อีเมล์หาโรงแรมรัวๆ อีเมล์แล้ว บางโรงไม่ให้เปลี่ยน ก็ต้องโทรไปไฟ๊กะนาง 3-4 รอบ รัวๆ กว่าจะผ่านมาได้..ในที่สุดทุกโรงก็ยอมให้เลื่อนแต่โดยดี กว่าจะลงตัว โรงนั้นว่าง โรงนี้เต็ม โรงนั้นว่างทับกับโรงนี้แต่อีวันที่วางไว้ ดันเต็ม โอ๊ยย!! วุ่นวายไปหมด///
เอ้า .. โรงนั้นจองผ่าน Booking.com โรงแรมไม่รับเลื่อน ไล่ไปเจรจากับทาง Booking.com เอง นางบอกว่า เราทำอะไรให้ไม่ได้นะ เพราะยูจองกับ Booking.com ยูวต้องไปคุยกับทางนั้นเอง แล้วให้ทางนั่นแจ้งไอมา อ้าวว!! ปัดความรับผิดชอบเฉยยย!! โทรไปหา Booking.com ก็บอกว่า วันที่ยูวจะเอา ทางเราไม่มีห้องว่างในวันนั้น ยูวต้องติดต่อ Reservation Team ของโรงแรม ให้ปล่อยห้องที่กั๊กไว้ขายเองมาให้ Booking.com ทางทีมงานจะได้เปลี่ยนวันให้ยูวได้ .. นี่ก็โทรกลับไปโรงแรมอีก วุ่นไปหมด ไม่เป็นอันทำมาหากินกัน..

สรุปก็คือ ทุกโรงยอมให้เลื่อนวันเข้าพักได้ แต่โปรแกรมก็ต้องสลับไปหมด เพราะโรงแรมไม่ว่างตามที่เราโปรแกรมก่อน-หลังเอาไว้อย่างในตอนแรก เลยกลายเป็นว่าวันสุดท้าย โรงแรม กับ สนามบิน ระยะทางห่างกัน 6 ชั่วโมง .. เหยียบบกันเพลินนเลยจ้าา 🙄 แต่ก็ถึงสนามบินตรงเวลา 👍🏻





เราออกเดินทางจากสนามบิน LAX. นครลอสแองเจลลิสเวลา 8 นาฬิกา ตามเวลาท้องถิ่น
เดินทางถึงสนามบิน Calgary, Alberta, Canada ในเวลา 12 นาฬิกา ตามเวลาท้องถิ่น
เมื่อติดต่อรับรถที่เช่าไว้เรียบร้อยแล้ว..เราก็ออกเดินทางมุ่งหน้าสู่เมือแบ้นฟ์ Banff National Park, Alberta กันเลย ///


วันแรกไม่มีอะไรมาก เพราะว่ากว่าเราจะขับรถมาถึง Banff กัน เวลาก็ล่วงเลยมาจนถึงเวลาอาหารมื้อเย็นพอดี เราจึงเก็บไปได้เพียงแค่ 2 View Points กับอีก 1 Lake เท่านั้น ก็เริ่มหิวกันซะแล้ว..ไปหาซูชิกินกันเถอะ..























มีเรื่องเล่าขาลกันมาว่า โรงแรมของเรามีผ..ผ..ผี แถมมีหลายผีด้วย มีGhost Tour อีกต่างหาก

ติดตามอ่านเรื่องผีกันได้ผ่านการเสิร์ชจาก Google.com
โดยการใส่ชื่อโรงแรม+คำว่าGhostลงไปนะก๊า 🤣
http://hammersonpeters.com/?p=964









ขับรถไปอีกประมาณชั่วโมงเศษๆ เราก็ถึงที่พักคืนที่ 2 กันแล้ว
คืนนี้เรานอน “Moraine Lake Lodge” เป็นโรงแรมที่ข้าพเจ้าภูมิใจนำเสนอ
และ แนะนำให้เพื่อนๆไปพักเพื่อความฟินค่ะ..



บางช่วงก็จะเปิดให้คนนอกพายแคนนูได้นะคะ แต่ตอนที่เราไปเปิดให้ใช้บริการได้เฉพาะ Guest ที่มาพักที่นี่เท่านั้นค่ะ มีป้ายติดไว้สำหรับคนนอกว่าเปิดให้บริการอีกที  “Next June” จ้าาา พอทะเลสาบเริ่มเป็นน้ำแข็ง ที่พักแห่งนี้ก็จะปิดทำการจ้า ..



















ที่นี่จะสวยมากตอนเช้าตรู่ค่ะ ตอนพระอาทิตย์ขึ้น แสงแดดจะฉาบด้านบนของภูเขา ทำให้ภูเขามียอดสีทองอร่ามงาามตา และที่สำคัญนักท่องเที่ยวน้อยมากๆ เพราะช่วงสายๆทัวร์จะเริ่มมาลง เมื่อถึงตอนนั้นพวกเราเดินออกเลยค่ะ ไม่อยากไปแย่งกันถ่าย ถ่ายไปก็ยืนบังกันไปมา เพลียค่ะ ..  ช่วงที่ไม่สวยที่สุดเราว่าเป็นช่วงบ่ายๆค่ะ นักท่องเที่ยวเยอะเกินไปมากๆ ทำให้วิวดร็อปค่ะ..ตอนมาถึงครั้งแรก เราเลยรู้สึกเฉยๆกับที่นี่ หรืออาจจะเพราะว่าเราไป MORAINE LAKE มาก่อนซึ่งเราว่ามันสวยกว่า แล้วก็เป็นส่วนตัวกว่ามากค่ะ..













เข้า Jasper National Park แล้ว แวะ Peyto Lake กันดีกว่า
แถวนี้ไม่มีสัญญาณมือถือเลย ถ้าหาทางเข้าไม่เจอ ให้ตามป้าย Bow Summit ค่ะ









คืนสุดท้ายของเรา เราพักกันที่  Fairmont Jasper Park Lodge ค่ะ
(เป็น คืนสุดท้าย แล้วก็ Fairmont สุดท้ายของเราในทริปนี้ค่ะ..


ระหว่างทางเราก็เจอหัวหน้าฝูงกวางมูซ มานอนกินหญ้า รอต้อนรับเราอยู่ อย่างอบอุ่นค่ะ 😆 ตอนกลางคืนนั่งแช่บ่อน้ำร้อนกลางแจ้งของโรงแรมอยู่ฟินๆก็มีเจ้านี่วิ่งมาข้างๆรั้ว พนักงานถือไฟฉายไล่ต้อนกันใหญ่ ตกใจหมดเลยค่ะ อยู่ท่ามกลางธรรมชาติอย่างแท้จริงสุดๆ








การเดินทางที่วางไว้ในตอนแรกจะเริ่มจากจุดที่ไกลที่สุดก่อน ไล่ลงมาเรื่อยๆ วันสุดท้ายเราจะได้ไม่เสียเวลาในการเดินทางมาแอร์พอร์ทมากกเกินไป เมื่อเราต้องเลื่อนโรงแรม แพลนเลยเปลี่ยนหมด ที่เราได้มาคือ ต้องเริ่มเที่ยวจากจุดที่ใกล้สุดก่อน ไล่ขึ้นไปเรื่อยๆจนถึง Jasper National Park แล้ววันสุดท้ายก็ต้องขับกลับสนามบินลงมายาวๆ เกือบ 6 ชั่วโมง มีทำทางทำให้ต้องหยุดจอดเป็นช่วงๆอีก ทำให้เสียจุดท่องเที่ยวไป 1 ที่ ไปไม่ทัน ฮือออ😭 แต่ถึงสนามบิน ออนไทม์ ไม่สายแต่อย่างใด..ทริปนี้ก็เป็นอีกทิปนึงที่ประทับใจมากๆ ต้องไปซ้ำอีกแน่นอนค่ะ .. เย้!!





กด Like & Share เพจให้ด้วยนะก๊ะ (: