัก
รูปฮีทเตอร์ที่เป็นระบบใช้ไฟฟ้า ทำงานเร็ว ไม่ต้องเดินท่อน้ำมัน ราคาถูก
2. เรื่องที่ดีมาก ๆ คือจะมีฮีทเตอร์อุ่นพื้นห้องน้ำเสมอ ไม่เคยเจอที่ประเทศยุโรปอื่น เวลาเดินเข้าห้องน้ำแล้วจะอุ่น สบายเท้ามาก ๆ ผมจัดให้เป็นสุดยอดนวัตกรรมของนอร์เวย์เลย คิดได้ยังไงกัน ประเทศยุโรปอื่น ๆ จะมี HEATER ในห้องน้ำแทน
รูปปุ่มปรับอุณหภูมิเฉพาะพื้นห้องน้ำ
3. อาหารเช้าในโรงแรมจะมีปลาซาลม่อนรมควันและตับบดเสมอ
4. บราวน์ชีส เป็นอาหารเฉพาะที่ น่าจะมีเฉพาะแถบสแกนดิเนเวีย รสชาติหวาน คาราเมล อร่อยมาก ๆ
5. เหล้า ไวน์ เบียร์ บุหรี่ แพงมาก ๆ เอาง่าย ๆ คือ บุหรี่ซองละ Nok. 130 (คูณสัก 4.25 เป็นบาท) ส่วนเรื่องแอลกอฮอล์ ชาวนอร์เวย์เอง เมื่อมาลงเครื่องบินที่ OSLO แล้ว มักจะซื้อเหล้า ไวน์ เบียร์ ที่ DUTY FREE SHOP เพราะเป็นราคาที่ถูกที่สุดในประเทศ (forum ใน trip advisor ว่าอย่างนั้น)
ให้โควต้าเยอะตามปริมาณความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ อย่างเช่น ถ้าซื้อไวน์อย่างเดียว จะซื้อได้คนละถึง 6 ขวด (ขวด 750 ml) ผมเอง ก็เห็นว่าคนที่นี่ พอลงเครื่อง หลายคน ก็จะตรงไปซื้อไวน์กันคนละหลาย ๆ ขวดมาก
ดูโควต้าทีศุลกากรนอร์เวย์อนุญาตให้ซื้อนำเข้าแบบละเอียดที่นี่ครับ
https://www.toll.no/en/goods/alcohol-and-tobacco/quotas/
โดยต้องระวัง 1) อายุ ต้องอายุถึง 18 ปีถึงจะซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มีแอลกอฮอล์น้อยกว่า 22% และอายุถึง 20 ปีจึงจะซื้อแอลกอฮอล์เข้มข้นเกิน 22% ได้ และ 2) มูลค่าสินค้านำเข้าประเทศนอร์เวย์ ต้องรวมกันแล้วทั้งหมด ไม่เกิน NOK. 6,000
ตัวอย่างปริมาณเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่อนุญาตให้ซื้อได้ จะแปรผกผันกับความเข้มข้นของแอลกอฮอล์
6. GDP เฉลี่ยต่อหัว คนละสัก USD.70,000.- ต่อปี หรือประมาณ 2.3 ล้านบาท (GDP ไทย 2016 USD.5,900 เขามากกว่าเรา 11.8 เท่า หรือเรามีรายได้คิดเป็นแค่ 8.4% ของเขา) ไม่รวยยังไงไหว(ตัวเลขสูงกว่าอเมริกาเสียอีก)
GDP ต่อหัวของชาวนอร์เวย์ ปี 2016
7. กาแฟในร้านกาแฟ แก้วละ 20-28 โครน แล้วแต่ว่าเป็น กาแฟดำ หรือ ลาเต้ หรือ คาปูชิโน่ ตามใบเสร็จด้านล่างนี้ ผมดื่มที่สนามบิน BODO ราคาจะสูงหน่อย ไวน์ แก้วละ 109 โครน ลาเต้แก้วละ 40 บาแกตต์ 1/2 ใส้ปลา ชิ้นละ 120 โครน
8. โรงแรมมักมีชาหลากหลายชนิด ทั้งชาผลไม้ ชาปกติ ชาไร้คาเฟอีน และกาแฟไว้ให้แขกท่านฟรีได้ทั้งวันทั้งคืน นอกจากนี้ หลาย ๆ โรงแรม ยังจะมีวาฟเฟิลให้แขกได้ทำทานเองในช่วงบ่ายด้วย
วาฟเฟิล กาแฟฟรีที่โรงแรม HENNINGSVAER BRIGGEHOTELL
9. น้ำมันเบนซิน มีแต่ octane 95 ราคาลิตรละ Nok.16.49 = 70 บาท (ผมไปเติมก่อนคืนรถ) แพงกว่าบ้านเราสัก 2.8 เท่า แต่รายได้มากกว่าเรา 11.8 เท่า!!!!! Comparatively เราจนมาก
10. เวลาคืนรถเช่า หลายครั้งที่ผู้เช่าจะคืนนอกเวลาทำงาน เขาก็จะมีกล่องให้หยอดกุญแจรถคืน เชื่อใจกันมาก ๆ
ผมไปคืนกุญแจของรถคันนี้
11. คนนอร์เวย์ มารยาทดี อัธยาศัยดี และนิ่มนวลมาก
12. คนนอร์เวย์จำนวนมาก พูดภาษาอังกฤษได้ดีมาก ๆ ดีจนหากไปกูเกิ้ลดูจะพบว่ามีคนถามกันมากว่าทำไมคนนอร์เวย์มีภาษาอังกฤษที่ดีเยี่ยม พยายามอธิบายกันไปถึงรากของภาษานอร์เวย์ที่มีรากมาจากภาษา Germanic ใกล้เคียงกับภาษาอังกฤษ (ถ้าอย่างนั้น ทำไมคนเยอรมันและฝรั่งเศสพูดอังกฤษได้น้อยกว่า?) โดยส่วนตัวแล้วคิดว่าเป็นเพราะความใส่ใจ+ระบบการเรียนการสอนมากกว่า
แผนภูมิรากของภาษาต่าง ๆ ในโลกนี้
13. ในนอร์เวย์ ความปลอดภัยสูงมาก น่าจะสูงกว่าสวิสแล้วหลังจากยุโรปตอนกลางรับผู้อพยพเข้าไปมาก ๆ และเคยฟังจากเพื่อนชาวอเมริกันว่าพื้นฐานนอร์เวย์เป็นชาวไวกิ้งที่ร่างกายสูงใหญ่ แข็งแรง และเข้มแข็งมาก ๆผู้ก่อการร้ายเข้ามาได้ยาก ประเทศเพื่อนบ้านเช่นสวีเดน มี ผู้ก่อการร้ายเยอะ แต่นอร์เวย์ไม่มี
14. เนื่องด้วยอาหารในนอร์เวย์แพงมาก จะมีบางโรงแรมจะให้อาหารเย็นด้วย โดยจะบอกว่าเป็น light meal แต่สำหรับชาวเอเชี่ยนแล้ว น่าจะเป็น full meal มากกว่า โรงแรมที่ว่านี้เช่น Clarion Collection Hotel With ใน Tromsø, Thon Hotel Terminus ใน Oslo
โรงแรม THON TERMINUS HOTEL ห่างจากสถานี OSLO S ประมาณ 350 เมตร มีอาหารเย็นให้ด้วย จัดว่าเป็น DEAL ที่ดีมาก ๆ
15. จากสนามบินออสโลเข้าเมือง ไปสถานี OSLO S หรือ OSLO SENTRUM STAJSON ใช้เวลา 20-23 นาทีตามลำดับ มีรถไฟ 2 แบบคือ รถไฟสนามบิน flytoget ราคา Nok.180 กับรถไฟปกติ ราคา Nok.93 ใช้เวลาต่างกัน 3 นาที ขึ้นที่เดียวกัน ลงที่เดียวกัน
(เพิ่มเติม - เครื่องขายตั๋ว รับชำระทั้งบัตรเครดิตและธนบัตร)
จุดตั้งเครื่องจำหน่ายตั๋วรถไฟจากสนามบินเข้าเมือง ตู้ซ้ายที่มุมซ้ายสุด ที่มีผู้ชายยืนต่อแถวกันหลายคนเป็นรถไฟแพง ตู้ขวา ตู้สีแดงเป็นรถไฟถูก
สถานีรถไฟที่สนามบิน OSLO GARDERMOAN
16. น้ำจากก๊อกน้ำในนอร์เวย์ใช้ดื่มได้ และน้ำมีรสชาติดีมาก ๆ รสชาติดีกว่าน้ำแร่ที่ขายกันในบ้านเรา มีข้อแนะนำนิดเดียว คือ ควรดื่มเฉพาะด้านน้ำเย็น (ก๊อกมักจะเป็นก๊อกผสม) และ ควรเปิดน้ำทิ้งไว้สักนิดก่อนรินมาดื่ม
17. นอร์เวย์ไม่ใช่ที่ ๆ ควรตั้งใจมาช๊อปปิ้ง เพราะหากเทียบกับเมืองอื่น ๆ อีกหลายเมืองในยุโรป เช่นเยอรมัน ปารีส สเปน อิตาลี นอร์เวย์ของ brand name แพงกว่าพอสมควร แต่ถูกกว่าไทยนิดหน่อย
18. หากไม่จำเป็น อาจไม่ต้องมาพักค้างคืนที่ออสโลก็ได้เพราะออสโลไม่ค่อยมีมีอะไรเลย แต่ค่าโรงแรม ค่าครองชีพสูง
19. ไม่ต้องแลกเงินโครนไปมาก เพราะในนอร์เวย์สามารถใช้บัตรเครดิตได้เกือบจะทุกที่ ทุกจำนวนเงินที่ต้องจ่าย แม้กระทั่งการเข้าห้องน้ำสาธารณะราคา 5 โครน ก็ใช้บัตรได้ และการซื้อสินค้าบางอย่าง จ่ายด้วยบัตรจะมีราคาถูกกว่าจ่ายด้วยเงินสด และอีกสาเหตุคือเมื้อใช้เงินสดแล้ว มักจะได้เงินทอนเป็นเหรียญมาเยอะมาก ๆ เหรียญมีชนิดราคาสูงถึง 20 โครน จะมีความลำบากที่ต้องพยายามใช้เหรียญให้หมเพราะหากมีเหลือติดตัวกลับไทย จะแลกคืนไม่ได้เลย
ห้องน้ำสาธารณะ ค่าใช้ครั้งละ 5 โครน
และจ่ายด้วยบัตรเครดิตได้
เหรียญชนิดราคาต่าง ๆ ของ NORWAY ใช้เงินไปเรื่อย ๆ หากไม่ระวัง ก็จะมีเหรียญอยู่ในกระเป๋ามากมาย
20. SIM2FLY ใช้ได้ดีมาก ๆ ตลอดเส้นทาง สัญญาณดี แม้แต่ในเรือ FERRY และเพียงพอต่อการใช้งานดูแผนที่ หาร้านอาหาร ฯลฯ ผมใช้จนวันสุดท้ายแล้ว ก็ยังเหลืออีก 2 GB กว่า ๆ
จนวันที่ 11 แล้ว SIM2FLY ก็ยังคงเหลือใช้ (ที่ความเร็ว 4G) ได้อีกเกิน 2GB
ผมเช็ค data ที่เหลืออยู่แทบทุกวันที่อยู่ที่นั่นด้วยการกด *111*6# แล้วโทรออก
21. การจำหน่ายเหล้าและไวน์จะผูกขาดโดยรัฐบาล เพราะรัฐต้องการควบคุมการบริโภคแอลกอฮอล์ ตามร้าน convenience store หรือ supermarket เช่น 7-11, COOP, JOKER จะมีเพียงเบียร์จำหน่าย การซื้อเครืองดื่มแอลกอฮอล์อย่างอื่น เช่น WHISKY WINE จะต้องซื้อที่ร้านของรัฐ คือร้าน VINMONOPOLET (หรือ WINE MONOPOLY) จะมีตามเมืองที่ใหญ่หน่อย มีเมืองละ 1 หรือ 2 แห่ง เปิด-ปิด เป็นเวลา วันอาทิตย์ปิดแน่ ๆ ส่วนราคา ก็ประมาณเท่ากันกับเมืองไทย ดังนั้น ใครต้องการดื่มไวน์ กรุณาย้อนไปดูที่ข้อที่ 5. ข้างบนนี้ จะเป็น BEST CHOICE ครับ ราคาไวน์ดี ๆ ถูกกว่าไทยเยอะมาก ๆ (หมายถึงที่ DUTY FREE SHOP ในสนามบิน OSLO)
ร้านขายเหล้า ไวน์ ของรัฐ VINMONOPOLET ในเมือง TROMSO
เรื่องเล่าสนุก ๆ จากนอร์เวย์
พบสิ่งน่าสนใจ ขอนำมาเล่า เท่าที่รู้มาเห็นมานะครับ หากท่านใดมีข้อมูลเพิ่มเติม ช่วยนำมาเขียนไว้ก็จะมีประโยชน์มากขึ้นครับ ผมขอเล่าเป็นข้อ ๆ พร้อมรูปประกอบ ดังนี้
หมายเหตุ อัตราแลกเปลี่ยนในช่วงที่ผมไป 1 Norwegian Krone (หรือตัวย่อคือ NOK. หลายคนเรียกว่า เงินน๊อค กรุณาเรียกเงินโครนจะดีกว่าครับ ถูกต้องมากกว่า คนอื่นฟังแล้วเข้าใจด้วยสิ) อยู่ที่ 4.26 บาทสำหรับธนบัตร (แลกไปจาก SUPER RICH ธนาคารแลกไม่ไหวขายแพงมาก ๆ) และประมาณ 4.35 บาท สำหรับบัตรเครดิต
1. Heater ในนอร์เวย์ต่างจากประเทศยุโรปอื่น ๆ คือไม่นิยมใช้ท่อน้ำมันร้อนเดินรอบบ้านเพื่อใช้เป็นฮีทเตอร์ แต่จะใช้ฮีทเตอร์ไฟฟ้า อันเล็ก ๆ ติดตามมุมด้านล่างหน้าต่าง ทำงานได้เร็วกว่าระบบท่อน้ำมันมาก ราคาอันละประมาณสัก 3 พันบาท (ผมไปสำรวจร้านเครื่องใช้ไฟฟ้ามา) การติดตั้ง เคลื่อนย้าย ตลอดจนการดูแลรักษา จะทำได้ง่าย มีประสิทธิภาพมากกว่า แบบเดินท่อน้ำมันนั้น เพื่อนชาวสวิสบอกว่า พอถึงเวลาที่หนาวมากพอที่จะต้องใช้ฮีทเดอร์แล้ว เขาจะต้องลงไปชั้นไต้ดิน เดินเครื่องทำความร้อน ผมไม่แน่ใจว่าเป็นแบบเตาหรือเปล่า แล้วเขาก็จะเปิดทิ้งไว้ทั้งฤดู เตาด้านใต้บ้าน ก็จะอุ่นน้ำมันให้เดินไปในท่อ ลอดตามพื้น ตามผนังไปทั่ว ๆ บ้าน การดูแลรักษาคงยุ่งมากกว่าแบบไฟฟ้าที่นอร์เวย์นี้มากมายนัก
รูปฮีทเตอร์ที่เป็นระบบใช้ไฟฟ้า ทำงานเร็ว ไม่ต้องเดินท่อน้ำมัน ราคาถูก
2. เรื่องที่ดีมาก ๆ คือจะมีฮีทเตอร์อุ่นพื้นห้องน้ำเสมอ ไม่เคยเจอที่ประเทศยุโรปอื่น เวลาเดินเข้าห้องน้ำแล้วจะอุ่น สบายเท้ามาก ๆ ผมจัดให้เป็นสุดยอดนวัตกรรมของนอร์เวย์เลย คิดได้ยังไงกัน ประเทศยุโรปอื่น ๆ จะมี HEATER ในห้องน้ำแทน
รูปปุ่มปรับอุณหภูมิเฉพาะพื้นห้องน้ำ
3. อาหารเช้าในโรงแรมจะมีปลาซาลม่อนรมควันและตับบดเสมอ
4. บราวน์ชีส เป็นอาหารเฉพาะที่ น่าจะมีเฉพาะแถบสแกนดิเนเวีย รสชาติหวาน คาราเมล อร่อยมาก ๆ
5. เหล้า ไวน์ เบียร์ บุหรี่ แพงมาก ๆ เอาง่าย ๆ คือ บุหรี่ซองละ Nok. 130 (คูณสัก 4.25 เป็นบาท) ส่วนเรื่องแอลกอฮอล์ ชาวนอร์เวย์เอง เมื่อมาลงเครื่องบินที่ OSLO แล้ว มักจะซื้อเหล้า ไวน์ เบียร์ ที่ DUTY FREE SHOP เพราะเป็นราคาที่ถูกที่สุดในประเทศ (forum ใน trip advisor ว่าอย่างนั้น) ให้โควต้าเยอะตามปริมาณความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ อย่างเช่น ถ้าซื้อไวน์อย่างเดียว จะซื้อได้คนละถึง 6 ขวด (ขวด 750 ml) ผมเอง ก็เห็นว่าคนที่นี่ พอลงเครื่อง หลายคน ก็จะตรงไปซื้อไวน์กันคนละหลาย ๆ ขวดมาก
ดูโควต้าทีศุลกากรนอร์เวย์อนุญาตให้ซื้อนำเข้าแบบละเอียดที่นี่ครับ https://www.toll.no/en/goods/alcohol-and-tobacco/quotas/
โดยต้องระวัง 1) อายุ ต้องอายุถึง 18 ปีถึงจะซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มีแอลกอฮอล์น้อยกว่า 22% และอายุถึง 20 ปีจึงจะซื้อแอลกอฮอล์เข้มข้นเกิน 22% ได้ และ 2) มูลค่าสินค้านำเข้าประเทศนอร์เวย์ ต้องรวมกันแล้วทั้งหมด ไม่เกิน NOK. 6,000
ตัวอย่างปริมาณเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่อนุญาตให้ซื้อได้ จะแปรผกผันกับความเข้มข้นของแอลกอฮอล์
6. GDP เฉลี่ยต่อหัว คนละสัก USD.70,000.- ต่อปี หรือประมาณ 2.3 ล้านบาท (GDP ไทย 2016 USD.5,900 เขามากกว่าเรา 11.8 เท่า หรือเรามีรายได้คิดเป็นแค่ 8.4% ของเขา) ไม่รวยยังไงไหว(ตัวเลขสูงกว่าอเมริกาเสียอีก)
GDP ต่อหัวของชาวนอร์เวย์ ปี 2016
7. กาแฟในร้านกาแฟ แก้วละ 20-28 โครน แล้วแต่ว่าเป็น กาแฟดำ หรือ ลาเต้ หรือ คาปูชิโน่ ตามใบเสร็จด้านล่างนี้ ผมดื่มที่สนามบิน BODO ราคาจะสูงหน่อย ไวน์ แก้วละ 109 โครน ลาเต้แก้วละ 40 บาแกตต์ 1/2 ใส้ปลา ชิ้นละ 120 โครน
8. โรงแรมมักมีชาหลากหลายชนิด ทั้งชาผลไม้ ชาปกติ ชาไร้คาเฟอีน และกาแฟไว้ให้แขกท่านฟรีได้ทั้งวันทั้งคืน นอกจากนี้ หลาย ๆ โรงแรม ยังจะมีวาฟเฟิลให้แขกได้ทำทานเองในช่วงบ่ายด้วย
วาฟเฟิล กาแฟฟรีที่โรงแรม HENNINGSVAER BRIGGEHOTELL
9. น้ำมันเบนซิน มีแต่ octane 95 ราคาลิตรละ Nok.16.49 = 70 บาท (ผมไปเติมก่อนคืนรถ) แพงกว่าบ้านเราสัก 2.8 เท่า แต่รายได้มากกว่าเรา 11.8 เท่า!!!!! Comparatively เราจนมาก
10. เวลาคืนรถเช่า หลายครั้งที่ผู้เช่าจะคืนนอกเวลาทำงาน เขาก็จะมีกล่องให้หยอดกุญแจรถคืน เชื่อใจกันมาก ๆ
ผมไปคืนกุญแจของรถคันนี้
11. คนนอร์เวย์ มารยาทดี อัธยาศัยดี และนิ่มนวลมาก
12. คนนอร์เวย์จำนวนมาก พูดภาษาอังกฤษได้ดีมาก ๆ ดีจนหากไปกูเกิ้ลดูจะพบว่ามีคนถามกันมากว่าทำไมคนนอร์เวย์มีภาษาอังกฤษที่ดีเยี่ยม พยายามอธิบายกันไปถึงรากของภาษานอร์เวย์ที่มีรากมาจากภาษา Germanic ใกล้เคียงกับภาษาอังกฤษ (ถ้าอย่างนั้น ทำไมคนเยอรมันและฝรั่งเศสพูดอังกฤษได้น้อยกว่า?) โดยส่วนตัวแล้วคิดว่าเป็นเพราะความใส่ใจ+ระบบการเรียนการสอนมากกว่า
แผนภูมิรากของภาษาต่าง ๆ ในโลกนี้
13. ในนอร์เวย์ ความปลอดภัยสูงมาก น่าจะสูงกว่าสวิสแล้วหลังจากยุโรปตอนกลางรับผู้อพยพเข้าไปมาก ๆ และเคยฟังจากเพื่อนชาวอเมริกันว่าพื้นฐานนอร์เวย์เป็นชาวไวกิ้งที่ร่างกายสูงใหญ่ แข็งแรง และเข้มแข็งมาก ๆผู้ก่อการร้ายเข้ามาได้ยาก ประเทศเพื่อนบ้านเช่นสวีเดน มี ผู้ก่อการร้ายเยอะ แต่นอร์เวย์ไม่มี
14. เนื่องด้วยอาหารในนอร์เวย์แพงมาก จะมีบางโรงแรมจะให้อาหารเย็นด้วย โดยจะบอกว่าเป็น light meal แต่สำหรับชาวเอเชี่ยนแล้ว น่าจะเป็น full meal มากกว่า โรงแรมที่ว่านี้เช่น Clarion Collection Hotel With ใน Tromsø, Thon Hotel Terminus ใน Oslo
โรงแรม THON TERMINUS HOTEL ห่างจากสถานี OSLO S ประมาณ 350 เมตร มีอาหารเย็นให้ด้วย จัดว่าเป็น DEAL ที่ดีมาก ๆ
15. จากสนามบินออสโลเข้าเมือง ไปสถานี OSLO S หรือ OSLO SENTRUM STAJSON ใช้เวลา 20-23 นาทีตามลำดับ มีรถไฟ 2 แบบคือ รถไฟสนามบิน flytoget ราคา Nok.180 กับรถไฟปกติ ราคา Nok.93 ใช้เวลาต่างกัน 3 นาที ขึ้นที่เดียวกัน ลงที่เดียวกัน
(เพิ่มเติม - เครื่องขายตั๋ว รับชำระทั้งบัตรเครดิตและธนบัตร)
จุดตั้งเครื่องจำหน่ายตั๋วรถไฟจากสนามบินเข้าเมือง ตู้ซ้ายที่มุมซ้ายสุด ที่มีผู้ชายยืนต่อแถวกันหลายคนเป็นรถไฟแพง ตู้ขวา ตู้สีแดงเป็นรถไฟถูก
สถานีรถไฟที่สนามบิน OSLO GARDERMOAN
16. น้ำจากก๊อกน้ำในนอร์เวย์ใช้ดื่มได้ และน้ำมีรสชาติดีมาก ๆ รสชาติดีกว่าน้ำแร่ที่ขายกันในบ้านเรา มีข้อแนะนำนิดเดียว คือ ควรดื่มเฉพาะด้านน้ำเย็น (ก๊อกมักจะเป็นก๊อกผสม) และ ควรเปิดน้ำทิ้งไว้สักนิดก่อนรินมาดื่ม
17. นอร์เวย์ไม่ใช่ที่ ๆ ควรตั้งใจมาช๊อปปิ้ง เพราะหากเทียบกับเมืองอื่น ๆ อีกหลายเมืองในยุโรป เช่นเยอรมัน ปารีส สเปน อิตาลี นอร์เวย์ของ brand name แพงกว่าพอสมควร แต่ถูกกว่าไทยนิดหน่อย
18. หากไม่จำเป็น อาจไม่ต้องมาพักค้างคืนที่ออสโลก็ได้เพราะออสโลไม่ค่อยมีมีอะไรเลย แต่ค่าโรงแรม ค่าครองชีพสูง
19. ไม่ต้องแลกเงินโครนไปมาก เพราะในนอร์เวย์สามารถใช้บัตรเครดิตได้เกือบจะทุกที่ ทุกจำนวนเงินที่ต้องจ่าย แม้กระทั่งการเข้าห้องน้ำสาธารณะราคา 5 โครน ก็ใช้บัตรได้ และการซื้อสินค้าบางอย่าง จ่ายด้วยบัตรจะมีราคาถูกกว่าจ่ายด้วยเงินสด และอีกสาเหตุคือเมื้อใช้เงินสดแล้ว มักจะได้เงินทอนเป็นเหรียญมาเยอะมาก ๆ เหรียญมีชนิดราคาสูงถึง 20 โครน จะมีความลำบากที่ต้องพยายามใช้เหรียญให้หมเพราะหากมีเหลือติดตัวกลับไทย จะแลกคืนไม่ได้เลย
ห้องน้ำสาธารณะ ค่าใช้ครั้งละ 5 โครน
และจ่ายด้วยบัตรเครดิตได้
เหรียญชนิดราคาต่าง ๆ ของ NORWAY ใช้เงินไปเรื่อย ๆ หากไม่ระวัง ก็จะมีเหรียญอยู่ในกระเป๋ามากมาย
20. SIM2FLY ใช้ได้ดีมาก ๆ ตลอดเส้นทาง สัญญาณดี แม้แต่ในเรือ FERRY และเพียงพอต่อการใช้งานดูแผนที่ หาร้านอาหาร ฯลฯ ผมใช้จนวันสุดท้ายแล้ว ก็ยังเหลืออีก 2 GB กว่า ๆ
จนวันที่ 11 แล้ว SIM2FLY ก็ยังคงเหลือใช้ (ที่ความเร็ว 4G) ได้อีกเกิน 2GB
ผมเช็ค data ที่เหลืออยู่แทบทุกวันที่อยู่ที่นั่นด้วยการกด *111*6# แล้วโทรออก
21. การจำหน่ายเหล้าและไวน์จะผูกขาดโดยรัฐบาล เพราะรัฐต้องการควบคุมการบริโภคแอลกอฮอล์ ตามร้าน convenience store หรือ supermarket เช่น 7-11, COOP, JOKER จะมีเพียงเบียร์จำหน่าย การซื้อเครืองดื่มแอลกอฮอล์อย่างอื่น เช่น WHISKY WINE จะต้องซื้อที่ร้านของรัฐ คือร้าน VINMONOPOLET (หรือ WINE MONOPOLY) จะมีตามเมืองที่ใหญ่หน่อย มีเมืองละ 1 หรือ 2 แห่ง เปิด-ปิด เป็นเวลา วันอาทิตย์ปิดแน่ ๆ ส่วนราคา ก็ประมาณเท่ากันกับเมืองไทย ดังนั้น ใครต้องการดื่มไวน์ กรุณาย้อนไปดูที่ข้อที่ 5. ข้างบนนี้ จะเป็น BEST CHOICE ครับ ราคาไวน์ดี ๆ ถูกกว่าไทยเยอะมาก ๆ (หมายถึงที่ DUTY FREE SHOP ในสนามบิน OSLO)
ร้านขายเหล้า ไวน์ ของรัฐ VINMONOPOLET ในเมือง TROMSO